“พอเถอะชีอาร์” จอมขวัญตัดบทอย่างรวดเร็วหากเธอไม่ห้ามอณิมาไว้ก่อนงานนี้พวกเธออาจจะสอบตกรายวิชาที่มาเวลสอนแน่ๆ
“ชีอาร์เห็นแก่มีมี่นะถึงยอม” อณิมาเอียงหน้าเข้ามากระชิบเบาๆ ข้างหูจอมขวัญก่อนจะหันไปยักคิ้วให้มาเวลอย่างผู้ชนะ เธอรู้ดีว่าศาสตราจารย์มาเวล เฟอร์เรนผู้นี้แอบชอบเพื่อนสนิทของ เธออยู่แต่คนอย่างเธอนะหรือที่จะยอมปล่อยให้ผู้ชายเจ้าชู้ผู้นี้เข้ามาล่อลวงหัวใจดวงน้อยของจอมขวัญไปไห้ไม่มีทางเสียล่ะ...อณิมาคิดในใจอย่างมีความสุข
หญิงสาวรู้ดีว่าเธอรักจอมขวัญเหมือนน้องสาวคนหนึ่งหลายเดือนที่ผ่านมาเธอได้ฟังเรื่องราวภายในครอบครัวของจอมขวัญแล้วก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกสงสารและรักจอมขวัญเป็นอย่างมากที่สำคัญจอมขวัญอายุอ่อนกว่าเธอปีหนึ่ง ทั้งเธอและจอมขวัญก็เลยตัดสินใจสาบานเป็นพี่น้องกันและสัญญาว่าจะดูแลซึ่งกันและกันตลอดไปจนกว่าวันหนึ่งพวกเธอต่างก็พบคนที่รักพวกเธออย่างจริงใจหากไม่อย่างนั้นแล้วเธอก็จะไม่ยอมให้ใครหรือผู้ชายคนไหนเข้ามาทำร้ายจอมขวัญน้องสาวที่น่ารักของเธอคนนี้ได้อย่างเด็ดขาด
“ขอบใจจ๊ะชีอาร์”
“ไม่เป็นไรหรอกน้องรัก” แล้วเธอก็เอียงใบหน้ามาหอมแก้มของจอมขวัญอย่างสบายใจและรู้สึกพอใจไม่น้อยที่เธอสามารถแกล้งมาเวลให้โมโหได้ขนาดนี้
มาเวลนั่งมองชีอาร์อย่างหงุดหงิดวันนี้เขาอุตส่าห์เดินเข้ามาทักจอมขวัญนอกเวลาเรียนแล้วใครจะรู้บ้างว่ากว่าที่เขาจะทำใจเดินเข้ามาทักลูกศิษย์สาวคนนี้ได้เขาต้องใช้ความพยายามแค่ไหนแล้วดูสิเขามาเจออะไร ‘ให้ตายสิ ฉันอยากบีบคอเธอให้ตายเลยจริงๆ ชีอาร์’ ชายหนุ่มนั่งกำมือจนแน่นด้วยความโกรธไม่เคยมีเลยสักครั้งที่เขาจะเจ็บใจขนาดนี้ จู่ๆ เขาก็มาเจอผู้หญิงปากเสียมานั่งเยาะเขาแบบนี้แถมเจ้าเธอยังคิดจะแย่งผู้หญิงคนเดียวกับเขาอีก หากเขาไม่คิดว่าอณิมาเป็นผู้หญิงเขาคงสั่งให้ลูกน้องอุ้มไปฆ่าแล้วโยนให้ฉลามกินไปแล้ว
“ว่าแต่ศาสตราจารย์มีธุระอะไรกับมีมี่หรือเปล่าค่ะ” จอมขวัญแทนตัวเองว่า ‘มีมี่’ แทนที่จะเป็น ‘ฮันนี่’ อย่างที่ชายหนุ่มตั้งให้ เธอคงไม่บ้าพอใช้ชื่อที่มาเวลตั้งให้มาใช้แทนชื่อที่อณิมาตั้งให้หรอกอีกอย่างเธอและมาเวลก็ไม่ได้รู้จักสนิทกันเหมือนเธอและอณิมา
“พอดีวันนี้ผมว่างช่วงเย็นนะครับ ผมก็เลยอยากชวนฮันนี่ไปทานข้าวกับผมหน่อย”
มาเวลจ้องใบหน้าหวานซึ้งของจอมขวัญอย่างมีความสุข เขารู้สึกถูกชะตาและชอบจอมขวัญตั้งแต่วันแรกที่เขาได้เจอเธอในห้องเรียนแล้ว เขาสัญญากับตัวเองไว้ว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้จอมขวัญมาเป็นแฟน แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่สามารถเข้าใกล้จอมขวัญได้เสียทีเพราะเขาเจอก้างชิ้นเล็กๆ อย่างชีอาร์เข้ามาขัดขวางตลอด ขนาดเขาไปดักเจอจอมขวัญที่หอพักแต่สุดท้ายแผนการที่เขาวางไว้ก็ล้มไม่เป็นท่าเมื่อเขาเห็นชีอาร์เดินโอบจอมขวัญออกมาจากลิฟต์
“วันนี้คงไม่ได้หรอกค่ะศาสตราจารย์เพราะชีอาร์กับมีมี่จะทำอาหารทานกันสองคน” ชีอาร์พูดแทรกขึ้นสบตามองใบหน้าคมอย่างไม่ค่อยจะพอใจสักเท่าไหร่นักกับการที่ชายหนุ่มเข้ามาวุ่นวายกับจอมขวัญ “จริงไหมจ๊ะมีมี่” เธอหันมาทำเสียงหวานใส่จอมขวัญอย่างออดอ้อน
“มีมี่ต้องขอโทษศาสตราจารย์จริงๆ วันนี้มีมี่มีนัดกับชีอาร์แล้วหวังว่าศาสตราจารย์คงไม่โกรธมีมี่กับชีอาร์”
“ผมจะโกรธฮันนี่ได้ยังไงล่ะครับ” มาเวลเอ่ยออกไปอย่างเสียดาย
“เอาไว้คราวหน้าก็ได้ครับ หวังว่าฮันนี่คงจะไม่ปฏิเสธผมนะครับ” ชายหนุ่มมองจอมขวัญอย่างอ่อนโยนแล้วก็ตวัดสายตาไปมองชีอาร์อย่างเดือดดาดเห็นทีเขาคงต้องจัดการให้ผู้หญิงเรื่องมากคนนี้ได้รู้สำนึกเสียบ้าง...
“เอ่อ...ค่ะ”
จอมขวัญตอบรับอย่างเกรงใจใช่ว่าเธออยากไปกับมาเวลแต่มันติดอยู่ที่เธอและอณิมากำลังเรียนอยู่กับชายหนุ่มต่างหากที่สำคัญมาเวลยังเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของเธอและอณิมาอีก ถึงวันนี้จะปฏิเสธได้แต่วันหลังเธอก็ต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้อีกอย่างแน่นอน
“ผมขอตัวก่อนนะครับฮันนี่” มาเวลเอ่ยลาจอมขวัญก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วหันมามองชีอาร์อย่างโมโหที่เธอทำให้แผนการวันนี้ของเขาล้มเหลว “แล้วเจอกันครับชีอาร์” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพแต่แววตาของเขาไม่ได้ดีเหมือนอย่างคำพูดหรอก เขาจะต้องจัดการแก้แค้นผู้หญิงคนนี้ให้สาสมกับสิ่งที่เธอทำกับเขา
“ค่ะ” อณิมาพยักหน้าตอบรับเสียไม่ได้ สายตาคมจ้องมองร่างสูงที่เดินออกไปจากห้องสมุดอย่างสะใจ เธอรู้ดีว่าผู้ชายอย่างมาเวลไม่เหมาะกับจอมขวัญ เพราะจอมขวัญนั่นสุภาพเรียบร้อยแต่มาเวลเป็นผู้ชายเจ้าชู้ถึงจะฐานะดีแค่ไหนมันก็ไม่ชวนให้เธอรู้สึกดีไปได้หรอก หากเธอปล่อยให้มาเวลเข้าใกล้จอมขวัญมากเกินไปเธออาจจะสูญเสียน้องสาวที่แสนจะน่ารักอย่างจอมขวัญไปก็ได้
“ชีอาร์ไปแกล้งศาสตราจารย์ทำไมเดี๋ยวก็เกิดเรื่องขึ้นมาหรอก”
“อย่าบอกชีอาร์นะว่ามีมี่ชอบนายมาเวลคนนี้นะ”
“เปล่านะมีมี่จะชอบเขาได้ยังไง ชีอาร์ก็รู้ว่ามีมี่เกลียดผู้ชายเจ้าชู้” จอมขวัญปฏิเสธเสียงสั่นเลยทีเดียวกับความเข้าใจผิดของอณิมา
“แล้วไปนึกว่ามีมี่เกิดชอบนายมาเวลเข้าล่ะแย่เลย มีมี่ก็รู้ใช่ไหมว่านายมาเวลคนนี้เป็นผู้ชายยังไง”
อณิมาพูดขึ้นอย่างเป็นห่วงแต่พอนึกถึงใบหน้าคมสันถือดีของมาเวลเธอก็รู้สึกหงุดหงิดไม่น้อยหากชายหนุ่มไม่มีนิสัยเจ้าชู้เธอก็คงยอมปล่อยให้เขาเข้าใกล้จอมขวัญแล้ว สำหรับจอมขวัญอาจจะยังไม่รู้กิติศัพท์ของมาเวลเพราะจอมขวัญเพิ่งจะมาอยู่อังกฤษได้ไม่กี่เดือนแต่สำหรับเธอมันไม่ใช่ เธอได้ยินข่าวเรื่องเสียๆ หายๆ ของมาเวลมานานแล้ว
มาเวลจะเกิดในตระกูลผู้ดีเก่าการศึกษาสูงแต่ก็เป็นผู้ชายเจ้าชู้เปลี่ยนผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าแค่นี้มาเวลก็หมดสิทธิ์ที่จะจีบจอมขวัญแล้ว
“ชีอาร์เป็นห่วงมีมี่นะถึงได้เตือน ผู้ชายอย่างมาเวลทั้งชีอาร์และมีมี่จะต้องพยายามหลีกให้ห่างเพื่อความปลอดภัยของตัวและหัวใจ”
“เขาน่ากลัวขนาดนั่นเลยเหรอชีอาร์” จอมขวัญนึกขยาดศาสตราจารย์หนุ่มผู้นี้ไม่น้อยเมื่อฟังจากปากของอณิมา
“ผู้หญิงในมหาลัยของเขาเสร็จนายมาเวลไปหลายคนแล้วนะมีมี่”
ยิ่งพูดอณิมาก็ยิ่งรู้สึกขยักแขยงมาเวลไม่น้อย
เธอมีความทรงจำที่ไม่ดีสำหรับผู้ชายเจ้าชู้ เพราะบิดาที่ให้กำเนิดเธอมานั่นเองท่านมีนิสัยเจ้าชู้ไม่ต่างจากมาเวลเลย
อณิมาก็ยังไม่แน่ใจตัวเองเลยว่าเธอเป็นลูกของนายอาเรส เซนจ์กับภรรยาคนที่เท่าไหร่เพราะหลายปีที่ผ่านมาเธอไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองยังมีบิดาอยู่เพราะตอนที่เธอยังเล็กเธอได้ถามมารดาว่าบิดาของเธอไปไหน ท่านตอบเธอแค่ว่าบิดาอยู่บนสวรรค์แล้วต่อมาเมื่อมารดาเธอเสียชีวิตเธอก็ได้เจอกับนายอาเรส เซนจ์ผู้ชายที่เดินเข้ามากอดเธอและบอกเธอว่าท่านคือบิดาที่ให้กำเนิดเธอมา ตอนนั้นเธอรู้สึกเสียใจไม่น้อยว่าเพราะอะไรท่านถึงทิ้งเธอและมารดาไป จนเธอตัดสินใจมาอยู่ที่อังกฤษนี่แหละ
เธอถึงได้รู้ว่าบิดาไม่ได้มีมารดาของเธอเพียงคนเดียว นายอาเรส เซนจ์มีภรรยาถึงสี่คนที่อยู่อังกฤษส่วนมารดาของเธอเป็นคนที่ห้าแล้วก็เป็นหญิงสาวชาวไทยและสิ่งที่เธอได้รับรู้จากปากของบิดานั่นก็คือเธอเกิดมาเพราะความไม่ตั้งใจท่านไปทำงานที่เมืองไทยโดยไปเป็นบอดี้การ์ดให้กับมาร์ท สเปนเซอร์ท่านประธานใหญ่แห่งเวสมินสเตอร์ การ์เด้น อิน ก่อนที่มารดาเธอเสียชีวิตท่านได้เขียนจดหมายถึงอาเรส เซนจ์หนึ่งฉบับให้รับตัวเธอไปอยู่ที่อังกฤษแม้เธอจะมาอยู่กับบิดาที่นี่แต่ความรู้สึกของเธอมันช่างห่างไกลกับคำว่า ‘พ่อลูก’ มากนักและเหตุผลนี่เองถึงทำให้เธอรู้สึกเกลียดมาเวล
///////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...