บทที่3(จบ)

1294 คำ
บ้านปีกไม้แบบยกพื้นสูงหลังไม่ใหญ่นัก ปลูกสร้างท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่น และไม้ดอกไม้ประดับงดงาม เจ้าของบ้านหนุ่มเพิ่งลุกขึ้นจากเตียง แม้เวลาจะเลยเที่ยงวันมาแล้ว อาติณณ์สะบัดหัวไล่ความงุนงง ก่อนใช้มือเสยผมยุ่งๆ ให้เข้ารูป แล้วลุกจากเตียงนุ่มเดินไปที่ช่องหน้าต่างซึ่งเปิดรับลมไว้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องปรับอากาศ นอกหน้าต่างที่มองไปไกลสุดลูกหูลูกตาคือที่ดินของเขาทั้งหมด ที่ซึ่งเป็นฟาร์มโคนม มีทั้งโรงเรือน แปลงปลูกหญ้า โรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์จากน้ำนมดิบจากฟาร์มของตนเอง รวมถึงการรับน้ำนมจากเกษตรกรรายย่อยละแวกใกล้เคียงมาแปรรูป แล้วยังมีพื้นที่ซึ่งพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว โรงแรมที่พักและร้านอาหาร นับว่าเขาเป็นเศรษฐีใหม่ที่ชาวปากช่องรู้จักดี เสียงกุกกักหน้าประตูเรียกความสนใจของอาติณณ์ให้หันกลับไปมอง ก่อนจะสาวเท้ายาวๆ ไปเปิดประตูออกดู นางสร้อยคนงานวัยกลางคนในบ้านทำหน้าเหลอหลา แล้วพูดอ้อมแอ้ม “น้าทำให้คุณตื่นหรือคะ ขอโทษที” “เปล่าหรอก ผมตื่นอยู่แล้ว ช่วยให้ใครไปตามนายรัฐมาพบผมด้วย” “คุณไม่ทานอะไรก่อนหรือคะ” นางสร้อยถามด้วยความเป็นห่วง เพราะเจ้านายหนุ่มยังไม่ได้กินอาหารมื้อเช้าและรวมถึงมื้อเที่ยง แต่ทำท่าเหมือนจะทำงานทำการเสียแล้ว “ก็ให้มาพบที่โต๊ะอาหารก็แล้วกัน ผมจะเข้าไปอาบน้ำก่อน” อาติณณ์พูดจบก็เดินกลับเข้าไปในห้องนอน นางสร้อยเดินไปสั่งให้คนงานช่วยตามรัฐคนงานหนุ่มที่เปรียบเสมือนเลขาฯ คนสนิทของอาติณณ์ให้มาพบตามคำสั่ง ก่อนจะเดินกลับมาที่ห้องนอนของเจ้านายหนุ่ม เพื่อเข้าไปทำความสะอาดเก็บกวาดห้อง “น้า หนูทำเอง” เนื้อนวลเด็กสาววัยรุ่นที่เพิ่งเข้ามาทำงานอาสา เมื่อนางสร้อยหันไปมองก็เห็นเนื้อนวลเตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดมาพร้อม นางรู้สึกพอใจในความขยันของเด็กสาว ซึ่งจะว่าไปแล้วคนงานที่ผ่านๆ มา มีแต่ชอบหลบ อู้งานหรือเกี่ยงให้คนอื่นทำ พวกเสนอตัวอาสาทำงานนั้นแทบจะหาไม่ออก “ก็ดีเหมือนกัน ฉันจะไปตั้งโต๊ะอาหารให้คุณผู้ชาย แกทำให้ดีละ ตามซอกตามมุมเก็บกวาดให้เรียบร้อย” นางกำชับแล้วเดินกลับไปยังเรือนเล็กด้านหลังบ้านปีกไม้ ซึ่งเป็นทั้งห้องครัวและมีห้องพักของคนทำงานในบ้าน ซึ่งคือตัวนางและสามีที่ทำหน้าที่คนสวน กับเนื้อนวลที่เพิ่งเข้ามาทำงานแทนคนเก่า งานที่นี่มีไม่มากเพราะมีนายเพียงคนเดียว เรือนปีกไม้ก็ไม่ใหญ่นัก มีสองห้องนอนใหญ่กับหนึ่งโถงที่ใช้ทั้งรับแขกและพักผ่อน ชุดเก้าอี้ตรงระเบียงด้านข้างเจ้านายหนุ่มใช้ทั้งทำงาน รับประทานอาหารและรับแขกที่เป็นเพื่อนสนิท เนื้อนวลเดินถืออุปกรณ์ทำความสะอาดเข้าไปในห้องนอนของเจ้านายหนุ่ม ซึ่งตัวเธอเองยังไม่เคยได้เข้ามา เพราะเพิ่งเข้ามาทำงานไม่นาน เด็กสาวสำรวจห้องนอนของเจ้านายหนุ่มแล้วถอนใจ...ก็ห้องนอนธรรมดา ไม่มีอะไรวิลิสมาหรา...เธอรำพึงในใจ ก่อนเริ่มจัดเก็บที่นอนโดยพับผ้าห่มที่กองอยู่กลางเตียง พลันสายตาของเด็กสาวเหลือบไปเห็นกรอบรูปที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้หัวเตียง เด็กสาวไม่รอช้ารีบหยิบขึ้นมาดูทันที “แฟนหรือนี่ หน้าจืดไม่เหมาะสมกับคุณผู้ชายเลย” เนื้อนวลเบะปากใส่ภาพถ่ายคู่กันระหว่างเจ้านายของตนกับหญิงสาวคนหนึ่ง ที่เธอคิดว่าเป็นคนรักของเขา เพราะทั้งสองคนในภาพโอบกอดกันแนบชิด ชนิดแก้มแนบแก้มเลยทีเดียว เสียงประตูห้องน้ำเปิดออกเนื้อนวลหันขวับไปมอง เช่นเดียวกับอาติณณ์ที่ออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพที่เคยชิน “ว้าย!” เนื้อนวลร้องอย่างตกใจ ยกมือปิดตา ทำให้กรอบรูปที่ถืออยู่ร่วงหล่นลงพื้น เช่นเดียวกับเจ้าของห้องหนุ่ม “เฮ้ย! เข้ามาทำไม” อาติณณ์อุทานเสียงหลง รีบดึงผ้าขนหนูที่พาดอยู่บนบ่ามาพันร่างกายท่อนล่าง แล้วมองเด็กสาวที่ยกมือปิดหน้าร้องกรี๊ดอย่างงุนงง เพราะใช่ว่าเขาจะจำคนงานในบ้านและในฟาร์มได้หมดทุกคน ก่อนหันไปสนใจกับเสียงกระทบพื้นของกรอบรูปในมือเด็กสาว แล้วสืบเท้าเข้าไปหยิบดูอย่างร้อนใจ “หมดกัน แตกหมด เธอเป็นใครเข้ามาในห้องฉันทำไม” เขาหยิบกรอบรูปที่เสียหายจากการตกกระแทกพื้นมาถือ ถามเด็กสาวเสียงกระด้าง จนเนื้อนวลตัวสั่นด้วยความกลัวและตกใจ เด็กสาวถึงกับหมดแรงทรุดลงนั่งใกล้กองเศษกระจกกรอบรูปที่แตกอยู่ตรงพื้นนั่นเอง “มีอะไรครับพี่” รัฐคนงานหนุ่มที่อาติณณ์ต้องการพบตัว พรวดพราดเข้ามาในห้อง เพราะได้ยินเสียงเอะอะ หนุ่มคนงานผิวเนื้อดำแดงมองเจ้านายหนุ่มที่นุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวมีหยดน้ำเกาะตามผิวหนัง ถือกรอบรูปถ่ายอยู่ แล้วหันไปมองเนื้อนวลที่นั่งอยู่กับพื้นเนื้อตัวสั่นเทา “ใคร” อาติณณ์ถามเสียงเข้ม เมื่อหันกลับไปมองรัฐแล้วชายตามองเนื้อนวลที่นั่งอยู่บนพื้น “คนงานใหม่ครับพี่ เด็กไม่เคยทำงาน ซุ่มซ่ามไปบ้างขอโทษแทนมันด้วย รีบเก็บกวาดเศษกระจกเสียเนื้อนวล” รัฐรายงานเจ้านายหนุ่ม แล้วหันไปสั่งเนื้อนวล “ค่ะ” เด็กสาวรับคำเสียงสั่น มือสั่นๆ ยื่นไปหยิบ เศษกระจกอย่างระมัดระวัง “ผมเอาไปเปลี่ยนกรอบให้” รัฐยื่นมือไปขอกรอบรูปในมืออาติณณ์ แต่ถูกปฏิเสธ “ไม่เป็นไรเอาไว้ทีหลัง ว่าแต่เรื่องเมื่อคืน เรียบร้อยดีแล้วหรือ” อาติณณ์วางกรอบรูปบนโต๊ะ แล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบเสื้อกางเกงออกมาสวมโดยไม่ได้สนใจว่าใครจะอยู่ในห้อง แล้วมองเขาหรือไม่ สำหรับรัฐนั้นเคยชิน เพราะถูกเรียกมาพบในตอนที่เจ้านายหนุ่มแต่งตัวบ่อยครั้ง ห่วงแต่เนื้อนวลที่เพิ่งเข้ามาทำงาน เขาเห็นเธอปรายตามองอาติณณ์แล้วรีบก้มหน้างุด แก้มของเธอระเรื่อขึ้น รัฐจึงขยับบังมุมมองที่เด็กสาวมองเห็นเจ้านายหนุ่มสวมใส่เสื้อผ้าเสีย แต่เขาก็ยังไม่ตอบคำถาม จนอาติณณ์เหลียวมามองหน้า รัฐจึงพยักหน้าเพียงเล็กน้อย เมื่อได้คำตอบเพียงการพยักหน้าโดยไม่มีคำพูดจาอธิบายอื่นใดประกอบ อาติณณ์ก็พอจะรู้ รัฐคงไม่อยากให้พูดต่อหน้าคนงาน เขาจึงแต่งตัวต่อโดยสวมเสื้อยืดสีขาวและกางเกงยีนสีซีดๆ ก่อนจะคว้าแจ๊คเก็ตสีดำติดมือแล้วเดินนำออกไปนอกห้อง “น้าสร้อยตั้งโต๊ะเสร็จหรือยัง ไปกินด้วยกันรัฐ” เขาเอ่ยชวน “เก็บกวาดให้เรียบร้อย อย่าหยิบจับอะไรเล่นอีก เดี๋ยวของจะเสียหายเข้าใจไหม” รัฐหันไปกำชับกับเนื้อนวลแล้วเดินตามเจ้านายหนุ่มไป เนื้อนวลมองตามสองคน ก่อนเบะปากเมื่อมองไปที่แผ่นหลังของรัฐคนที่พาเธอมาทำงานที่นี่ ตามการฝากฝังของญาติผู้น้องซึ่งเป็นคนรักของรัฐ และเปลี่ยนเป็นสายตาชื่นชมเมื่อมองตามบุรุษผู้เป็นเจ้าของบ้าน เจ้าของฟาร์มใหญ่และกิจการอันเกี่ยวเนื่องต่างๆ ซึ่งมากมายจนติดอันดับเศรษฐีของจังหวัดและรวมถึงระดับต้นๆ ของเศรษฐีใหม่ขอประเทศไทยเลยทีเดียว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม