4

1209 คำ
เขมขิมเบ้ปาก มือเรียวคว้าเอกสารที่ถาดออกมาแล้วกำลังเดินหนี แต่ถูกอลินที่ไม่ยอมให้เธอไป รีบกระชากแขนเอาไว้ “รีบไปไหนคะ ไปกินข้าวด้วยกันไหม แคนทีนในบริษัทไม่เห็นมีอะไรน่ากิน เดี๋ยวเราสองคนจะไปหาร้านอร่อยๆ บรรยากาศดีๆ กินกลางวันกัน แล้วค่อยกลับเข้าบริษัท...” เขมขิมสะบัดมืออีกฝ่ายออก “ไม่หรอกค่ะ เชิญน้องอลินเถอะ พี่เห็นเมื่อเช้าที่แคนทีนมีกับข้าวน่ากิน ขอตัวนะคะ” “ยี้ แคนทีน มีอะไรน่ากิน กับข้าวซ้ำๆ” เขมขิมที่เดินผ่านมาได้สามก้าวถอนใจแล้วกลอกตามองบน ก่อนจะหันกลับไปยิ้มหวานให้อลิน “แกงกะหรี่ ผัดสะตอ วันนี้น่ากิน กินไหมคะ เดี๋ยวพี่ซื้อมาฝาก” อลินหน้าแดงด้วยความโกรธ ทำไมจะไม่รู้ว่าถูกเขมขิมจิกกัด “มากไปแล้วนะ คอยดูเถอะ” อลินชี้นิ้วไปที่เขมขิม คิดว่าอีกฝ่ายจะต้องเสียใจร้องไห้ที่เห็นเธอควงอัตมัน แต่ทำไมเขมขิมดูชิลล์จนเธอเองเสียอีกที่ร้อนใจ “ตกลงจะกินไหมคะ แกงกะหรี่กับผัดสะตอจะได้ซื้อใส่กล่องมาให้” “ฉันจะฟ้องพ่อ คอยดูเถอะ ระวังคะแนนประเมินปลายปีให้ดีแล้วกัน” อลินวางแผนร้ายในใจ หมั่นไส้เขมขิมที่สวยน่ารักกว่าตัวเอง แต่ถึงกระนั้น ตนเองก็ทำให้แฟนหนุ่มของเขมขินเปลี่ยนใจมาเป็นของตนได้แล้ว คอยดูนะกลับบ้านไปจะยุให้บิดากดคะแนนประเมินปลายปีของเขมขิมให้มากๆ ตำแหน่งไม่ได้เลื่อน เงินเดือนไม่ขึ้น คอยดูบ้างซิ จะชูหน้าอยู่ในบริษัทได้อีกไหม เขมขิมยิ้มกว้าง ดวงตาสุกใสเหมือนแก้วเจียระไน เขยิบเข้าไปใกล้ชายหนุ่มหญิงสาวคู่นั้น “เสียใจด้วยนะคะ พี่คงไม่รออยู่จนรอประเมินผลปลายปีแล้วค่ะ บังเอิญมีที่ที่เขาเห็นความสามารถเรียกตัวไปสัมภาษณ์ และบังเอิญว่าได้งานแล้วด้วย และบังเอิ๊ญ บังเอิญ เงินเดือนมากกว่าที่นี่สองเท่า” เขมขิมพูดจบก็ยิ้มสวยๆ แล้วเดินสะบัดบ๊อบจากไปอย่างอารมณ์ดี อลินอ้าปากค้าง มองเขมขิมอย่างโกรธจัด อัตมันได้ยินว่าเขมขิมจะไปทำงานที่อื่น ความรู้สึกแรกของเขาคือ เสียดายและเสียใจ เขมขิมเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยน ใจดี เป็นผู้หญิงที่ถูกใจเขาที่สุด เขาเพิ่งรู้ตอนนี้เองว่าเขมขิม อ่อนโยน แต่ไม่อ่อนแอ ไม่เหมือนกับคนข้างๆ ที่ตอนนี้ความน่ารักลดน้อยถอยลงไปมาก ไม่รู้อะไรที่ทำให้เขาตาบอดโยนเพชรทิ้งเพราะคิดว่าเจอเม็ดที่ใหญ่กว่า ราคาแพงกว่า แต่พอได้หยิบจับอย่างถนัดมือ ยิ่งส่องเข้าไปลึกๆ ก็พบว่าเขาอาจคว้ากรวดเม็ดใหญ่ไม่ใช่เพชรเม็ดงาม เขาชักเสียดายและหวงก้างขึ้นมาแล้ว ท่ามกลางแสงแดดร้อนแรง พนาเดินออกจากบ้านหลังใหญ่ราวกับคฤหาสน์หลังโตที่ผุดขึ้นมาในไร่ส้ม หลังคาสีแดงจึงตัดกับสีเขียวและสีส้มซึ่งเป็นสีหลักภายในไร่ ตัวคฤหาสน์ปลูกแยกออกมาเป็นสัดส่วนด้วยงบประมาณหลายสิบล้านบาทแต่กลับไม่ค่อยมีใครอยู่ น้องสาวคนสวยของเขากลับมาพักที่บ้านได้สองวันก็เข้าไปในเมืองแต่เช้า ผู้หญิงคงไม่พ้นหนีเข้าไปทำสวย มีน้องสาวคนเดียวแล้วยังไม่ชอบงานไร่ ฝ่ายนั้นชอบทำงานบริการเพราะมีความฝันอยากเป็นนางฟ้ามาตั้งแต่เด็ก แต่เขาชอบล้อเธอ บอกว่าเป็นขี้ข้าบนเครื่องบินมากกว่า พอพูดคำนั้นออกไปก็จะถูกคนเป็นน้องสาวมองด้วยหางตาถากถาง แล้วไล่ให้ไปผ่าหมาออกจากปากซะ ช่วงนี้ใกล้ปีใหม่ออร์เดอร์เข้ามามากเป็นพิเศษ ที่พักก็ถูกจองเต็มล่วงหน้า ใบหน้าเคร่งเครียดกำลังจับพวงส้มที่เริ่มแก่จัด “งานยุ่งฉิบ_ ยังมาลาหยุดพร้อมกัน มันน่า...” ชายหนุ่มเจ้าของไร่ส่ายหน้าขณะกำลังจัดการกับการคัดแยกส้มอย่างไรให้รวดเร็วทันใจลูกค้ามากกว่าเดิม เพราะส้มโชกุนที่นี่มีทั้งส่วนที่คัดเพื่อส่งขายยังต่างประเทศและในประเทศ เขาตัดสินใจสั่งเครื่องคัดแยกส้มเพิ่มอีก หลังคนงานเปรยมาแล้วว่าผลผลิตและออร์เดอร์ในปีนี้มากเกินกำลัง ลำพังแค่แรงคนคงจะทำงานยาก หลังจากตัดสินใจดีแล้ว ร่างสูงกำยำที่มีความหล่อเหลาแบบดิบเถื่อนอยู่เป็นทุน มีคำพูดลุ่นๆ เป็นสไตล์ไม่มีใครลอกเลียนแบบไปได้ แต่ถ้าเรื่องน้ำใจแล้ว พ่อเลี้ยงพนาก็ไม่เป็นสองรองใคร ใจคอกว้างขวางจนเป็นที่ยอมรับในหมู่คนงาน “วันนี้ไอ้ชาญมันไม่มาครับ พ่อเลี้ยง” พนาหันไปพยักหน้าให้กับคนงาน แล้วเหยียดริมฝีปากคลี่ยิ้มเล็กน้อย แค่นี้ก็หล่อขึ้นเป็นกอง “ไอ้ชาญโทร.มา มันบอกแล้วว่าจะพาเมียใหม่ไปหย่ากับผัวเก่า ฉันเลยอนุญาตให้มันพาเมียมันไปอำเภอ หย่ากับผัวเก่าให้เสร็จๆ ซะ วันนี้คนงานขาดหลายคน เหนื่อยกันหน่อยนะพวกเรา เดี๋ยวเย็นนี้ฉันจะเลี้ยงหมูกระทะก็แล้วกัน” เสียงของคนงานหลายสิบคนเฮดังลั่น พวกเขาเหนื่อยแต่ไม่เคยปริปากบ่นสักคำ เพราะทำงานด้วยความสุขใจ ความเงียบเข้าครอบคลุม พนากำลังคิดแผนงานจัดสรรคนงานไปคัดแยกส้มส่วนหนึ่ง ส่วนคนที่เหลือจะให้ไปเก็บส้มที่ไร่ทางซ้ายติดเชิงเขา เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นขัดจังหวะ หน้าจอสี่เหลี่ยมผืนผ้าโชว์ชื่อคนคุ้นเคย คนโทร.มาคือพ่อเลี้ยงเหมราช เพื่อนซี้ของเขาเอง แต่ช่วงนี้เขายี้ขี้หน้ามันหนักเพราะเพื่อนรักเลิกติดเหล้า ห่างหายไปไม่ค่อยมาเมาหัวทิ่มด้วยกันแล้วหันไปติดเมียแทน “ไอ้เหม มึงโทร.มาหากูทำไม จำได้ด้วยเหรอว่ามีกูเป็นเพื่อน” “มึงงอน ว่างั้น?” “กูเปล่างอน หรือมึงเบื่อจะนอนกับเมียมึงแล้วเลยคิดถึงกู” “ไอ้พนา มึงนี่กวนไม่เลิก กูบอกแล้วไง ห้ามแกล้งกูแบบนี้ เดี๋ยวใครได้ยินหาว่ากูกับมึงเป็นคู่เกย์กันอีก กูขี้เกียจแก้ข่าว” ร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสีเข้มแขนยาวพับแขนกับกางเกงยีนส์ตัวเก่าแต่ราคาเหยียบหลักหมื่นแหงนมองท้องฟ้าในวันอากาศสดชื่น แล้วระเบิดเสียงหัวเราะ “เออ งั้นมึงว่าเรื่องของมึงมา โทร.หากูทำไม” “กูมีเรื่องให้มึงช่วย” “ช่วยอะไรวะ ช่วยไปชวนมึงกินเหล้า ได้เลย กูมีบรั่นดีอยู่หลายขวด อยากจะเปิดพอดี” “เมียกูกำลังท้องอ่อนๆ กูงดเหล้ายาวจนเมียคลอด” “ไอ้คนดี” พนาแดกดันไม่จริงจังนัก “ชวนแดกเหล้าก็ไม่แดก แล้วยังหน้าด้านมาขอความช่วยเหลือ มึงจะให้กูช่วยอะไร”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม