บทที่ 16 ขอโทษที่กลัวมึงตาย!

2189 คำ
“ฮึ ไอ้ตำรวจหื่นกาม มึงก็ไม่ต่างอะไรจากตำรวจคนอื่น ๆ ที่ผ่านมา ผลประโยชน์ต้องมาก่อน” ไมเคิลเอ่ยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน ต่อให้ตำรวจกี่สิบคนที่มาประจำการอยู่ที่นี่ล้วนแล้วมาเพื่อผลประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียงเงินทอง หน้าที่การงานที่ก้าวหน้า หรือแม้แต่ผู้หญิงไว้สนองตัณหา “หลังจากที่มันจัดการเปิดทางส่งออกสินค้าล็อตใหม่ให้เราเรียบร้อยแล้ว มึงก็เก็บมันซะ” “แล้วอีเด็กนกต่อนั่นล่ะครับ” “สนองความหื่นกามให้ไอ้ตำรวจนั่นสักหน่อย ยังไงก็จะตายทั้งคู่อยู่แล้ว ปล่อยให้มันไปสะสางกันต่อที่นรก แล้วเรื่องที่ให้ไปจัดการถึงไหนแล้ว” “เรียบร้อยแล้วครับนาย แผนการของนายได้ผล พวกตำรวจมัวแต่วุ่นวายอยู่กับชาวบ้านแล้วก็นักข่าว จึงไม่ได้สนใจเรื่องอื่นเลย” เตชินนั่งฟังบทสนทนาของไมเคิลกับลูกน้องผ่านเครื่องดักฟังอยู่ในห้องทำงานเงียบ ๆ สองนิ้วเคาะโต๊ะเป็นจังหวะอย่างใช้ความคิด วิธีที่เสี่ยงที่สุดคือวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้ ก๊อก! ก๊อก! “ขออนุญาตครับหัวหน้า” “เข้ามา” “อุปกรณ์พร้อมแล้วครับ” นาวินเดินเข้าไปในห้องทำงานของหัวหน้าพร้อมกับอุปกรณ์มากมายที่เขาเป็นคนประดิษฐ์ขึ้นมา เตชินหยิบหน้ากากแต่ละอันขึ้นมาพิจารณาดู ความสามารถของนาวินคือการก๊อบปี้บุคลิกของบุคคล แม้บางครั้งอาจจะมีผิดพลาดบ้างแต่ก็คงต้องขัดเกลากันไป “ไหนลองแสดงเป็นไอ้เจษฎาดูสิ” “อะแฮ่ม ผมไม่เห็นด้วยนะกับการที่คุณเอายานรกพวกนี้ไปบริจาคให้กับชาวบ้าน!” “แล้วไอ้ไมเคิลล่ะ” “ก็ไม่เห็นว่ามีใครตายเพราะยาของผมสักหน่อย พวกนั้นตายเพราะหันมาฆ่ากันเอง” “เสียงผ่านนะ จังหวะการพูดก็โอเค คงเป็นเพราะมีกล่องเลียนเสียงเป็นตัวช่วย แต่บุคลิกยังแข็งทื่ออย่างกะหุ่นยนต์เลยไอ้วิน” “ผมเคยได้ยินแต่เสียงของพวกมัน ยังไม่เคยเห็นการแสดงออกทางใบหน้าและท่าทางของร่างกาย คงต้องเก็บข้อมูลอีกหน่อย” “งานที่แกได้รับอาจเสี่ยงหน่อยนะ หวังว่าแกจะได้เลือดยัยเคสมามากพอที่จะเอาตัวรอดกลับมาได้ทุกครั้งที่ปฏิบัติหน้าที่” “ครับหัวหน้า” นาวินรับคำ ก่อนมือบอนกดปุ่มเปลี่ยนเสียงมาเป็นเสียงของมะปรางเพื่อพูดหยอกล้อกับหัวหน้าของเขา “เฮีย...ให้กำลังใจหนูหน่อย” “สู้ ๆ นะครับเด็กดีของเฮีย ไอ้วิน!” เตชินที่กำลังกลุ้มใจเรื่องของมะปรางอยู่เมื่อโดนเด็กฝึกล้อเลียนก็รีบเสียงดังกลบเกลื่อนหลังจากที่เผลอพูดเสียงหวานออกไป เขาเอื้อมมือไปดึงกล่องเลียนเสียงของนาวินมาถือไว้ “ขอโทษครับหัวหน้า ขะ...ขอของผมคืนนะครับ” “รู้สึกว่ามึงจะชอบสวมบทบาทเป็นผู้หญิงนะ” “ผมว่าก็ไม่เลวนะ ความเป็นผู้หญิงมันละเอียดอ่อนกว่าผู้ชาย และสามารถแสดงมุมมองนิสัยออกมาได้กว้างกว่า ขอของผมคืนนะครับ นะครับหัวหน้า” เตชินยอมให้กล่องเลียนเสียงกับนาวินไปอย่างไม่พอใจนัก เขามองเด็กฝึกของเขาเดินออกไปจากห้องทำงานด้วยสีหน้าเหมือนคิดอะไรบางอย่างออก “สถิติใหม่ ขายหมดเกลี้ยงภายในวันเดียว” เติร์ดเอ่ยพูดพลางนับเงินในมือ โดยมีเซนเดินตามเงียบ ๆ เพราะการที่เขามาช่วยเติร์ดขายเหล้าเถื่อนในวันนี้มันเป็นการสืบหาเบาะแสไปด้วย “เติร์ด มึงจะกลับบ้านเลยไหมวะ” “ยังเว้ย เดี๋ยวไปรอรับตาที่ปากทางเข้าป่าก่อน ส่วนมึงวันนี้ต้องอยู่ฉลองกับกูนะเว้ย มึงอุตส่าห์มาช่วยกูทำมาหากิน กูไม่ให้มึงช่วยงานกูฟรี ๆ หรอกนา” “เออ... แล้วตามึงไปทำอะไรอยู่นั่นว่ะ ในป่าอ่ะ?” “ตาเข้าไปเก็บของป่าขายตั้งแต่เช้าแล้ว ทำแบบนี้ทุกวันตามประสาคนแก่นั่นแหละ” เซนพยักหน้าเออออก่อนจะขึ้นรถซาเล้งไปกับเติร์ดอย่างไม่เรื่องมาก ชีวิตความเป็นอยู่ของเพื่อนยิ่งได้รู้ก็ยิ่งน่าสนใจ “ทำไมต้องจอดรถไว้แล้วเดินเข้ามาด้วยว่ะ” “คนที่นี่เขาถือ คนเฒ่าคนแก่เขาบอกว่าป่าที่นี่ผีดุ รถซาเล้งเสียงมันดังเดี๋ยวไปรบกวนเจ้าป่าเจ้าเขา” เติร์ดเอ่ยติดตลกปนประชดประชัน ที่ต้องทำแบบนี้เพราะไม่อยากต่อปากต่อคำกับคนแก่แบบตา “มึงเชื่อเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอวะ” “ไม่เชื่อ” “...” เซนเอียงคอเล็กน้อยพลางขมวดคิ้วสงสัย “ทำ ๆ ไปเถอะ ตาจะได้สบายใจ นี่ถ้าขับรถเข้าไปรับตาข้างในนะ กูโดนบ่นหูชายันหว่าง” “ยันหว่าง?” เซนเอียงคอเล็กน้อยพลางทำสีหน้าเชิงคำถาม ก่อนที่เติร์ดจะไขข้อข้องใจให้อย่างเอือมระอา “โดนบ่นจนถึงเช้า” “อ่อ” เซนพยักหน้าเออออ เพราะเพิ่งจะเคยได้ยินคำคำนี้เหมือนกัน แต่ก็มีเติร์ดคอยแปลคำไทยให้เป็น​ไทยอีกที “แล้วที่บอกว่าป่านี้ผีดุใช้เรื่องเดียวกับที่กูได้ยินมาป่ะวะ” “เรื่อง?” “มีชาวบ้านหายตัวไปหลังจากไปเก็บของป่า พอหาเจออีกทีก็กลายเป็นศพแล้ว บ้างก็ว่าเป็นเรื่องราวลี้ลับ โดนผีป่าบังตาให้หลงทางแล้วหาทางออกไม่เจอ...” “มึงเพิ่งย้ายมาเรียนที่นี่ได้ไม่ถึงเดือน มึงรู้เรื่องนี้ด้วยเหรอว่ะ” “เรื่องเล่าปากต่อปาก ก็พอเคยได้ยินบ้าง” “มันไม่ใช่แค่เรื่องเล่า แต่มันคือเรื่องจริงเมื่อหลายปีมาแล้ว แล้วกูก็เชื่อว่าการที่มีคนตายในป่านี้มันไม่ใช่ฝีมือของผี แต่มันคือฝีมือของคน” “ยังไงวะ” “รู้แค่นี้แหละ เสือกไปก็มีแต่จะอายุสั้น” เติร์ดตอบแบบขอไปที เขาเองก็ไม่ได้รู้เบื้องลึกเบื้องหลังอะไรนักหรอก เพียงแต่พูดไปตามความเป็นจริงและตามหลักการวิทยาศาสตร์ที่ร่ำเรียนมา เซนทำสีหน้าครุ่นคิด เนื่องจากได้สืบเรื่องนี้มาสักพักแล้ว เขาเชื่อว่ามันเกี่ยวข้องกับการที่ตำรวจหลายนายหายตัวไป “แต่ก็ดีนะ เพราะหลังจากที่มีคนตายก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาเก็บของป่าในนี้อีกเลย นอกจากตาของกู แหล่งทำมาหากินชัด ๆ” “เมื่อไหร่จะเจอตาของมึงว่ะไอ้เติร์ด” “เหี้ยเอ๊ย! ปวดฉี่ไม่ไหวแล้ววะ มึงรออยู่ตรงนี้แป๊บหนึ่งนะ” “เอ้า! ไอ้เติร์ด” เซนเอ่ยเรียกเพื่อนตามหลังด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดังนัก หลังจากที่เติร์ดวิ่งพรวดพราดเข้าไปในดงป่ารก ในป่านี้ก็แสนจะวังเวง แม้จะไม่เชื่อเรื่องผีสางเทวดาแต่มันก็อดที่จะหวาดระแวงไม่ได้ “อ่า~ ค่อยสบายตัวหน่อย” เติร์ดจัดการธุระส่วนตัวจนเสร็จเรียบร้อยก่อนจะเดินออกมาจากป่ารกชัน เขาต้องทำสีหน้าประหลาดใจเมื่อไม่เห็นเซนยืนอยู่ “ไปไหนของมันว่ะ อื้อ!” “ซู่ว~ ไอ้เติร์ดเบา ๆ” เซนย่องเบามาจากข้างหลังก่อนจะเอามือปิดปากเพื่อนหนุ่มเอาไว้แน่น เพื่อไม่ให้ส่งเสียงดังเล็ดลอดออกมา เซนพาตัวเติร์ดไปหลบที่หลังต้นไม้ใหญ่ เนื่องจากเรื่องอันตรายกำลังจะมาถึงตัวพวกเขาในไม่ช้า “ทำเหี้ยอะไรของมึงวะกูตกใจหมด” “ดูนั่น!” เซนพูดพร้อมส่งสายตาเพื่อไขข้อกระจ่างให้กับเติร์ด เนื่องจากมีชายสูงวัยคนหนึ่งกำลังถูกชายฉกรรจ์หลายคนทำการทารุณอย่างหนัก “เชี่ย! นี่มัน...” เติร์ดหยุดคำพูดที่ยากจะเอื้อนเอ่ย เขาหยิบโทรศัพท์มือถือมาบันทึกวิดีโอเอาไว้ “ไม่ค่อยชัดเลยว่ะ” เติร์ดพูดพร้อมหาจังหวะย่องไปใกล้ ๆ เพื่อความชัดเจนของภาพเคลื่อนไหว โดยที่เซนก็ไม่ได้ห้ามเพียงแต่ทำตัวเงียบ ๆ มองดูชายสูงวัยคนนั้นถูกกระทำป่าเถื่อนจนมีบาดแผลเหวอะหวะผ่านกล้องมือถือ พรึ่บ โทรศัพท์มือถือจากมือของเติร์ดร่วงลงพื้นทันทีที่เขาเห็นใบหน้าของชายสูงวัยชัดเจนขึ้น “ตา...” เขาตกใจจนแทบจะพุ่งตัวเข้าไปดวลกับกลุ่มพวกนั้น แต่ก็ถูกคนมือไวอย่างเซนกระชากตัวเอาไว้ได้ก่อน “มึงจะไปไหน” “กูจะไปช่วยตา” “ไม่ได้มันอันตราย” “ไอ้เหี้ยเซนปล่อยกู!” ทั้งสองคนต่างยื้อยุดฉุดกระชากกันอยู่สักพักใหญ่ ๆ เซนใช้มือปิดปากเติร์ดเอาไว้ไม่ให้ส่งเสียงดัง “ไอ้เติร์ดมีสติหน่อย” “อื้อ~” ด้วยความที่เซนเป็นเด็กฝึกขององค์กรตั้งแต่เด็ก เขาย่อมได้ฝึกทักษะในด้านต่าง ๆ มาเป็นอย่างดี ทำให้เขาได้เปรียบเติร์ด เซนหยิบมือถือที่ร่วงลงพื้นก่อนหน้าขึ้นมาบันทึกวิดีโอต่อ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่คนเป็นตาของเติร์ดโดนซ้อมจนหมดสติไป “ไอ้แก่อยู่ดีไม่ว่าดี สังขารจะลงโล่งอยู่แล้วยังไม่เจียมกะลาหัวอีก ไม่กลัวข่าวลือเลยนะมึง” “ค้นดูสิว่ามีอะไรเอาผิดเราได้หรือเปล่า” “ไม่มีครับพี่ สงสัยจะเป็นพวกที่มาเก็บของป่า” “แต่ถึงยังไงมันก็รู้ความลับของพวกเราแล้ว เก็บมันไว้ไม่ได้” “แล้วจะเอายังไงต่อกับมันดี” “ทำให้มันเป็นศพ แล้วเอาไปฝังลงดินให้เรียบร้อย” บทสนทนาของชายกลุ่มนั้นทำให้เติร์ดแทบระเบิดเสียงร้องออกมา น้ำตาของลูกผู้ชายไหลพรากออกมาไม่ขาดสาย มีเพียงแค่เซนที่ยังใจแข็งราวกับว่าภาพเหตุการณ์ตรงหน้าเป็นเรื่องปกติที่เขาพบเจอจนเคยชิน เซนกดบันทึกวิดีโอเป็นหลักฐาน ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋ากางเกงของตัวเองส่งข้อความหาน้องชาย จากนั้นเขาจึงพาเติร์ดออกมาจากที่ป่าแห่งนั้นเงียบ ๆ “มึงแม่งโคตรเหี้ย!” เติร์ดต่อว่าเซนเสียงสั่น หลังจากที่เซนพาเขามาส่งที่บ้าน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เติร์ดเสียใจเป็นอย่างมาก เขาช่วยอะไรคนเป็นตาไม่ได้เลย “เออ... กูยอมรับ” “มึงจะไปไหนก็ไป กูไม่มีเพื่อนเห็นแก่ตัวแบบมึง” “กูผิดขนาดนั้นเลยเหรอ” “มึงผิดที่ห้ามกู!” “มึงคิดว่ามึงออกไปแล้วมึงจะสู้พวกมันได้เหรอ พวกมันมีกันเป็นสิบ มึงคิดว่ามึงเป็นใครไอ้เติร์ด กูผิดมากเหรอที่กูกลัวมึงตาย” “ลองให้เรื่องนี้มันเกิดกับพ่อกับแม่มึงดูไหม กูก็อยากรู้เหมือนกันว่าคนอย่างมึงจะอยู่เฉยได้หรือเปล่า ถ้ามึงแม่งไม่ทำเหี้ยอะไรเลย มึงแม่งก็ไม่ใช่คนแล้วว่ะ” “โอเค กูเข้าใจแล้ว งั้นกูก็ขอโทษด้วย​ กูผิดเองที่กลัวมึงตาย” “มีเรื่องอะไรกันเสียงดังไปจนถึงในบ้าน” มะปรางที่เพิ่งเดินออกมาจากบ้านของเติร์ดตะโกนถาม เธอมาดูแลอาหารการกินให้กับยายของเติร์ดตั้งแต่ช่วงค่ำ เห็นว่าเติร์ดยังไม่กลับมาเธอจึงอยู่เป็นเพื่อนยายจนดึกดื่น และเมื่อได้ยินเสียงเหมือนมีคนทะเลาะกันอยู่นอกบ้าน เธอจึงออกมาดู “เซน...” “ฝากดูแลมันต่อด้วยนะครับพี่ปราง ผมขอตัวก่อน” มะปรางพยักหน้ารับด้วยความไม่เข้าใจนัก ก่อนที่จะเดินไปหาเติร์ดเพื่อเค้นเอาคำตอบ “มีเรื่องอะไรกัน แล้วตาอยู่ไหนไม่ได้กลับมาด้วยกันเหรอ” “พี่ปราง ฮือ ๆ” “เป็นอะไรวะไอ้เติร์ด ร้องไห้ทำไม” มะปรางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลงพร้อมเดินเข้าไปสวมกอดน้องชายที่กำลังร้องไห้เป็นเด็ก ๆ แม้ว่าเติร์ดจะเกเรไปบ้างแต่เขาก็มีอารมณ์ที่อ่อนไหวง่ายเช่นกัน มะปรางรู้จักเติร์ดดี และเธอก็รู้วิธีปลอบน้องชายคนนี้ด้วย “ตาไม่อยู่กับเราแล้วพี่ปราง” “อะไรนะ!” “ตาไม่อยู่กับเราแล้ว ฮือ ๆ” เติร์ดเล่าทุกอย่างให้มะปรางฟังทั้งน้ำตา พร้อมเปิดคลิปที่เขาถ่ายมาให้เธอดู ภาพเหตุการณ์ที่เล่นอยู่ในมือถือบีบหัวใจสองพี่น้องต่างพ่อแม่คู่นี้เหลือเกิน “เราจะเอายังไงต่อดีว่ะพี่ ยายจะรู้สึกยังไง ผมเป็นห่วงความรู้สึกของยาย” “ไอ้พวกสารเลว! อยู่ไปก็รกแผ่นดินจริง ๆ เลยไอ้พวกเหี้ย!” มะปรางสบถพูดออกมาด้วยความโกรธจัด น้ำตาของผู้หญิงที่ใจแข็งยิ่งกว่าหินมันหลั่งไหลออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ “แกเก็บคลิปนี้เอาไว้ให้ดี สำรองไว้หลาย ๆ ที่ยิ่งดี ภาพชัดขนาดนี้พวกมันดิ้นไม่หลุดแน่” “...” เติร์ดมองหน้ามะปรางนิ่ง ๆ เขามืดแปดด้านไปหมด ถ้าหากวันนี้ไม่มีมะปรางอยู่ด้วย เขาก็ไม่รู้ว่าเลยว่าควรจะทำยังไงต่อ “คุกคงเอาพวกมันไว้ไม่อยู่แล้ว นรกเท่านั้นถึงจะสาสมกับพวกมัน”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม