ตอนที่ 9

1162 คำ
“ท่านอารมณ์ไม่ค่อยดีเลยค่ะคุณแม็ต” ด้วยความเป็นห่วงทำให้ป้าเกรซอดที่จะโทรรายงานความเคลื่อนไหวของโอลิเวอร์ให้กับหลานชายอย่างเมเตโอฟังไม่ได้ “ทำไมล่ะครับ หรือว่ามีใครขัดใจท่าน” “คุณแม็ตไงคะที่ขัดใจท่านน่ะ” “ผม...?” “ใช่ค่ะ คุณท่านบ่นว่าตัวเองแก่มากแล้ว อยากจะอุ้มเหลนสักครั้งแต่ก็ไม่มีหวังแล้ว เพราะคุณแม็ตไม่ยอมมีเมียเป็นตัวเป็นตนสักที” หนุ่มหล่อปลายสายถอนใจยาวๆ อย่างอึดอัด “ป้าเกรซก็รู้นี่ครับว่าผมไม่ชอบการถูกกักขัง” “ป้าทราบและเข้าใจคุณแม็ตค่ะ แต่คุณท่านไม่ทราบและก็คงไม่มีวันเข้าใจด้วยค่ะ ท่านยังคงเศร้าสร้อยเหมือนทุกวัน ไม่สิคะ เศร้ากว่าทุกวันที่ผ่านมาอีก” เมเตโอหนักใจยิ่งนัก “แล้วคุณปู่กินยาครบหรือเปล่าครับวันนี้” “ยาครบค่ะ แต่อาหารกินไปนิดเดียวเองก็ไม่ยอมกินต่อแล้ว ป้าเป็นห่วงจริงๆ เลยค่ะ” ไม่ใช่แค่ป้าเกรซหรอกที่เป็นห่วงโอลิเวอร์ เขาเองก็เป็นห่วงมากเช่นกัน “แล้วผมควรทำยังไงดีล่ะครับ” “ก็รีบแต่งงานสิคะ นี่แหละคือทางออกที่ดีที่สุด” “มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกครับป้าเกรซ ผมจะไปหาผู้หญิงที่ไหนมาแต่งงานด้วยล่ะครับ” “ป้าเห็นคุณแม็ตมีผู้หญิงอยู่รอบเอว ทำไมไม่เลือกมาสักคนล่ะคะ” เมเตโอยิ้มหยันน้อยๆ “ผมไม่คิดจะเอาคู่นอนมาเป็นแม่ของลูกตัวเองหรอกครับ” “แล้วคุณแม็ตจะทำยังไงละคะ” เสียงถอนใจของเมเตโอดังขึ้น ก่อนที่น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเคร่งเครียดจะดังกังวาน “ผมคงต้องไปอธิบายกับคุณปู่อีกรอบ ว่าเพราะอะไรผมถึงยังไม่ยอมแต่งงาน” “คุณท่านคงฟังหรอกค่ะ” ป้าเกรซแย้งขึ้นอย่างรู้ทัน “ผมจะพยายามอีกครั้งครับ เพราะนี่มันคือทางออกที่ดีที่สุด ยังไงป้าเกรซช่วยเรียนคุณปู่ให้ด้วยนะครับว่าวันนี้ผมจะกลับบ้านเร็ว และมีเรื่องจะคุยกับท่านด้วย” “ได้ค่ะ ป้าจะเรียนคุณท่านให้นะคะ” “ขอบคุณครับ” เมเตโอกดตัดสายสนทนาของป้าเกรซ จากนั้นก็เอนกายพิงกับพนักเก้าอี้ตัวใหญ่สีดำอย่างอ่อนใจ เขาจะพูดยังไงดีนะ เพื่อที่จะทำให้คุณปู่เข้าใจ “คุณจูเลียเข้ามาพบผมหน่อย” หลังจากเสียงทรงอำนาจจบลง ประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดออกทันที เลขาสาวก้าวเข้ามายืนก้มศีรษะรอรับคำสั่งอยู่เบื้องหน้า “คุณแม็ตมีอะไรให้ดิฉันรับใช้คะ” “ผมต้องการข้อมูลของผู้หญิงอายุไม่เกินสามสิบปีที่เกิดในตระกูลชนชั้นสูงของลุยเซียนาทั้งหมด” “เอ่อ...” จูเลียเบิกตาประหลาดใจ “ผมให้เวลาคุณยี่สิบชั่วโมงพอหรือเปล่าครับ” “พอ... พอค่ะ” เมเตโอพยักหน้าน้อยๆ “โอเค งั้นคุณก็ไปได้แล้ว” “ค่ะ คุณแม็ต” จูเลียก้มหน้ารับคำสั่งก่อนจะรีบเดินออกไป แต่ยังไม่ทันพ้นประตูห้องทำงาน เมเตโอก็รีบเอาไว้เสียก่อน “เดี๋ยวก่อนครับ” “มีอะไรหรือคะคุณแม็ต” จูเลียหมุนตัวกลับมา และรีบเดินมาหยุดตรงหน้าเจ้านายหนุ่มอีกครั้ง “อายุต้องไม่ต่ำกว่ายี่สิบห้าปี” “อ้อ... เข้าใจแล้วค่ะ” คราวนี้ไม่มีเสียงเรียกจากเมเตโอตามหลังมาอีกแล้ว จูเลียจึงเดินกลับมาถึงทำงานในเวลาต่อมา “ทำไมทำหน้าตาแบบนี้ล่ะพี่จูเลีย” เคธี่ผู้ช่วยของหล่อนสอบถามขึ้นด้วยความสงสัย “คุณแม็ตแปลกๆ น่ะ” “แปลกยังไงเหรอคะ” จูเลียปรายตามองเข้าไปที่ประตูห้องทำงานของเจ้านาย ก่อนจะกระซิบกระซาบเบาๆ กับคู่สนทนา “ตั้งแต่พี่ทำงานกับคุณแม็ตมา วันนี้คือวันแรกที่คุณแม็ตให้พี่หารายชื่อผู้หญิงโสดในลุยเซียนา” “ห๊า!” “ไม่ต้องมาร้องห๊า... เลยแถมยังบอกช่วงอายุที่ต้องการมาอีกด้วยนะ พี่ว่าคุณแม็ตต้องกินยาผิดขวดมาแน่เลย” “แต่ฉันว่า... คุณแม็ตน่าจะเตรียมตัวมีครอบครัวมากกว่านะพี่จูเลีย” จูเลียเบิกตากว้างชั่วขณะ ก่อนจะส่ายหน้าคัดค้านในเวลาต่อมา “ไม่จริงหรอก คุณแม็ตเกลียดการผูกมัดจะตายไป จ้างให้ก็ไม่มีทางยอมแต่งงานหรอก” “แล้วคุณแม็ตให้หารายชื่อผู้หญิงทำไมล่ะพี่จูเลีย” “นั่นแหละสิ่งที่ฉันไม่เข้าใจ” สองสาวทำหน้ายุ่ง คิ้วขมวดด้วยความไม่เข้าใจเหมือนกัน ความร้อนจากแสงแดดในยามบ่ายค่อยๆ จางลงไปเมื่อดวงอาทิตย์หมุนห่างออกไปเรื่อยๆ โอลิเวอร์ถอนใจอย่างเหนื่อยล้า ดวงตาฝ้าฟางเพราะความชรามองขึ้นไปบนแผ่นฟ้ากว้าง “อลัน... แวนด้า... เมื่อไหร่ลูกชายของพวกเธอจะยอมใจอ่อนมีเมียสักที ฉันทนรอแทบไม่ไหวอยู่แล้ว” ชายชราเอ่ยชื่อบุตรชายและลูกสะใภ้ที่ชิงตัดหน้าลาโลกใบนี้ไปก่อนด้วยความสะเทือนใจ “หรือว่าความหวังสุดท้ายของคนแก่อย่างฉันจะไม่มีวันเป็นจริงกันนะ” ความหดหู่ทำให้หยาดน้ำตาของโอลิเวอร์ไหลซึมออกมาคลอเบ้า เขาพยายามหว่านล้อมเมเตโอตั้งแต่หลานชายอายุยี่สิบห้าว่าให้รีบมีเมีย จนตอนนี้ล่วงเลยมาสิบกว่าปีแล้ว เจ้าหลานชายตัวดีก็ยังไม่ยอมทำให้เขาสมใจสักที จนเขาเริ่มจะหมดหวังลงแล้ว “คุณท่านคะ ง่วงนอนหรือยังคะ” เสียงของป้าเกรซดังอยู่ด้านหลัง “ยังหรอก ฉันชอบนั่งอยู่ตรงนี้มากกว่านอนแหงะอยู่บนเตียง” โอลิเวอร์รีบกะพริบตาไล่ความเสียใจให้จางหายไปอย่างรวดเร็ว “หล่อนมีอะไรก็ไปทำเถอะ ไม่ต้องห่วงฉัน” ป้าเกรซไม่อาจขัดคำสั่งได้ ก้มหน้าจะเดินจากไป แต่ก็เหมือนนึกอะไรได้ “คุณท่านคะ คุณแม็ตบอกว่าวันนี้จะรีบกลับมานะคะ เธอมีอะไรอยากจะคุยกับคุณท่านด้วยค่ะ” “หล่อนโทรไปรายงานอีกแล้วล่ะสิ” โอลิเวอร์ครางอย่างเบื่อหน่าย “คือว่า...” “จะไปทำอะไรก็ไปเถอะ และไม่ต้องโผล่หน้าเข้ามาอีกแล้วนะ ฉันอยากอยู่คนเดียว” ป้าเกรซไม่มีทางเลือกจึงจำต้องล่าถอยออกไปเงียบๆ โอลิเวอร์ถอนใจแรงๆ ทอดสายตามองออกไปนอกระเบียงอีกครั้ง แต่คราวนี้สายตาฝ้าฟางของเขามองเห็นร่างเล็กของใครบางอย่างกระโดดออกมาจากพุ่มไม้ที่อยู่ริมรั้ว “ใครน่ะ” ชายชราพึมพำสงสัย ยกมือขยี้ตา แต่พอมองอีกครั้งก็ไม่เห็นอะไรแล้ว “คงตาฝาดไปเองอีกแล้ว” โอลิเวอร์บ่นอย่างเศร้าหมอง รู้สึกหดหู่กับความผิดหวังเหลือเกิน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม