พี่เขานั่งทับ xxx ผม

1216 คำ
“พราว? ไม่สบายเหรอ?” พราวนภาส่ายหน้าให้ปุรินทร์ เจ้าของสตูดิโอการถ่ายทำในครั้งนี้ ไม่รู้ตัวเลยว่าเขาอยู่ใกล้ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ใกล้จนเธอได้กลิ่นบุหรี่อ่อนๆจากตัวเขา “เปล่าค่ะพี่ปุรินทร์” พราวนภาพูดปฎิเสธย้ำไปอีกครั้ง เมื่อคนตรงหน้าดูเหมือนจะไม่เชื่อและขยับเข้ามาใกล้ ปุรินทร์ตัวสูงพอๆกับคิริว แต่หุ่นล่ำกว่ามากเพราะเขาเข้าฟิตเนสเป็นประจำ เขาเข้ามาใกล้แบบนี้ทำให้เธอรู้สึกกลัวแปลกๆ “แต่พี่เห็นเราตาแดง เหมือนจะร้องไห้” ใบหน้าคมก้มลงไปใกล้ผู้หญิงที่ตัวเองสนใจ เขารู้จักพราวนภามานาน เพราะสตูดิโอของเขานั้น มักมีคนมาเช่าถ่ายแบบอยู่ประจำ ทำให้มีโอกาสเจอเธอที่ทำงานเป็นสไตล์ลิสอยู่บ่อยๆ ชวนคุยจนค่อนข้างสนิทกัน แต่เขาดันไม่มีความกล้าที่จะจีบเธอ นั่นเพราะเธอเป็นคนสวย เขาคิดว่าคนสวยแบบเธอคงมีคนจับจองเป็นเจ้าของแล้วนั่นเอง “ไม่ได้ร้องค่ะ แสงไฟมันส่องตาค่ะ” “เหรอครับ ? พี่ไม่เคยเห็นริวรับงานกลุ่มเลย ถือว่าเป็นบุญตานะเนี่ย” ปุรินทร์มองตามสายตาคู่สวยไป เมื่อเห็นว่าใครอยู่ที่ปลายสายตาของเธอ ก็เหยียดยิ้ม คำพูดเอ่ยชม แต่แววตากลับแข็งกระด้างน่ากลัว ถ้ามีคนสังเกตเห็นนะ แต่เพราะว่าไม่มีใครเห็นไง เขาถึงกล้ามองไอ้เด็กนั่นด้วยสายตาแบบนี้ “ค่ะ” พราวนภารับคำเนือยๆ เธอไม่เคยเห็นคิริวถ่ายแบบหรอก แต่ได้ยินวินพูดถึงอยู่บ่อยครั้ง ว่าคิริวรับงานถ่ายแบบด้วย ถ้าช่วงนั้นเธอสนใจเขาเหมือนตอนนี้ เธอคงรู้จักมุมนี้ของเขาบ้าง คิริวตอนนี้ดูจริงจังสุดๆ ให้ความรู้สึกโตเป็นผู้ใหญ่ ใบหน้าเรียบเฉยที่เธอไม่เคยเห็น ให้ความรู้สึกน่าค้นหา มากกว่าใบหน้ากวนตีนอย่างที่ผ่านมา ที่เห็นแล้วอยากเขกมะเหงกหลายๆที ทำไมกันนะ คิริวก็ยังเป็นคิริวคนเดิม แต่ทำไมเธอถึงมองเขาไม่เหมือนเดิม ดวงตาคู่คมเหล่มองคนที่ยืนรวมกลุ่มกับคนอื่นๆอยู่ตลอด กำมือขวาบ่อยครั้ง เพื่อระงับอารมณ์หึงหวง ไม่ชอบใจเลยที่การถ่ายแบบยืดเยื้อ แล้วปกติเขาไม่ได้ถูกวางตัวมาให้ถ่ายแนบชิดกับนางแบบขนาดนี้นะ แล้วนี่มันเกิดเชี่ยอะไร! พรึ่บ! “ว้าย!” ความอดทนหมดลง ตอนที่ยัยบ้านี่นั่งทับเป้ากางเกงของเขา นั่งทับปกติไม่ว่า แต่บดสะโพกลงมาเหมือนต้องการยั่วอารมณ์ เขาจึงลุกขึ้นอย่างไว ไม่สนใจยื่นมือไปช่วยคนที่นั่งโอดครวญอยู่บนพื้นหรอก สมน้ำหน้า! อยากมาทับรอยพี่พราวงั้นเหรอ ฝันไปเหอะ! “ทำอะไรเนี่ยน้องริว!” “นั่นสิคะ!” “โทษทีครับ พี่เขานั่งทับน้องค*ยผม” คิริวตอบหน้าตาย ส่วนคนอื่นๆที่ได้ยินคำพูดห้วนๆนั้นพากันหน้าแดงก่ำ รู้กิตติศัพท์ของคิริวดี ว่าเป็นคนขวานผ่าซาก แต่ไม่คิดว่าจะตรงขนาดนี้ แต่มันดูน่าเอ็นดูในสายตาคนอื่นๆไง และให้อภัยเพราะน้องมันหล่อ “แหม๊! เป็นพี่ๆก็อยากทับจ้า!” วีวี ช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองที่ผ่านมีดหมอมาอย่างโชกโชนจนสวยเช้ง และหลายๆคนก็รู้สึกอิจฉาความสวยของเธอ จีบปากจีบคอพูดเพื่อผ่อนคลายบรรยากาศที่มันตึงขึ้น มองเป้ากางเกงของนายแบบไปด้วย ก่อนจะทำตาโต จนหลายคนหลุดขำ บรรยากาศจึงเริ่มกลับมาเป็นปกติ “ไม่คิดจะขอโทษกันเลยเหรอคะ?” อินทิรามองด้วยใบหน้างอนๆ เธอยอมรับว่าถูกใจนิสัยของเขามาก จากที่ปลื้มอยู่แล้ว ตอนนี้กลับยิ่งปลื้มมากขึ้น ถ้าได้คบจริงๆเธอโอเคนะกับนิสัยนี้ของเขา “ไม่อะ ทีหลังอย่ามาทับ เดี๋ยวมันตื่น” คิริวก้มหน้าลงไปใกล้คนที่สูงเพียง170 เซนติเมตร ใส่ส้นสูงแล้วสูงได้แค่นี้เอง ไม่เห็นมีอะไรโดดเด่นเลย คนที่ยืนรวมอยู่ตรงนู้นยังดูเด่นกว่าอีก เด่นจนเขาอยากไปกระชากคอมาจูบ ยืนระริกระรี้กับผู้ชายอื่นอยู่ได้ หน้าไม่อายเลย! “คุยกับพี่ก็มองหน้าพี่สิคะ” อินทิราหน้าตึง เมื่อสายตาของคนที่อยู่ห่างเพียงคืบ ไม่ได้ตกกระทบอยู่ที่เธอ สายตาเขามองเลยไปด้านหลังเธอ ในจุดที่เธอรู้ดีว่ามีใครอยู่ตรงนั้น พี่พราวไง! “มีอะไรน่ามอง ถึงต้องมอง” คิริวยิ้มกริ่ม ตั้งใจยั่วโมโหเธอเล่นๆ รู้ดีว่าทำแบบนี้เธออาจหันไปเล่นงานพี่พราวแทน แต่ก็ลองทำสิ เพราะเขาไม่อยากให้พี่พราวทำงานกับเธอเท่าไหร่ อินทิราเห็นพี่พราวมีประโยชน์แค่นั้นแหละ จะเขี่ยทิ้งตอนไหนก็ได้ เขาไม่อยากให้พี่พราวถลำลึกไปมากกว่านี้ ดูเหมือนพี่พราวจะรู้สึกดีกับผู้หญิงคนนี้ไม่น้อย “คิริว!” “ถ่ายต่อเลยนะครับ เหลือเซ็ตเดียวแล้ว” ช่างภาพพูดขัดจังหวะ ทำให้คิริวเงยหน้าขึ้นมาอยู่ในองศาเดิม มองสบตาคนที่มองเขาอยู่ตลอด ไอ้นิสัยทำให้คนอื่นเขาวูบวาบโดยไม่รู้ตัวนี่ แก้ได้แก้ซะนะพราว! “อิงค์จะเปลี่ยนชุดค่ะ” อินทิราพูดอย่างเอาแต่ใจ สะบัดหน้าเดินหนีไปเปลี่ยนชุดทันที เดือดร้อนให้พราวนภาวิ่งไปเตรียมชุดให้ ทั้งๆที่การถ่ายวันนี้ ทางแบรนด์เขาให้มาแค่ชุดเดียว และไม่อนุญาตให้เปลี่ยนชุดอื่นเลยตลอดการถ่ายแบบ “ชุดมีแค่นี้เหรอคะพี่พราว” อินทิรามองชุดกว่า 10 ชุดในราวอย่างไม่พอใจ ชุดพวกนี้คือชุดที่พราวนภาเลือกมาให้ จากความต้องการของเธอเอง แต่ตอนนี้มันไม่ถูกใจเธอแล้วไง ไม่ถูกใจทั้งหมดนี่แหละ รวมทั้งคนด้วย “ค่ะ มีแค่นี้แหละ!” พราวนภายืนนิ่งๆ เป็นครั้งแรกที่อินทิราแผลงฤทธิ์ใส่แบบไร้เหตุผล ชุดพวกนี้เลือกมาเผื่อกรณีฉุกเฉินเท่านั้น มันไม่จำเป็นต้องใช้เลย เพราะชุดที่เจ้าของแบรนด์ต้องการให้ใส่ถ่ายแบบนั้น ยังอยู่ในสภาพปกติ ไร้ร่องรอยความเสียหายใดๆ “ไปหามาใหม่สิ! อิงค์ไม่ชอบ!” “มันขึ้นอยู่กับความชอบน้องอิงค์ด้วยเหรอคะ?” “คะ??” “พี่ถามว่ามันขึ้นอยู่กับความชอบ ไม่ชอบของน้องอิงค์ด้วยเหรอคะการถ่ายแบบครั้งนี้อะ น้องเป็นเจ้าของแบรนด์เหรอคะ ถ้าไม่ใช่ก็กลับไปยืนสวยๆแล้วถ่ายให้จบเถอะค่ะ พี่จะหาชุดมาเพิ่มก็ต่อเมื่อ ชุดที่อิงค์ใส่อยู่ มันใส่ถ่ายต่อไม่ได้แล้วเท่านั้น!” พราวนภาพูดเสียงเรียบ ไร้แววล้อเล่นอย่างที่ผ่านมา ถ้าเธอไม่เด็ดขาดมีหรือจะมายืนอยู่ตรงนี้ได้ สไตล์ลิสไม่ได้มีแค่เธอคนเดียวซะที่ไหน คนเก่งกว่าเธอมีเยอะแยะ ถ้าเธอไม่สามารถควบคุมสถานการณ์แบบนี้ได้ มีหรือจะอยู่ในวงการนี้มาได้นานขนาดนี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม