ซ่า!
สายน้ำจากฝักบัวที่ไหลรดลงบนตัวฉันช่วยทำให้อาการตึงเครียดก่อนหน้านี้ผ่อนคลายลง ทั้งยังรู้สึกเหนื่อยที่ทะเลาะกับผีเจ้าที่แถมยังต้องปีนรั้วเข้ามาในบ้านของตัวเองอีก
“เรียนก็หนักจะแย่แล้วยังต้องมาปวดหัวกับเรื่องงี่เง่าที่บ้านอีก วุ่นวายชะมัด ผีก็อยู่ส่วนผีไปสิ” ฉันบ่นขณะสระผมไปด้วย
พรึบ!
“ทะ ทำไมน้ำไม่ไหลอะ” ขณะที่ฉันกำลังสระผมอยู่น้ำก็หลุดไหลซะงั้น ฟองยาสระผมนั้นขาวโพลนเต็มหัวทั้งฟองสบู่ที่ฟอกทิ้งไว้ตามเนื้อตัวก็ยังไม่ได้ล้างออก
“ไอ้ผีเจ้าที่บ้า! นี่เล่นแบบนี้เลยเหรอ!” ฉันตะโกนลั่นห้องน้ำราวกับคนบ้าก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำมาแล้วตรงเข้าไปในครัว เครื่องใช้ไฟฟ้าและน้ำในบ้านถูกตัดทั้งหมดเพราะฝีมือของผีเจ้าที่ ดีที่ยังมีแสงไฟสลัวจากถนนด้านนอกนั้นสาดส่องเข้ามาพอให้มองเห็นทางเดิน
“คิดว่าเป็นผีแล้วจะทำอะไรก็ได้เหรอ!” ฉันตะโกนลั่นบ้านอีกครั้งก่อนจะเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำดื่มด้านในออกมาล้างฟองยาน้ำสระผมบนหัว และล้างตัวพอให้ฟองสบู่หายก่อนจะเดินกลับเข้าห้องนอนทั้งที่ไม่มีแสงไฟ
“ฉันไม่ยอมแพ้นายง่าย ๆ หรอก ฉันจะอยู่ที่นี่!” ฉันตะโกนบอกใครบางคนอีกครั้งก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียง แต่ทันทีที่ดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเอาไว้ ร่างสูงใหญ่ของใครบางคนก็ปรากฏขึ้นข้างเตียงพร้อมกับดึงผ้าห่มฉันออก
พรึบ!
“อย่ามายุ่งกับฉัน!” ฉันตวาดคนตรงหน้าเมื่อดีดตัวลุกขึ้นไปสบตากับเขา “เอาผ้าห่มฉันคืนมา!”
“ออกไปจากบ้านหลังนี้ซะ”
“ไม่! นายอยู่ไม่ได้ก็ย้ายออกไปเองสิ”
พรึบ!
ผ้าห่มที่ฉันแย่งกลับมาถูกแย่งกลับไปอีกครั้งก่อนจะยื้อยุดฉุดผ้าห่มกันอยู่แบบนั้นกระทั่งฉันเริ่มรำคาญ
“เหอะ! นายอยากทำอะไรก็ทำไป ฉันจะนอน!” ฉันเลิกแย่งผ้าห่มกับคนตรงหน้าก่อนจะล้มตัวลงนอนอีกครั้งทั้งที่ร่างกายนั้นเปลือยเปล่าและไร้ผ้าห่ม แต่แล้วคนที่อยากให้ฉันออกไปจากบ้านนี้ก็ยังไม่ยอมหยุดหาเรื่องมาก่อกวนฉันต่อ
กึก กึก กึก!
เสียงเตียงนอนที่ฉันนอนอยู่นั้นสั่นสะเทือนราวกับมีแผ่นดินไหว ทั้งประตูหน้าต่างในบ้านก็สั่นสะเทือนจนนอนไม่ได้
“นี่! นายจะให้ฉันออกไปจากที่นี่ให้ได้เลยใช่ไหม!” ฉันดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงนอนพลางตะโกนถามใครบางคนที่ไม่ได้อยู่ในห้องนี้แล้ว แต่เขายังคงใช่อิทธิฤทธิ์ของตัวเองกวนประสาทฉันไม่เลิก
“ได้! ถ้าคืนนี้ฉันนอนไม่ได้นายก็ต้องไม่ได้พักผ่อนเหมือนกัน” ฉันสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ ก่อนจะกรีดร้องออกมาดัง ๆ ติดกันยาว ๆ ราวกับเจอศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบในคอนเสิร์ตก็ไม่ปาน
“กรี๊ดด! กรี๊ดด! กรี๊ดด!”
“กรี๊ดด! กรี๊ดด! กรี๊ดด!”
“กรี๊ดด! กรี๊ดด! กรี๊ดด!”
“กรี๊ดด! กรี๊ดด! กรี๊ดด!”
วูบ~
“พอได้แล้วยัยบ้าเอ๊ย! หนวกหู!” เสียงตวาดของใครบางคนดังขึ้นพร้อมกับไฟในบ้านที่สว่างขึ้นพร้อมกันทุกดวง ร่างสูงใหญ่ที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าฉันนั้นทำให้ฉันหยุดกรีดร้องพร้อมจ้องมองเขาด้วยแววตาโกรธจัด
“ตกลงจะไม่ออกไปง่าย ๆ สินะ” เสียงทุ้มเอ่ยถามทั้งยังจ้องมาที่ฉันราวกับจะฆ่าให้ตาย
“อื้ออ” ทันทีที่เสียงของฉันถูกใครบางคนกลืนกิน ร่างของฉันก็ถูกฉุดให้นั่งบนโต๊ะทำงานข้างหน้าต่างด้วยฝีมือของคนที่กำลังปล้นจูบฉันอยู่
“อึก!” เรียวลิ้นสากของเจ้าที่ใจร้ายตวัดเข้ามาในโพรงปาก ก่อนจะตักตวงความหอมหวานอย่างเอาแต่ใจจนฉันเริ่มหายใจไม่ออก มือใหญ่ข้างหนึ่งรวบแขนทั้งสองข้างของฉันไขว้หลังเอาไว้เพียงมือเดียว ขณะที่มืออีกข้างของเขานั้นรั้งท้ายทอยฉันเอาไว้ไม่ให้หันหนีจากรสจูบร้อนแรง
“อื้ออ” ฉันร้องท้วงเมื่อภาพในหัวเริ่มพร่ามัวและสายตากำลังพร่าเบลอเพราะขาดอากาศหายใจ
คนตัวใหญ่กว่าละออกจากจูบโดยไม่ต้องให้ฉันพูด ก่อนจะซุกไซ้ใบหน้าไปมาตามซอกคอฉันอย่างเอาแต่ใจ ความรู้สึกเจ็บจี๊ดตามซอกคอทำให้ฉันรู้ว่ามีรอยแดงเกิดขึ้น กระทั่งคมเขี้ยวแหลมคมของคนตรงหน้าฝังลงบนคอข้างหนึ่งจนได้กลิ่นเลือดคาวคลุ้ง ก็ทำให้ฉันสะดุ้งโหยงเพราะความเจ็บปวด
“กรี๊ดด!” ฉันกรีดร้องเสียงดังทั้งยังพยายามถอยหนี แต่คนตัวใหญ่กว่ากลับดันตัวเข้ามากลางหว่างขาและรั้งเอวฉันไว้แน่น ริมฝีปากร้อนนั้นทาบทับลงบนเนินเนื้ออวบอิ่มอย่างเอาแต่ใจราวกับกระหายหา ฝากฝังคมเขี้ยวและความเจ็บปวดเอาไว้จนฉันน้ำตาเล็ด
“อื้มม” เสียงคลอเบา ๆ ในลำคอของคนตรงหน้าดังขึ้นเป็นระยะขณะที่ฉันนั่งหายใจเหนื่อยหอบอยู่บนโต๊ะตรงหน้าเขา มือใหญ่สองข้างกำลังบีบเคล้นเนินเนื้ออวบอิ่มอย่างรุนแรงทั้ง ๆ ที่ริมฝีปากหนานั้นตะโบมจูบสลับกับดูดดึงยอดอกไปมาแรง ๆ จนฉันต้องเบ้หน้าเพราะรู้สึกเจ็บ
“อ๊ะ อ๊าา” ฉันร้องครางออกมาเมื่อมือใหญ่กำลังลูบไล้ไปมาตามหน้าขาทั้งสองข้างสร้างความสั่นไหวและความรู้สึกเสียวซ่านให้ฉันไม่น้อย ทั้งรสจูบร้อนแรงที่ทาบลงบนเรียวปากของฉันอีกครั้ง ก็ทำให้ฉันรู้สึกวูบโหวงราวกับวิญญาณกำลังออกจากร่าง ยิ่งมือใหญ่ทั้งสองข้างลูบไล้เลยหน้าขาไปยังบั้นท้ายและเคล้นคลึงมันไปมาอย่างรุนแรง ก็ทำให้ฉันนั้นสั่นสะท้านไปทั้งตัว
“นี่จะเป็นการเตือน ถ้าเธอยังไม่ยอมออกไปจากบ้านหลังนี้ ฉันจะทำให้เธอใช้ชีวิตแบบปกติไม่ได้อีก” น้ำเสียงเย็นยะเยือกของคนที่ผละออกจากจูบนั้นกระซิบบอกฉันก่อนจะแทรกนิ้วยาวเย็นเฉียบเข้ามาในรอยแยกกลางหว่างขาโดยที่ฉันไม่ทันตั้งตัว