ณ ประเทศไทย
ไลน์! ไลน์! ไลน์!
พัดยศมองดูข้อความที่เด้งแจ้งเตือนไลน์พร้อมข้อความเด้งหน้าจอโทรศัพท์ของเพณิตาที่แจ้งเตือนไม่หยุด ตอนนี้เจ้าของของมันกำลังอาบน้ำอยู่ พักหลังๆ มานี้จะว่าเขาคิดไปเองหรือยังไงว่าเพณิตาไม่สนใจตัวเอง ไม่ใส่ใจตัวเอง จากเคยไปเฝ้าที่ทำงานตอนนี้ไม่เคยโผล่หน้าไปหา จะไปเฉพาะยามอยากได้กระเป๋าใหม่ เสื้อผ้าใหม่เท่านั้น เป็นแบบนี้มาตั้งแต่กลับมาจากฝรั่งเศสเมื่อเดือนที่แล้ว
‘คิดถึงคุณ’
‘คืนนี้จะมาค้างด้วยกันไหมครับ’
อีกหลายๆ ข้อความที่ดังแจ้งเตือนขึ้นเรื่อยๆ ติดต่อกัน และนั่นทำให้เขามั่นใจแน่ใจในลางสังหรณ์ของตัวเองว่าตอนนี้ตัวเองกำลังถูกแฟนสาวสวมเขาให้ และผู้ชายคนนี้เป็นใคร หล่อนเอาเวลาไหนไปมีคนอื่น หรืออาจจะมีมานานแล้ว แต่เพณิตาเก็บซ่อนดี เขาถึงจับพิรุธไม่ได้
มือหนาที่หยิบโทรศัพท์มาอ่านข้อความที่เด้งไม่หยุดบนหน้าจอโทรศัพท์เครื่องหรูของเพณิตาพร้อมกับเม้มปากแน่นเป็นเส้นตรงและพร้อมกับเจ้าของของมันทำธุระในห้องน้ำเสร็จเปิดประตูออกมาพอดี
“ทำอะไรคะพี่ยศ? ” หล่อนรีบสาวเท้าเดินมาคว้าแย่งโทรศัพท์ของตัวเองในมือใหญ่ไปถือไว้ แสดงความไม่พอใจออกมาทางสีหน้าและน้ำเสียงอย่างชัดเจน
“พี่ต่างหากที่ต้องถามกี้ว่าผู้ชายที่ส่งไลน์มาคือใคร? ตั้งแต่เมื่อไหร่กี้? ” เขาลุกขึ้นจากเตียงนอนนุ่มเดินสาวเท้าหนักๆ ไล่ต้อนหล่อนไปจนติดผนังห้อง
“ไม่ใช่แบบที่พี่ยศคิดนะคะ” หล่อนตอบส่ายหน้าปฏิเสธพร้อมกับปลดปมผ้าเช็ดตัวที่พันรอบอกออกกองลงพื้นแล้วตวัดแขนเรียวเล็กโอบกอดคอหนาเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ แต่มือใหญ่ปัดแขนทั้งสองที่ตวัดคล้องคอของเขาออก
“พี่ไม่ได้โง่กี้ พี่สังหรณ์มาตลอดว่าพักหลังๆ นี้กี้เปลี่ยนไป ไม่ใส่ใจพี่เหมือนแต่ก่อน บอกพี่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ไป ‘เอา’ กับมัน” เขาตะโกนถามเธอพร้อมกับมองสำรวจร่างเปลือยตรงหน้าที่ตัวเองเคยมีความสุขกับมัน แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกขยะแขยงมันจนไม่อยากมองและแตะต้องมันให้เป็นเสนียดมือ
“เหรอคะ? แต่พี่ยศก็โง่มาตั้งนาน” เมื่อเขาพูดมาแบบนี้ เธอก็ไม่มีอะไรจะปฏิเสธ
“แพศยา!”
“แล้วยังไงคะ ที่ผ่านมากี้ก็รักพี่ยศ รักมาตลอด แต่ทุกอย่างมันเปลี่ยนไป ตั้งแต่ยัยเด็กนั่นตาย พี่ยศก็ปฏิบัติกับกี้เปลี่ยนไป หรือว่าพี่ยศนึกเสียดายมัน ถ้าเสียดายมันก็ตายตามมันไปสิ จะทนอยู่กันไปทำไม”
หล่อนเองก็สุดจะทนเหมือนกันกับความเย็นชาจากแฟนหนุ่มที่มีต่อตนเองจนเหงาและได้รู้จักกับใครบางคนจนเกิดสัมพันธ์สวาทกันมาถึงทุกวันนี้ หล่อนกับชายคนนั้นรู้จักกันมาได้จะสามเดือนแล้ว ผู้ชายคนนั้นปฏิบัติกับเธอดุจเจ้าหญิง เอาใจใส่เป็นอย่างดี และไม่ทำให้เธอเหงาและโดดเดี่ยว แต่กับพัดยศ เขาทำให้เธอรู้สึกอ้างว้างโดดเดี่ยว สายตาของเขาก็ไร้รักไร้เยื่อใยยามมองเธอ ยิ้มที่เขายิ้มให้มันก็ดูฝืนๆ จนทำให้เริ่มเอาใจและร่างกายออกห่าง
พัดยศไม่อยากจะเชื่อว่าคำพูดแบบนี้จะหลุดออกมาจากปากของแฟนสาวตัวเอง ไม่อยากจะเชื่อเพณิตาจะพูดถึงคนที่จากไปแบบนี้ เจ็ดปีกว่าที่คบกันมา เขาแทบไม่รู้จักหล่อนเลยสินะ หรือนี่คือตัวตนที่แท้จริงของเจ้าหล่อนที่ซ่อนไว้ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน
“ไปสิคะ ไปตายตามนังเด็กนั่นสิคะ พี่ยศรู้ไหมว่าพี่ยศน่ะรักมัน แต่พี่ยศหลอกตัวเองว่ารักกี้ กี้ไม่เคยสัมผัสถึงหัวใจพี่ยศเลยสักครั้ง ไม่เคยเลย และคำ ‘รัก’ ที่พี่บอกกี้ทุกครั้ง มันก็ดูง่ายดาย ไม่ลึกซึ้ง และยิ่งที่นังเมียแต่งของพี่ตายไป กี้ก็ยิ่งมั่นใจว่าหัวใจของพี่มันไม่เคยมีกี้เลยสักครั้ง พี่มองหาแต่หล่อนไม่เคยมองกี้ รู้หัวใจตัวเองได้แล้วพี่ยศ จะโง่ไปถึงเมื่อไหร่ จะหลอกตัวเองไปถึงเมื่อไหร่ แต่ก็เสียใจด้วยนะคะกว่าจะรู้ใจตัวเองและรู้ว่าคนที่พี่รักไม่ใช่กี้ มันก็สายไปแล้ว เพราะนังเด็กนั่นมันไม่อยู่แล้ว มันตายไปแล้ว ได้ยินไหมคะว่ามันตะ...เผียะ!” หล่อนยังพล่ามไม่ทันจบก็ถูกมือใหญ่ตวัดฟาดหน้าจนหันไปตามแรงตบ และนั่นยิ่งทำให้หล่อนโกรธจนร้องกรี๊ดออกมา
กรี๊ด!
“พี่ยศตบกี้!”
“อย่าพูดถึงคุณหอมแบบนั้นอีก ให้เกียรติเธอบ้าง”
“ให้เกียรติคนที่ตายไปแล้วเหรอคะ แล้วคนที่อยู่ พี่ยศเคยให้เกียรติมั่งไหมคะ ไหนบอกว่าจะแต่งงานกับกี้ ไหนบอกว่าจะแต่งงานกัน ตอนนี้นั่งเด็กนั่นตายมาจะปีแล้วก็ยังไม่ได้แต่งงาน แล้วยังกล้าบอกว่า ‘รัก’ อยู่อีกเหรอคะ รู้ใจตัวเองสักทีว่าตัวเองรักใคร กี้ไม่รู้หรอกว่าเพราะอะไร ทำไมพี่ถึงพยายามผลักไสเธอทั้งๆ ที่ตัวเองรักอาลัยเด็กนั่นขนาดนี้ และอย่ามาโทษกี้ที่มีคนอื่น กี้ไม่ผิด”
“ไปให้พ้น! ไปให้พ้นหน้าพี่เลยกี้ และเก็บข้าวของของเธอออกไปจากที่นี่ด้วย ไปอยู่กับ ‘ชู้’ ของเธอซะ เรื่องระหว่างเราให้มันจบลงตรงนี้ สิ่งที่เธอได้ไปจากพี่ พี่จะไม่เอาคืนสักอย่าง พี่ถือว่าเป็นค่าเสียเวลาของเธอ พี่ผิดเองที่ดูคนแค่เปลือก” มือใหญ่ชี้ไปทางประตูไล่หล่อน
“เฮอะ! ไปแน่นอนค่ะ กี้เองก็ไม่อยากอยู่กับคนที่ไม่รักกี้แล้วเหมือนกัน” หล่อนเดินไปยังตู้เสื้อผ้าเพื่อแต่งตัว ไม่สนใจว่าตัวเองจะเปลือยเปล่า ส่วนพัดยศก็เดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อดับอารมณ์เดือดดาลของตัวเองในห้องน้ำ