กลับดำมืดด้วยความริษยา ตำแหน่งที่นางต้องการหาใช่ตำแหน่งพระชายาสาม ตำแหน่งที่นางต้องการคือ ตำแหน่งที่เสี้ยวหลานนั่งอยู่
การแก่งแย่งชิงดีจึงระอุขึ้นอย่างเงียบๆ
เมื่อได้ครอบครองธิดาดอย อีกรูปลักษณ์หนึ่งของนกน้อยเหมายเหมย องค์รัชทายาทเกิดความหึงหวงระดับร้อย เขาไม่ให้ใครแตะตัวนกหงส์หยกเพราะหากใครแตะ องค์รัชทายาทจะคิดว่า คนนั้นกำลังแตะต้องร่างกายธิดาดอย นั่นคือเรื่องที่เขายอมไม่ได้ ใครถูกตัวนกน้อยตัวโปรด คนนั้นต้องมือขาด โดยที่เขาทำให้ดูเป็นตัวอย่าง สั่งตัดมือข้างที่ทหารคนนั้นจับตัวนกหงส์หยกเหมยเหมย เรื่องนี้จึงเป็นที่พูดถึงกันทั่วเมืองหลวง ซึ่งเรื่องนี้ก็เข้าถึงหูพระชายาทั้งสามพระองค์ขององค์รัชทายาท
แล้วด้วยเรื่องนี้นี่เอง ยามเป็นคน ธิดาดอยต้องปรามเรื่องนี้กับองค์รัชทายาท ไม่ให้เขาออกคำสั่งตัดมือคนที่แตะต้องตัวนก เพราะมันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตถึงขั้นต้องลงโทษเช่นนั้น แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจฟังสักเท่าไหร่ เพราะมือป้วนเปี้ยนตามร่างกายตน ส่วนปากก็จูบเธอไม่เลือกที่ และการสนทนาก็หยุดลงเวลาต่อมา แทนที่ด้วยบทรักบทสวาทอันเจนจัดของเขา
ธิดาดอยใช้ความเป็นนกให้เกิดประโยชน์ เธอยังไม่บอกเรื่องอำมาตย์หลี่ฮั้วกับพวกฉ้อโกงเรื่องงบประมาณสร้างเขื่อน ด้วยนิสัยขององค์รัชทายาทที่เกลียดคนคดโกง และมีคำสั่งเด็ดขาดกับคนพวกนี้ เธอจึงกลัวว่า เขาจะใจร้อน แหวกหญ้าให้งูตื่น ธิดาดอยคิดว่า สืบเรื่องนี้ให้แน่ชัดก่อน มีหลักฐานมากพอที่จะทำให้อำมาตย์ซ้ายดิ้นไม่หลุด หากหลักฐานไม่แน่นหนาพอ เฒ่าเจ้าเล่ห์ต้องหลุดรอดความผิดแน่นอน นกน้อยจึงบินไปตามสืบเรื่องฉ้อฉลที่บ้านอำมาตย์ซ้ายทุกวัน
วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่นกน้อยเหมยเหมยบินมาเกาะกิ่งไม้บนต้นไม้ข้างศาลาไม้ระแนงริมสระบัว ที่เจ้าของบ้านกับขุนนางอีกสามคนนั่งคุยกันอยู่ หลี่ลี่จิงเป็นหนึ่งในนั้น นกน้อยคอยฟังการพูดคุยของพวกเขา การสนทนาของพวกเขาวันนี้ สร้างความหนักใจให้นกน้อยเหมยเหมยไม่น้อย
“ค่ำนี้เราจะไปคุยกันต่อที่หอนางโลม ข้าได้นัดท่านเตียวไว้ด้วย เราจะคุยรายละเอียดกันที่นั่น” หลี่ฮั้วบอก
พวกเขาจะไปคุยกันต่อที่หอนางโลมค่ำนี้ มันเป็นเวลาที่นกน้อยเหมยเหมยออกไปไหนไม่ได้ เวลานั้นนกน้อยจะกลายเป็นคน สถานที่ที่จะอยู่คือ ห้องบรรทมขององค์รัชทายาทเป็นที่อื่นไปมิได้
แล้วจะทำยังไงดี...
ค่ำนี้คงเป็นนัดสำคัญของเพวกเขาแน่ๆ ต้องมีรายละเอียดเชิงลึกที่ต้องพูดคุยกัน ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์กับนกน้อยเหมยเหมยในการหาข่าว แต่เธอไปไม่ได้เนี่ยสิ
เกิดคำถามเกิดขึ้นในใจ ตอนอยู่อีกยุคหนึ่ง ธิดาดอยเคยดูซีรี่ย์จีน เกาหลีย้อนยุค ไม่เคยเข้าใจว่า เหตุใดเหล่าขุนนางต้องไปคุยงานสำคัญที่หอนางโลมด้วย คุยที่บ้านมิดชิดดีกว่าไม่ใช่หรือ หอนางโลมคนก็พลุกพล่านไม่เห็นจะมีความเป็นส่วนตัวตรงไหน ไม่เข้าใจจริงๆ เลย
เอาไงดีหว่า...
ขณะที่นกน้อยเหมยเหมยกำลังครุ่นคิด ได้มีนกหงส์หยกตัวสีเหลืองบนมาเกาะกิ่งไม้ข้างๆ เหมยเหมยที่ไม่รู้ตัว เพราะมัวแต่นึกว่าจะทำเช่นไรกับเรื่องที่ตนเป็นกังวล
“จิ๊บๆ จิ๊บๆ” เสียงนกร้องดังอยู่ข้างหูนกน้อยเหมยเหมยที่รับหันไปมองด้านข้าง คนที่ได้ฟังเสียงนกร้องอาจไม่เข้าใจความหมาย แต่สำหรับนกน้อยเหมยเหมยเข้าใจภาษานกด้วยกันดี การพูดคุยระหว่างนกกับนกจึงเริ่มขึ้น
“ว่าไง เธอมาทำอะไรตรงนี้ ฉันเห็นเธอมองพวกเขานานแล้วนะ” นกหงส์หยกตัวสีเหลืองถาม
“ฉันกำลังทำงานอยู่” นกน้อยเหมยเหมยตอบ
“งานอะไรเหรอ”
“ก็คนพวกนี้กำลังโกงกินบ้านเมืองไง ฉันเลยมาสืบว่าพวกเขากำลังคิดทำอะไรกัน”
“คนพวกนี้นิสัยแย่ ฉันอยู่บ้านข้างๆ ฉันรู้ดี เจ้านายฉันยังไม่อยากยุ่งกับคนบ้านนี้เลย” เหมยเหมยสนใจคำพูดของนกตัวสีเหลืองขึ้นมาทันที
“เจ้ารู้จักคนบ้านนี้ด้วยเหรอ” เหมยเหมยถาม
“รู้สิ ฉันบินมาขี้บ้านนี้ทุกวัน” เหมยเหมยอยากจะหัวเราะกับคำพูดภาษานกของตกตัวสีเหลือง ท่าทางจะชิงชังบ้านหลังนี้มากถึงขนาดมีอึใส่ทุกวัน “ถึงข้าจะเป็นนก แต่ก็เป็นนกที่ฉลาด รู้หมดแหละว่าใครดีไม่ดี บ้านหลังนี้เจ้าของบ้านเป็นอำมาตย์ใหญ่นิสัยแย่ บ้าอำนาจ บ้าเงินทั้งที่ตัวเองก็มีอยู่เยอะแยะ เจ้านายข้าเป็นหมอ พอบ้านนี้ป่วยก็มาเรียกเจ้านายข้ามารักษา เจ้านายข้าไม่อยากมาหรอกนะ แต่ด้วยหน้าที่ก็ต้องมา”
นกหงส์หยกตัวสีเหลืองพูดยืดยาว แล้วดูเหมือนว่า นกน้อยเหมยเหมยจะคิดอะไรออก เกิดไอเดียหนึ่งวาบเต็มสมอง
“เจ้าอยากกำจัดคนพวกนี้หรือเปล่าล่ะ คนนิสัยไม่ดีน่ะ”
“อยากสิ ข้าเกลียดพวกมัน เหมือนที่เจ้านายข้าเกลียดมัน”
“งั้นเจ้ามาช่วยงานข้าไหม ข้าทำงานให้องค์รัชทายาท สืบเรื่องที่พวกเขาฉ้อโกงเงินหลวง ค่ำนี้พวกเขาจะไปคุยงานกันที่หอนางโลม เจ้ารู้จักหอนางโลมไหมล่ะ”
“รู้จักสิ ในเมืองหลวงมีหลายที่นะ หอนางโลมที่เจ้าว่า ชื่ออะไรล่ะ” นกตัวสีเหลืองถาม
ตายห่าน...นั่นสิ หอนางโลมอะไร เหมยเหมยก็ไม่รู้
“ข้าไม่รู้จักชื่อ ท่านอำมาตย์บอกว่าไปคุยกันต่อที่หอนางโลม ข้าก็ไม่รู้ว่าหอไหน” เหมยเหมยตอบ
“อ๋อ ถ้าหอนางโลมที่พวกเขาพูดถึง คงเป็นหอนางโลมของไต้เท้าหยู พวกเขามักไปที่นั่นกัน”
เหมยเหมยคงไม่รู้ว่า นกหงส์หยกตัวสีเหลืองตัวนี้ชอบยุ่งเรื่องมนุษย์มาก โดยเฉพาะมนุษย์ที่อยู่บ้านหลังนี้
“ค่ำนี้เจ้าไปที่นั่นได้ไหม ไปฟังว่าพวกเขาคุยอะไรกัน แล้ววันรุ่งขึ้นเจ้านำความมาบอกข้า” เหมยเหมยไว้วาน “ข้าไม่สะดวกไปเองน่ะ องค์รัชทายาทไม่ให้ข้าออกไปไหนตอนกลางคืน เจ้าทำงานให้ข้าได้หรือไม่ ถ้าเจ้าทำนะ เจ้าจะได้รับตำแหน่งนกน้อยยอดนักสืบประจำราชสำนักเชียวนะ”
“ได้สิ เรื่องแค่นี้เอง” นกน้อยตัวสีเหลืองตอบรับก่อนแนะนำตัว “ว่าแต่เจ้าชื่ออะไร ข้าชื่อหลิน”
“ข้าชื่อเหมยเหมย”
“ข้าอยู่ที่นี่มานาน ไม่เคยเห็นเจ้าเลย เจ้าเพิ่งมาอยู่ที่นี่เหรอ”
“ใช่ ข้ามาอยู่ที่นี่ไม่กี่วันเอง”
“งั้นเจ้าไปกับข้าไหม ไปสมาคมนกหงส์หยก เรานัดคุยกันทุกวันตรงป่าด้านโน้น”
แหม...นกหงส์หยกมีสมาคมด้วยเว้ย น่าสนุกแฮะ
“ไปสิไป” เหมยเหมยคิดว่าไม่มีอะไรเสียหาย เผื่อในอนาคตนกหงส์หยกสมาคมนี้อาจช่วยเหลือตนได้ทางใดทางหนึ่ง ว่าแล้วนกหงส์หยกสองตัวก็พากันบินไปสมาคมนก สมาคมที่ธิดาดอยจะได้รู้ว่า ยิ่งใหญ่แค่ไหน เพราะมีนกประเภทเดียวกันคือ ชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้าน