ถ้าเป็นซูซินคนเดิมก็คงจะมีความเกรงกลัวแม่สามีอยู่บ้างหรอก แต่สำหรับซีเย่ ในร่างซูซินเธอไม่จำเป็นต้องกลัวแม่สามีเพราะเธอรู้ว่า สามีเป็นพระเอกนั่นแสดงว่าเขาย่อมมีความฉลาดอยู่บ้างและคงจะไม่มีทางทิ้งขว้างภรรยา เพียงเพราะเรื่องแค่นี้หรอก เพราะเขาเป็นคนดียังไงล่ะ
" แม่จ๋า แม่ยิ้มอะไร " จวีอิง ออกมาจากห้องนอน เห็นแม่นั่งยิ้มเล็กยิ้มน้อยอยู่คนเดียว ก็แปลกใจเธอได้ยินเสียงย่ากับป้าสะใภ้มาด่าแม่เมื่อเช้า แม้แต่อยู่ในห้องก็ยังได้ยินชัดเจน และแทนที่แม่จะอารมณ์ไม่ดีกับนั่งยิ้มอยู่คนเดียว
" อ้าว เสี่ยวอิง ตื่นแล้วเหรอ มานี่แม่ทำน้ำอุ่นให้เช็ดหน้าเช็ดตา บ้วนปากด้วยนะ อากาศเริ่มเย็นมากแล้ว สายๆ ค่อยอาบน้ำ แม่จะพาไปในเมืองด้วย"
" จ้ะ แม่พาหนูไปด้วยเหรอ"
" ใช่จ้ะ แม่จะพาไปซื้อของกินของใช้ด้วย แต่เช้านี้แม่ขอซักเสื้อผ้าหนูก่อน กลับมาผ้าจะได้แห้ง"
" หนูจะช่วยแม่เอง ค่ะ"
" เด็กดี ตอนนี้หนูนั่งรอเฉยๆ ก่อนแม่จะหุงข้าว ทอดไข่ให้กินก่อนนะ "
" ค่ะ หนูนั่งเฉยๆ"
ในเมื่อมาอยู่ในเวลาย้อนยุคแบบนี้ก็ขอไปสำรวจ สถานที่ก่อนแล้วกัน ซูซิน ร่างนี้เรียนจบมัธยมปลายแล้วไม่ได้เรียนต่อเพราะขี้เกียจเรียน จึงไม่สอบเข้ามหาลัยทั้งที่การเปิดสอบครั้งใหม่ปีที่ผ่านมาไม่ได้จำกัดเรื่องอายุเพราะเป็นการสอบเกาเข่าครั้งแรกหลังจากที่ปิดไปนาน แต่เพราะเธอเรียนจบมัธยมปลายมาก็ไม่ได้สนใจอ่านหนังสืออีกเลย และคิดว่าผู้หญิงไม่จำเป็นต้องเรียนสูงมากก็ได้ ตอนนี้บ้านจางมีเพียงน้องชายคนเล็กที่ยังเรียนอยู่มัธยมปลาย และกำลังจะสอบเกาเข่าในปีหน้านี้ ส่วนน้องสาวเรียนจบมัธยมปลายแต่พ่อแม่ ให้ออกมาช่วยทำงานจึงไม่ได้เรียนต่อเช่นกัน ซูซิน นั่งทวนภาพจำในอดีตของร่างนี้กับความสัมพันธ์กับครอบครัวเดิม เธอเป็นลูกสาวคนโต จึงถูกเลี้ยงมาอย่างตามใจ ส่วนน้องสาวเป็นคนที่สองที่พ่อแม่ค่อนข้างผิดหวังเพราะอยากได้ลูกชาย จึงถูกเลี้ยงมาแบบขอไปที จนมีน้องชายพ่อแม่รักตามใจมากกว่าลูกทุกคน ซูซิน เองก็เหมือนจะถูกลืมไปเหมือนกัน เธอจึงเรียกร้องความสนใจด้วยการเอาแต่ใจ และก้าวร้าวตั้งแต่นั้นมา ส่วนน้องสาวก็ต้องยอมเธอทุกอย่าง จึงตกเป็นเป้าโจมตีของเธอกับน้องชายเสมอ ถึงอย่างนั้นก็เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในบ้านอย่างเช่นพวกงานบ้านที่เธอมักให้น้องสาวทำแทนเกือบทุกอย่างเท่านั้น.
'แปลกแฮะ ในเมื่อเป็นนางเอกต้องมีลักษณะพิเศษบ้างสิ อย่างเช่น เรียนเก่ง อัจฉริยะ สวย เรียบร้อย อ่อนหวาน หรืออะไรที่นางเอกต้องมี แต่ในภาพจำที่เห็นหน้าตานางก็ไม่ได้สะดุดตามาก ความสามารถพิเศษอะไรก็เหมือนจะไม่มี ดีที่ผิวขาวเหมือนกันกับเธอ ตัวเล็กกว่าเล็กน้อยเพราะพี่สาวน้องชายแย่งกินหมด น้องสาวคนนี้ดูบอบบางน่ารังแกง่าย บุคลิกไม่ได้เหมือนนางเอกอย่างในละครแต่ถ้าเป็นแม่ดอกบัวขาวนั่นน่าจะเหมาะ นิยายก็ยังอ่านไม่จบแล้วจะเป็นอย่างไงต่อก็ไม่รู้ แต่ช่างเถอะตอนนี้ใครจะเป็นนางเอกไม่นางเอกก็ช่าง ถึงยังไงฉันก็เป็นฉัน สิ่งใดพึงเป็นของฉันก็อย่าคิดจะมาแย่งก็พอ ไม่ใช่จะใช้บทนางเอกมาแย่งพระเอกไปนั่นก็ไม่ยุติธรรม เจ้าชายไม่จำเป็นต้องคู่กับเจ้าหญิงเสมอไปนี่นาจริงไหม ฮึ' ซูซินนั่งคิดไประหว่างรอข้าวสุก
" เสี่ยวอิง หนูช่วยหยิบตะกร้าไข่ไก่มาให้แม่หน่อยจ้ะ "
เสี่ยวอิง รีบลุกหยิบตะกร้าไข่บนโต๊ะอย่างเร่งรีบ ตามความเคยชิน และด้วยความรีบจึงสะดุดขาตัวเองและหน้าทิ่มมาข้างหน้า ซูซิน รีบลุกขึ้นคว้าตัวเด็กน้อยไว้ก่อนจะล้มลงใส่หม้อข้าวร้อนๆ ตะกร้าไข่หล่นแตกกระจายเต็มพื้น ครัวที่เป็นพื้นปูนเทหยาบๆ ไว้เท่านั้น
" แม่หนู..หนู..หนูขอโทษ ..." จวีอิง ตัวสั่นด้วยความกลัว เธอทำข้าวของเสียหายอีกแล้ว คราวนี้ไม่รอดแน่ๆ
" เสี่ยวอิง เสี่ยวอิง ลูก..ไม่เป็นไร...ไม่เป็นไรนะ ..." ซูซิน เองก็ตกใจเมื่อครู่ถ้าเธอคว้าตัวลูกสาวไว้ไม่ทัน จะเกิดอะไรขึ้นทั้งเตาไฟ ทั้งหม้อข้าวที่ยังร้อนระอุตรงหน้า และถ้าเหตุการณ์เมื่อกี้เกิดขึ้นตอนที่เธอยังไม่ได้มาอยู่ร่างนี้ เสี่ยวอิงน้อยจะเป็นอย่างไร ไม่อยากจะคิด เธอไม่ควรใช้เด็กตั้งแต่แรกเลย ทำไม่ไม่คิดให้เร็วกว่านี้นะ ซูซินโมโหตัวเองที่คิดน้อยเกินไป
" แม่ หนูทำไข่แตกหมดเลย ฮือ..ฮือ แม่จะตีหนูไหมฮือ.."
" โอ๋ ..โอ๋..ไม่ต้องร้องแม่ไม่ตีหรอก เสี่ยวอิงไม่ต้องกลัวนะ หนูไปนั่งรอที่โต๊ะนะ แม่จะทำความสะอาดก่อน" ซูซิน อุ้มเด็กน้อยไว้นั่งที่โต๊ะกินข้าวก่อนจะรีบไปเก็บเศษไข่บนพื้นจนสะอาด แล้ววันนี้จะทำอะไรให้เด็กน้อยกิน ในบ้านก็มีเพียงแค่ไข่ไก่ที่เหลืออยู่ หลังบ้านก็ไม่ได้ปลูกผักอะไรไว้เลย ซูซินคนนี้ใช้ชีวิตสมเป็นนางร้ายเสียจริง อะไรก็ไม่ทำ
จวีอิง มองคนเป็นแม่อย่างกล้าๆ กลัวๆ แม่เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ถ้าเป็นแต่ก่อนเธอคงจะถูกตีอย่างหนักหรือไม่ก็ล้มทับกองไฟไปแล้ว
" เสี่ยวอิง เราคงต้องไปซื้อไข่ที่ร้านค้าใหม่แล้วล่ะ เดี๋ยวแม่เปลี่ยนเสื้อก่อน"
ซูซิน เปลี่ยนเสื้อเพราะต้องเข้าไปร้านค้ากลางหมู่บ้าน อยู่ไม่ไกลบ้านจางนัก เธอพาเสี่ยวอิงไปด้วยเพราะไม่อยากให้อยู่บ้านคนเดียว หยิบเงินออกมาจากห้องและปิดบ้านดีแล้วก่อนจะจูงลูกสาวเดินไปทางที่เป็นร้านค้า ผ่านหน้าบ้านใหญ่ที่หลานชายคนโตบ้านเจียง กำลังเล่นอยู่
เจียง ไป๋หยวน เงยหน้ามาเห็น จวีอิง ที่กำลังเดินผ่านหน้าบ้านพอดี จึงอยากแกล้งแบบที่เคยทำประจำ แม้จะมีอาสะใภ้มาด้วยเขาก็ไม่สนใจ เพราะปกติอาสะใภ้ก็ไม่ได้สนใจญาติผู้น้องของเขาเท่าไหร่ เขาขว้างก้อนดิน ขนาดกำลังเหมาะมือไปที่ศีรษะของ จวีอิง เป็นจังหวะที่ซูซิน หันมาเห็นพอดี จึงดึงลูกสาวหลบทัน เธอมองเด็กหลานชายสามีอย่างเอาเรื่อง เด็กคนนี้นิสัยเสียจริงๆ โตมาจะเป็นอย่างไรกัน
ไป๋หยวน มองที่อาสะใภ้ที่มองตัวเองอย่างไม่กลัว แม่บอกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นแค่ภรรยาที่อารองแต่งงานเพื่อให้มาเลี้ยงยัยเด็กตัวซวยที่อาศัยอยู่ในบ้านเขาเท่านั้น เขาจึงไม่ต้องเกรงกลัวคนคนนี้ เขายังลอยหน้าลอยตาล้อเลียนอย่างเห็นเป็นสิ่งสนุกสนาน
" เจียง ไป๋หยวน ถ้าครั้งหน้าเธอรังแกเสี่ยวอิงอีก อย่าหาว่าอาสะใภ้ไม่เตือนนะ "
" แบร่ๆ ไม่กลัวหรอก แบร่ๆ .. นี่แนะ...ฮ่าๆ" ไป๋หยวน ขว้างดินมาอีกก้อน ครั้งนี้โดนเฉียดไปที่หน้าผาก จวีอิง เพราะหลบไม่ทัน ซูซิน จับตัวลูกสาวมาดู ก่อนจะเดินตรงไปที่เด็กชายที่กำลังหัวเราะและ จับมือที่ทำผิดมาตีไปสองครั้ง เพื่อทำโทษเช่นกัน และขู่ไปด้วย
" นี่มือนี้ใช่ไหมที่ขว้างเสี่ยวอิง ทีหลังอย่าทำอีกจำไว้นะไม่อย่างนั้น ฉันจะให้ตำรวจมาจับ"
" อือ ..อย่าตีฉันนะ อือ...แม่...ช่วยด้วย..." ไป๋หยวนร้องเสียงดัง
" ใครกล้าตีลูกฉันห๊า ..หล่อนกล้าดียังไงมาตีลูกฉัน.."
" ก่อนจะมาด่าฉันถามก่อนไหมว่าลูกตัวเองทำอะไรถึงถูกตี ในเมื่อสั่งสอนลูกไม่ได้ฉันก็เลยช่วยสอนให้ "
" แกกล้ามากนะมาตีหลานชายฉัน สะใภ้รองใครให้ความกล้าแกมากัน" แม่เจียง ได้ยินเสียงหลานรักร้องจึงรีบออกมาดูเหมือนกัน และได้ทันได้ยินลูกสะใภ้พูดพอดี เรื่องเมื่อตอนเช้าก็ยังไม่คลายโมโหยิ่งได้ยินอย่างนี้ผสมผสานเข้าไปอีก
" ไม่ต้องใช้ความกล้าหรอกค่ะ แค่เพียงตีเด็กที่ทำความผิดแล้วไม่สำนึก หลานชายคุณแม่เขวี้ยงก้อนดิน โดนหน้าผากเสี่ยวอิงจนปูด ฉันตีมือแค่สองครั้งยังนับว่าน้อยไปนะคะ อ้อพี่สะใภ้จ่ายค่ายามาด้วยนะไม่งั้นฉันไม่ยอม" ซูซิน พูดเสียงดังเพื่อให้คนออกมาดูด้วย ดูซิว่าบ้านเจียงจะทำอย่างไร
" นี่หล่อนจะรังแกกันมากไปแล้วนะ เด็กตัวแค่นี้จะไปรู้อะไร มาตีลูกฉันแล้วยังจะมาเอาเงินอีก ใครจะบ้าให้"
"ใครรังแกใครก่อน แล้วใครใช้ให้ลูกพี่สะใภ้มาทำลูกฉันก่อนด้วย ฉันกับลูกเดินบนถนนอยู่ดีๆ ก็มาปาก้อนดินใส่รอยแรกฉันดึงเสี่ยวอิงหลบทัน ก็เตือนไปแล้วยังไม่สำนึกยังทำอีก ถ้าเป็นแบบนี้เราไปคุยกันที่บ้านผู้ใหญ่ดีไหม ท่านจะได้ช่วยตัดสิน"
" สะใภ้รอง เธอเป็นบ้าเหรอนี่หลานชายสามีเธอนะ เธอจะแจ้งจับเด็กใครเขาจะรับแจ้ง อีกอย่างนี่หน้าบ้านฉัน หลายชั้นจะขว้างก้อนดินก้อนหินเล่น แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอ ทีหลังก็อย่ามาเดินผ่านหน้าบ้านสิ "
" ฉันไม่ได้บอกว่าจะแจ้งจับเด็กค่ะ แต่พี่สะใภ้เป็นแม่ต้องรับผิดชอบ โทษฐานที่ไม่สั่งสอนลูกตัวเองให้ดี ส่วนที่บอกหน้าบ้านตัวเองจะขว้างอะไรก็ได้ ก็อย่าให้มันไปถึงถนนที่เป็นของส่วนรวม ถ้ามันไปโดนคนอื่นคิดว่าเขาจะไม่เอาเรื่องหรือคะ คุณแม่ถ้าจะลำเอียงไม่รักหลานสาวฉันก็เข้าใจได้นะคะ แต่ถึงขนาดสอนให้หลานชายเป็นอันธพาลนี่ฉันว่าคุณแม่ก็ทำเกินไป โตขึ้นจะไม่เที่ยวไปตีชาวบ้านเขาเลยหรือไง ขนาดตัวแค่นี้ยังขนาดนี้ " ซูซิน เถียงกลับไม่สะท้านอยากโด่งดังก็ทำให้สุด
" นี่เธอกล้าสั่งสอนฉันเลยเหรอ สะใภ้รอง " แม่เจียงโมโหจนตัวสั่น
" มีอะไรกัน เสียงดังแต่เช้า ไม่อายชาวบ้านเขาหรือไง" พ่อเจียง ออกมาห้ามเพราะคนเริ่มเดินมามุงจำนวนมาก
" ก็สะใภ้รองตัวดีนี่สิ มาตีหลานชายแล้วยังจะมาขอค่ายาให้ยัยตัวซวยนั่นอีก แค่โดนปาก้อนดินหัวปูดนิดหน่อย หล่อนจะเอาเรื่องให้ได้เลย ตารองกลับมาเมื่อไหร่ฉันจะให้หย่าให้รู้แล้วรู้รอด ดูสิว่าหน้าอย่างหล่อนใครจะกล้าเอาไปทำเมียอีก"
" สะใภ้รอง เรื่องแค่นี้ทำไมต้องทำให้เรื่องใหญ่ จวีอิง ก็ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อยก็แค่เด็กเล่นกัน" พ่อเจียง
" ฮึ ฮึ ฉันไม่แปลกใจจริงๆ ที่ไป๋หยวน นิสัยเสียแบบนี้ก็เพราะมีผู้ใหญ่ให้ท้ายแบบนี้นี่เอง เสี่ยวอิงลูกจำไว้นะอย่าทำนิสัยแบบที่ พี่ใหญ่ไป๋หยวนทำเด็ดขาด อย่าไปรังแกคนที่อ่อนแอกว่า อย่าหาเรื่องใครก่อน แต่อย่าให้ใครมารังแกเราด้วยเหมือนกัน ถ้าใครรังแกลูกมาบอกแม่ได้เลย ครั้งนี้ฉันจะให้จบไปก็ได้ค่ะ แต่ถ้ามีครั้งต่อไปฉันจะไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น สามีฝากลูกไว้ให้ฉันดูแลถ้าใครกล้ามารังแกก็อย่าหาว่าฉันร้ายนะคะ ต่อไปฉันไม่ตีให้เจ็บมือหรอกแต่ฉันจะแจ้งความทันที "
" เด็กตัวแค่นี้มันจะไปรู้ความอะไร ไม่มีใครเขาบ้าจี้รับว่าความตามเธอหรอก"
" ก็ลองดูสิคะ แล้วจะรู้ว่ากฎหมายเขาเขียนไว้อย่างไง เวลาเด็กทำความผิดแล้วใครต้องรับผิดชอบ ถ้าเป็นลูกฉันผิดฉันต้องรับผิดชอบที่สอนลูกไม่ดี แต่ถ้าลูกฉันถูกกระทำคนทำต้องรับผิดชอบเช่นกันคุณพ่อก็เป็นพ่อคนแล้วไม่รู้หรือคะ"
"จาง ซูซิน นี่เธอ.." พ่อเจียง โมโหที่ถูกย้อน
" ค่ะ ฉันนี่แหละจาง ซูซิน สะใภ้รองบ้านเจียง อย่าคิดว่าสามีฉันไม่อยู่แล้วจะมารังแกฉันกับลูกนะคะ บ้านเมืองมีกฎหมาย เสี่ยวอิงเป็นลูกสาวฉันถูกต้องตามกฎหมาย ใครก็ไม่มีสิทธิ์มาเรียกลูกฉันว่าตัวซวยจำไว้ด้วย ถ้าไม่รักไม่เอ็นดูก็อย่ามายุ่งกับเสี่ยวอิงของฉันอีก ไม่อย่างนั้นจะหาว่าฉันร้ายไม่ได้นะคะ และถ้ายังไม่จบก็หาเงินไว้เยอะๆ เพราะฉันไม่รับคำขอโทษเปล่าๆ แน่ ไปเสี่ยวอิงลูก แม่จะพาไปซื้อยาทา "