หยางเอ้อหลางพยักหน้าไม่เอ่ยสิ่งใดอีก ปกติเขาเป็นคนไม่พูดมากอยู่แล้วเมื่อเห็นว่านางไม่รังเกียจก็พอใจยิ่งชุดที่นางสวมความจริงเป็นชุดที่คนของเขาเตรียมเอาไว้ให้เขาฝึกยุทธ์จึงค่อนข้างเก่าพอสมควร แต่ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วที่นี่เป็นค่ายทหารการจะหาชุดสตรีก็ลำบากยิ่ง วันนี้ที่จำต้องพาองค์หญิงเข้าค่ายในวันนี้ก็เพราะจำเป็น เขาปล่อยให้นางดื่มชาคลายความหนาวอีกทั้งยังสั่งให้คนต้มน้ำแกงไก่มาให้นางด้วย องค์หญิงสิบสามยอมรับว่าตนเองหิวจึงกินน้ำแกงนั้นจนหมดเกลี้ยง นางเอ่ยชมน้ำแกงแสนอร่อยไปหลายประโยค หยางเอ้อหลางจึงเอ่ยว่า “อาหารนับเป็นเรื่องสำคัญในกองทัพ หากทหารได้กินอาหารอร่อยและอิ่มหนำย่อมมีแรงสู้รบ” “อ้อ มิน่าเล่าฝีมือของพ่อครัวในกองทัพเทียบได้กับพ่อครัวหลวงเลยทีเดียว” องค์หญิงสิบสามเอ่ยชื่นชมแต่แล้วพลันนึกได้ถึงจุดประสงค์ที่ตนเองมาที่นี่ นางไม่ได้มาเป็นแขกของกองทัพเพื่อเยี่ยมชมแต่มาเพื่อพูดเรื่อง