บทที่ 1
‘ผมรักคุณ...แสนขวัญ...ได้โปรด...อย่าไปจากผม’
‘ผู้หญิงแพศยา...ผู้หญิงหลายใจ...ผมเกลียดคุณ...ชาตินี้อย่าได้เจอหน้ากันอีกเลย’
“ไม่...ฉันไม่ได้เป็นแบบนั้น...ฉันรักคุณคนเดียว...อะ”
ร่างบางที่กำลังกระสับกระส่ายอยู่บนเตียง มือเล็กทั้งสองไขว่คว้ากลางอากาศ เรียวปากขาวซีดพร่ำร้องหาใครบางคน พร้อมกับหยาดน้ำตาอุ่นที่ไหลรินเป็นทางยาวจากหางตาโดยเจ้าตัวไม่รู้ตัว ถูกปลุกให้ตื่นจากฝันร้ายด้วยเสียงเรียกของน้องสาว
“พี่แสน...พี่แสน...ตื่นค่ะ...ตื่น...”
แสนขวัญ เจ้าของร่างบางมีเหงื่อแตกพราวทั่วหน้าผาก ทะลึ่งพรวดลุกขึ้นนั่งบนเตียง ใบหน้างามซีดเซียวไม่ต่างจากกระดาษขาว ดวงตาสีดำสนิทเต็มไปด้วยความทุกข์ระทมมีน้ำตาคลอเบ้า เรียวปากซีดสั่นระริก ขณะหันไปเอ่ยบอกน้องสาว
“พี่...พี่...ฝันร้ายอีกแล้ว...”
ขวัญข้าวผู้ปลุกพี่สาวให้ตื่นจากฝันร้ายพยักหน้ารับคำ เอื้อมมือไปจับมือเล็กเย็นเฉียบของพี่สาวไว้ แล้วเอ่ยปลอบไปด้วย
“ข้าวรู้ค่ะว่าพี่แสนฝันร้าย แต่มันเป็นแค่เพียงความฝันเท่านั้น พอพี่แสนตื่นแล้วทุกอย่างก็จะหายไป ไม่ต้องกลัวนะคะ”
แสนขวัญส่ายหน้าปฏิเสธทั้งน้ำตานอง ดวงตาแดงก่ำเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นระคนหมองเศร้า
“ไม่...มันไม่มีทางหลุดพ้นไปจากชีวิตของพี่...พี่ฝันถึงแต่เรื่องเดิมๆ ความฝันเหล่านี้มันตามหลอกหลอนพี่ในทุกคืน จนพี่ไม่กล้าหลับตานอนแล้ว”
“พี่แสนยังฝันถึงเรื่องเดิมอีกหรือคะ” ขวัญข้าวเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ใช่...ข้าว...พี่ฝันแบบนี้ทุกคืน”
มือเล็กสั่นเทายกขึ้นเช็ดน้ำตาออกจากหางตา ค่อยๆ บอกถึงคำพูดของใครคนหนึ่ง ซึ่งดังก้องอยู่ในหัวของเธอทุกคืนวัน
“พี่ได้ยินเสียงของใครบางคนเอ่ยบอกรักพี่ และขอร้องไม่ให้พี่ไปจากเขา จากนั้นก็เป็นน้ำเสียงเดิม ที่ตะโกนด่าทอว่าพี่เป็น...เป็นผู้หญิงเพศยา เป็นผู้หญิงหลายใจ...”
แสนรักหยุดพูดไปชั่วขณะ เพียงเพื่อสะอื้นฮักร่ำไห้เพราะความเจ็บปวดใจกับถ้อยคำเค้นด่า อันฝั่งแน่นอยู่ในหัวของเธอทุกนาที
“เขาบอกว่าเกลียดพี่ และสาปส่งว่าชาตินี้อย่าเจอกันอีกเลย”
“เขาคนนั้นคือใครคะ พี่แสนจำชื่อได้ไหมคะ”
ขวัญข้าวหรี่ตามอง ลุ้นอยู่ในใจว่าพี่สาวจะจดจำชื่อของผู้ชายคนนั้นได้หรือเปล่า แต่แล้วก็ต้องลอบถอนหายใจด้วยความเสียดายกับคำตอบที่ได้รับ
“ทุกครั้งที่พี่พยายามนึกชื่อของเขา มีแค่คำว่า ‘อะ’ ที่แล่นเข้ามาในหัวของพี่ จากนั้นก็หายไปอย่างรวดเร็วก่อนพี่จะนึกชื่อของเขาออก”
แสนรักยกมืออันเย็นเฉียบคลึงขมับของตัวเอง พร้อมกับหลับตาลง พยายามนึกคิดถึงเจ้าของน้ำเสียง ซึ่งเอ่ยบอกรักและด่าทอเธอในคราวเดียวกัน ทว่า...นึกเท่าไรก็นึกไม่ออกสักที จนต้องนิ่วหน้าเพราะถูกอาการปวดหัวเล่นงานขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
“พี่...พี่จำไม่ได้...พี่ไม่รู้ว่าเขาคือใคร...ไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน...” หยาดน้ำตาไหลรินลงมาพร้อมกับการตีสีหน้าเหยเก เมื่อปวดหัวอย่างหนัก
“พี่ปวดหัว...”
“พี่แสน...พอแล้วค่ะ อย่านึกถึงเขาอีกนะคะ...”
ขวัญข้าวจับมือเล็กของพี่สาวออกจากการกุมศีรษะตัวเอง ก่อนจะกอดร่างบางสั่นสะท้านไว้แนบแน่น ยกมือลูบไปบนแผ่นหลังเพื่อปลอบพี่สาวให้หายหวาดกลัว
“หยุดคิดนะคะพี่แสน เขาจะเป็นใครก็ไม่สำคัญ ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือข้าวอยู่กับพี่แสนแล้ว ข้าวจะดูแลพี่สาวคนนี้เอง”
“ข้าว...พี่คิดถึง...ลูก...”
แทนที่จะทำตามคำขอร้องของน้องสาว แสนขวัญกลับรำพันถึงลูกน้อยในท้อง ที่ต้องสูญเสียไปทั้งๆ เพิ่งเติบโตอยู่ในท้องของเธอได้แค่เพียงสามเดือนเท่านั้น และเมื่อคิดถึงลูก หญิงสาวก็ยิ่งร่ำไห้หนักกว่าเดิม
“ทำไมพี่ถึงโชคร้ายแบบนี้ ต้องสูญเสียความจำและต้องเสียลูกในคราวเดียวกัน...พี่อยากหลับ...หลับไปตลอดกาล โดยไม่ต้องตื่นขึ้นมารับรู้กับความเจ็บปวดนี้อีก”
“โธ่...พี่แสน...อย่าคิดแบบนั้นสิคะ”
คราวนี้เป็นขวัญข้าวที่มีน้ำตารื้นขอบตากับความคิดของพี่สาว หญิงสาวทั้งเอ่ยห้าม ทั้งขอร้องพี่สาวในคราวเดียวกัน
“ถ้าพี่แสนหลับโดยไม่ตื่นเลย แล้วข้าวจะอยู่กับใคร...ตอนนี้เรามีกันแค่สองคนพี่น้อง พี่แสนสัญญากับข้าวนะคะ ว่าจะไม่ทิ้งข้าวไป”
“แต่...พี่ไม่อยากอยู่แบบคนสูญเสียความจำ...”
แสนขวัญสะอื้นฮักจนตัวสั่นโยน เอ่ยบอกถึงความหวาดกลัวที่ซุกซ่อนอยู่ในใจ
“ในหัวของพี่มีแต่ความว่างเปล่า พอลืมตาขึ้นมาในโรงพยาบาล พี่จำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวพี่ จำไม่ได้แม้กระทั่งชื่อของตัวเอง จำไม่ได้ว่าข้าวคือน้องสาวของพี่ จำไม่ได้ว่าใครคือคนที่บอกรักและเค้นเสียงสาปส่งไล่พี่ไปจากชีวิตของเขา และสิ่งที่ทำให้พี่เสียใจที่สุดคือตอนหมอบอกว่า...พี่...แท้งลูก...”
“พี่แสนอย่าร้องไห้ค่ะ ข้าวเชื่อว่าสักวัน ความทรงจำของพี่แสนจะกลับคืนมาเหมือนเดิม แต่อาจต้องใช้เวลาสักระยะนะคะ”
ขวัญข้าวต้องเข้มแข็ง ทำหน้าที่เอ่ยปลอบพี่สาว ทั้งๆ ในใจนั้นก็หวาดกลัวไม่แพ้กัน หญิงสาวยังจำได้ไม่มีลืม ในวันที่พี่สาวถูกรถชนต่อหน้าต่อตา เลือดแดงฉานไหลทะลักจากหน้าผากที่เป็นแผลฉกรรจ์ ซ้ำร้ายยังมีเลือดไหลนองเปื้อนกระโปรงสีฟ้าอ่อนจนกลายเป็นสีแดงไปหมด
หนึ่งอาทิตย์เต็มๆ ที่แสนขวัญนอนหมดสติไม่รู้สึกตัว ซึ่งในระหว่างนั้นเธอแทบทำอะไรไม่ถูก เมื่อชีวิตของพี่สาวแขวนอยู่บนเส้นดายบางๆ ส่วนหลานตัวน้อยที่กำลังเติบโตอยู่ในท้องของแสนขวัญ ไม่มีโอกาสลืมตาดูโลก เพราะแสนขวัญถูกชนอย่างรุนแรงจนกระทั่งแท้ง!...
ความโชคร้ายยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ในวันที่แสนขวัญฟื้นคืนสติ เธอมองทุกคนด้วยสายตาว่างเปล่า ราวกับไม่เคยรู้จักกัน
‘ฉันเป็นใคร ฉันอยู่ที่ไหน แล้วพวกคุณเป็นใคร ฉันไม่รู้จักพวกคุณ’
เป็นคำถามที่หลุดออกมาจากปากของคนไข้ ทำให้ขวัญข้าวกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ต้องร้องไห้โฮ เมื่อรู้ว่าพี่สาวสูญเสียความทรงจำไปกับเหตุการณ์ถูกรถชน