00จงบอกความปรารถนาของเจ้ามา
จงบอกความปรารถนาของเจ้ามา
บทนำ
‘สร้อยเรียกซาตาน ขอพรได้หนึ่งครั้งต่อหนึ่งดวงวิญญาณ 299฿’ (มีจำนวนจำกัด)
**เงื่อนไข**
การขอพรแต่ละครั้งอาจมีความเสี่ยง
รับประกันผลลัพธ์แต่ไม่รับประกันชีวิต
.
*วิธีใช้ *
ขอพรได้เพียงหนึ่งข้อ และจะมีข้อแลกเปลี่ยนตามแต่ตกลงกับซาตาน คำขอที่ยิ่งใหญ่มักจะมาพร้อมกับความเสี่ยงที่ใหญ่ยิ่ง
เงื่อนไขสัญญากับซาตานจะถูกระบุเป็นลายลักษณ์อักษร ไม่อาจเปลี่ยนแปลงคำขอพรได้ในภายหลัง แต่ถ้าหากต้องการเปลี่ยนแปลงของแลกเปลี่ยน ต้องได้รับการยินยอมจากซาตานเสียก่อน
คำเตือน โปรดระวังซาตานดุ
*จะมีคู่มือแถมไปให้เมื่อสั่งซื้อไปแล้ว
เผยแพร่สินค้าโดย เจ้าของร้าน – พระเจ้า Lovely God
อะไรวะเนี่ย... นัยน์ตาของฉันเบิกโพลงแล้วเผลอระบายยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวเมื่อเห็นรายละเอียดสินค้าประหลาด ฉันแค่เบื่อๆ เลยมากดดูของซื้อของขายในแอพลิเคชั่นขายของออนไลน์ ในเทศกาลฮัลโลวีนนี้มีของแปลกๆ ขายมากมายก็จริง แต่สิ่งที่ฉันเพิ่งอ่านคือสุดปังอลังการที่หนึ่ง
สร้อยเรียกซาตาน.... 299฿
ขอพรได้หนึ่งครั้งต่อหนึ่งดวงวิญญาณ...
และคนขายคือ พระเจ้า?
55555555555555555 คิดได้ไงวะ โคตรเล่นใหญ่ เจ้าของร้านต้องการคอนเท้นต์น่าสนใจหรืออะไรถึงได้ตั้งชื่อพร้อมกับใส่รายละเอียดจริงจังจนฉันขำท้องแข็ง
สร้อยที่ขอพรได้แถมเจ้าของร้านยังตั้งชื่อตัวเองว่าพระเจ้า... เวร พระเจ้ามาขายสร้อยซาตานในแอพขายของออนไลน์อะนะ? คอนเทนต์สมัยนี้ชอบทำอะไรประหลาดๆ กันเสียเหลือเกิน ฉันเริ่มจะตามไม่ทันละ
มองผ่านๆ ก็แค่สร้อยสีเงินรูปกะโหลกโง่ๆ หนึ่งอันปะวะ... ถ้าซื้อสำเพ็งอาจจะโหลละยี่สิบบาทด้วยซ้ำไป แต่เจ้าของร้านเพิ่มราคามันด้วยการใส่สตอรี่เพื่อให้ดูมีอะไรมากขึ้น
เพื่อเห็นแก่ความคิดสร้างสรรค์ของเจ้าของร้านที่ชื่อว่า เลิฟลี่ก็อด ฉันเลยกดสั่งซื้อและอุดหนุนเขาสักหน่อยเป็นการขอบคุณที่ทำให้วันฮัลโลวีนของฉันมีอะไรสนุกๆ บ้าง
...ชำระเงินเรียบร้อย...
...สินค้าอยู่ในระหว่างรอคนขายเตรียมจัดส่ง...
“เฮียปืน ซื้อของออนไลน์อีกละนะ” เสียงธนูน้องชายฝาแฝดที่ห่างกันแค่ไม่กี่นาทีเอ่ยขึ้นหลังจากฉันเพิ่งกดสั่งของออนไลน์ไปหมาดๆ มันชะโงกหน้าโผล่มาทางด้านหลังโซฟาที่ฉันนั่งอยู่ก่อนจะถอนหายใจยาวๆ
วันนี้มันมาเยี่ยมฉันที่บ้านหลังจากร้อยวันพันปีไม่เคยมา เพราะอาศัยอยู่แต่หอมหาลัย พ่อกับแม่พวกเราแยกทางกัน พ่อและแม่ฉันก็เลยแยกไปอยู่กับครอบครัวใหม่ ทำให้ส่วนใหญ่บ้านหลังนี้มีแค่ฉันเท่านั้นที่อาศัยอยู่
ปืน ชื่อของฉันแมนมากเพราะพ่อตั้งใจว่าจะมีลูกชายสองคน แต่ฉันดันเป็นผู้หญิง ถึงอย่างนั้นพ่อฉันก็ไม่เปลี่ยนชื่อที่คิดไว้ ทำให้ชื่อฉันเหมือนผู้ชายทั้งชื่อเล่นและชื่อจริงเพื่อให้ชื่อพี่น้องคล้องจองกันแบบนี้...
(ปืน) ศาสตราวุธ กับ (ธนู) ยุทโธปกรณ์
ผู้หญิงบ้าอะไรชื่อศาสตราวุธ... และน้องชายฉันก็ไม่เรียกฉันว่าเจ๊ เอาแต่เรียกเฮีย จนคนอื่นเข้าใจผิดว่าฉันเป็นผู้ชาย ไม่ก็ผู้ชายข้ามเพศไปกันหมด
“เห็นพี่ยามหน้าหมู่บ้านบอกว่าของมาส่งบ้านเจ๊ไม่ขาด จะได้ผัวเป็นคนส่งของแล้วมั้ง” มันส่ายหัว
“เฮียแม่แกสิ เรียกฉันเจ๊สิยะ บอกตั้งกี่ทีแล้วว่าเดี๋ยวคนอื่นเข้าใจผิด” ฉันละสายตาจากโทรศัพท์ก่อนจะจิกสายตาใส่ไอ้น้องชายฝาแฝดด้วยความหมั่นไส้ นอกจากพ่อจะอยากให้ฉันเป็นลูกชาย น้องฉันยังจะอยากให้ฉันเป็นพี่ชายมันอีก ฉันเกิดเป็นผู้หญิงแล้วมันจะทำไมฮะ นี่ยุค 2021 แล้วยังเหยียดสตรีเพศกันอยู่หรือไง
“ให้เกียรตินมคัพซีฉันบ้างเหอะ” ฉันแอ่นหน้าอกใส่มันอย่างกวนประสาทแล้วปัดผมสีน้ำตาลอ่อนที่ยาวไปถึงกลางหลังเล็กน้อยให้น้องชายฝาแฝดได้รับรู้จริตชะนีที่มีอยู่ในตัวฉันบ้าง ถึงชื่อฉันจะแมน แต่ใจฉันน่ะสาวแตกสุดๆ
“ฟองน้ำขนาดนี้ โจรยิงยังไม่ตายเลยนะ พูดมาได้ไม่อายปาก”
“พูดมาเลยดีกว่า ว่าวันนี้มาหาทำไม มีอะไร ร้อยวันพันปีไม่มีธุระแกเคยมาหาฉันที่ไหน” ฉันเปลี่ยนเรื่องแล้วหันไปมองแฝดที่ใช้ขายาวๆ ของมันข้ามโซฟามานั่งลงข้างๆ กัน
“เฮียช่วยแต่งหน้าผีให้ผมหน่อย วันนี้ผมอยากจะเป็นแดรคคูล่า”
“บอกให้เรียกเจ๊”
“เจ๊คนสวย แต่งหน้าให้ธนูหน่อยครับ ผมอยากเป็นแดรคคูล่า”
“กวนประสาทฉันขนาดนี้ คิดว่าฉันจะช่วยแกหรือยังไง แกก็ไปหน้าสดแล้วทำปากซีดๆ สิ ไม่เป็นผีแดรกคูล่าก็เป็นผีเจ้าที่ได้อยู่นะ”
“จะเปลี่ยนจากเรียกเจ๊เป็นอีแล้วนะ เอาดิ” คนถูกค่อนขอดเบ้ปาก ทำท่าจะฟาดกบาลฉัน
ตายแล้ว โหดร้าย รับไม่ได้
“เออ เดี๋ยวแต่งให้ ไปเอาเครื่องสำอางก่อน ขอความช่วยเหลือคนอื่นก็หัดพูดดีๆ มั่งเถอะ” ฉันตัดบทอย่างรำคาญก่อนจะลุกขึ้น คนตัวสูงยิ้มหน่อยยิ้มใหญ่ทำหน้าตาน่าเอ็นดูก่อนจะบอกฉันว่า
“เอาไว้ถ้าผมจะดีลผู้ชายหล่อๆ มาเป็นผัวเจ๊ให้นะจ๊ะ ผมเรียกแกร๊บเดลิเวอรี่ให้ถึงบ้านเลยนะ”
“ถ้าแกส่งมาแล้วหล่อไม่พอ ซิกแพ็คไม่เริ่ด ฉันให้เป็นขี้ข้านะ” ฉันหมุนตัวไปตอบพร้อมกับร่ายสเป็คอันสูงส่งให้มันฟัง ผู้ชายแบบที่ฉันชอบอิมพอร์ตจากสวรรค์และพระเจ้าประทานใบหน้ามาทั้งนั้น
“ตัวเองสวยมากมั้งเนี่ย”
“ฉันแฝดแกไง”
“ตอนผมมองหน้าเจ๊ครั้งแรก ผมเกือบเข้าใจผิดว่าเราเป็นเทวดานางฟ้า” มันเฉไฉอย่างลื่นไหลจนฉันส่ายหัวเพลียกับน้องชายฝาแฝด ก่อนจะรีบๆ แต่งหน้าให้มัน เพื่อให้มันออกจากบ้านไปสักที หลังฉันแต่งหน้าให้มันเสร็จไม่นานนัก เพื่อนชายของธนูก็ขับรถมารับถึงหน้าบ้าน ฉันยืนส่งแค่หน้าประตูก่อนจะหมุนตัวกลับไปทิ้งน้ำหนักลงที่โซฟาเพื่อที่จะเปิดดูซีรีส์ของฉันต่อหากแต่...
กริ๊ง
เสียงกดกริ่งก็ดังขึ้น... เมื่อคนกดกริ่งเห็นฉันไม่ตอบรับในทันทีก็เริ่มกดรัวๆ เป็นจังหวะฮาร์ดร็อค
กริ๊งๆๆๆๆๆๆ
กริ๊งๆๆๆๆๆๆ
โว้ย อะไรอีกละวะ ไอ้ธนูมันลืมของหรือไง หรือเป็นเด็กผีบ้านไหนมากดกริ่งกวนประสาทฉันเล่น ฉันฟึดฟัดอย่างอารมณ์เสียตอนที่คนปริศนานั่นกดกริ่งไม่เลิก ฉันอยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมจะต้อนรับใครทั้งนั้น เสื้อยืดเน่าๆ กางเกงขาสั้น พร้อมลากอีแตะ ผมไม่ค่อยจะเป็นทรงเพราะฉันตั้งใจว่าวันนี้จะใช้เวลาที่ว่างทั้งวันอยู่บ้านดูหนัง ไม่เข้าร่วมเทศกาลใดใดทั้งนั้นหากแต่พอฉันเดินออกไปกะจะชี้หน้าด่าไอ้คนไร้มารยาทก็ชะงักไปเล็กน้อยเมื่อท่าทางของคนๆ นั้นไม่ใช่ธนูน้องชายฉัน และก็ดูสูงชะลูดเกินกว่าจะเป็นเด็กผีที่เป็นลูกของป้าแถวนี้...
“มาส่งของ” เขาลงมาจากบิ๊กไบค์สีดำสนิท ที่ดูราคาไม่น่าจะถูก แถมยังพูดจาห้วนๆ ไม่น่าฟังอีกต่างหาก
เออ... มาส่งของต้องกดกริ่งรัวขนาดนี้หรือไง
“ถ้าจะมาส่งของกดกริ่งครั้งสองครั้งก็ได้มั้งคะ กดรัวขนาดนี้มันไม่มีมารยาทนะคะ” ฉันบ่นอุบทันทีที่เขาว่า ก่อนจะสังเกตว่าเขาไม่ได้สวมชุดไปรษณีย์หรือสวมชุดเดลิเวอรี่ของแบรนด์ส่งของแบรนด์ไหนเลย แต่เป็นชุดสีดำยาวถึงข้อเท้ายังกับชุดคอสเพลย์ในงานฮัลโลวีน
“ข้ายังไม่ชินกับวัฒนธรรมมนุษย์”
ฉันมองบนกับคำพูดแปลกๆ นั่น
อะ... ไม่ชินกับวัฒนธรรมมนุษย์ไปอีก นี่พนักงานส่งของในวันฮาโลวีนก็ต้องมีตีมเทศกาลกับเขาด้วยหรือไง นี่แต่งหน้าผีมาด้วยรึเปล่าเนี่ย
ฉันถอนหายใจเหนื่อยหน่ายแล้วพยายามมองหน้าที่อยู่ภายใต้หมวกกันน็อคนั่น เขาหยิบกล่องแปลกๆ ขึ้นมาก่อนจะเอ่ยถามฉันว่า
“เจ้าชื่อศาสตราวุทธสินะ”
รู้ชื่อฉันด้วย แถมยังไม่เลิกเล่นบทฮัลโลวีนอีก
“คงจะเหนื่อยน่าดูเลยนะคะ สองทุ่มแล้วยังต้องวิ่งส่งของอีก... แถมต้องทำตัวให้เข้ากับตีมฮัลโลวีนด้วย” ฉันมองเขาอย่างสงสารก่อนจะพยักหน้ารับ “ใช่ค่ะ ถึงชื่อจะเหมือนผู้ชายไปหน่อย แต่นั่นชื่อฉันเอง พอดีพ่ออยากได้ลูกชายน่ะ”
“สิ่งใดที่เจ้าอยากได้ จงเอ่ยความปรารถนาของเจ้ามา เงินทอง ชื่อเสียง หรือเกียรติยศ"
ยัง... ยังจะสวมบทบาทอยู่อีก
“อะไรคะ? ถ้ามาส่งของก็ส่งมาเถอะ ฉันยังต้องดูซีรีส์ต่อ” ฉันตัดบทเพราะเหนื่อยจะเล่นบทบาทแปลกๆ กับเขาเต็มทน ฉันควรจะไปตั้งกระทู้ในพันทิปไหมว่าควรเพิ่มค่าแรงให้กับพนักงานที่ต้องทำงานในวันเทศกาลแถมยังต้องสวมบทบาทให้เข้ากับวันฮัลโลวีน... ดีนะ ที่วันนี้เขาไม่ได้แต่งตัวเป็นผีกระหัง หรือหน้าเละมาเพื่อสวมบทบาท ไม่งั้นฉันคงได้กระโดดถีบก่อน
“อ้อ ข้าคงลืมบอกเรื่องสำคัญกับเจ้าไป เจ้าสั่งสร้อยเรียกซาตานใช่หรือไม่”
“...ฉันเพิ่งสั่งไปไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว” ฉันเงียบไป “มาส่งไวขนาดนี้เลยเหรอ?”
นี่โกดังอยู่ข้างบ้านฉันรึเปล่าเนี่ย ปกติอย่างน้อยก็วันนึงถึงจะมาส่งไม่ใช่เหรอ? หรือเจ้าของร้านที่ชื่อพระเจ้าอะไรนั่นจะมีแมสเสจเจอร์ส่วนตัวและต้องการเซอร์ไพรส์ลูกค้าเพื่อให้เข้ากับวันฮัลโลวีน
“ใช่ ในเมื่อเจ้ารู้แล้วก็รีบๆ ขอพรซะความปรารถนาของเจ้าคืออะไร เงินทอง ชื่อเสียง หรือเกียรติยศ ข้าบันดาลให้เจ้าได้หมด"
“....” ฉันเงียบแล้วย่นคิ้วก่อนจะหันซ้ายหันขวามองหากล้องที่น่าจะแอบถ่ายพวกเราเอาไว้ เล่นใหญ่ขนาดนี้น่าจะเป็นแคมเปญขายของร้านเพื่อให้ผู้คนจดจำ
ไหน กล้องอยู่ไหน... ถ่ายฉันหน้าสวยรึเปล่า ถ้าหน้าบานฉันไม่ยอมให้เอาไปใช้โปรโมทหรอกนะ ช่วยเคารพหน้าตาที่ผ่านเหม่ยตูบีบจนบ้านเบี้ยวในไอจีฉันด้วย
“ถ้าคุณบอกว่าเป็นสร้อยเรียกซาตาน แล้วซาตานอยู่ไหน ฉันต้องใช้สร้อยยังไง เอามาถูๆ กับมือแล้วเรียกออกมาเหรอ?” ฉันหัวเราะความไร้สาระของคนตรงหน้า แต่ก็นับถือความพยายามของเขาอยู่เหมือนกัน
“ซาตานที่เจ้าพูดถึงก็คือข้านี่แหละ”
อะ รับบทซาตานแล้วหนึ่ง
” ร้อนชะมัด ไอ้พระเจ้าเฮงซวย”
อะ รับบทซาตานผู้เกลียดพระเจ้าอีกหนึ่ง... ยกมงนักแสดงดีเด่นสวมหัวเขาเลย
คนตัวสูงบ่นอุบอิบก่อนจะถอดหมวกกันน็อคออกแล้วสะบัดผมสีดำสนิท ฉันก็คิดไว้อยู่แล้วว่าผู้ชายตรงหน้าอาจจะหล่อเพราะส่วนสูงและทรวดทรงเขาดูหุ่นดีและแซ่บทะลุชุดออกมาแล้ว แถมนี่ยังเป็นการถ่ายโปรโมทร้านดังนั้นพวกเขาน่าจะใช้พรีเซนเตอร์ที่หน้าตาดี... แต่คนๆ นี้ดูดีเกินกว่าที่ฉันคาดคิดแถมยังมีเสน่ห์ประหลาดๆ ที่เข้าไม่ถึง จะใช้คำว่าอะไรดี หล่อลอยอะ แบบหล่อเหมือนไม่มีอยู่จริง
ริมฝีปากชมพูระเรื่อ ใบหน้าและผิวขาวราวกับเป็นพรีเซนเตอร์หลอดไฟทำให้สะดุดตา คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันก่อนจะช้อนสายตาคมๆ มองมาทางฉัน
“ว่าไง เจ้าต้องการอะไร แต่ก่อนจะขออะไรข้า เจ้าจงจำไว้ว่ายิ่งสิ่งที่เจ้าปรารถนายากเท่าไหร่ สิ่งที่ต้องแลกเปลี่ยนก็ยิ่งราคาสูงมากเท่านั้น”
เอาว่ะ... เขายังคงสมบทบาทไม่หยุด เขาต้องเป็นดาราสังกัดค่ายไหนสักค่ายแน่ๆ และถ้านี่เป็นการถ่ายทำรายการ แล้วฉันขอแก้วแหวนเงินทองมันก็ดูจะธรรมดาไป ในเมื่อเจ้าของร้านอยากจะได้คอนเท้นต์ ฉันจะเป็นคนสร้างสรรค์คอนเท้นต์ของเขาให้มีอะไรมากขึ้นเอง
“อะไรก็ได้เหรอ?” ฉันสางผมให้ดูดีที่สุด พลางยิ้มกรุ้มกริ่มมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วพาดแขนตรงรั้ว เอนตัวแอ่นอก ขยิบตาแล้วตอบกลับไปเล่นๆ “อยากได้ผัวอะ”
“ง่ายมาก” เขาตอบรับก่อนจะชะงักไป
“แต่ฉันอยากได้ผัวเป็นซาตานนะ”