บทที่ 3 เด็กดีของเฮีย

2082 คำ
หลังจากถูกปล่อยตัวออกมาจากห้องขัง มะปรางก็รีบมาหาเตชินตามที่นัดหมาย ซึ่งกระดาษที่เตชินให้กับเธอเมื่อคืนมีข้อความสั้น ๆ ระบุสถานที่อยู่ลับของเขา ตัวอักษรที่ไม่มีใครอ่านออก มีเพียงมะปรางคนเดียวเท่านั้นที่แกะรหัสตัวอักษรพวกนั้นได้ เด็กสาวสแกนรหัสผ่านประตูห้องลับด้วยรอยสักบาร์โค้ด​ขนาดเล็กที่อยู่บริเวณข้อมือข้างซ้าย รอยสักนี้คือรหัสที่แสดงถึงตัวตนของเตชินซึ่งเธอแอบสักไว้เมื่อหลายปีก่อน เธอปกปิดรอยสักนี้ไว้ภายใต้นาฬิกาและสร้อยข้อมือที่ถักด้วยเชือกหลากสี เตชินที่กำลังอาบน้ำชำระร่างกายอยู่ เขารับรู้ถึงการมาของแขกที่ไม่ได้รับเชิญ มือหนาเอื้อมไปปิดฝักบัวก่อนจะดึงชุดคลุมอาบน้ำมาสวมใส่ เขาเดินไปหยิบแท็บเล็ต​แล้วเข้าไปเช็กดูกล้องวงจรปิดที่ติดไว้ตามจุดต่าง ๆ ภายในเซฟเฮาส์​ จึงได้รู้ว่าแขกที่ไม่ได้รับเชิญคนนั้นคือมะปราง เขาบิดยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ก่อนจะรู้สึกประหลาดใจว่าทำไมเธอ​ถึง​สามารถเข้าไปในห้องลับของเขาได้ ห้องนั้นมีเพียงแค่​เขาคนเดียวที่สามารถยืนยันตัวตนและเข้าไปได้ หรือว่า... “คุณไม่ใช่ตำรวจจริง ๆ ด้วย คุณปลอมตัวมาอีกแล้ว” มะปรางพูดขึ้นเมื่อเห็นเตชินปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า เธอนั่งอ่านข้อมูลส่วนตัวของเตชินอยู่บนโต๊ะทำงานของเขา “รู้อะไรไปแล้วบ้าง” ชายหนุ่มที่เป็นตำรวจกำมะลอพูดพร้อมเดินเข้าไปหาเด็กสาว “ศูนย์ศูนย์เจ็ดคือรหัสอะไร แล้วเพชรลวงตาคือฉายาของคุณเหรอ” “รู้เยอะเกินไปแล้ว” เตชินพูดพร้อมดึงเอกสารที่เป็นข้อมูลส่วนตัวของเขาออกจากมือของเธอ อันที่จริงเตชินมาที่นี่อีกครั้งด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาคิดไว้แล้วว่ามะปรางจะต้องรู้ความจริงว่าทำไมเขาถึงต้องมาเป็นตำรวจอยู่ที่ชุมชน​แห่งนี่ ซึ่งไม่ช้าก็เร็ว เธอคือคนเดียวที่รู้ความลับมากมายเกี่ยวกับตัวเขา ที่เตชินไม่ได้บอกอะไรกับเธอตั้งแต่ทีแรก เพราะการที่ปล่อยให้มะปรางตามหาความจริงเกี่ยวกับตัวเขาอีกสักครั้งและอีกหลาย ๆ ครั้ง มันก็เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นดี แต่ก็ไม่คาดคิดว่าเธอจะสามารถเข้ามาในห้องที่เต็มไปด้วยความลับสุดยอดของเขาได้อย่างง่ายดาย ทั้งที่ประตูทางเข้ามันซ่อนอยู่หลังตู้หนังสือ และดูจะไม่ได้เป็นที่สะดุดตาขนาดนั้น “องค์กร...” “อย่าพูดถึงชื่อองค์กรเด็ดขาด!” “...” มะปรางเอียงคอเล็กน้อยพลางทำสีหน้าเชิงคำถาม “มันเป็นสิ่งต้องห้าม” เตชินกล่าวก่อนจะครุ่นคิดได้ว่ามะปรางรู้ชื่อจริงขององค์กรได้ยังไงในเมื่อมันไม่ได้มีระบุเป็นลายลักษณ์อักษร​ “เข้ามาในนี้ได้ยังไง” “ไม่บอก” มะปรางกระโดดลงจากโต๊ะทำงานของชายหนุ่ม เด็กสาวยิ้มแป้น เพราะการที่ได้รู้ความลับของเตชินมันทำให้เธออารมณ์ดี “อะส์!” คนตัวเล็กอุทานเสียงหลงเมื่อถูกแขนแกร่งรั้งเอวคอดเอาไว้ “เฮียจะจัดการปิดปากคนที่รู้ความลับของเฮียยังไงดีนะ” เตชินเอ่ยกระซิบกระซาบ​เสียงเบาที่ข้างกกหูใบเล็ก ก่อนจะเผยรอยยิ้มชวนขนลุก​ออกมา “คิดว่าเฮียจะปล่อยให้หนูออกไปจากห้องนี้ง่าย ๆ เหรอ” ประตูของห้องลับถูกปิดอีกชั้นอย่างหนาแน่น จากห้องทำงานกลายเป็นห้องสีแดงฉานด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มะปรางมองห้องที่ค่อย ๆ เปลี่ยนไปด้วยความประหลาดใจ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวคนข้างหลังเลยสักนิด “เรามาทำอะไรที่ผ่อนคลายกันหน่อยไหม​ เด็กดีของเฮีย!” “หนูจะได้เป็นเด็กของคุณจริง ๆ แล้วใช่ไหม” มะปรางพูดอย่างมีความหวังและรู้สึกยินดีอย่างยิ่ง แต่เตชินกลับมองว่ารอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของเธอนั้นมันคือรอยยิ้มของเด็กสาวเจ้าเล่ห์และไว้ใจไม่ได้ “พูดอะไร ไม่อายเฮียเหรอ” “หนูไม่มียางอายตั้งแต่เกิดแล้ว” เตชินหัวเราะแล้วปล่อยมะปรางให้เป็นอิสระ เขาขยี้ผมเด็กสาวเบา ๆ ก่อนจะจูงมือเธอออกจากห้องส่วนตัวเพื่อมุ่งหน้าไปยังทิศทางของอีกห้อง​ “จะพาหนูไปไหน” “ไปเถอะน๊า เฮียไม่ทำอะไรมิดีมิร้ายกับหนูหรอก” “ชิ!” “ทำเสียงแบบนั้นหมายความว่าไง หนูเสียดายเหรอ” เตชินหยุดก้าวขาอัตโนมัติแล้วหันมาถามเธอด้วยความสงสัย ทำเอามะปรางแสดงสีหน้าไม่ถูก ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธออาจจะเสียดายจริง ๆ “อะ...อะไรของคุณ หนูไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นซะหน่อย ปากบอกว่าเฮียจะไม่ทำอะไรมิดีมิร้าย แต่คำถามชวนขนลุกชะมัด” “หนูกลัวเหรอ” “ไม่ได้กลัว แล้วตกลงจะพาหนูไปไหนกันแน่” เตชินไม่ได้ตอบคำถามของมะปรางนอกจากจูงมือเล็ก ๆ​ ของเธอเดินไปยังทิศทางของอีกห้องหนึ่ง ภายในห้องมีแผนผังซึ่งมีพื้นหลังเป็นแผนที่ชุมชนที่มะปรางอาศัยอยู่ หมุดหลากหลายสีที่ปักอยู่บนแผนผังบ่งบอกว่าได้ทำการลงพื้นที่สำรวจแล้ว หมุดสีเขียวเป็นพื้นที่ปลอดภัย หมุดสีส้มเป็นพื้นที่เสี่ยงและไม่น่าไว้วางใจ หมุดสีแดงเป็นพื้นที่อันตราย ส่วนใหญ่แล้วเป็นพื้นที่ลับตาคน ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนั้นเพียงแค่กวาดสายตามองมะปรางก็สามารถปะติดปะต่อและเข้าใจมันได้โดยสัญชาตญาณ​และประสบการณ์​ “ตอนนี้ยาเสพติดกำลังระบาดและลุกลามไปทั่วพื้นที่กว้าง หนึ่งในแหล่งพื้นที่ที่ใช้ในการผลิตยาเสพติดเพื่อส่งออกคือชุมชนนี้ เราต้องสืบให้รู้ว่าพวกมันลักลอบผลิตยานรกนั่นบริเวณไหนของหมุดแดงที่ปักไว้” “...” “สายของเฮียรายงานมาว่าผู้ชายในภาพนี้อาจจะอยู่เบื้องหลังหรืออาจจะมีการสนับสนุนลับ ๆ” “ท่านดำรง” มะปรางเอ่ยพึมพำ​เสียงเบา “หนูรู้จักมันด้วยเหรอ” “เขาเป็นกำนันอยู่ตำบลใกล้เคียงมาสี่ปีติดแล้วไม่มีใครโคตรล้มสักที แต่ได้ข่าวว่าเร็ว ๆ นี้เขาจะลงสมัครเป็นผู้ว่าการอำเภอนะ” มะปรางละสายตาจากแผนผังเบื้องหน้า​ หันมามองเตชินพลางเอ่ยถามด้วยความสงสัย​ “ว่าแต่คุณเถอะ จะมาทลายเอเยนต์ผลิตยา แต่ปลอมตัวเป็นตำรวจ เปิดเผยตัวโจ่งแจ้งแบบนี้มันไม่เสี่ยงไปหน่อยเหรอ​ หรือว่ามีแผนอะไร” “ครั้งนี้เฮียต้องปลอมตัวเป็นตำรวจยศผู้กอง เพราะเฮียเชื่อว่ามันต้องมีการติดสินบนเจ้าหน้าที่ คราวนี้แหละคนที่อยู่เบื้องหลังตัวจริงมันจะปรากฏตัวออกมา​ ไม่แน่อาจจะเป็นพวกเดียวกันกับที่เราเคยส่งเข้าคุกเมื่อห้าปีก่อนก็ได้” “พวกนั้นได้ออกจากคุกแล้วเหรอ” มะปรางเอ่ยออกมาด้วยความตกใจ เพราะมันเร็วเกินไปสำหรับอิสระที่พวกนั้นได้รับ “พวกมันบางส่วนได้รับอิสรภาพแล้ว เพราะว่ามีการอภัยโทษนักโทษหลายคน” “อภัยโทษเพื่อให้ออกมาทำผิดซ้ำเนี่ยนะ” “เฮียเชื่อนะว่าหลายคนที่ได้รับโอกาสเขาจะกลับตัวกลับใจ แต่ส่วนคนที่ยังสำนึกไม่ได้และกลับมาทำผิดซ้ำซาก​ มันจะต้องได้รับผลกรรมที่สาหัสกว่าเดิมแน่นอน” “แล้วกว่าที่พวกมันจะได้รับผลกรรม จะมีใครบ้างที่ต้องเดือดร้อนเพราะพวกมัน!” “เพราะแบบนี้ไง เราจึงต้องร่วมมือจับพวกมันเข้าคุกอีกครั้ง” “เรา?” “หนูมาทำงานนี้ร่วมกับเฮียได้ไหม ถ้าเราร่วมมือกันพวกมันจะกลับเข้าไปในคุกและจะไม่มีโอกาสกลับออกมาอีก” “ทำไมจะต้องเป็นหนูด้วย คุณจะหลอกใช้หนูอีกแล้วเหรอ” “ไม่ใช่อย่างนั้น” “พอหนูหมดประโยชน์ คุณก็จะหายไปจากชีวิตหนูเหมือนห้าปีก่อนใช่ไหม” “มะปราง” “หนูไม่ทำ! มันไม่ใช่กงการอะไรที่หนูจะต้องเอาชีวิตไปเสี่ยง” จังหวะที่มะปรางจะหันหลังเดินออกไป เตชินก็จัดการอุ้มเด็กสาวให้ขึ้นไปนั่งบนโต๊ะทำงานก่อนจะดันร่างของเธอให้นอนลงอย่างอุกอาจ เตชินทำแบบนั้นเพราะว่าเด็กฝึกของเขาเดินทะเล่อทะล่าเข้ามาไม่รู้​อีโหน่อีแหน่ พรึ่บ! “อ๊ะส์...ทะ...ทำอะไรของคุณ” คนมาใหม่สามคนตกใจไม่ใช่น้อย ไม่คาดคิดว่าหัวหน้าจะมีแขก พวกเขาเป็นเด็กฝึกของเตชินที่มาร่วมปฏิบัติงานในครั้งนี้ด้วย ทั้งสามทำท่าทีเลิ่กลั่กอย่างเห็นได้ชัด ด้วยความอยากรู้อยากเห็นและอดสงสัยไม่ได้ว่าผู้หญิงที่อยู่กับหัวหน้าของพวกเขาคือใคร “ช่วยเฮียเถอะนะเด็กดี งานนี้เฮียต้องการหนูจริง ๆ” “ปล่อยหนู!” “ไม่ปล่อยจนกว่าหนูจะตอบตกลงช่วยเฮีย นะครับเด็กดีของเฮีย” พูดจบเตชินก็จูบหน้าผากมนของเด็กสาวเบา ๆ ทำเอามะปรางอึ้งไปชั่วขณะ หัวใจดวงน้อยมันเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง เซน ซาน และนาวินเองก็ลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ พวกเขาไม่อยากจะเชื่อสายตา แต่ก็คิดไปก่อนว่าหัวหน้าคงหาทางเบี่ยงเบนความสนใจของเธอเท่านั้น “ช่วยเฮียเถอะนะ​ นะ ๆ​ เด็กดี” “ชะ...ช่วยก็ได้” มะปรางเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงติดขัด ตอนนี้เธอไม่กล้าแม้แต่จะสบตาเขาด้วยซ้ำ ความรู้สึกบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้ ก่อเกิดขึ้นมาภายในใจ​ดวงน้อยดวงนี้​เข้าแล้ว​ มันไม่ดีเลย มันไม่ดีต่อใจเธอเลยจริง ๆ​ “น่ารักที่สุด” เตชินพูดแล้วจูบหน้าผากมนอีกครั้ง เด็กสาวไม่ได้ขัดขืน เธอเพียงแค่หลับตาลงด้วยความเขินอาย เตชินจึงใช้จังหวะนั้นไล่เด็กฝึกทั้งสามคนที่ยังยืนอยู่เดิมให้รีบวิ่งไปหาที่หลบ เซน ซาน และนาวินจึงรีบปฏิบัติตามอย่างรวดเร็ว โดยแอบไปซ่อนตัวอีกห้องหนึ่ง เตชินมองเด็กสาวที่หลับตาปริ่มด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม เธอยังน่ารักและยังใจอ่อนต่อคำขอร้องของเขาเสมอ เตชินโน้มใบหน้าลงไปจูบปากอวบอิ่มอย่างละมุนละไมด้วยความที่เขาอดใจไม่ไหว เด็กสาวไม่ได้มีท่าทีขัดขืน เธอตอบรับจูบนั้นราวกับว่าต้องการมันมานานแสนนาน สองมือเรียวโอบรัดลำคอหนาของเขาอย่างลืมตัว บทจูบนั้นเร่าร้อนและดูดดื่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อทั้งสองฝ่ายต่างให้ความร่วมมือกัน แต่เวลาแห่งความสุขมันมักผ่านไปรวดเร็วเสมอ จนมะปรางเองก็อดที่จะเสียดายช่วงเวลาดี ๆ​ นั้นไม่ได้ เธอเม้มปากด้วยความเขินอาย​ ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นนั่ง โดยมีเตชินช่วยประคับประคอง “ขอบคุณนะครับเด็กดี หนูยังเป็นเด็กดีของเฮียเสมอ” เขาพูดพลางลูบศีรษะของเธอเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู “หนูเป็นแค่เด็กดีของคุณเองเหรอ” คำพูดของมะปรางทำให้เตชินเงียบไปสักพัก ก่อนที่เขาจะบิดยิ้มแล้วถามเธอด้วยน้ำเสียงจริงจัง “แล้วหนูอยากเป็นอะไรสำหรับเฮีย?” คำถามของเตชินทำให้บรรยากาศภายในห้องเงียบไปชั่วขณะ เธอจะพูดออกมาได้อย่างไรว่าเธออยากเป็นมากกว่าเด็กดีของเขา การที่เธออยู่เป็นโสดมาจนถึง​ทุกวันนี้เพราะเธอเชื่อเสมอว่าเขาจะกลับมา และตอนนี้เขากลับมาแล้ว แต่ทำไมเธอถึงกลับไม่กล้าพูดความรู้สึกที่อยู่ภายในใจของเธอมาตลอดออกไป มะปรางได้แต่ฉีกยิ้มกลบเกลื่อนแล้วส่ายหน้าไปมา “หนูต้องกลับบ้านแล้ว หนูหายไปนานเดี๋ยวแม่มะลิเป็นห่วงเอา” พูดจบ มะปรางก็รีบวิ่งออกไปจากห้องและมุ่งหน้าออกจากฐานลับของเตชิน โดยที่เธอก็ระมัดระวังตัวไม่ให้ใครเห็น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม