7.จิตวิญญานเซียน

1388 คำ
ฝนยังคงโปรยปรายลงมาอย่างหนัก ท้องฟ้าในยามค่ำคืนนั้นมืดสนิท อากาศก็เริ่มหนาวเย็นจนเย่วเล่อคิดว่าเธออาจจะป่วยไข้ได้ถ้าหากไปรีบถอดชุดที่เปียกชื้นนี้ออกไปโดยเร็ว แต่ทว่าหนิงหลง กับกำลังอยู่ระหว่างทางแยกในการตัดสินใจ เพราะเขาไม่อยากที่จะยุ่งเกี่ยวกับสตรีตรงหน้าไปมากกว่านี้ แต่ทว่าหัวใจกับเต้นแรงจนห้ามไม่อยู่ มันคือความตื่นเต้นและเร้าใจอย่างบอกไม่ถูกเลย สายตาของเขามันไม่สามารถมองสิ่งอื่นใดได้เลย นอกจากใบหน้าของเธอ "เจ้าดูหวาดกลัว..." "มีเรื่องมากมายให้ข้าต้องหวาดหวั่นเพราะว่าท่านมิใช่มนุษย์.." และเพราะความสวยงามที่ทำเอาเขาอดประหม่ามิได้ เย่วเล่อหัวเราะก่อนที่เธอจะดึงสายคาดเอวของตัวเองออก ท่ามกลางค่ำคืนที่ได้ยินเพียงเสียงฝนตกและ..เสียงของลมหายใจ เธอกำลังพยายามอย่างยิ่งในการใช้เสน่ห์ที่มีล่อลวงชายเบื้องหน้า.. เย่วเล่อยกมือขึ้นมากุมใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาเอาไว้ ในขณะที่ร่างกายของเธอมีเพียงตู้โตวสีแดงเท่านั้น... "ข้ามิได้คิดจะทำร้ายเจ้าแม้แต่น้อย...ไม่เคยคิดทำร้ายเลยหนิงหลง มิมีสิ่งใดต้องเป็นกังวลในเมื่อนี่คือความปรารถนาของเจ้าเช่นกัน" เธอยกมือขึ้นมาดึงสายคาดเอวของเขาออกช้าๆ ผิวกายของเขาเย็นเฉียบนั่นอาจจะเป็นเพราะว่าเขาตากฝนมา เย่วเล่อบรรจงถอดเสื้อคลุมด้านนอกของเขาออกมา ราวกับว่าเขากำลังต้องมนต์สะกด เพราะทุกท่วงท่าและสายตาของสตรีเบื้องหน้ามันงดงามและกำลังสะกดเขาเอาไว้ผ่านคำกล่าวที่หวานล้ำ ดวงตาที่แวววาวหรืออาจจะเป็นผิวกายที่ขาวนวลเนียน เขาออกรบมาตั้งแต่อายุยังน้อย แน่นอนว่านี่มิใช่ครั้งแรกของเขา เพราะทหารส่วนใหญ่จะมีคณิกาเดินทางไปที่ค่ายทหารเพื่อปรนเปรอความต้องการของนายทหารระดับสูง เขาทำมันมานับครั้งไม่ถ้วนเพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้าในจิตใจ แต่ทว่าในครั้งนี้มันแตกต่างไปหมด แตกต่างจากทุกครั้งที่เขาเคยทำ เพราะเขามิเคยสนใจใบหน้าของคณิกาเหล่านั้น แต่ทว่าตอนนี้เขากำลังจ้องมองใบหน้าที่งดงามของเธออยู่ เย่วเล่อช้อนสายตามองหนิงหลงเพราะที่มือของเธอกำลังถอดเสื้อคลุมตัวในของเขาออกมา...ร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามสมชายชาตรีและรอยแผลเป็นมากมายจากการออกรบ นิ้วมือที่เรียวยาวของเธอกำลังลูบไล้ไปตามกล้ามเนื้อของเขาเบาๆ "เย่วเล่อ นั่นคือชื่อของข้า" เขายกมือขึ้นมาไล้ไปตามใบหน้าอันงดงามของเธอ หนิงหลงอุ้มเธอขึ้นมาก่อนจะพาเธอไปที่เตียง... หากว่านี่คือหลุมพรางหรืออะไรก็ตามที่รอเขาอยู่ เช่นนั้นหนิงหลงผู้นี้ยินยอมที่จะกระโดดลงไปเอง เขาเองก็เป็นบุรุษผู้หนึ่ง ใยจะสามารถทนทานต่อความงามที่ล้ำเลิศเช่นนี้ได้ เนื้อชิ้นงามมาวางเอาไว้ที่ปากเสือแล้ว...สัตว์เดรัจฉานตัวใดจะโง่งมขนาดที่จะไม่กินมันลงท้อง เขาพรมจูบไปตามซอกคอและไล่ลงมาจนถึงเนินอกอวบอิ่มที่มีตู้โตวปิดเอาไว้ หนิงหลงขบกัดลงไปบนเนินอกอวบอิ่มนั่นเบาๆ เขาบรรจงสร้างรอยแดงขึ้นมาบนผิวเธอได้อย่างไม่รู้จบ.. ในใจพลันเต้นแรงไปกับทุกสัมผัสของเขา เย่วเล่อยกมือขึ้นมาโอบกอดหนิงหลงเอาไว้ เราโอบกอดแนบชิดจนเธอสัมผัสได้ถึงความเป็นชายของเขาที่มันตื่นตัวขึ้นมาภายในกางเกงผ้าแพรนั่น นี่คือ..การกระทำที่เกิดจากความปรารถนาทั้งสิ้น ไม่มีสิ่งใดเลยที่มันเป็นความรักและ...มันคือความต้องการของเธอเอง หนิงหลงทาบทับริมฝีปากลงมาอีกครั้ง และครั้งนี้มันแตกต่างและ..ยาวนานมากกว่าทุกครั้งจุมพิตที่หวานล้ำราวกับว่าเขากำลังดูดกลืนวิญญาณจากเธอไป "อื้อ!" เย่วเล่อร้องประท้วงออกมาเพราะหนิงหลงกำลังช่วงชิงลมหายใจของเธอไป.. และเมื่อเขาผละออก... บางอย่างก็เปลี่ยนไป เรายังคงโอบกอดกันไว้อีกทั้งดวงตาของเขาก็จ้องมองที่เธอด้วยแววตาที่ตกใจไม่แพ้กัน.. เสียงฝนด้านนอกยังคงตกกระหน่ำลงมา สิ่งที่มันแตกต่างนั่นคือประสาทสัมผัสของเธอ...ที่หูยังคงได้ยินเสียงฝนตกแต่ทว่ามันไม่มีเสียงอย่างอื่นอีกแล้ว พร้อมกับจมูกที่ได้กลิ่นหอมอ่อนๆของกำยานที่ถูกจุดเอาไว้แต่เธอไม่ได้กลิ่นของดิน หญ้าหรือว่ากลิ่นของยอดไผ่เลย... "หนิงหลง.. จิตวิญญาณของข้า อยู่ที่เจ้าอย่างนั้นหรือ?" คำถามที่เย่วเล่อถามนั้นเขาไม่รู้ว่าจะต้องตอบเช่นไรแต่ร่างกายของเขามันราวกับว่ามีพละกำลังเพิ่มขึ้น แถมเสียงที่ได้ยินยังแตกต่าง.. "เกิดอะไรขึ้น?" ดวงตาของเย่วเล่อพลันรื้นไปด้วยน้ำตา "จิตวิญญาณเทพเซียนของข้าอยู่ที่เจ้าจริงๆด้วยสินะ มันเลวร้ายมากทีเดียวเพราะว่าข้าคือจิ้งจอกและถ้าไม่มีสิ่งนั้นหมายถึงข้าจะเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา ที่ไร้ซึ่งสัมผัสพิเศษและพลัง..คายมันออกมาเดี๋ยวนี้!!" เธอบีบคอพร้อมกับเขย่าตัวเขาอย่างแรง ซึ่งนั่นมันทำให้เขารวบแขนทั้งสองข้างของเย่วเล่อเอาไว้ "เรื่องนี้ข้ามิได้ตั้งใจอย่างแน่นอนอีกทั้ง...มันจะต้องมีทางแก้ไข" ใบหน้าที่งดงามของเย่วเล่อนั้นทำท่าทางราวกับว่าเธอจะร้องไห้ออกมา แสดงว่าสิ่งนั้นจะต้องสำคัญกับนางมากจริงๆ อาจจะเกี่ยวพันถึงชีวิต ทำไมเรื่องราววุ่นวายต่างๆมันจะต้องเริ่มที่การจุมพิตทุกครั้งด้วยนะ ที่ผ่านมานางไม่เคยทำเช่นนี้กับบุรุษผู้อื่นเลยหรืออย่างไร เธอยกมือขึ้นมากุมหน้าเขาเอาไว้...ก่อนจะลุกขึ้นไปนั่งบนตักเขา เย่วเล่อหลับตาลงก่อนจะทาบทับริมฝีปากกับเขาอีกครั้ง เธอพยายามทำเหมือนคราวที่แล้วทุกอย่างทั้งการดูดดุนลิ้นของเขาเบาๆและ..ขบกัดที่ริมฝีปาก เราผละออกจากกันและเมื่อเย่วเล่อหลบตาลงก็พบว่าจิตวิญญาณของเธอมันยังไม่กลับมา เธอจึงจุมพิตหนิงหลงไปอีกรอบ... รอบแล้ว..รอบเล่า จุมพิตที่หวานล้ำราวกับผลของลูกท้อ หอมหวานและเย้ายวน เป็นครั้งแรกที่หนิงหลงไม่รู้ว่าจะต้องทำเช่นไรกับเหตุการณ์ตรงหน้า ในใจอยากจะ...ทำมากกว่าการจุมพิตแต่ทว่าสีหน้าของเย่วเล่อนั้นมันดูจริงจังจนเขาไม่กล้าขัดขวางการจุมพิตอย่างตั้งอกตั้งใจของนาง หัวใจพลันเต้นแรงกับทุกสัมผัสที่นางมอบให้ ใบหน้าของเขาพลันเห่อร้อนขึ้นมาอย่างห้ามมิได้.. "หรือว่าจะต้อง..ทำมากกว่านี้" หนิงหลงตัดสินใจเอ่ยถามออกไป และคำถามของเขามันทำให้เย่วเล่อขมวดคิ้ว "ไม่มีทาง เพราะตามเดิมการมอบจิตวิญญาณจะกระทำโดยการจุมพิต แต่ทว่าผู้ที่จะมอบให้จะต้องเต็มใจมอบให้เท่านั้น แต่นี่ข้ามิได้เต็มใจอีกอย่างข้ามิได้คิดถึงเรื่องกรมอบจิตวิญญาณเลย...แล้วมันเป็นเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?" เธอยังคงพยายามจุมพิตเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ส่วนหนิงหลงทำได้เพียงสะกดกลั้นความปรารถนาเอาไว้ นี่คือบทลงโทษหรืออย่างไร เพราะมีเนื้อชิ้นงามวางอยู่ตรงหน้า แต่ทว่าเขามิอาจคว้านางมากัดกินได้ตามใจปรารถนา ช่างเป็น...บทลงโทษที่โหดร้ายยิ่งนัก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม