ตอนที่7 เผยโฉมออกมา…เจ้าของเสียงครางจากข้างห้อง

991 คำ
ตอนที่7 เผยโฉมออกมา…เจ้าของเสียงครางจากข้างห้อง [มินนี่ TALKS] “นี่ เธอจะเล่าได้เหรอยังวาวา อยากกินอะไรฉันก็ซื้อมาให้หมดแล้วห้ามเบี้ยวเด็ดขาดเลยนะ ไม่งั้นฉันโกรธจริงด้วย” ฉันนั่งมองเพื่อนจอมตะกละกับขนมขบเคี้ยวกองโตที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อด้านล่างคอนโดฯ คืนนี้วาวามานอนเป็นเพื่อนฉันเนื่องจากวันพรุ่งนี้เป็นวันหยุด “อืม แพ็บนะขอกินขนมก่อน ใจเย็น” วาวาหยิบห่อขนมขึ้นมาฉีกแล้วจับยัดใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆ “ต้องออกตัวก่อนเลยนะมินนี่ว่าฉันก็ไม่รู้เรื่องของพี่แจสเปอร์ละเอียดนักหรอก ฉันเองก็ฟังต่อจากคนอื่นมาเหมือนกันแหละ” นางคว้าแก้วน้ำอัดลมขึ้นดูด “เออ เล่ามาเหอะฉันอยากรู้” ฉันวางข้อศอกลงบนหมอนที่หน้าตัก เราสองคนนั่งอยู่บนโซฟาในส่วนที่เป็นห้องรับแขกเล็กๆ ที่ตรงนี้ฉันกับพ่อเคยมานั่งคุยเล่นกันเสมอสมัยที่ท่านยังทำงานอยู่เมืองไทย ข้าวของเครื่องใช้หลายสิ่งหลายอย่างของพ่อยังอยู่ในห้องนี้ อาทิ ร้องเท้าหนังมันปลาบที่วางอยู่ชั้นวางรองเท้า เสื้อเชิ้ตและกางเกงที่ยังแขวนอยู่ในตู้เสื้อผ้า ราวกับสิ่งขอพวกนี้มันจะตอกย้ำให้ฉันคิดถึงเจ้าของของมันมากขึ้นไปอีก “เมื่อก่อนพี่แจสเปอร์เรียนอยู่คณะวิศวะ รู้สึกว่าจะอยู่ปีสามแล้วมั้งแต่ก็โดนไล่ออกไปซะก่อน ตอนอยู่ในมหาลัยนะพี่แจสเปอร์เหมือนตัวป่วนเลยก็ว่าได้ หล่อสาวกรี้ด แต่ก็ร้ายกาจจนใครๆ ต่างก็พากันกลัวไปหมด ควงสาวๆ ไม่ซ้ำหน้าเบื่อแล้วก็มีใหม่ไปเรื่อย พี่แจสเปอร์คบแต่กับพวกเพื่อนๆ ที่เกเรประมาณว่านักเลงอันธพาลอะไรประมาณนี้” “น่าเสียดายจัง เรียนวิศวะซะด้วยใกล้ก็จะจบแล้วแท้ๆ” ฉันนึกตามที่เพื่อนสาวเล่าไปด้วย แล้วจู่ๆ ก็เหมือนใบหน้าของหมอนั่นลอยอยู่บนฝาผนังห้องด้านหน้าของฉัน ใบหน้าหล่อๆ คล้ายกับพระเอกในซีรีย์เกาหลีแต่ก็ดูร้ายเหมือนที่วาวาเล่าไม่มีผิด “นั่นแหละ ตอนที่พี่แจสเปอร์เรียนอยู่พี่เค้าฮอตมากในมหาลัย บางกระแสก็ว่าพี่เค้าค้ายาด้วยนะ ชอบก่อเรื่องเสมอ เลยโดนพ่อกับแม่เลี้ยงไล่ออกจากบ้านเพราะทนพฤติกรรมแย่ๆ ของพี่เค้าไม่ไหว” “แย่เนอะ” ฉันถอนใจออกมาโดยไม่ทราบสาเหตุ แล้วหยิบขนมในห่อยัดเข้าปาก “ก็นะ ไม่มีใครกล้ายุ่งกับพี่เค้าหรอกแม้นแต่อาจารย์ยังต้องเกรงใจเลย ได้ข่าวว่าที่โดนไล่ออกก็เพราะดันไปชกต่อยกับอาจารย์ที่ย้ายมาใหม่คนหนึ่งเข้าเรื่องแย่งผู้หญิงกัน อืม ฉันก็รู้มาประมาณนี้แหละมินนี่” “แล้วพี่เจไดกับคนที่ชื่อแจสเปอร์นี่…” ฉันเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง จำได้ลางๆ ว่าตอนอยู่ในผับทั้งสองคนคล้ายกับว่าเคยรู้จักกันมาก่อน “อือ ลืมเล่าเรื่องสำคัญ” วาวาทำตาโต “พี่เจไดเป็นลูกคนแม่กับพี่แจสเปอร์” “แบบนี้นี่เอง” ฉันเริ่มประมวลเรื่องราวต่างๆ เข้าด้วยกัน แล้วจู่ๆ เสียงข้างห้องที่เคยได้ยินจนเกือบจะชินก็ดังขึ้น กึก! กึก! ตึก! ตึก! อื้อออ… อ่าห์… อี้… ฉันกับวาวาหันหน้ามองกันโดยอัตโนมัติลืมเรื่องที่กำลังคุยกันอยู่เป็นปลิดทิ้ง “นี่ใช่ไหมมินนี่เสียงดังจากข้างห้องที่เธอว่า โอ้ย! หัวใจฉันเต้นโครมครามเลย โห ระทึกมาก” วาวายกมือทาบอก ก่อนจะลุกเดินตรงเข้าไปในห้องนอนของฉันซึ่งอยู่ติดกับห้องรับแขก แล้วนางก็แนบหูเข้ากับผนังห้อง กึก ๆ ๆ อ่ะ… อ่าห์… อ้ายย… “โอ้โห เสียงผู้หญิงร้องเป็นเป็ดถูกเชือดเลยมินนี่ นางคงแซ่บปากนางน่าดู คริ คริ” วาวายกมือป้องปากหัวเราะชอบใจ “บ้า! วาวาพูดเข้า ถ้าเธอต้องมาเจอแบบฉันแทบทุกคืนจะตลกไม่ออกบอกเลย” ฉันเดินตามนางมาติดๆ แล้วนั่งลงบนเตียงทำหน้าสุดเซ็ง คืนนรกแตกกลับมาแล้วสินะ “ฉันอยากเห็นหน้าสองคนนี้จังเลยมินนี่” วาวากับฉันจ้องหน้ากัน แล้วจู่ๆ ความคิดบางอย่างก็เกิดขึ้นในหัวของฉัน ความโกรธ ความโมโหที่ถูกปลุกขึ้นมาด้วยเสียงร้องครางกระเส่ากลางดึก เสียงขอบเตียงที่กระแทกกับฝาผนังหัวเตียงของฉัน ฉันรวบรวมมันให้กลายเป็นความกล้า คงถึงเวลาแล้วที่ฉันจะต้องไปพูดกับเจ้าของห้องข้างๆ ให้รู้เรื่องไปเลยว่าพวกเขารบกวนการนอนของฉันขนาดไหน “ไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิวาวา ฉันก็อยากเห็นหน้าเพื่อนข้างห้องเหมือนกัน” ฉันลุกขึ้นยืนคว้าหมับไปที่ข้อมือของเพื่อนสาว “ห๊า! เอาจริงเหรอมินนี่” วาวาทำตาโต “จริง!” ฉันทำหน้าตาเด็ดเดี่ยวพร้อมกับลากนางออกมาเป็นเพื่อน จนเราสองคนมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องเจ้าของเสียงดังน่ารำคาญ ฉันหลับตาพยายามรวบรวมความกล้าแล้วยกมือขึ้นเตรียมเคาะประตู แต่ยังไม่ทันได้เคาะลงไปวาวาก็จับมือฉันเอาไว้ “นะ… แน่ใจนะมินนี่” “แน่ใจที่สุดในชีวิต” ฉันหันไปบอกเพื่อน “งั้นก็ตามใจ เดี๋ยวฉันคอยเป็นกำลังใจให้อยู่ข้างหลังนะ” พูดจบนางก็รีบเดินไปแอบอยู่ข้างหลังของฉันจริงๆ “เอาเลยมินนี่ ฉันพร้อมแล้วเคาะเลย” เสียงกองเชียร์ดังขึ้นเพิ่มความกล้าไปอีกสิบเท่า เอาวะเป็นไงเป็นกัน! ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม