ตอนที่ 1
แนะนำตัวละครหลัก
เยว่ อันหนิง / นางเอก 16ปี
เวย ลู่หาน/ พระเอก อายุ 23 ปี
ครอบครัว เวย (ครอบครัวพระเอก)
ปู่เวย หลงเทียน/ย่า อวี้ฟางซิน
แยกบ้านแล้ว
พ่อเวย ลู่คง อายุ 45/ แม่เวย ลี่อิง อายุ 43
เวยลู่ฟู่ อายุ 25 พี่ชาย พอ/ ภรรยา หลง ฟานอิง อายุ 24 ลูก ชาย 2 คน (เวย ลู่จื้อ/อวย ลู่ หลุน)
พระเอก ลูกชายคนรอง
เวย ลู่หลิง น้องสาว พอ. อายุ 20 ปี /ฉีซวน สามี
ครอบครัว นางเอก
ปู่ เยว่ เฟยเทียน /ย่า หลี่ ชิงหนี่
ลุงใหญ่ เยว่ เฟยฟง 46 ปี /ป้าสะใภ้ หลัน ลี่ฮุย 44ปี มีลูก 3 คน ชาย 2 หญิง 1
เยว่ ลี่เฟิง คนโต 25 ภรรยา ฉีชิง 22 ปี มีลูกชาย 1 คน เยว่ ฉีหลง
เยว่ ลี่เจียงชิง อายุ 23 แต่งงานแล้ว /อุ้ยหนาน
เยว่ ลี่ซวน อายุ 19 ปี ทำงาน รง.คู่หมั้น เหวินจิงจิง
พ่อเยว่ เฟยหลง อายุ 44 ปี/ แม่ กัว อันหลิง 43
เยว่ อันหลง พี่ชายคนโต อายุ 20ปี / ฮวี ชิงไห่ อายุ 19ปี พี่สะใภ้ มีลูกชาย 1 คน /เยว่ ชิงหยาง อายุ 2 ขวบ
เยว่ อัน ป๋อ พี่รอง อายุ 18 ปี ยังไม่แต่งงาน
นางเอก คนเล็ก
อาสาม เยว่ เฟยเหริน อายุ 40 / หนี่ อ้ายชิง อายุ 38 ปี มีลูก 2 คน หญิง ชาย
เยว่ อ้ายเหม่ย อายุ 20 แต่งงานแล้ว /เป้ย หยู่เทียน ลูกสาว 1 คน เป้ย จินเฟย
เยว่ อ้ายซ่าง อายุ 18 ปี ยังไม่แต่งงาน
อา (เล็ก) เยว่ เฟยเจิน อายุ 35 ปี แต่งงานแล้ว/ จวิน ไป่ซาน มีลูก 2คน ชาย- หญิง
จวิน ไป่เสิน อายุ 16 ปี เรียน ม.ปลาย
จวิน ไป่ เสียน อายุ 12 ปี เรียน ม.ต้น
************************************************
เยว่ อันหนิง ยุค 2024 สาวมั่น จบ ป.ตรี ด้านวิทยาศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง และความงาม /ป.โท เกี่ยวกับบริหารธุรกิจ และเธอทำงาน ในบริษัทของครอบครัว ซึ่งเป็นบริษัทเกี่ยวกับความงามครบวงจร เธอมุ่งมั่นทำงานจนอายุ 37 ย่าง 38 ปี
เธอเคยมีแฟนหนุ่มที่คบหากันมาตั้งแต่เรียนมหาลัย เมื่อจบปริญญาตรีเธอเข้าทำงานกับบริษัทในเครือของครอบครัว และพ่อแม่ของเธอได้วางมือลงเธอทำงานสนุกจนหลงลืมว่าตัวเองนั้นมีแฟนหนุ่ม
ในวันที่เธอประสบผลสำเร็จบริษัทเข้ามาเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ A เมื่อเธอย้อนกลับมามองดูรอบตัวตอนนี้เธอไม่เหลือใครแล้วพ่อแม่ของเธอจากไปด้วยโรคประจำตัวในวัยสมควร แฟนของเธอ ได้เลิกรากันไปด้วยเหตุผล เธอไม่มีเวลาให้เขาซึ่งก็จากลากันด้วยดี ตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ปัจจุบันเธอใช้ชีวิตโดดเดี่ยวเพราะเธอเป็นลูกคนเดียวญาติของเธอเหลือเพียง คุณลุงซึ่งไปมีครอบครัวที่ต่างประเทศไม่ค่อยได้ติดต่อกันเนื่องจากกิจการงานรัดตัวเหมือนกัน
ปัจจุบันเธอจึงใช้ชีวิตอยู่กับงานและที่เหลือก็อยู่บ้าน เพื่อทำวิจัยเครื่องสำอางแบบใหม่ๆ ออกมาอยู่เสมอ จนวันหนึ่งเธอเผลอนอนหลับในห้องวิจัยภายในบ้านแล้วฝันเห็น เด็กผู้หญิงหน้าตาเหมือนเธอทุกอย่าง แต่ตัวเล็กกว่าเธอมากดูจากการแต่งตัว น่าจะเป็นยุคจีน 70-80 เนื่องจากดูอดอยากและยากจน ผู้หญิงคนนั้น ทำงานในบ้าน ทุกอย่างและยังต้องไปทำนาแลกแต้มตามยุคนั้น และไม่ค่อยได้กินอิ่มเท่าคนอื่น และเนื่องจากเธอเป็นลูกสาวจึงไม่ได้เรียนต่อมัธยมปลาย แต่ก็ยังดีที่เธอเรียบจบมัธยมต้นแล้ว อายุของเธอน่าอยู่ราวๆ 15-16 ปี แต่จากสภาพร่างกายของเธอเหมือนเด็กหญิงอายุ 12-13 ปี เท่านั้น
อันหนิง หลับไปนานและฝันยาวนาน เหมือนการดูละครเรื่องหนึ่งเธอเห็นเด็กสาวไปแอบร้องไห้บ่อยๆ ด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ แต่เธอช่วยอะไรเด็กสาวไม่ได้เลย พ่อแม่ของเธอเป็นลูกคนรองของบ้านและยังไม่เป็นที่รักของปู่กับย่าอีกด้วย ปู่ให้สำคัญกับครอบครัวลุงใหญ่เพราะเป็นลูกชายคนโต ส่วนย่ารักครอบครัวอาสาม ส่วนอาสี่นั้นเป็นผู้หญิงซึ่งแต่งงานออกไปแล้ว เวลาเธอโดนป้าสะใภ้แกล้งให้ทำงาน หนักเธอไม่กล้าบอกพ่อแม่ เพราะกลัวแม่จะคิดมากเพราะแม่เองก็ทำงานหนักเหมือนกัน และยังกลัวพ่อลำบากใจเพราะพ่อเป็นคนกลางอะไรที่พอทำได้เธอก็อดทนทำไป
อันหนิง ตื่นมาตอนตี 5 เธองงอยู่กับความฝันที่เหมือนจริงเมื่อครู่ เธอรับรู้ถึงความรู้สึกของเด็กหญิงคนนั้นจริง ๆ และรับรู้ถึงความคิดของเธอทุกอย่างเหมือนกับเป็นตัวเองอย่างนั้น
เธอทั้งสงสารและเห็นใจอาจจะด้วย หน้าตาที่เหมือนกันหรืออะไรก็ตามแต่พอตื่นขึ้นมา ก็ทำให้จิตใจหดหู่และเศร้าจนทำให้หน้าตาดูไม่สดใสจนป้าแม่บ้านต้องเอ่ยปากทักถาม
เธอจึงบอกความรู้สึกไม่สบายใจให้ป้าแม่บ้านฟัง ป้าแม่บ้านจึงบอกให้ลองไปทำบุญดูเผื่อจิตใจจะดีขึ้น เธอเองก็เห็นด้วยและไม่ได้ไปทำบุญให้พ่อแม่นานแล้ว จึงถือโอกาสนี้ไปทำทีเดียวเลย
ช่วงสายๆ จึงโทรแจ้งเลขาว่าเธอจะไม่เข้าบริษัท และให้คนขับรถพาไปทำบุญที่วัดนอกเมืองที่ไม่ไกลมากนัก
พอทำบุญเสร็จ เธอกำลังจะเดินกลับมาที่รถซึ่งจอดอยู่อีกด้านของวัด เธอเดินผ่านศาลเจ้าแบบจีนที่ตั้งอยู่ตรงทางผ่าน จึงเดินเข้าไปไหว้ขอพรเพราะเห็นมีคนนั่งขอพรอยู่
เมื่อเดินเข้ามานั่งลงตรงจุดที่มีไว้ให้นั่ง มีคุณตาคนหนึ่งนั่งหลับตาอยู่ก่อนแล้ว เธอนั่งลงตั้งจิตอธิษฐานขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้เธอมีโอกาสได้ทีครอบครัวที่อบอุ่น มีคนรักที่รักเธอมาอยู่ด้วย.
คุณตาที่นั่งอยู่ได้พูดขึ้น ทุกอย่างล้วนมีที่มาและมีที่ไป ทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้วเพียงมีสติ ตั้งมั่นแล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง.
อันหนิง ตกใจไม่มั่นใจว่าท่านพูดกับใครขณะพูดก็ไม่ได้ลืมตามามองเธอ แต่ตรงนั้นก็มีเพียงเธอที่นั่งอยู่
"คุณตาพูดกับหนูหรือเปล่าคะ"
"อืม ขอให้โชคดีและสมหวังตามสิ่งที่ขอนะ"
คุณตาลืมตาขึ้นมองมาที่ฉันและพูดขึ้น จากนั้นก็ยื่นด้ายที่ร้อยทับทิมสีแดงมาให้ฉัน 1 เส้น
"สิ่งนี้เป็นของหนูนะ รอให้มารับนานแล้วจากนี้เตรียมตัวให้พร้อม คนที่โน่นเขารอหนูอยู่คนที่รักหนูและครอบครัวของหนู แล้วหนูจะเข้าใจทุกอย่าง "
เธอนั่งฟังและคิดอยู่พักหนึ่งแต่พอหันมาอีกที คุณตาคนนั้นก็หายไปแล้ว เหลือไว้แต่ด้ายทับทิมในมือของเธอที่ทำให้รู้ว่ามันเป็นเรื่องจริง
จากนั้นฉันจึงนั่งรถกลับมาบ้านและตรงเข้าห้องวิจัยเพื่อสะสางงานที่ค้างต่อ พอถึงเย็นทานข้าวเสร็จเธอจึงอาบน้ำและเข้านอน
เธอหลับฝันเห็น เด็กคนนั้นอีกครั้งในตอนนี้ ดูเหมือนว่าเธอจะเห็นป้าสะใภ้ใหญ่ใช้เด็กสาวให้ไปซักผ้า ที่ลำธารให้หลังจากกลับมาจากเก็บผักแลกแต้ม เนื่องจากวันนี้เธอได้กินข้าวต้มที่มีข้าวไม่ถึง 10 เม็ด ตั้งแต่เช้าซึ่งปกติก็กินแค่ 2มื้อ ทำให้เธอหน้ามืดและตกลงไปที่ลำธาร
ซึ่งขณะนั้น มีคนเดินผ่านมา พอดีจึงลงไปช่วยเธอขึ้นมา และมีคนรู้จักรีบวิ่งไปเรียก พ่อ แม่ ของอันหนิง มา พ่ออันหนิงจึงอุ้มเธอกลับมาบ้านและตามหมอ ซึ่งเป็นหมอเท้าเปล่าในหมู่บ้านมาช่วยดูอาการ
ด้วยสภาพร่างกายที่อ่อนแอ และอากาศเย็นทำให้ อันหนิงไข้สูง และทำให้เด็กสาวลมหายใจขาดไปในช่วงเวลาสั้น แต่ไม่มีคนสังเกตเห็น เนื่องจากเป็นเวลาดึกมากแล้ว แม่ที่เฝ้าเช็ดตัวก็เผลอหลับไปเหมือนกัน.