บทที่ 11 เข้าอำเภอกับสามี

1676 คำ
หลังจากที่กินมื้อเช้าและทำทุกอย่างเสร็จแล้ว ชุยเหมยฮวาและเซียวหย่งเสียนบอกกับพ่อแม่ว่าจะเข้าอำเภอ ไปดูซื้อของที่ต้องใช้ในการค้ามาไว้ก่อน จากนั้นทั้งสองคนจึงมารอเกวียนของหมู่บ้านรอบสาย เพราะรอบเช้ามืดนั้นไม่ทันแล้ว ชาวบ้านที่เห็นสองสามีมาด้วยกันได้แต่ทำหน้าแปลกใจ แม้ว่าเมื่อวานจะมีข่าวมาบ้างแล้วว่าทั้งสองคนผูกสมัครรักใคร่กันดีแล้ว แต่ก็มีหลายคนที่ยังไม่เชื่อ แต่พอมาเห็นด้วยตาตัวเอง กลับแปลกใจไม่น้อย “พี่หย่งเสียน จะเข้าอำเภอเหรอคะ” เหม่ยอีลูกสาวบ้านโจเธอแอบชอบเซียวหย่งเสียนมานานแล้ว แต่ที่บ้านไม่สนับสนุนเพราะบ้านเซียวนั้นจน วันนี้เห็นชายในดวงใจเดินมาเธอจึงยิ้มกว้างและเอ่ยทักทาย “อืม ผมจะพาภรรยาไปซื้อของคุณถามทำไม” ชายหนุ่มตอบเพียงแค่นั้น แต่ร่างกายกลับขยับเข้ามาใกล้ภรรยาอีกเล็กน้อย ทำให้ชุยเหมยฮวาอดขำไม่ได้ ไม่คิดว่าสามีจะรังเกียจผู้หญิงขนาดนี้ แต่พอนึกภาพเมื่อคืนที่โดนขโมยจูบทำให้หน้าแดงขึ้นมาแทน โจเหม่ยอีเมื่อได้รับคำตอบมาแบบนั้นเธอมีสีหน้าไม่สู้ดีก่อนจะปรายตามองชุยเหมยฮวาด้วยความโกรธแค้น “ทำไมวันนี้เธอถึงมากับพี่หย่งเสียนได้ล่ะเหมยฮวา ปกติฉันเห็นเธอตามติดพี่เจี้ยนซูอยู่ตลอด นึกว่าเธอจะรีบหย่ากับพี่หย่งเสียนแล้วรีบแต่งเข้าบ้านรองเซียวเสียอีก” “เธอเหมือนจะรู้ดีกว่าตัวฉันเสียอีกนะเหม่ยอี หรือว่าเธอจับจ้องจะเป็นเมียคนต่อไปของพี่หย่งเสียน สามีของฉันมีเพียงพี่หย่งเสียนเท่านั้น และฉันไม่มีทางหย่าให้คนบางคนมาชุบมือเปิบแน่ ฉันยังสมองดีอยู่ ไม่ทิ้งผู้ชายที่แสนดีอย่างพี่หย่งเสียนไปหรอก” เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่มีท่าทางโกรธเกรี้ยวเลยแม้แต่น้อย “หรือว่าไม่จริง เรื่องที่เธอเป็นคนรักของพี่เจี้ยนซูใครเขาก็รู้ เธอจะปฏิเสธได้ยังไง” โจเหม่ยอีไม่ยินยอมยังคงพูดต่อ ชาวบ้านหลายคนพยักหน้าเห็นด้วย พร้อมกับรอฟังคำตอบของสะใภ้บ้านใหญ่เซียว “ในเมื่ออยากรู้ ฉันจะบอกให้นะ และดูปากฉันนะคะ ฉันไม่เคยชอบหรือรักเซียวเจี้ยนซูเลย ส่วนที่ว่าทำไมเมื่อก่อนฉันถึงตามติดเขา เพราะฉันโดนแม่เลี้ยงให้สืบข่าวของเขาไปบอกเผยหราน จนวันหนึ่งฉันโดนคนวางแผนชั่ววางยานอนหลับพร้อมกับจัดฉากให้ฉันคล้ายกับมีความสัมพันธ์กับพี่หย่งเสียน เมื่อต้องแต่งงานให้บ้านใหญ่เซียวแม่เลี้ยงยังไม่ยินยอม ฉันเลยต้องแสร้งทำเป็นใกล้ชิดเพื่อสืบข่าวต่อ แต่พอฉันรู้สึกว่าสามีฉันดีที่สุด พ่อแม่สามีก็รักฉันมาก ทำไมฉันต้องทำเพื่อคนอื่น ทำไมไม่ทำเพื่อสามีที่ฉันต้องใช้ชีวิตไปจนผมขาวล่ะ เธอว่าจริงไหม” เธอไม่ได้โง่เหมือนร่างเดิมเสียหน่อยที่โดนแม่เลี้ยงให้มาตีสนิทเจี้ยนซู เพื่อเอาข่าวมาบอกแกลูกสุดที่รัก แต่สืบไปสืบมาดันรักเซียวเจี้ยนซูเสียเอง ชาวบ้านที่ได้ยินมองหน้ากันด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้ ภาพที่ทุกคนเห็นคือนางเมิ่งเสียรักและตามใจลูกเลี้ยงมาก ส่วนชุยเหมยฮวาแม้จะร้ายกับคนทั้งหมู่บ้านแต่กับแม่เลี้ยงเธอเชื่อฟังยิ่งกว่าอะไร ดังนั้นเรื่องนี้จึงมีความเป็นไปได้แน่นอน เซียวหย่งเสียนจับมือภรรยาแน่น เขารู้ดีว่าเธอเป็นใคร แต่ไม่คิดว่าการที่ชุยเหมยฮวาคนเก่าใกล้ชิดกับเซียวเจี้ยนซูเพราะแม่เลี้ยงของเธอเอง ชุยเหมยฮวารับรู้ถึงแรงที่มือเธอจึงเงยหน้ามองและส่งยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน พร้อมกับส่งสายตาบอกว่าเธอไม่เป็นอะไร “ในเมื่อเรื่องทุกอย่างกระจ่างแล้ว คงไม่มีใครกล่าวถึงเมียฉันในทางเสียหายอีก เพราะไม่เช่นนั้นหย่งเสียนคนนี้จะไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งนั้น” เซียวหย่งเสียนประกาศเสียงดังฟังชัด มีใครในหมู่บ้านไม่รู้บ้างว่าลูกชายบ้านใหญ่เซียวเป็นคนพูดจริงทำจริง และแข็งแรงแค่ไหน ทุกครั้งที่ชาวบ้านรวมตัวกันเข้าป่าชั้นในเพื่อล่าสัตว์หลังจากฤดูเก็บเกี่ยวเพื่อกักตุนเสบียง ต้องมีเขาไปด้วยทุกครั้ง ดังนั้นเมื่อชายหนุ่มพูดเช่นนี้ใครจะกล้าขัดหรืออยากมีปัญหาด้วย “พี่หย่งเสียน!” โจเหม่ยอีกัดปากไม่ยินยอม “คุณควรจะเรียกผมว่าพี่ใหญ่เซียว เพราะชื่อของผมมีไว้ให้ครอบครัวเรียกเท่านั้น” เขาเว้นระยะห่างอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้ภรรยาเกิดการเข้าใจผิด ชาวบ้านหลายรายพยักหน้าเห็นด้วย เพราะเซียวหย่งเสียนแต่งงานแล้ว โจเหม่ยอีก็ยังเป็นหญิงสาวที่ยังไม่แต่งงานควรจะเรียกพี่ใหญ่เซียวดีที่สุด ไม่นานเกวียนก็มาถึง ทุกคนต่างก็ขึ้นเกวียนเพื่อมุ่งหน้าเข้าอำเภอ ทันทีที่มาถึงเซียวหย่งเสียนจ่ายเงินไปสี่เหมาเป็นค่าเกวียน ชุยเหมยฮวามองอย่างเสียดาย และคิดว่าอย่างน้อยเธอควรจะเอาจักรยานออกมาใช้สักคัน เพราะถ้าหากทำผัดไทยหรือขายอาหาร จะต้องเข้าอำเภอทุกเช้าเพื่อเอาวัตถุดิบออกมา ‘ใช่แล้ว ที่ร้านเธอมีซาเล้งอยู่ทั้งแบบจักรยานและใช้เครื่องยนต์’ เซียวหย่งเสียนพาชุยเหมยฮวาดูสองข้างทางในอำเภอ เมื่อเห็นแววตาเธอตื่นเต้นไม่ต่างจากเด็กน้อย เขาจึงยิ้มขึ้นมา “อยากซื้ออะไรไหม” “ไม่ค่ะ เสียดายเงิน ตอนนี้เรายังไม่มีรายได้หนูไม่อยากเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ อีกทั้งของทุกอย่างทั้งของกินของใช้หนูมีหมดแล้ว” เธอเลี่ยงที่จะบอกว่าในมิติเพราะกลัวคนอื่นจะได้ยิน ชายหนุ่มจึงมองหน้าภรรยาด้วยความอบอุ่น เธอรู้คุณค่าของเงิน ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยและคิดถึงครอบครัวก่อนเสมอ “พี่หย่งเสียน ในนั้นมีจักรยานสามล้อแบบทั้งปั่นและใช้เครื่องยนต์ เราเอาแบบจักรยานออกมาใช้ได้ไหม แต่เราจะหาข้ออ้างบอกคนอื่นยังไงดี หนูไม่รู้ว่าจักรยานที่นี่ราคาแพงหรือเปล่า ในหมู่บ้านแทบจะไม่เห็นใครใช้เลย” ในหมู่บ้านเท่าที่เธอจำได้มีเพียงบ้านเศรษฐีก้าน และบ้านหัวหน้าหมู่บ้านเท่านั้น คนอื่นแทบไม่มีใครใช้เธอจึงคิดว่าเพราะมันเกินกำลัง “จักรยานทั่วไปไม่ต่ำกว่าสามร้อยห้าสิบหยวน แม้ว่าจะปลดเรื่องการค้าเสรีแล้ว แต่มีสินค้าบางอย่างที่อยู่ในการควบคุมอย่างเช่นจักรยาน จักรเย็บผ้าที่ยังต้องใช้คูปอง แต่ถ้าไม่มีคูปองก็ตลาดมืด ส่วนพวกอาหารตอนนี้คลายความเข้มงวดขึ้นเยอะ และเริ่มงดคูปองแล้ว แต่คนที่ยังมีคูปองอยู่สามารถใช้ได้ตามร้านค้าและสหกรณ์ของรัฐ” ชายหนุ่มอธิบายให้เธอเข้าใจ ชุยเหมยฮวาเป็นนักเรียนที่ดีเดินไปด้วยฟังไปด้วยก่อนพยักหน้าหงึก ๆ “เราขายอาหารไม่ผิดใช่ไหมพี่หย่งเสียน” “ไม่ผิดครับ อย่างที่พี่บอก ตอนนี้การค้าเปิดเสรี เพียงแค่จำกัดสินค้าเป็นบางอย่างเท่านั้น” “หนูกลัวว่าหากเราขายดีจะมีคนอิจฉาแล้วกลั่นแกล้งขึ้นมาเลยถามไว้ก่อน” “มั่นใจขนาดนั้นเชียว” “ค่ะ หนูมั่นใจว่าต้องขายดี เพราะหนูทำอาหารอร่อยหรือพี่คิดว่าไม่จริง” ชุยเหมยฮวาพูดอย่างมั่นใจ เธอเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเอง “อร่อยครับ” เซียวหย่งเสียนตอบ จากนั้นสองสามีภรรยาเดินไปที่ซอยหนึ่งซึ่งสองข้างทางยังคงเป็นป่า เหมาะแก่การที่จะหลบเข้ามิติและเอาของออกมา “นี่ไงคะจักรยานสามล้อแต่ที่บ้านหนูเรียกซาเล้ง” ชุยเหมยฮวาชี้ให้ดูจักรยานที่พูดถึง เซียวหย่งเสียนมองตามชายหนุ่มพยักหน้า หากเอาไปใช้คงสะดวกไม่น้อย แต่จะตอบชาวบ้านยังไงในเมื่อบ้านเขาไม่ได้มีเงินมากพอที่จะซื้อจักรยาน ส่วนเงินที่แม่ให้ภรรยาเขามาก็ไม่กี่สิบหยวน “หนูจะบอกว่าเอาเงินเก็บมาซื้อดีไหมพี่ เรื่องที่หนูไม่ใช่เหมยฮวาหนูไม่กล้าให้พ่อกับแม่พี่รู้ หนูกลัวท่านจะรับไม่ได้ ส่วนเรื่องมิติขอเวลาหนูอีกหน่อยหนูจะบอกท่านเอง” “พี่ไม่ได้ว่าอะไรเลย หนูจะบอกหรือไม่อยู่ที่การตัดสินใจของหนูเอง สำหรับพี่ไม่ว่าหนูจะทำอะไรพี่พร้อมจะสนับสนุน” “แม้ว่าหนูจะโกหกเหรอคะ” “ถึงจะโกหกแต่ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร เราโกหกเพื่อให้พ่อกับแม่สบายใจ พี่คิดว่าไม่ผิด” “ถ้าอย่างนั้นหากใครถามหนูจะบอกว่า ก่อนหน้านี้หนูเป็นแม่ค้าคนกลาง ซื้อมาขายไปหลายครั้งทำให้มีเงินเก็บ พี่ว่าดีไหม” ชุยเหมยฮวาเสนอความคิด พ่อแม่สามีคงไม่ถามเยอะ คนที่เยอะคือชาวบ้านมากกว่าแต่จะแคร์ทำไม เธอไม่ได้ขอใครกิน อีกทั้งสามีอย่างพี่หย่งเสียนรู้ความลับของเธอหมดแล้ว ทีนี้ก็คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตายช่วยกันคิดช่วยกันแก้ปัญหา เซียวหย่งเสียนพยักหน้าเห็นด้วยหากมีใครถามขึ้นมาแล้วตอบไปแบบนั้นซึ่งถ้าจะโบ้ยมาที่เขาชาวบ้านคงไม่เชื่อเพราะวัน ๆ เขาไม่ออกไปไหนเลย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม