ตอนที่ 4 อารมณ์พาไป

1929 คำ
ใบหน้าขาวสวยใส ไร้สิว ไร้ฝ้า ที่กำลังหลับปุ๋ยอยู่บนเบาะนอนทำให้เจ้าของเตียงถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความเซ็งเพราะไม่เข้าใจในอารมณ์ของตนเองเขาจูบเธอได้ยังไง ทำไมถึงอยากจูบยามที่ได้เห็นปากสีสวยเคลือบลิปสติกพูดเจื้อยแจ้ว แล้วทำไมร่างกายกับหัวใจถึงได้มีความรู้สึกลามกอย่างนี้ หลังจากที่เธอเป็นลมเขาก็อุ้มมาที่ห้องนอนทันที คินนั่งมองขนมเบื้องที่กำลังหลับสบายแล้วคิดไม่ตก ร่างกายสงบลงได้ไม่นานก็เริ่มรู้สึกร้อนขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเห็นคนบนเตียงนอนดิ้นจนผ้าห่มหล่นไปที่ปลายเท้า เสื้อยืดตัวสวยก็กองขึ้นมาอยู่บนบราเซียสีดำทำให้ชายหนุ่มเห็นเนื้อนวลขาวผ่องอีกครั้งอย่างเต็มตา หน้าท้องขาว ๆ กับอกอวบ ๆ มีเหรอจะไม่ทำให้เจ้าดุ้นยักษ์ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง “บ้าจริง นอนดี ๆ ไม่เป็นหรือไงวะ” เขาบ่นในขณะที่มือกำลังลูบคลำเจ้าน้องชายเพื่อให้มันสงบ แล้วค่อย ๆ ดึงผ้าห่มขึ้นมาปกปิดร่างกายของแม่สาวร่างบางที่ยังนอนไม่รู้เรื่องรู้ราว ทำเหมือนกับว่าเตียงนี้คือของเธอ “อื้อ คะ… คุณ ยะ… อย่า” เสียงละเมอติดเรทของสาวน้อยทำให้ชายหนุ่มตัวแข็งทื่อมือไม้อ่อนแรงขึ้นมาทันตาเห็น จากที่ตั้งใจว่าจะเดินออกจากห้องเป็นอันต้องหยุดชะงักแล้วเดินมาดูหญิงสาวใกล้ ๆ เพราะคิดว่าหูฝาด “ยัยตัวร้าย เธอฝันอะไรอยู่” “คุณคินขา ตะ… ตรงนั้น เจ็บ” เธอฝันว่าเขากำลังช่วยปฐมพยาบาลและยาทาแผลก็แสบมากจึงครางออกมาเหมือนโดนคนตัวโตทำเรื่องอย่างว่า ซึ่งคินก็เชื่ออย่างนั้นจริง ๆ “ยัยเด็กบ้า! ห้ามเอาผมไปปู้ยี่ปู้ยำในฝันเด็ดขาด” เขาเอ่ยเสียงเครียดตัวสั่นยามที่สมองจินตนาการไปไกล ฉากสิบแปดบวกระหว่างเขาและเธอค่อย ๆ ผุดในหัวเหมือนดอกเห็ด “คุณคิน หนูเจ็บ ซี้ดดดดด” ใบหน้าขาวใสเริ่มแดงเปล่งปลั่งทั้ง ๆ ที่ยังหลับตา ชายหนุ่มทั้งโกรธทั้งอายที่โดนเด็กสาวเอาเขาไปปู้ยี่ปู้ยำในความฝันลามก ด้วยความเข้าใจผิดจึงตัดสินใจปลุกคนเป็นลมให้ตื่นก่อนที่อะไร ๆ จะไม่สามารถควบคุมได้ เขาเป็นผู้ชายทั้งแท่งไม่ใช่พระอิฐพระปูน ได้เห็นของสวยงามตรงหน้ามีเหรอจะไม่รู้สึก โดยเฉพาะเต้าอวบขาวผ่องที่วับ ๆ แวม ๆ ชวนให้คนเห็นอยากจับ และอยากทำมากกว่าจับ “เฮ้ย ไม่ได้ ๆ ลูกจ้างโว้ยไอ้คิน นี่ลูกจ้าง” เขาเตือนสติตัวเองเบา ๆ ก่อนจะเอื้อมมือปลุกให้คนหลับนานเกือบชั่วโมงตื่น หญิงสาวที่หลับอย่างมีความสุขจึงค่อย ๆ รู้สึกตัว และทันทีที่เปลือกตาบางเปิดขึ้นมาเห็นผู้ชายยืนอยู่ ข้าง ๆ ในขณะที่ตนเองเพิ่งตื่นนอนนั้น ความตกใจทำให้เธอกรี๊ดออกมาอีกครั้ง “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด” “เงียบ ๆ ผมเอง ห้ามร้อง” “อุงอินเองเออ อูอกไออก” “ห้ามร้องนะ แล้วผมจะปล่อยมือ” ขนมเบื้องจึงพยักหน้าหงึก ๆ ยอมนั่งนิ่งอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่มที่ปล้นจูบแรกของตนเองไป คินเห็นหญิงสาวเลิกโวยวายจึงปลดมือหนาออกจากปากสวย แต่ลืมไปว่าตนเองนั้นยังกอดเธออยู่บนเตียง ใบหน้าของทั้งคู่จึงอยู่ใกล้กันมาก แบบว่าอีกนิดเดียวปากก็ชนกันแล้ว “คุณ อื้อ” เธอยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรออกไปปากกระจับสีสวยก็ถูกปิดอีกรอบ คราวนี้เธอไม่ได้เป็นลมแค่รู้สึกมึนงง เพียงครู่เดียวก็รับรู้ได้ว่าตัวเองเสียจูบให้ว่าที่สามีเป็นครั้งที่สอง คินอดใจไม่ไหวจริง ๆ จึงปล่อยตัวไปตามความต้องการของร่างกายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาใช้ลิ้นร้อน ๆ ที่ช่ำชองในการจูบเข้าไปพัวพันกับลิ้นร้อน ๆ ของคนด้อยประสบการณ์ นานทีเดียวกว่าที่เขาจะยอมปล่อยปากอวบอิ่มเป็นอิสระ ก่อนจะเดินดุ่ม ๆ ออกจากห้องปล่อยให้คนโดนจูบนั่งอึ้งอยู่บนเตียงเพียงลำพัง หลังจากที่เขาออกไปแล้วเธอก็เดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นและรอคุยกับชายหนุ่มให้รู้เรื่อง เหตุใดถึงมาจูบตนเองอย่างนี้ เธอไม่ใช่ผู้หญิงอย่างว่าที่เขาคิดจะทำอะไรก็ได้ ‘งานนี้ต้องมีการรับผิดชอบ’ และการรับผิดชอบของเธอก็คือการย้ายมาอยู่ในบ้านของคินเพื่อแผนการอ่อยจะได้ง่ายมากขึ้น ถ้าได้อยู่บ้านหลังเดียวกันรับรองไม่ถึงเดือนเขาถูกเธอเผด็จศึกแน่นอน คราวนี้แหละ เธอจะได้เรียกร้องความรับผิดชอบด้วยการแต่งงานเป็นอันจบปัญหาเรื่องสามี ‘หึ ๆ เสร็จหนูแน่คุณคินของบ่าว’ แอ๊ด ประตูบานใหญ่เปิดเข้ามาอีกครั้งพร้อมการปรากฏตัวของคิน เขาไปอาบน้ำที่ห้องข้าง ๆ เพื่อปลดปล่อยพิษของเจ้าดุ้นยักษ์ก่อนที่มันจะพ่นใส่เธอ แต่ไม่คิดว่าการเปิดประตูเข้ามาครั้งนี้จะได้เห็นหญิงสาวที่ตนเองจูบด้วยความไม่ตั้งใจนั่งอยู่บนเตียง “คุณไปไหนมา หนูรอตั้งนาน” “รอผมทำไม” “ถามมาได้ คุณจูบหนู คุณต้องรับผิดชอบสิ” “แค่จูบเอง ทำเป็นไม่เคยไปได้” “ก็ไม่เคยน่ะสิ หนูเสียจูบแรกให้คุณ เพราะฉะนั้นคุณคินต้องรับผิดชอบหนู” เขารู้ว่าเธอไม่เคย คนเคยที่ไหนจะเป็นลมจริงไหม แต่ที่ทำเป็นไม่รู้เรื่องเพราะอยากฟังจากปากของหญิงสาวว่าตนเองนั้นคือจูบแรกของเธอ และเมื่อได้ยินหัวใจก็ฟูฟ่องอย่างบอกไม่ถูกจึงเอ่ยถามในสิ่งที่ต้องการ “แล้วจะให้รับผิดชอบยังไง ผมไม่รับผิดชอบด้วยการแต่งงานหรอกนะ แบบนั้นมันเสียเปรียบ หรือว่าอยากได้เงิน เท่าไหร่พูดมา” “หึ ไม่เอาทั้งเรื่องแต่งงานและเรื่องเงิน แต่จะเอา เอา เอา” “อย่าลีลา” “หนูจะมานอนที่บ้านหลังนี้” “เฮ้ย ได้ยังไง ที่บ้านนี้ไม่มีคนอื่นนอกจากผม เดี๋ยวคุณก็เสียหายหรอก” “หนูไม่ถือ ถ้าคุณคินไม่ยอมให้หนูมาอยู่ที่นี่ หนูจะไปบอกกับทุกว่าคุณจูบหนู จูบสองครั้งด้วย อ้อ ตอนจูบก็จับนมหนูด้วย แล้วก็…” “หยุด ๆ พอก่อน ผมไม่ได้จับนมคุณเลย อันนี้มากไป” “หึ ไม่รู้ละ ถ้าไม่ให้ตามที่หนูต้องการ หนูจะไปบอกทุกคนแบบนั้น แล้วจะใส่ผงชูรสให้มาก ๆ ดูซิ ระหว่างสาวน้อยผู้น่าสงสารกับตาเฒ่าหื่นกามใครจะเสียเปรียบกว่ากัน” “ถ้าผมอนุญาตคุณจะไม่ป่าวประกาศใช่ไหม” “แน่นอน หนูจะปิดปากให้เงียบ” “งั้นก็ตกลง ถ้าใครถามว่าทำไมมาอยู่ที่บ้านนี้ก็บอกไปว่า ผมให้มาเป็นคนรับใช้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง และคุณก็ต้องทำจริง ๆ ไม่ว่าผมสั่งให้ทำอะไรคุณต้องทำ ตกลงไหม” “ตกลงค่า เรื่องแค่นี้สบายมาก ว่าแต่หนูขอถามคุณคินหน่อยได้ไหมคะ” “เรื่องเยอะ ว่ามา” “คุณจูบหนูทำไม” เจอคำถามนี้เข้าไปใบ้กินเลยทีเดียว เขาก็ให้คำตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกันจึงทำเป็นโมโหกลบเกลื่อนและไล่ให้คนตัวเล็กไปเก็บของมาอยู่ที่ห้องชั้นล่าง ซึ่งมีห้องนอนอยู่หนึ่งห้อง ถ้าไม่ไปตอนนี้เขาจะกลับคำและไม่สนใจคำขู่ของเธอ ขนมเบื้องจึงวิ่งออกจากห้องนอนของว่าที่สามี (มโน) ไปอย่างรวดเร็วปล่อยให้เจ้าของห้องนั่งถอนหายใจอยู่เพียงลำพัง ก่อนที่มุมปากจะแย้มรอยยิ้มร้าย ๆ ออกมา คนอย่างคิน อัครโภภาคินไม่สนใจคำขู่พวกนั้นอยู่แล้ว แต่เขาอยากให้เธอมาอยู่ในสายตาจึงตอบตกลง จริง ๆ เขากำลังหาเหตุผลให้เธอมาอยู่ใกล้ ๆ อยู่เหมือนกัน แต่ไม่รู้จะหาเหตุผลไหนมาพูด พอมีเรื่องนี้จึงสบโอกาส การให้ผู้ที่มีจุดประสงค์บางอย่างอยู่ใกล้ตัวย่อมดีกว่าอยู่ไกลตัว ถ้าเธอคิดไม่ซื่อกับไร่ของเขาจะได้แก้ปัญหาได้ทันท่วงที โดยไม่รู้เลยว่าจุดประสงค์จริง ๆ ของสาวน้อยร่างบางไม่ใช่ไร่ส้มแต่เป็นเจ้าของไร่ส้มต่างหาก เมื่อกินข้าวเที่ยงเสร็จ คินได้บอกเรื่องขนมเบื้องให้แม่บ้านรับรู้ ป้ามะลิจึงมองหน้าเจ้านายหนุ่มของตนเองด้วยความไม่เข้าใจ เหตุใดถึงอนุญาตให้เด็กสาวซึ่งมาทำงานได้ไม่ถึงสองวันเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ ขนาดตัวเองยังต้องอยู่ที่บ้านพักของคนงานทั้ง ๆ ที่ทำงานมาเป็นสิบปี และอีกอย่างชายหนุ่มไม่ชอบความวุ่นวาย การให้คนอื่นเข้ามาอยู่ด้วยไม่ใช่เรื่องปกติ “คุณคินแน่ใจเหรอคะที่จะให้แม่หนูขนมเบื้องมาอยู่ที่นี่” “แน่ใจครับป้ามะลิ” “แต่ป้าว่ามันไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ ชายหญิงอยู่ด้วยกันสองต่อสอง” “ป้าไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นครับ ผมอยู่ห้องข้างบน เธออยู่ห้องข้างล่าง ไม่มีอะไรเสื่อมเสียแน่นอน” “ป้าอยากรู้ค่ะ คุณคินให้แม่หนูขนมเบื้องเข้ามาอยู่ในบ้านนี้ทำไม” “ผมสงสัยน่ะครับ เธอมาทำอะไรที่ไร่ เลยเอามาอยู่ใกล้ ๆ ตัวจะได้จับตาดูได้ง่าย ๆ” “ป้าก็สงสัยค่ะ เธอดูสวยเกินไป ผิวพรรณก็ดี ไม่น่าจะมาทำงานที่ไร่” “ผมก็คิดแบบนั้น งั้นผมฝากป้าจับตาดูด้วยนะครับ ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากลก็รีบมาบอกผมเลย” “ได้ค่ะคุณคิน ป้าจะช่วยคุณคินจับตาดูแม่หนูขนมเบื้องเอง” จากนั้นเจ้านายกับลูกน้องก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเอง เจ้าของไร่ออกไปทำงานแต่หัวใจกลับอยู่ที่เรือนร่างนุ่มนิ่ม คิดถึงแต่ปากหวาน ๆ ของเจ้าหล่อนจนไม่มีสมาธิทำงาน จึงตัดสินใจวางทุกอย่างลงแล้วเดินออกไปขึ้นรถกระบะที่จอดอยู่หน้าสำนักงาน จากนั้นก็ขับไปตามทางที่มุ่งหน้าไปยังบ้านพักของคนงาน เมื่อขับรถมาถึงก็เห็นขนมเบื้องกำลังลากกระเป๋าออกมาพอดี “อ้าวคุณคิน มาทำอะไรคะ” “มาช่วยขนของ” เขาตอบแค่นั้นแล้วเข้าไปแย่งกระเป๋าใบโตของคนตัวเล็กที่ยืนงงกับพฤติกรรมเจ้านายแต่ไม่ได้พูดออกไป เพราะกลัวเขาจะโกรธแล้วยกเลิกไม่ให้เธอไปอยู่ด้วย หลังจากที่รถกระบะมาถึงหน้าบ้านหลังใหญ่ ชายหนุ่มก็เดินลงจากรถแล้วยกกระเป๋าของเธอเข้าบ้านทันทีโดยไม่พูดไม่จา ขนมเบื้องจึงวิ่งตามไปติด ๆ จนมาถึงห้องที่เธอต้องอาศัย เขาก็ปิดประตูลงกลอนและจับเธอจูบทันทีอย่างร้อนแรงเหมือนไม่ได้จูบใครมาเป็นเดือน ๆ ทั้งที่เพิ่งจูบเธอเมื่อตอนเช้าเอง “อื้อ คุณคิน” “ผมทำตามความต้องการของคุณแล้ว ต่อไปคุณต้องทำตามความต้องการของผมบ้าง” “มะ… หมายความว่า” “ผมอยากจูบคุณ” “อื้อ… อื้อ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม