“เป็นเด็กเป็นเล็ก คิดอะไรเพ้อเจ้อ”
“ไม่เด็กแล้ว เบอร์รี่โตแล้ว สิบแปดแล้วนะคะ ปีหน้าก็ขึ้นมหาวิทยาลัยได้แล้ว”
“แล้วใครบอกว่ายังเด็กอยู่ แต่งงานแค่ในนาม จะไม่ยอมเข้าหอท่าเดียว” เขาขยับใบหน้าเข้าไปใกล้ แม้จะนั่งอยู่คนละด้านของโต๊ะกินข้าว แต่เขาตัวสูงมาก ขยับตัวลุกขึ้น ยื่นหน้ามาหาเธอได้อย่างสบาย
“พี่กาย เบอร์รี่ง่วงแล้ว เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว” เธอจ้องตาเขาแล้วใจสั่น รีบเบือนหน้าหนี แล้วขยับลุกขึ้นจากเก้าอี้
“กินแล้วล้างด้วย”
“ทิ้งไว้ในอ่างแล้วค่อยล้างได้ไหมคะ”
“สกปรก แมลงสาบ หนูมากินเศษอาหาร เป็นเชื้อโรค” เขาพูดเสียงเข้ม บัณฑิตาติดนิสัยมาจากพี่ชายที่กินอะไรเสร็จก็ชอบวางเอาไว้ในอ่างก่อน พอไม่มีอะไรใส่ของกินก็ค่อยล้างทีเดียว เธอยังเคยเห็นกายสิทธิ์บ่นพี่ชายของเธอตอนไปหาที่บ้าน แล้วเขาก็ทนดูไม่ไหว จัดการล้างถ้วยล้างชามให้จนเกลี้ยง
“รับทราบเจ้าค่ะ เอาชามของพี่กายมา เดี๋ยวเบอร์รี่ล้างให้”
“ล้างให้สะอาดนะ อย่าทำอะไรแบบขอไปที”
“พี่กายเบื่อไหมใช้ชีวิตอยู่แต่ในกรอบเข้มงวดกับตัวเองขนาดนี้”
“เรื่องสำคัญต้องเข้มงวด เช่นความสะอาด สิ่งไหนที่ทำแล้วดีเราต้องบังคับจิตใจตัวเองให้ทำให้ได้ เป็นการฝึกใจตัวเองและเอาชนะใจตัวเองอย่างหนึ่ง”
“โหย... พี่กายเหมาะที่จะเป็นครูจริง ๆ ค่ะ” เขาจัดการถูชามใส่สุกี้ เขาก็นำไปช่วยล้างจนสะอาดก่อนจะคว่ำเอาไว้
ถ้วยชามของเขาสะอาดสะอ้าน มีผ้าสีขาวคลุมเอาไว้ พอเช็ดสะอาดแล้วก็นำใส่ตู้เก็บเอาไว้ไม่ให้ฝุ่นเกาะ แตกต่างจากบ้านของเธอตอนอาศัยอยู่กับพี่ชายลิบลับ
“พี่กายถามหน่อยสิ”
“ถามว่า”
“ทำไมพี่ถึงมาเป็นครูล่ะคะ”
“เป็นครูไม่ดียังไง”
“ไม่ใช่ไม่ดี แต่ทำไมพี่ถึงชอบ”
“ไม่ได้ชอบ”
“อ้าว...”
“รักเลยล่ะ”
“โหย...”
“ตอนเด็ก ๆ พี่เจอแต่ครูใจดี โตขึ้นก็อยากเป็นครู เหตุผลมีแค่นั้นแหละ”
“ความฝันวัยเด็กเลยนะคะนี่”
“เราล่ะ ไม่มีความฝันเหรอ”
“ก็เหมือนจะมีนะคะ”
“ฝันว่า” เขามองหน้าเธอ
“จะเป็นดารานางแบบชื่อดังค่ะ จะได้มีเงินเยอะๆ”
“ก่อนจะเป็นดารานางแบบชื่อดัง เลิกนิสัยซกมกเสียก่อน” เขาตบหน้าผากของเธอเบาๆ
“โหย... พี่กายพูดเสียเบอร์รี่เสียของหายเลยอะ” เธอทำหน้างอน
“ไหนบอกว่าจะไปนอน”
“ไปดูดาวกันไหมคะ” เธอยิ้มแฉ่งขณะเอ่ยชวน
เขาทำหน้างง บอกว่าง่วงนอน จู่ ๆ จะมาลากเขาไปดูดาวด้วยกัน
“ไปเถอะค่ะ ไปดูดาวกัน” เธอลากเขาออกมาดูดาวที่ระเบียง คืนนี้ดาวสวยท้องฟ้ากว้างเต็มไปด้วยดวงดาวเต็มขอบฟ้า อาจเพราะเป็นคืนเดือนมืด
“อากาศดีจัง เย็นสบายสุดๆ ไปเลยค่ะ” เธอสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด แหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอย่างมีความสุข
“อากาศดีอะไรกัน กลางคืนต้นไม้คายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา แล้วแย่งก๊าซออกซิเจนจากเรานะ”
“โหย... พี่กายคะ เลิกวิชาการสักวันเถอะค่ะ”
“เรื่องจริง” เขาพูดแล้วผินหน้าไปมองท้องฟ้า
“พี่กาย”
“ว่าไง”
“พี่กายชอบมองดาวไหมคะ”
“ดูได้ไม่ถึงกับชอบหรือไม่ชอบ”
“พี่กายเคยแบบรู้สึกชอบอะไรมากๆ ไหมคะ” เธอเอ่ยถาม แอบนึกค่อนขอดเขาในใจ คนอะไรทำตัวเย็นชาเหมือนผีดิบหมื่นปี ไม่เคยเห็นมีท่าทีว่าชอบอะไรมากๆ เลย เธอล่ะเหลือเชื่อกับเขาจริงๆ