[ มัดหมี่ ]
“คิก นายเป็นผีเจ้าที่คงอยู่มานานแล้วสินะ” ฉันยิ้มเยาะคนตรงหน้าก่อนจะเดินวนรอบร่างสูงใหญ่พลางหลุบตาขึ้นลงสำรวจหุ่นกำยำไปด้วย
คนถูกมองตวัดสายตาใส่ฉันด้วยความไม่พอใจเมื่อถูกมองอย่างไร้มารยาท แม้ว่าเรือนร่างนี้จะมีเสื้อผ้าสวมปกปิดเอาไว้แต่ก็จินตนาการถึงสิ่งที่อยู่ใต้ร่มผ้าได้ไม่ยาก
“ใส่เสื้อผ้าของเธอซะ แล้วก็ย้ายออกไปจากบ้านหลังนี้สักที” น้ำเสียงดุ ๆ เอ่ยบอกขณะหันมาสบตากับฉันที่ยืนยิ้มกรุ้มกริ่มอยู่
“นายเป็นผีมานานแค่ไหนแล้ว” ฉันไม่ได้สนใจคำพูดของเขา แต่เดินเข้าไปใกล้ก่อนจะโอบรอบคอหนาของคนตรงหน้าเอาไว้
ดวงตาหยาดเยิ้มสำรวจใบหน้าหล่อเหลาอย่างพินิจพิเคราะห์ อาจเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ก็ได้เลยทำให้ฉันใจกล้าหน้าด้านมากขนาดนี้ แต่ถ้าบ้าแล้วได้แกล้งผีก็ดีเหมือนกัน หลายวันมานี้ฉันโดนผีแกล้งจนจะบ้าตายอยู่แล้ว ถึงจะไม่ได้เห็นเป็นภาพแต่มีแค่เสียงมันก็น่ารำคาญ
“พันเกือบสองพันปี เธอถามทำไม” เจ้าของแววตาดุดันเอ่ยตอบขณะที่มือใหญ่พยายามแกะวงแขนของฉันที่โอบรอบคอเขาอยู่ออกไปด้วย
“เป็นผีสมัยก่อนสินะ แบบนี้ก็หัวโบราณน่ะสิ” ฉันยกยิ้มให้คนตรงหน้าก่อนจะโอบรอบคอหนาให้แน่นขึ้น
เจ้าของแววตาดุดันมองฉันอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะละมือใหญ่ออกจากวงแขนของฉัน เพราะรู้ว่าพยายามให้ตายยังไงฉันก็ไม่ยอมปล่อยเขา
“คนสมัยก่อนเวลาขึ้นเตียงเขามีลีลายังไงนะ” ฉันปรายตามองโครงหน้าหล่อเหลาของเจ้าที่หนุ่มพร้อมยิ้มกรุ้มกริ่ม ถึงจะบอกว่าอยู่มาเกือบสองพันปีแล้ว แต่ทำไมใบหน้ายังหล่อเหลาราวกับคนอายุสามสิบต้น ๆ หรือน้อยกว่านั้นกันนะ อิทธิฤทธิ์ของผีเหรอ ดีจัง...
“ปล่อย” เสียงทุ้มปนดุเอ่ยขึ้น
“นายเป็นผีที่หุ่นดีมากเลยนะ ฉันเคยเห็นในหนังไม่เห็นจะเป็นเหมือนนายเลย” ฉันพูดต่อไม่ได้สนใจประโยคก่อนหน้าของเขา
“ไร้สาระ”
“นายอยากวันไนท์สแตนด์หรือเปล่า ฉันอยากลองกับผีดู” ฉันถามคนตรงหน้าอย่างตรงไปตรงมาพลางกรีดกรายนิ้วเรียวยาวไปตามแผงอกแกร่ง ตุ่มเนื้อบนแผงอกใต้เสื้อสูทสีดำแค่โดนฉันสะกิดเบา ๆ ก็ชูชันแข็งเป็นไตแล้ว
“อะไรคือวันไนท์สแตนด์” คำถามของคนตรงหน้าทำเอาฉันอดขำออกมาไม่ได้
“ตอบมาก่อนสิว่าอยากไหม” ฉันถามย้ำพลางวาดวนนิ้วเรียวยาวลงต่ำไปจนถึงหน้าท้องแกร่ง หากแต่มือใหญ่ก็คว้าข้อมือฉันเอาไว้ก่อนจะดันตัวฉันออกห่าง
“เธอกำลังเมา พรุ่งนี้ตื่นขึ้นมาแล้วก็รีบเก็บข้าวของออกไปจากบ้านหลังนี้ซะ” เสียงดุ ๆ เอ่ยบอกก่อนจะหันหลังให้ฉันพลางทำท่าจะหายไป แต่ก็ช้ากว่าฉันที่เข้าไปสวมกอดเอาไว้จากด้านหลังพร้อมกระชากเสื้อตัวนอกของเขาออก
แควก!
คนถูกแกล้งหันกลับมาตวัดสายตาให้ฉันอย่างไม่พอใจนัก “อย่าทำแบบนี้ ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน”
“งั้นนายก็เตือนฉันซะสิ”
“อย่าท้าทาย”
วืดด~
หมับ!
“อ๊ะ!” น้ำเสียงดุดันเอ่ยบอกก่อนจะลอยเข้ามาบีบคอฉันไว้แน่นจนหายใจไม่ออก “นะ ไหนนายบอกว่าไม่ฆ่าคนไง” ฉันเริ่มดิ้นไปมาเมื่อเท้าทั้งสองข้างค่อย ๆ ลอยขึ้นเหนือพื้นห้องขณะที่มือใหญ่ข้างหนึ่งกำคอฉันไว้แน่น
ตุบ!
“ใช่ฉันไม่ฆ่าคน” ร่างของฉันลอยเหนือพื้นห้องก่อนจะตกลงบนเตียงนอนจนรู้สึกจุก
เจ้าของร่างใหญ่ก้าวขึ้นมาคร่อมฉันเอาไว้ก่อนจะมองฉันด้วยสายตาไม่ชอบใจ ถึงจะเป็นอย่างนั้นแต่การกระทำของเขาก็ไม่ได้ทำให้ฉันหวาดกลัว กลับทำให้ฉันอยากแกล้งเขามากขึ้น
“ร้อนแรงจังเลยนะคุณผี” ฉันโอบรอบคอคนบนร่างเอาไว้พร้อมกับหัวเราะคิกคักออกมา ในเวลานี้ฉันไม่กลัวเลยสักนิด คงเพราะเขาไม่เหมือนผีน่ากลัวที่เคยเห็นในละครละมั้ง
เขาแตกต่าง... แล้วฉันก็มั่นใจด้วยว่าเขาคงไม่ทำร้ายฉันถึงตายหรอก
“ออกไปจากบะอื้ออ” ไม่รอให้คนที่คร่อมร่างอยู่ได้พูดอะไรออกมา ฉันรั้งคอหนาเข้ามาใกล้ก่อนจะยกศีรษะขึ้นไปประกบจูบ เรียวปากหนาปิดลงอัตโนมัติราวกับขัดขืนแต่ไม่นานนักก็ยอมเผยอปากออก
พรึ่บ!
“อื้ออ” ฉันพลิกร่างใหญ่ลงมานอนใต้ร่างก่อนจะคร่อมเอาไว้เอง เรียวลิ้นเล็กสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากหนาของคนตัวใหญ่กว่าอย่างถือวิสาสะ คนที่พยายามดันตัวฉันออกค่อย ๆ ให้ความร่วมมือในเวลาต่อมาพร้อมกับจูบตอบ ก่อนจะสวมกอดเอวคอดเอาไว้ด้วยสองแขนแกร่งของเขา
“อื้มม อึก อื้ออ”
พรึ่บ!
ร่างของฉันถูกพลิกกลับให้นอนใต้ร่างของคนตัวใหญ่กว่า รสจูบเงอะงะเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้นจนฉันต้องเบือนหน้าหนี
“อื้ออ” ฉันดิ้นพล่านเมื่อเรียวปากหนานั้นขบเม้มริมฝีปากรุนแรงขึ้นจนเจ็บระบมทั้งยังรู้สึกหายใจไม่ออก ราวกับว่าคนบนร่างกำลังช่วงชิงลมหายใจของฉันไป
“ฉันเตือนเธอแล้วว่าอย่าท้าทาย” คนที่ผละริมฝีปากออกพูดกับฉันก่อนจะทาบจูบร้อนแรงลงมาอีกครั้ง ไม่ปล่อยให้ฉันได้สูดอากาศเข้าปอดนานนัก
เรียวลิ้นสากสอดแทรกเข้ามาในโพรงปากบางก่อนจะตวัดหยอกล้อลิ้นเรียวอย่างนึกสนุก ไม่คิดมาก่อนเลยว่าผีแก่สมัยก่อนจะจูบได้ร้อนแรงขนาดนี้ ตกลงแล้วนายคนนี้เป็นผีแบบไหนกันนะ
ตุบ ตุบ ตุบ
“เจ็บ!” ฉันทุบไหล่คนบนร่างแรง ๆ เมื่อริมฝีปากหนาเคลื่อนลงมาฝังคมเขี้ยวไว้ตามซอกคอสลับกับขบเม้มและดูดดึงจนเนื้อคอแทบหลุด ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตอนนี้คงไม่เหลือพื้นที่ว่าง ร่องรอยของกลีบกุหลาบที่เกิดขึ้นจากริมฝีปากหนาคงประดับซอกคอขาวเต็มไปหมด
“ยะ อย่าดูดตรงนั้น อ๊ะ!” ริมฝีปากร้อนเคลื่อนไปขบเม้มยอดอกแรง ๆ จนฉันดิ้นพล่านด้วยความตกใจ เจ้าของแววตาดุดันเหลือบมองฉันด้วยความไม่ชอบใจนักก่อนจะผละออกแล้วถามบางอย่าง “จะออกไปจากบ้านหลังนี้ดี ๆ ไหม”
“มะ ไม่!” ฉันตอบเสียงสั่น ไม่ใช่เพราะกลัวเขาแต่เพราะการกระทำเมื่อครู่ของเขาต่างหาก ฉันคิดว่าเขาแค่จะจูบฉันเท่านั้น ไม่คิดว่าจะเกินเลยไปมากขนาดนี้
“ไม่กลัวสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นจากนี้?” ร่างใหญ่เอ่ยถามขณะที่เสื้อผ้าของเขาค่อย ๆ หายไปโดยที่ไม่ต้องถอดออกเอง ยิ่งทำให้ฉันตกใจเพราะไม่คิดว่าผีเจ้าที่อย่างเขาจะทำอะไรแบบนี้ได้
“ไม่!” ฉันตอบกลับอย่างไม่กลัว อายุอานามฉันก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้ว อยากรู้เหมือนกันว่าระหว่างผีกับคนแบบไหนมันจะแซ่บกว่ากัน ถึงกับคนฉันจะยังไม่เคยลองก็เถอะ
“อย่าตายก็แล้วกัน ฉันไม่อยากฆ่าคน”
กึด!
“อ๊าา!” ความเสียวปนเจ็บนั้นโถมเข้าหาท่อนบนเมื่อเรียวลิ้นสากตวัดไปมาตามยอดอกแรง ๆ
สองมือใหญ่บีบเคล้นเนินเนื้อฉันรุนแรงจนเกิดเป็นความเจ็บและเสียวสลับกัน สัมผัสวาบหวามจากเรียวลิ้นชื้นแฉะนั้นลากผ่านเนินเนื้อจนเปียกชุ่ม ก่อนจะค่อย ๆ เคลื่อนต่ำลงมาตามหน้าท้องและสะดือขณะที่มือใหญ่ทั้งสองข้างยังคงบีบเคล้นเนินเนื้อรุนแรง
“เฮือก! มะไม่นะ อ๊า!”
“อย่าดิ้น!” น้ำเสียงดุ ๆ ของคนที่ซุกหน้าลงกลางหว่างขาฉันดังขึ้น สัมผัสอุ่นชื้นจากเรียวลิ้นสากที่ตวัดไปมายังรอยแยกเบื้องล่างทำให้ฉันร้องครางออกมาอย่างไม่เป็นภาษา
สัมผัสแปลกใหม่ที่ได้รับทำให้ฉันสั่นสะท้านไปทั้งตัวขณะที่เอวบางนั้นแอ่นขึ้นลงตามจังหวะปลายลิ้น
“อื้ออ ยะอย่าดูด อ๊า!”