หลังจากนับเงินจากการแทงพนันเสร็จสรรพ แม่มะลิก็ด่วนกลับบ้านไปก่อน เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าทำอาหารไปขายที่โรงเรียน ส่วนมะปรางกับเติร์ดก็เดินเที่ยวชมการละเล่นในงานวัดกันต่อ
เห็นผู้กองหนุ่มร่างสูงโปร่งเดินมาแต่ไกล เติร์ดจึงรีบกระซิบบอกมะปรางทันทีว่าผู้ชายคนนี้เป็นตำรวจที่เพิ่งย้ายมาประจำการใหม่ที่ชุมชน เตชินมองมะปรางเหมือนมีอะไรบางอย่างจะพูดด้วย เนื่องจากว่าทั้งคู่รู้จักและสนิทชิดเชื้อกันเป็นอย่างดี
“มองหน้าฉันแบบนี้ มีอะไรคะผู้กอง” มะปรางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้างตามนิสัยแก่นแก้วของเธอ
“ฉันแค่เดินสำรวจความเรียบร้อย เผอิญเก็บยานอนหลับได้ด้วยนะ”
“ใครอยากรู้?” มะปรางพูดทั้งที่สายตาล่อกแล่กไปมา
“ฉันก็แค่สงสัยว่ากวินต่อยเธอจนแทบกระอักเลือดแต่เธอกลับไม่เป็นอะไรเลย ต่างจากเธอที่ต่อยกวินไปแค่หมัดสองหมัด ซึ่งไม่น่าจะทำให้เขาน็อกได้ ฉันคิดว่าเขาอาจจะแค่หลับเพราะฤทธิ์ยานี่หรือเปล่า ถ้าเป็นอย่างนั้นไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำนะครับ แถมยังทิ้งหลักฐานเอาไว้อีกต่างหาก” เตชินพูดพร้อมมองไปที่เติร์ดแล้วหันมาสบตากับมะปรางอย่างยิ้มเยาะ ขณะที่อีกฝ่ายได้แต่มองค้อนกลับไปอย่างไม่พอใจนัก ตามศักดิ์แล้ว เตชินก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกับกวิน จะปกป้องกันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
“หลักฐาน! หลักฐานอะไรเหรอคะคุณตำรวจ แล้วนี่เพิ่งมาประจำการใหม่เหรอ” มะปรางพูดพร้อมยกมือขึ้นมาป้องปากที่กำลังกลั้วหัวเราะกลบเกลื่อน อันที่จริงเมื่อหลายปีก่อนเตชินเคยมาทำงานเป็นเด็กฝึกอยู่ที่องค์การบริหารส่วนตำบลของชุมชนนี้ ตอนนั้นเธอก็ไม่เห็นรู้ว่าเขาเรียนเป็นนายสิบนายร้อย กลับมาอีกทีก็กลายเป็นตำรวจชั้นผู้กองซะแล้ว “ขอให้อยู่ได้นาน ๆ นะผู้กอง แต่บอกไว้ก่อนว่าชุมชนนี้มันเถื่อน!”
มะปรางเอ่ยกับเตชินประโยคเดียวกับที่เจอกันครั้งแรก ก่อนจะเดินจากไปโดยมีเตชินมองตามเธอจนสุดทางเดิน เขาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด การกระทำของเธอยังสามารถเรียกรอยยิ้มให้กับคนที่ยิ้มยากอย่างเขาได้เสมอ
“แกทำแล้วทำไมถึงได้ทิ้งหลักฐานเอาไว้ฮะไอ้เติร์ด!” มะปรางรีบเดินเร็ว ๆ พลางกัดฟันพูดกับลูกสมุนของตัวเองเสียงกระซิบกระซาบ
“เปล่านะพี่ปราง ผมยังไม่ได้ทิ้งหลักฐานเอาไว้เลย นี่ไงยานอนหลับก็ยังอยู่” เติร์ดพูดพร้อมหยิบยานอนหลับออกมาจากกระเป๋ากางเกง มะปรางก้มมองยานอนหลับในฝ่ามือของเติร์ดพลางขมวดคิ้วเป็นปมหนา เธอเสียรู้เตชินเข้าซะแล้ว แต่ก็ยังดีที่เธอไม่มีพิรุธอะไร
“คิดจะจับผิดฉันเหรอ!” มะปรางหันกลับไปหวังจะเอาคืนเตชินที่กล้ามากลั่นแกล้งเด็กแก่นประจำท้องถิ่นอย่างเธอ
แก๊งอันธพาลกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นลูกน้องของเจ้าพ่อที่ทรงอิทธิพลในชุมชนแห่งนี้ เดินมุ่งหน้ามาหวังจะหาเรื่องตำรวจคนใหม่อย่างเตชินโดยเฉพาะ
“กูได้ข่าวว่ามีตำรวจหน้าใหม่มาประจำการอยู่ที่นี่ว่ะ แต่ก็คงอยู่ได้ไม่นานหรอกเพราะตำรวจคนก่อน ๆ ถ้าไม่ลาออกไปก็ตายสถานเดียว!”
“กูอยากรู้นักว่าไอ้ตำรวจใหม่คนนี้มันจะยอมตายหรือจะยอมลาออกไปซะดี ๆ”
ชายฉกรรจ์สองคนพูดคุยกันอย่างสนุกปาก ขณะที่มะปรางเดินมุ่งหน้ามาหาเตชิน เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ยี่หวาและผองเพื่อนกำลังเดินมุ่งหน้าไปหาเตชินเช่นกัน
ยี่หวาคือหญิงสาวที่คอยตามจีบกวินมาตั้งแต่เด็ก ๆ อีกทั้งยังเป็นคู่อริกับมะปราง
“มาอยู่นี่นี่เอง ฉันตามหาแทบแย่”
“พูดเรื่องอะไร” เตชินหันไปกระซิบถามมะปรางอย่างไม่เข้าใจนัก เมื่อสักครู่ก็เพิ่งคุยกันอยู่หยก ๆ มะปรางทำปากขมุบขมิบ ตอนแรกกะจะมาเอาคืนแต่กลายเป็นว่าเธอต้องช่วยเหลือเขาซะงั้น
“ฉันเพิ่งชนะน็อกมา ขอบคุณมากเลยนะที่สอนศิลปะมวยไทยให้ฉัน วิธีของคุณช่วยฉันได้เยอะเลย นี่ฉันชกไอ้กวินไปแค่สองหมัดนะ ทำเอามันน็อกคาที่นอนคุยกับพื้นสนาม ป่านนี้คงได้หยอดน้ำข้าวต้มอีกหลายวันเลย”
มะปรางพูดโวพร้อมกลอกตาไปมาใส่เตชิน ทำให้ชายหนุ่มรู้ได้ทันทีว่าทุกอย่างที่เธอพูดมันเป็นเพียงแค่อุบาย
“นี่ขนาดแรงผู้หญิงนะ ยังเอาผู้ชายอย่างกวินน็อกคาที่เลย แล้วถ้าฉันจะชกกับไอ้พวกปากหมาแถวนี้เธอคิดว่าพวกมันจะเป็นยังไง”
“ไม่รู้สิ ลองดูหน่อยไหมล่ะ” มะปรางตอบ เธอเองก็หมั่นไส้พวกลูกกระจอกของนายเจษฎาผู้ที่มีอิทธิพลในชุมชนแห่งนี้เหมือนกัน ชอบทำตัวเป็นมาเฟียกดขี่รังแกคนไม่มีทางสู้
“ฉันคิดว่าถ้ามันไม่ตายก็คงจะพิการ” เตชินเอ่ยพูดขณะที่สายตามองชายฉกรรจ์ที่จงใจมาหาเรื่องเขาก่อนหน้านี้
“มึงจะเอาเหรอวะ” ด้วยความใจร้อนของพวกเขามันก็เกิดเรื่องจนได้
“กูพูดอยู่กับเด็กของกู พวกมึงมีปัญหาอะไร” เขาพูดพร้อมเอามือมาโอบกอดมะปรางอย่างหยอกล้อ แต่การกระทำนั้นทำให้ยี่หวาเกิดอาการสติแตก
“อีมะปราง! แกอ่อยผู้กองเตชินเหรอ” ยี่หวากระชากแขนของมะปรางออกมาจากอ้อมกอดของเตชินแล้วตบหน้าของมะปรางอย่างแรง คนโดนกระทำหันไปมองยี่หวาตาค้อน อยู่ ๆ ก็มาทำร้ายเธอด้วยเหตุผลไร้สาระ
ผัวะ!
หมัดหนัก ๆ ชกเข้าที่กลางใบหน้าของยี่หวาอย่างแรง
“อ๊ะส์ อร้ายยยยย!” ยี่หวากรีดร้องออกมาเสียงดังลั่นเมื่อเห็นเลือดสีแดงสดไหลออกมาจากทางจมูกของตัวเอง “พวกแกจับอีมะปรางเอาไว้ ฉันจะตบมัน!”
ยี่หวาออกคำสั่งกับเพื่อนอีกสองคนให้จับตัวมะปรางเอาไว้ ซึ่งมะปรางก็ไม่น้อยหน้า เธอยกนิ้วชี้หน้าด่าเพื่อนของยี่หวาอย่างไม่รู้สึกเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย
“เข้ามาสิ แน่จริงก็เข้ามาเลย แต่ฉันบอกไว้ก่อนนะว่าถ้าพวกแกเข้ามา ฉันจะชกพวกแกสองคนให้จมูกเบี้ยวซิลิโคนหลุดตามยัยยี่หวาไปเลย เอาไหมล่ะ”
“ไม่ต้องไปกลัวมัน พวกแกจับมันเอาไว้ วันนี้ฉันจะตบแกให้หน้าเละเลยอีมะปราง”
และแล้วมันก็เป็นเรื่องเป็นราว จนทำให้มะปรางและพวกของยี่หวาต้องไปเคลียร์กันที่โรงพัก แต่เรื่องมันก็ยังไม่จบง่าย ๆ
“คุณตำรวจดูนี่สิ อี... มะ...มะปรางน่ะค่ะ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเขาเลย เขาก็มาชกฉันจนเลือดตกยางออก ดูสิคะคุณตำรวจ”
“อย่ามาตอแหล แกนั่นแหละที่ตบหน้าฉันก่อน”
มะปรางพูดอย่างไม่ยอมความ เธอไม่ใช่นางเอกผู้อ่อนแอที่จะต้องมาก้มหน้ารับกรรมในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำ
“อย่าไปเชื่อนะคะคุณตำรวจ มันหาเรื่องฉันก่อนจริง ๆ ค่ะ”
“แกนั่นแหละที่หาเรื่องฉันก่อน ตอแหลหน้าด้าน ๆ”
“ไหน ๆ ๆ ใครทำอะไรลูกฉัน” ยี่โถเจ้าของร้านเสริมสวย แม่ของยี่หวาเดินเข้ามาพร้อมเอะอะโวยวายใหญ่โต “อ๋อ...แกนี่เองอีมะปรางลูกอีมะลิเน่า!”
“อ่าวพูดงี้ก็สวยดิป้า!”
“มันแน่นอนอยู่แล้ว ฉันเจ้าของร้านเสริมสวยนะย๊ะ” ยี่โถพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ
“แม่! อีมะปรางมันชกจมูกหวาจนเลือดออกเลย” ยี่หวาฟ้องผู้เป็นแม่ ยี่โถจึงรีบเข้าไปดูลูกสาวของตัวเองด้วยความเป็นห่วง
“อีมะปรางอีลูกพ่อแม่ไม่เคยสั่งสอน”
“สอนสิ! สอนแล้วลูกฉันมันก็จำเอาเป็นเยี่ยงอย่างด้วย” ขณะที่ยี่โถกำลังต่อว่าด่าทอมะปรางอยู่ มะลิผู้เป็นแม่ของมะปรางก็เดินมาพอดิบพอดี จึงทันได้ยินใครบางคนกำลังกล่าวถึงตัวเองอยู่ มะลิตอบโต้ยี่โถกลับไปเสียงเขียว ทั้งคู่เป็นคู่อริกันมาแต่ไหนแต่ไร
“นี่สอนแล้วเหรอ สอนได้ดีแค่นี้นะเหรอ พวกแกมันก็เหมือนกันทั้งแม่ทั้งลูก จรจัดทั้งคู่!”
“หน็อยแน่! พวกแกมันสูงส่งมาจากไหนฮะถึงด่าคนอื่นว่าจรจัด ฉันจะบอกอะไรให้นะ ฉันน่ะสอนลูกฉันมาเป็นอย่างดี แล้วฉันก็ยังสอนมันอีกว่าถ้ามีใครมาดูถูกเหยียบหยามศักดิ์ศรีเราแบบนี้ ก็ให้ตบมันได้เลยไม่ต้องไปไว้หน้ามัน”
สิ้นคำพูด มะลิก็ตบหน้ายี่โถอย่างเอาเรื่อง บรรดาแม่ ๆ ของมะปรางกับยี่หวาต่างตบตีกันกลางโรงพักอย่างไม่มีใครยอมใคร
“หยุด ๆ ๆ หยุดเดี๋ยวนี้! นี่โรงพักนะแม่คุณไม่ใช่ตลาดสด เกรงใจผมที่เป็นตำรวจยืนหัวโล้น ๆ อยู่ตรงนี้บ้าง” ตำรวจที่นั่งสอบสวนประจำการอยู่ตรงนั้นลุกขึ้นมาห้ามปรามพลางถอดหมวกโชว์ศีรษะไร้เส้นผมให้เหล่าบรรดาที่ทะเลาะวิวาทเมื่อครู่ดูอย่างประชดประชัน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สองบ้านนี้มีเรื่องมีราวกัน “เอาอย่างนี้ นอนคุกกันหมดนี้แหละ ไว้ผู้ปกครองมาประกันตัวเด็ก ๆ พรุ่งนี้แล้วกัน”
“ไม่เห็นยุติธรรมเลยค่ะคุณตำรวจมันหาเรื่องฉันก่อนนะคะ” ยี่หวาพูดอย่างไม่ยอมความ ขณะที่ถูกตำรวจอีกสองนายควบคุมตัวให้ไปยังห้องขังของโรงพัก เพื่อสงบสติอารมณ์
“ไป ๆ ๆ ไม่ต้องเถียงกัน เออไอ้ปรางไปพบผู้กองก่อน ส่วนที่เหลือก็ไป”
“ว่าไงนะคุณตำรวจ ทำไมมะปรางถึงได้เจอกับผู้กองเตชินก่อน”
“เห้อ! ไป ๆ ๆ ไปเข้าห้องขังไม่ต้องถามมาก อยู่ดีไม่ว่าดีมีแต่เรื่อง” ตำรวจที่ควบคุมพูดออกมาอย่างเอือมระอา โดยที่ยี่หวากับผองเพื่อนต่างส่งเสียงโวยวายไม่หยุดหย่อน