ซูซิน ใช้ตะเกียงจุดให้สว่างพอมองเห็น เธอเปลี่ยนเสื้อผ้ามาอาบน้ำที่บ่อน้ำจะได้รีบไปหาอะไรกิน เพราะตอนนี้เธอเองก็หิวมากเช่นกัน แต่จะทำก่อนสภาพก็ไม่ไหวจริงๆ
" เสี่ยวอิง หนูถอดเสื้อออกแต่ไม่ต้องถอดกางเกงนะจ๊ะแล้วมาอาบน้ำแม่จะอาบสระผมให้ก่อน "
" จ้ะ " จวีอิง รีบถอดเสื้อออกเดินไปอาบน้ำกับแม่อย่างเชื่อฟัง
ซูซิน มองที่แผ่นหลังเด็กน้อยที่เป็นรอยแดงพาดยาวและตามแขนและขาที่มีรอยเขียวเป็นจ้ำๆ เธอใช้มือลูบเบาๆ
" เจ็บมากใช่ไหม เสี่ยวอิง แม่ขอโทษนะลูก เดี๋ยวพรุ่งนี้แม่จะซื้อยามาทาให้นะ" ซูซิน สงสารเด็กน้อยที่เกิดมาเป็นเหยื่อทางอารมณ์ของผู้ใหญ่ในยุคนี้ นี่ขนาดเธอมีพ่อที่ทำงานดียังปกป้องลูกสาวตัวเองไม่ได้เลย
" หนู ไม่เจ็บค่ะหายแล้ว"
" มาแม่จะอาบน้ำ สระผมให้"
ซูซิน อาบน้ำให้เด็กน้อยก่อน เธอสระผมถึง 3 รอบ กว่าผมของลูกสาวจะหายเหนียวและพอจะหวีได้บ้าง ยังดีที่ไม่มีเหาไม่อย่างนั้นคงจะหนักกว่านี้ ฟอกสบู่อีก 3 รอบแต่ไม่ได้ขัดตัวมากเพราะกลัวจะเจ็บตามรอยที่โดนตี เมื่ออาบเสร็จก็ใช้ผ้าเช็ดตัวห่อตัวลูกสาวตัวน้อยไว้และให้นั่งรอเธออาบน้ำก่อนค่อยไปแต่งตัวพร้อมกัน เสื้อผ้าที่ใส่เสร็จก็จับซักหลังอาบน้ำและตากไว้เรียบร้อย
จวีอิง นั่งมองแม่ที่อาบน้ำและซักเสื้อผ้าที่ใส่เสร็จทั้งของตัวเองและของเธออย่างแปลกใจ แต่ก็ดีใจที่แม่อาบน้ำให้ เธอจึงนั่งรออย่างเชื่อฟัง เธอคอยจับตามองแม่ที่ตั้งแต่ตื่นมาก็เปลี่ยนไปไว้ตลอดเวลาเพราะกลัวว่าแม่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีก แม้ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้เช้าแม่ใจดีคนนี้ยังจะอยู่หรือเปล่า หรือจะได้คนเดิมกลับมาอีกแต่ไม่เป็นไรหรอก แค่ตอนนี้เธอได้มีแม่ที่ใจดีอย่างนี้แม้จะแค่ชั่วคราวก็ดีใจมากแล้ว แม่ที่อาบน้ำสระผมให้อย่างเบามือจับตัวเธออย่างทะนุถนอม ถึงพรุ่งนี้แม่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมแต่ยังไงเธอก็ยังมีแม่เหมือนเด็กคนอื่นอยู่ พ่อบอกกับเธอว่าต่อไปแม่จะเป็นแม่เธอตลอดไป และให้เชื่อฟังแม่ แม่จะได้เอ็นดูเธอ เธอก็หวังไว้ทุกวันว่าจะมีแม่ที่คอยอาบน้ำ สระผมแต่งตัวให้ เหมือนแม่คนอื่นที่เคยได้ยินเพื่อนๆ พูดกัน ปกติเธอไม่ค่อยมีเพื่อนเพราะไม่อยากถูกใครล้อ จึงอยู่แต่ในบ้านเล่นคนเดียว เพราะถึงเธอไปเล่นกับเด็กคนอื่น พี่ชายใหญ่ก็มักจะเรียกเธอว่าลูกไม่มีแม่บ้าง ตัวซวยบ้างและคนอื่นก็พูดตามๆ กันไป เธอจึงไม่อยากไปเล่นกับใครอีก ตอนนี้มีแม่แล้วเธอจึงไม่อยากเสียแม่ไปไม่ว่าแม่จะเป็นแบบไหนเธอก็ดีใจทั้งนั้น เธอไม่อยากกลับไปอยู่บ้านย่าอีกแล้ว ป้าสะใภ้ก็ไม่ชอบเธอ ย่าก็ไม่เคยปกป้องเธอ เวลาถูกแกล้งก็ต้องยอมทุกคน ไม่อย่างนั้นจะถูกตีหนักกว่าเดิม ปู่กับลุงใหญ่ ก็ไม่ได้มาสนใจอะไรเธอ วันๆ ก็ไม่เคยเห็นหน้าเธอด้วยซ้ำ
" เสี่ยวอิง แม่อาบเสร็จแล้วเข้าบ้านไปแต่งตัวเร็วเข้า หนาวไหม" ซูซิน เห็นเด็กน้อยนั่งเหม่อมองเธออยู่จึงเรียกเข้าบ้านเพราะอากาศเริ่มเย็นแล้ว
" ไม่หนาวจ้ะ"
" อืม มาแม่จะส่องตะเกียงให้เดินก่อน ดูทางดีๆ นะ "
" แม่จ๋า หนูได้ยินพี่ใหญ่บอกว่าบ้านย่าจะมีไฟฟ้าใช้แล้ว บ้านเราจะมีไหมจ๊ะ" จวีอิง กล้าพูดมากขึ้นเพราะแม่ใจดียังอยู่
" มีสิ มีเสาไฟฟ้าผ่านบ้านเรา แม่จะไปทำเรื่องขอติดตั้งไฟฟ้าเอง แม่จะติดไฟมาข้างนอกตรงนี้ด้วยจะได้สว่างดีไหม"
" ดีค่ะ ต่อไปบ้านเราก็จะสว่างแล้วใช่ไหมคะ"
" ใช่จ้ะ แม่จะจ้างเขามาติดหลอดไฟทุกห้องในบ้าน และห้องหนูด้วยดีไหม"
" จริงหรือคะ แต่หนูไม่อยากนอนคนเดียว " จวีอิง ถามอย่างตื่นเต้น ตอนนี้เธอปูผ้านอนข้างๆ เตียงในห้องเดียวกับแม่ เพราะอีกห้องเป็นห้องเก็บของ ยังไม่ได้เก็บออกแม่บอกรอพ่อกลับมาค่อยเก็บเพราะไม่รู้อะไรอันไหนทิ้งได้อันไหนสำคัญบ้าง และอีกอย่าง จวีอิงก็ยังไม่กล้านอนคนเดียวเพราะพึ่งมาอยู่บ้านหลังนี้เหมือนกัน
" ยังไม่ใช่ตอนนี้จ้ะ รอเสี่ยวอิงโตอีกหน่อยก็ต้องหัดนอนคนเดียวรู้ไหม อีกอย่างนี่เป็นบ้านเราไม่ต้องกลัวหรอก"
" จ้ะ หนูเชื่อแม่ค่ะ"
" เด็กดี ว่าง่ายจริงๆ "
ซูซิน เห็นกองเสื้อผ้าของลูกสาว ก็ต้องมองบนอีกครั้ง เธอหยิบตัวที่ดูพอใส่ได้มากที่สุดมาใส่ให้ลูกสาว หลังจากทาแป้งฝุ่นจนตัวขาวยืนรออยู่เหมือนตุ๊กตา และเพราะความมืดจึงเห็นกันไม่ค่อยชัดเจนนัก แต่ในภาพจำที่วิ่งเข้ามาในหัวเธอก่อนหน้าก็พอจะรู้ว่า เสี่ยวอิงของเธอนั้นน่ารักไม่น้อย เพียงแต่ผอมและมอมแมมไปหน่อย
" พรุ่งนี้แม่จะเอาเสื้อผ้าไปซักให้ใหม่นะ วันนี้ใส่ไปก่อน นั่งรอแม่ตรงนี้แม่แต่งตัวเสร็จจะหาอะไรให้กิน"
" จ้ะ " จวีอิง นั่งนิ่งๆ ไม่กล้าลุกขยับไปไหน เพราะแม่ให้นั่งรอเฉยๆ
ซูซิน ออกมาจากห้องหลังจากที่แต่งตัวเรียบร้อย เสื้อผ้าของเธอนั้นมีเยอะพอสมควร เพราะซูซิคนเดิมก็ชอบแต่งตัวอยู่เหมือนกัน แต่ในยุคนี้เรื่องรสนิยมก็ยังเป็นแบบโบราณ เหมือนที่เคยเห็นละครย้อนยุคที่เคยดู ในห้องของเธอมีไข่ไก่อยู่ 10 ฟองจึงหยิบออกมา 3 ฟอง เพื่อต้มใส่ข้าวถ้าจะทำอย่างอื่นก็คงนานกว่าจะได้กิน ตอนนี้เธอหิวและเพลียมากอยากพักแล้ว ออกมาเห็นเสี่ยวอิงน้อย นั่งอยู่ที่เดิมท่าเดิมเธอก็อดยิ้มอย่างเอ็นดูไม่ได้ เด็กคนนี้เชื่อฟังเธอจริงๆ เธอชักแปลกใจที่นางร้ายในนิยายทำไมต้องร้ายกับเด็กน้อยที่เชื่อฟังขนาดนี้ได้กัน คงเพราะนักเขียนสั่งสินะ สักแต่ว่าอยากจะขีดเขียนกำหนดชีวิตของตัวละครโดยไม่คิดถึงความเป็นจริงสักนิด คนเราแม้จะเป็นคนใจร้ายก็คงไม่ใจร้ายได้ทุกวันเวลาหรอกน่า และใครจะใจร้ายกับเด็กตัวเล็กๆ ขนาดนี้ได้ขนาดนั้น
ซูซิน กำลังคิดว่าตอนนี้เธอยังอยู่ในบทนิยาย หรือเธอตายมาเกิดใหม่ในร่างนี้กันแน่ ในเมื่อทุกอย่างที่เห็นตรงหน้าไม่ได้เหมือนนิยายเลย จะมีก็แต่เรื่องราวที่ผ่านมาของแต่ละคนที่คล้ายๆ กันอยู่มาก แต่ในเมื่อได้มาอยู่ตรงนี้แล้วเธอก็จะใช้ชีวิตในแบบของเธอแล้วกัน เสี่ยวอิงของเธอจะต้องเติบโตมาอย่างสวยงาม ถึงชีวิตนี้จะไม่เคยมีลูกแต่เธอก็ชอบเด็กมาก และคิดว่าตัวเองสามารถเลี้ยงลูกได้ดีเช่นกัน
" เสี่ยวอิง แม่จะทำข้าวต้มใส่ไข่ให้กินดีไหม"
" ค่ะ แม่จ๋าให้หนูกินไข่ด้วยหรอคะ"
" อืม กินด้วยกันนี่แหละ นั่งรอไปก่อนนะ"
จวีอิง พยักหน้าและยิ้มให้มารดาอย่างดีใจ ซูซิน ติดไฟเสร็จก็ตั้งหม้อต้มข้าว เธอคนข้าวในหม้อจนได้ที่ ก่อนจะใส่ไข่ลงไปคนจนข้าวกับไข่ผสมเข้ากันเหลืองน่าทาน เติมเกลือและน้ำตาลเล็กน้อยเพราะมีเครื่องปรุง เพียงแค่นั้น ไม่เข้าใจว่าทำไมคนยุคนี้ถึงมีเครื่องปรุงเพียงเท่านี้ ทั้งนี่ตอนนี้ก็น่าจะมีพวกซอสถั่วเหลือง น้ำปรุงขายกันบ้างแล้ว อีกอย่างซูซินก็ได้รับเงินเดือนจากสามีทุกเดือน ๆ ละ 400 หยวน ก็นับว่าเยอะมากเพราะตอนนี้คนทำงานเดือนหนึ่งไม่น่าเกิน 600-800 หยวน แต่สามีของเธอทำงานมีโอทีทุกวัน จึงได้เงินมากกว่าคนอื่นและส่งให้เธอกับลูกใช้จำนวนมากแบบนี้
สามียังส่งเงินให้แม่ที่บ้านใหญ่เดือนละ 50 หยวนทุกเดือนด้วย เธอรู้มาว่าตอนที่ลูกสาวยังอยู่กับแม่สามีเขาให้ค่าเลี้ยงดูลูกสาวเดือนละ 150 หยวนต่างหาก ส่วนพวกนมผงและเสื้อผ้าสามีเป็นคนหาซื้อมาให้ แต่ถึงอย่างนั้นแม่ของสามีก็ยังไม่อยากเลี้ยงหลานสาวอยู่ดี
และนี่ก็คงเป็นเพราะนักเขียนที่ต้องการสร้างเรื่องเพื่อให้พระเอกได้แต่งงานกับนางร้ายก่อนจะได้พบรักกับนางเอก ดูๆ แล้วปัญหาทั้งหมดก็คงมาจากความลำเอียงของนักเขียนที่ต้องการยอดวิวและคอมเม้นท์กระมัง นางร้ายก็ร้ายให้สุดไม่ต้องมีเหตุมีผล นางเอกก็แสนดีอ่อนหวาน คงลืมไปว่าชีวิตของคนเรามันต้องมีทั้งมุมดี มุมร้ายในตัวเอง นางเอกที่ดีแบบเดินเล่นในทุ่งวาเลนเดอร์ก็คงหาได้แต่ในโลกนิยายนี้เท่านั้น
" เฮ้ย ..เอาล่ะ เสร็จแล้วกินกันเถอะ จะได้เข้านอน จะเข้ายามฮ้ายแล้ว "
ซูซิน ตักข้ามใส่ชามให้เสี่ยวอิงน้อย และของตัวเองเห็นเด็กน้อยนั่งมองถ้วยข้าวตาโต
" หนูกินพร้อมแม่ได้ใช่ไหม" จวีอิง ถามอย่างไม่แน่ใจและยังไม่กล้ากิน
" อืม กินได้สิ แต่หนูค่อยๆ เป่าก่อนนะข้าวมันร้อนกินคำเล็กๆ "
เสี่ยวอิง ยิ้มพยักหน้าอย่างดีใจ ค่อยๆ ตักข้าวคำเล็กๆ เป่าก่อนจะกินอย่างเรียบร้อย
ซูซิน เห็นท่าทางกล้าๆ กลัวๆ ของเด็กน้อยก็นึกเวทนา ขนาดเธออ่านเรื่องราวผ่านตัวหนังสือยังกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ พอได้มาเห็นภาพที่หนูน้อยถูกทำร้าย ยิ่งสะเทือนใจยิ่งขึ้น
ในตอนเป็นซีเย่เธอเกิดมาจากความรักของพ่อแม่ และยังมีเธอเป็นลูกเพียงคนเดียว แม้ไม่ร่ำรวยแต่ไม่ได้ยากจน เธอได้ในสิ่งที่สมควรได้ทุกอย่างไม่เคยขาด และเพราะไม่ขาดจึงไม่รู้สึกอยากได้อะไรมากมาย เพียงแต่โดยนิสัยที่เป็นคนจริงจังกับสิ่งที่ทำ ตอนเรียนก็เรียนเต็มที่ จนได้อันดับที่น่าพอใจ พอทำงานก็ทุ่มเทสุดกำลังอย่างไม่สนใจสิ่งรอบข้าง และที่ทำไม่ใช่เพื่อผลตอบแทนอย่างเดียวแต่เธออยากทำให้ออกมาดีที่สุดเท่านั้น
ตอนนี้ต้องค่อยๆ ปรับตัวเองให้เข้ากับลูกสาวตัวน้อยนี่ให้ได้ก่อน แต่ดูแล้วก็ไม่น่ายาก ยังดีที่แต่งงานออกมาอยู่บ้านของสามีกับลูกสาวเพียงลำพัง ไม่อย่างนั้นคงจะโป๊ะแตกเข้าสักวัน เพราะนิสัยเธอกับร่างนี้แตกต่างกันมากเหลือเกิน และข้อดีอีกอย่างคือเธอมาตอนที่สามีไม่อยู่บ้านหลายเดือนและที่ผ่านมาเขาก็ไม่ค่อยรู้จักกับซูซินคนเดิมอยู่ก่อนแล้ว ตอนแต่งงานเธอก็ยังปิดบังตัวตนไม่ได้แสดงกิริยาที่ไม่ดีต่อหน้าเขา ซูซินเป็นคนฉลาด ในเรื่องเธอไม่ตีลูกเลี้ยงให้ใครเห็น ส่วนใหญ่จะดุด่าทุบตีอยู่ภายในบ้าน และเด็กน้อยก็ไม่กล้าร้องและไม่กล้าบอกใคร เพราะไม่มีใครเป็นที่พึ่งของเธอได้ และโครงเรื่องบอกไว้ว่า นางเอกจะมาเจอตอนที่เธอตีลูกเลี้ยงโดยบังเอิญและแอบมาช่วย หลังจากที่พระเอกกลับมาทำงานในเมืองแล้ว
นั่นแสดงว่าตอนนี้ตัวนางเอกกับพระเอกยังไม่ได้มีอะไรเกี่ยวพันกัน และตัวน้องสาวของซูซินที่เป็นนางเอก ก็ยังไม่เคยมาหาพี่สาวที่บ้านนี้เลยก็ว่าได้ ดังนั้นต่อไปนี้เธอจะให้นางร้ายซ้ำรอยเดิมไม่ได้แล้ว ในเมื่อตอนนี้ซีเย่ ได้มาอยู่ตรงนี้แล้วจะโลกนิยายหรือโลกอะไรก็ตามเถอะเธอก็คือเธอ อะไรที่เป็นของๆ เธอก็ต้องเป็นของเธอไม่ว่าจะร่างกายนี้ ที่น่าพอใจยิ่งนักเธอสำรวจมาแล้วนี่สินะนางร้ายในละครส่วนใหญ่มักจะสวยกว่านางเอก และมีเสี่ยวอิงน้อยที่เป็นบุตรของเธอถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง สามีพระเอกที่ได้มาอย่างชอบธรรม พระเอกเชียวนะ ก็ต้องมีดีอยู่แล้วล่ะ เชิญนางเอกแสนดีไปหาพระรอง หรือไม่ก็ตัวร้ายเถอะเป็นถึงนางเอกคงมีคนต่อแถวต้องการเยอะอยู่หรอกน่า ส่วนพระเอกคนนี้เธอขอแล้วกันเพราะชาติก่อนอยู่จน 35 ยังไม่มีแฟนเลย แล้วในโลกโบราณแบบนี้ชื่อเสียงก็ไม่ดีจะให้หาใหม่ต้องตายก่อนเหมือนเดิมอีกสิ ไม่ได้ๆ บริจาคให้ไม่ได้จริงๆ