“ไอ้เชี่ยเตอร์”
“อืม มีไร”
“เมื่อคืนมึงทำอะไรน้องลลิน”
“ทำอะไร? ทำไมวะมึงไปรู้อะไรมาล่ะ”
“มึงอย่ามาทำหน้านิ่งมึงพูดมาเมื่อคืนมึงทำอะไรลลิน”
“ก็...สวดมนต์มั้งไอ้ห่า” ผมเงยหน้าจากหนังสือที่อ่านไปตอบมันแล้วก็หันกลับมาสนใจหนังสือตรงหน้าต่อ
“สัส! มึงแม่งทำได้ยังไงวะ ไม่สงสารเด็กคนนั้นเหรอ”
“ก็ทำไปแล้วมึงจะให้กูทำไงวะ?”
“ไอ้ชัตเตอร์!”
“ใจเย็นสิวะไอ้มิกซ์มึงหัวร้อนแล้วได้อะไรขึ้นมา มึงมีไทม์แมชชีนไหมล่ะถ้ามีกูจะย้อนเวลากลับไปให้เพราะเด็กคนนั้นไม่ได้ทำกูฟินเท่าไหร่”
“ไอ้เตอร์! มึงได้น้องเขาแล้วมึงพูดหมาๆ แบบนี้เหรอวะ!” ไอ้มิกซ์กระชากคอเสื้อผมขึ้นมาแล้วก็ง้างหมัดเตรียมจะต่อย ส่วนผมก็ยิ้มมุมปากให้มันโดยที่ไม่ได้คิดจะหลบหมัดของมันสักนิด
“ กูพูดเรื่องจริง ก็ได้ไปแล้วมันย้อนเวลากลับไปไม่ได้มึงจะโวยวายทำไมวะ กูป้องกันน่าไม่ต้องห่วง ปล่อยกูเดี๋ยวเสื้อกูยับ” ผมยิ้มให้มันแล้วก็เอามือตีข้อมือมันเบาๆ ให้มันปล่อยผม
“สัส!” มันยอมปล่อยมือออกจากคอเสื้อของผม ผมก็เลยนั่งลงที่เดิมพร้อมกับเงยหน้ามองมันที่ยืนค้ำหัวผมอยู่
“มึงแม่งหัวร้อนจังวะ”
“ลลินไม่ไช่ผู้หญิงประเภทที่มึงจะฟันแล้วทิ้งหรือว่าสนุกชั่วครั้งชั่วคราว”
“อ่าส์ เพื่อนรักกูจะบอกอะไรมึงให้” ผมส่ายหน้าให้เพื่อนรักตรงหน้าช้าๆ ด้วยความรู้สึกนับถือในความเป็นสุภาพบุรุษของมัน
“มึงจะกวนตีนเหี้ยไรอีกไอ้เตอร์” ขนาดผมยิ้มให้มัน แถมยิ้มแล้วยิ้มอีกมันยังไม่หยุดหัวร้อนผมก็เลยลุกขึ้นประจันหน้ามัน
“กูแค่จะบอกว่า เด็กปีหนึ่งสมัยนี้เขาไม่ได้เฟรชชี่ใสๆ กันแล้วนะครับ หึๆๆ” ผมบอกมันเสร็จก็ตบบ่าให้กำลังใจความใสของเพื่อนรักแล้วก็เดินเลี่ยงมาเก็บหนังสือที่เพิ่งอ่านเสร็จ
“มึงพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงวะ!” มันตามมาหาเรื่องผมอีกครั้ง เฮ้อ! ไอ้เหี้ยนี่ไม่เข้าใจที่ผมพูดจริงๆ เหรอ
“เอาเป็นว่าน้องลลินคนใสของมึงไม่ได้ใสหรอก แถมเมื่อคืนทุ่นแรงกูได้ตั้งเยอะเพราะรอบที่ 2 3 4 แล้วก็ 5 น้องเขาแม่งแทบจะขย่มเองตั้งแต่ต้นเกม”
“...” มันอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน เพราะปกติเรื่องบนเตียงผมไม่เคยเอาผู้หญิงมาพูดเกินจริงหรือใส่ร้ายแค่สนุกปากหรอก ปกติผมไม่พูดด้วยซ้ำแต่สำหรับเด็กคนนี้ในเมื่อมันอยากรู้ผมก็จะบอกให้มันตาสว่างสักที
“จริงๆ น้องเขาก็ลีลาดีนะมึง แต่น่าจะรีแพร์หน่อย มึงก็รู้ว่าลูกชายกูไซต์ใหญ่ขนาดไหนกูยังรู้สึกหลวมนิดๆ เลยว่ะ”
“ไอ้สัส! น้องเขาจะเป็นยังไงมึงได้เขาแล้วก็ไม่ควรมาพูดถึงในทางไม่ดีไหมวะ!” ไอ้มิกซ์ก็ยังเป็นไอ้มิกซ์ โคตรพ่อโคตรแม่สุภาพบุรุษ
“เห็นมึงหัวร้อนเป็นผู้พิทักษ์ขนาดนี้ กูก็ไม่อยากให้มึงเสียเวลามาปกป้องนี่หว่า เพราะน้องเขาก็ฟรีๆ” ผมยักไหล่ไม่ใส่ใจ
“ไอ้เหี้ยเตอร์!”
ผลั๊วะ!
มันซัดหมัดเข้าที่ปากผมจนผมเซ ผมจับปากแล้วก็เอาลิ้นดุนกระพุ้งแก้มช้าๆ ก็ได้กลิ่นคาวเลือดขึ้นมา ท่าทางมันจะใส่ความโมโหทั้งหมดมาในหมัดเดียว
“อ่าส์! อย่าให้เรื่องของผู้หญิงแอ๊บใสทำให้กับมึงทะเลาะกันไอ้มิกซ์ มึงจะชอบเด็กคนนั้นก็ชอบไปเรื่องของมึง มึงห้ามกูไม่ให้ไปเอากับเขาได้ แต่มึงห้ามเขาไม่ให้ไปเอากับใครต่อใครไม่ได้หรอกจำไว้” ผมบอกมันเท่านั้นแล้วก็เดินออกมาจากห้องสโมสรทันที
เจ็บปากสัส! ลลินคือรุ่นน้องปี 1 ที่เป็นขวัญใจของใครต่อใครในคณะ เด็กเรียบร้อยอ่อนหวานที่รุ่นพี่เกินครึ่งรักแล้วก็เอ็นดู แต่น้องกลับอยากดูเอ็นรุ่นพี่มากกว่า หึๆ แอ๊บใสฉิบหาย แอ๊บและอ่อยไปพร้อมกัน ไอ้มิกซ์มันชอบผู้หญิงคนนั้นตั้งแต่วันรับน้องผมดูออก แถมสองคนนั้นก็ชอบแอบไปเจอกันลับๆ แถมไอ้ห่ามิกซ์ก็เผลอเปย์ไปเยอะแบบไม่รู้ตัวซะด้วยสิ
ทีแรกผมจะไม่ยุ่งกับผู้หญิงที่เพื่อนชอบหรอกครับแต่น้องแม่งมายั่วผมที่ร้านเหล้าเมื่อคืน ตอนจะทำผมก็ลังเลรู้สึกผิดกับไอ้มิกซ์เหมือนกัน เพราะความเมาทำให้ผมขาดสติแต่มาดึงสติได้ตอนจะใส่เข้าไป ผมกำลังจะหยุดแล้วแท้ๆ แต่ไอ้คำว่า ผัวขา ที่ลลินเรียกผมมันทำให้ผมเลิกรู้สึกผิด เด็กคนนี้ไม่ธรรมดาแล้วพอได้เข้าไปในตัวก็รู้ว่าโคตรไม่ธรรมดาเลยว่ะ
ตื๊ดดดด ตื๊ดดด
...ลลิน
หึ! ผมไม่รู้ว่าติดใจลีลาผมหรืออะไรถึงได้รีบโทรมาทั้งที่บอกผมตอนเช้าว่าลุกไม่ไหว แค่นึกถึงก็โทรมาทันที
“ครับ”
“พี่เตอร์อยู่ที่ไหนคะ วันนี้มาหาลินที่ห้องรึเปล่า” พอได้กันน้ำเสียงลลินก็เปลี่ยนทันที จากเมื่อก่อนไม่ว่าจะคุยกับใครก็ตามผมจะได้ยินแต่น้ำเสียงใสๆ น่ารัก แต่วันนี้เสียงโคตรเซ็กซี่เลยว่ะ
“วันนี้เหรอพี่ไม่ว่างน่ะวันหลังนะ” ผมเป็นประเภทกินซ้ำครับถ้าลีลาเด็ด ซึ่งลลินก็จัดว่าเด็ดพอตัว แต่ผมไม่กินของเดิมซ้ำวันต่อวัน ขอเว้นระยะหน่อยเดี๋ยวเบื่อง่าย ส่วนเรื่องจะผิดใจกับไอ้มิกซ์ไหม ผมว่าไม่หรอกไอ้นั่นมันก็ไม่ใช่เต่าในกะลา มันรักแต่มันไม่ใช่ควายพอมันรู้เรื่องลลินกับผมเดี๋ยวมันก็ตามไปสืบต่อหาความจริงให้มันตาสว่างเอง
“แต่ว่าลินคิดถึงพี่เตอร์นี่คะ”
“ไม่งอแง ถ้าว่างเดี๋ยวพี่เข้าไปหาเอง” ผมไม่ชอบผู้หญิงงอแงและถ้าคนไหนมางี่เง่างอแงใส่ผมก็พร้อมจะตัดออกไปจากชีวิตทันที
“ก็ได้ค่ะ ถ้างั้นว่างแล้วรีบมาหาลินนะคะ เดี๋ยวลินจัดชุดใหญ่ให้” ลลินยอมเชื่อฟังโดยดี แต่ก็แอบยั่วผมตอนท้าย
“ครับ พี่ขับรถก่อนนะ”
“ค่ะ บายค่ะที่รัก” ผมไม่พูดอะไรต่อนอกจากกดวางสายแล้วโยนโทรศัพท์ลงที่เบาะข้างๆ วันนี้ผมมีนัดแล้วต่อให้ไม่ใช่ลลินผมก็ปฏิเสธอยู่ดี
ตื๊ดดดด ตื๊ดดด
“เออว่าไง”
“เฮียมาไหมเนี่ยคืนนี้”
“อืมเดี๋ยวกูเข้าไปค่ำๆ”
“ห้ามเบี้ยวนะเฮีย ไม่ใช่ไปฟันสาวจนปวดเอวแล้วเดินไม่ไหวนะเว้ย!”
“มึงคนเดียวที่เอาผู้หญิงแล้วปวดเอวไอ้เปอร์”
“ฮ่าๆๆ หัวร้อนเหรอเฮีย เออๆ อย่าเบี้ยวนะเว้ยไม่งั้นกูฟ้องแม่มึงแน่ว่ามึงฟันผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าจนจะเป็นเอดส์ตายแล้ว”
“สัส! แค่นี้แหละไอ้น้องเวรกูมีนัดกับเอม”
“อู้วววว นัดไปทำอะไรนะเฮียกินข้าวเย็นเหรอ”
“หึๆๆ ไม่เสือกแค่นี้แหละ”
“เออๆ รีบมานะเฮียถ้าเบี้ยวกูประจานมึงแน่”
“เออ แค่นี้แหละ” ผมรับปากปลายสายด้วยความรู้สึกรำคานนิดๆ ไอ้นั่นที่เพิ่งวางสายไปมันชื่อคูเปอร์ครับ เป็นน้องผมเอง พ่อแม่เดียวกันนี่แหละ เกิดมาเพื่อล้างผลาญและแย่งสมบัติผมไปวันๆ เท่านั้น แต่ผมก็ยังรักไอ้น้องเวรนี่อยู่ดี
ส่วนเอมที่พูดถึงคือคนที่ผมมีนัดเย็นนี้ เอมไม่ใช่แฟน ไม่ใช่คนรัก ไม่ใช่คู่ขาของผม เธอเป็นแค่เพื่อนสนิทของผมตั้งแต่สมัยมัธยมที่ผม...แอบรักมานาน