ทำให้อยู่แล้ว

3241 คำ
17.40 นาที แควก ปุ๊บ ปั่ก หึ คุณคิดว่าเสียงอะไร อย่านะครับ อย่าคิดไปไกลนะครับ เสียงที่ได้ยินก็คือเสียงแพ็คของ แล้วตอนนี้เมียผมเปลี่ยนชุดมาใส่กางเกงขาสั้นสีขาวแล้วก็เสื้อครอปแฟชั่นสีขาวแล้วก็มีลายดอกไม้เล็ก ๆ สีเหลือง ผมก็ขึ้นไปยกคอมฯ ลงมาชั้นล่างเอามาตั้งคู่กันแล้วก็ปรับแก้งานไปด้วยแล้วคอมฯ ของเมียคือเปิดโปรแกรมไว้นะแต่ตอนนี้ไปนั่งแพ็คของ “มิ้ม” “หื้อ ว่า” “หึหึ” ฉันเงยหน้ามองคนตัวสูงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้แล้วตอนนี้ไม่ได้มองมาเฉย ๆ นะ หัวเราะใส่ฉันอีกหรือสภาพฉันมันดูไม่ได้วะ ไม่ได้งานหนักแค่ไหนก็ยังต้องสวยเวลาอยู่ต่อหน้าผัว ฮึ ถามว่าเดินตามใคร เดินตามตามแม่ของฉันเองจ้า ฉันหยิบกระจกออกมาจากกระเป๋าที่วางอยู่ข้าง ๆ พอเห็นหน้าเห็นผมตัวเองก็โอเคอยู่นี่หว่า ฉันเลยเท้าเอวแล้วถามเขาออกไป “หัวเราะอะไร” ผมมองเมียตัวเองที่เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้แล้วก็หยิบกระจกมาส่อง พอเห็นผมหัวเราะอยู่ยัยตัวแสบก็หัวเราะตามพร้อมกับใช้มือตีมาที่ขาผมเบา ๆ “หึหึ” “งื้ออ หัวเราะอะไรอ่า หึหึ หยุดเลย” ฉันตีขาคนตัวสูงพร้อมกับใช้มือชี้หน้าพร้อมกับขู่เขาเบา ๆ สักพักเขาก็ตอบกลับมา “หึหึ ก็ตลกอะ แพ็คของมันเครียดกว่าสอนนักเรียนเหรอหน้ายู่หมดแล้วน่ะ แล้วเอากระจกมาดูอะไรอะ” “ก็คิดว่าสภาพดูไม่ได้ปะ ทำงานไปเลย” ผมมองเครื่องปริ้นที่เมียสั่งปริ้นบาร์โค้ดจนตอนนี้มันกองอยู่ที่พื้นเต็มไปหมดเลยหันมาถามเมียแบบงงๆ “แล้วมันเยอะขนาดนี้เลยเหรอ รอบที่สองแล้วนะ” “อือ อันนี้ของวันนี้ อันก่อนหน้านี้คือของเมื่อวานไง” “แล้วถ้ามันเยอะขนาดนี้จะมีเวลาทำเหรอ สอนเด็กด้วยอะนะ” “เดี๋ยวแจ้งลูกค้าไว้หน้าเพจแล้วก็บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่ขายอยู่ แล้วจะทำการ์ดขอบคุณใส่ไปด้วยพร้อมกับของแถม” “อ๋อ งั้นเดี๋ยวช่วยแพ็คก่อน ตอนแรกคิดว่านิดเดียว” ฉันมองคนตัวสูงที่กดเซฟงานแล้วก็ทำท่าจะลงมาเลยรีบบอกเขาออกไป “ไม่ต้องๆ นายทำงานไปเลย เดี๋ยวก็เสร็จ” “เออน่า มาเดี๋ยวช่วย สองคนเร็วกว่าเดี๋ยวเอาไปส่งแล้วจะได้ไปหาอะไรกินด้วย ค่อยกลับมาทำงานฉันแก้นิดหน่อยแป๊บเดียวก็เสร็จแล้ว อันนี้คือเอาใส่ในซองเลยนะ” ผมบอกยัยตัวแสบพร้อมกับใช้มือชี้ไปที่ชุดนอนที่วางอยู่บนซองของไปรษณีย์ บาร์โค้ดที่ปริ้นเสร็จ แล้วก็ของแถมอีกสามสี่อัน แต่ดีหน่อยที่ยัยนี่ทำเป็นกองๆ ไว้ พอแพ็คเสร็จก็โยนรวมกันไว้ในถุงกระสอบแต่มันเป็นลายน่ารักๆ นั่นแหละ “ใช่” “เค” ฉันพยักหน้าก่อนจะช่วยกันแพ็คของกันอยู่พักใหญ่ ๆ จนตอนนี้ท้องฟ้ามืดแล้ว ของที่แพ็คก็เสร็จเรียบร้อยเลยรีบพากันเก็บของเพราะเดี๋ยวจะเอาไปส่งให้ลูกค้า “อยากกินอะไรครับคุณเมีย” ผมหันมาถามยัยตัวแสบที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เพราะตอนนี้ก็เอาของมาส่งให้ลูกค้าเรียบร้อยแล้ว ตอนแรกผมก็เข้าใจว่านิดเดียวเพราะเมียบอกตลอดว่านิดเดียวพอพนักงานนับชิ้นเท่านั้นแหละ 300 ชิ้น แล้วสภาพเมียตอนนี้เหมือนผักป่วยอะ “ฮือ อยากกินหลายอย่างเลยอะ” “หึหึ หิวมากใช่ไหมพูด” “ใช่จ้า หึหึ หิวมากๆ” ฉันลืมตาก่อนจะหันไปมองคนตัวสูงที่ตอนนี้ขับรถมาได้สักพัก “หึหึ อาการเมียขนาดนี้ต้องไปโต้รุ่งหรือจะหมูกะทะ เอาอันไหนพูดมาเลยครับผม” “อือหื้อ รักพี่เสียดายน้องเลยอะ ไปโต้รุ่งดีกว่าเผื่อมีของอย่างอื่นด้วย” “จัดให้ครับผม” ผมขับรถมาสักพักก็ถึงตลาดโต้รุ่งเรียบร้อยแล้วทั้งวัยรุ่นทั้งคนเลิกงานมารวมตัวที่นี่แหละแล้วที่สำคัญของกินเพียบ แล้วถามว่ามีที่จอดไหม ฮึ ที่จอดฟรีเต็มแล้วเรียบร้อยผมเลยมาฝากรถแล้วก็ต้องข้ามกลับไปอีกฝั่ง “อือหื้อ แค่เห็นร้านค้าท้องก็ร้องแล้วอะ” ฉันบอกคนตัวสูงก่อนจะรีบสะพายกระเป๋าก่อนจะพากันลงจากรถคนตัวสูงเลยเดินมาหาแล้วก็ใช้มือโยกหัวฉันเบาๆ “หึหึ งั้นเริ่มเลย” “เย้ ปะ” ผมยิ้มให้ยัยตัวแสบก่อนจะพากันเดินมาแล้วข้ามสะพานลอยที่เพิ่งทำได้ไม่นานเพราะมีอุบัติเหตุบ่อย มันก็หน้าบ่อยอยู่หรอกทั้งคนทั้งรถเต็มไปหมด “มีอะไรอร่อยบ้างอะ” ฉันใช้คล้องแขนคนตัวสูงพอก้าวแรกมาถึงตลาดเท่านั้นแหละ อือหื้อ ยิ่งได้กลิ่นยิ่งหิวแล้วร้านขายของคือเยอะจนตาลายอะ “หึหึ ก็อร่อยหมดนะ งั้นเรากินตั้งแต่ร้านแรกไปเลย” “จะเดินไหวไหมอะ” “หึหึ ถ้าเดินไม่ไหวเดี๋ยวอุ้มกลับเอง แล้วจะกินที่นี่หรือจะเอากลับบ้าน เพราะมันมีที่นั่งกินด้วยนะ” “กินนี่ไปเลยก็ได้เอาบรรยากาศ” “โอเค งั้นเริ่มเลย กินแบบไม่อั้นพี่เปย์เอง” “จ้า” ฉันเดินซื้อขนมแล้วก็ของกินเล่นกันอยู่สักพักเขาก็ถือให้จนมาสะดุดกับร้านก๋วยเตี๋ยวที่ใหญ่มากแล้วลูกค้าก็รอเยอะมากอยู่นะแต่เย็นตาโฟทะเลคือน่ากินอะ ในจังหวะที่กำลังคิดอยู่ก็ได้ยินเสียงของคนตัวสูงที่ลอยขึ้นมา “หึหึ ไป ต้องเดินเข้าแล้วอาการนี้อะ” ผมหันมามองเมียตัวเองที่หยุดแล้วเหมือนจะคิดอะไรเงียบๆอะ แต่อาการมันออกไงว่าอยากกิน พอผมพูดจบยัยตัวแสบก็หัวเราะออกมาเบาๆ “หึหึ รู้ทันหนักมาก” “ก็หน้าเราออกไง” “งั้นเราไปกินก๋วยเตี๋ยวกันเนาะ ข้าวก็มี” ฉันชวนคนตัวสูงเพราะเหมือนจะเป็นร้านเดียวกันแต่ขายหลายอย่างพอเดินเข้ามาก็มีคนลุกพอดีพนักงานเลยเดินมาเก็บโต๊ะแล้วก็ถามเมนูที่จะสั่ง “นั่งก่อนค่ะ รับอะไรดีคะมีทั้งอาหารตามสั่งแล้วก็ก๋วยเตี๋ยวเลยค่ะ” ฉันหยิบเมนูขึ้นมาดูแล้วก็เห็นว่ามีของกินเล่นด้วยเลยสั่งเมนูตามที่อยากกินแล้วก็หันไปถามคนตัวสูงที่วางของที่ซื้อมาไว้บนโต๊ะแล้วก็นั่งลงข้างๆ “เอาเส้นเล็กเย็นตาโฟทะเลพิเศษค่ะ นายกินไรข้าวหรือก๋วยเตี๋ยว” “เอาเหมือนกันแต่ของนี่เอาเส้นหมี่ขาว” “อ๋อ แล้วก็เอาหมี่ขาวเย็นตาโฟทะเลพิเศษอีกหนึ่งค่ะ” “ค่ะ รับน้ำอะไรดีคะ ของกินเล่นก็มีนะคะ” “เอาน้ำเปล่าขวดใหญ่ค่ะ แล้วก็เอาลูกชิ้นกุ้งระเบิด 1 ปอเปี๊ยะ 1 ค่ะ” ผมวางของที่ซื้อมาไว้บนโต๊ะแล้วก็นั่งลงข้างๆยัยตัวแสบพอคนรับออร์เดอร์เดินไปก็ได้ยินเสียงของยัยตัวแสบเรียกขึ้นมา “โย” “หื้อ ว่า” “ลูกชิ้นเราซื้อมาแล้ว ลืมอะ” ฉันสั่งเมนูไปเรียบร้อยแล้วก็หันมามองถุงของกินที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วก็เห็นว่ามีลูกชิ้นทอดอยู่ด้วยแต่ถูกถุงขนมปังทับอยู่ คนตัวสูงใช้แขนโอบเอวฉันไว้พร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆ “หึหึ ก็ไม่เป็นไร อันนี้ก็เอาไปกินที่บ้าน ยังไงก็ทำงานทั้งคืนอยู่แล้วเดี๋ยวเคลียร์ให้เรื่องแค่นี้ กินอะไรรองท้องไหมกว่าจะได้เดี๋ยวก็เป็นลม” ผมบอกกับยัยตัวแสบที่นั่งอยู่ข้างๆ เพราะยังไงผมทำงานดึกมันก็หิวอยู่ดีถ้าไม่หมดก็แช่ไว้พรุ่งนี้ค่อยเอามาอุ่นอันไหนเก็บไม่ได้ก็ทิ้งไป “ไม่เอาอะ เดี๋ยวอิ่ม ตอนนี้น้ำแตงโมจะครึ่งท้องอยู่แล้วจ้า” “อิแตนๆ” “อะไรของมึงวะ” “จารย์มิ้มกับพี่โยนั่งกอดกันกลมอยู่ในร้านนู่นอะ” “อิสัสเอ๊ย กูตกใจหมด อะๆ วันนั้นนั่งรออยู่ในรถวันนี้ลงมาจ่ะ” “หึหึ เห็นมั้ยก็บอกแล้วกูไม่ได้ตาฝาดเค้าอยู่ด้วยกันจริงๆ” “หึ งั้นเรากินร้านนี้กัน” “อย่าเลยมึง นี่มันนอกวิทยาลัยแล้วนะเว้ย อาจารย์เค้าอาจจะอยากมีเวลาเป็นส่วนตัวแล้วเค้าคบกันมาก่อนก็ไม่แปลกนะมึง” “โอ๊ยอิส้ม ไปมึง” ฉันเอาพัดลมตัวเล็กที่เพิ่งซื้อมาเป่าที่หน้าให้ตัวเองด้วยให้คนตัวสูงด้วยเพราะร้อนเอาเรื่องอยู่นะ สักพักเขาก็จับมือฉันข้างที่ถือพัดลมเป่าให้เขาอยู่หันกลับมาที่หน้าของฉันแล้วพูดออกมาเบาๆ “ไม่ต้องเป่าให้หรอก เป่าให้ตัวเองไปเลยไม่ร้อนหรอก” ผมบอกยัยตัวแสบที่สลับพัดลมมาเป่าให้ เพราะตอนนี้ก็ยังนั่งรออยู่เลย พอจังหวะที่กำลังบ่นพนักงานที่ร้านก็เอาของกินเล่นที่สั่งไปกับน้ำพร้อมกับแก้วมาให้ “ไม่ร้อนหรอก แต่เหงื่อออกเต็มไปหมดแล้วน่ะ” ฉันหัวเราะออกมาแล้วก็หยิบทิชชูที่ซื้อมาจากร้านเดียวกันนี่แหละมาเช็ดที่กรอบหน้าให้้เขา แล้วคือปากแข็งด้วยนะ “ก็นี่ทนร้อนได้แต่เมียห้ามร้อนไง” “ขอบคุณนะจ๊ะ” ผมนั่งยิ้มให้ยัยตัวแสบพร้อมกับใช้เลื่อนมือขึ้นมาลูบที่หัวของเมียเบา ๆ แล้วก็ได้ยินเสียงคนเรียกชื่อเมียขึ้นมาพอเงยหน้าขึ้นไปมองก็เห็นว่าเป็นผู้หญิงกลุ่มหนึ่งเรียนอยู่ที่เดียวกันนี่แหละแต่คนละสาขาแน่ๆ ถ้าถามว่ารู้ได้ไงอะเหรอเพราะตอนนี้มันก็ยังใส่ชุดนักเรียนกันอยู่เลยรู้ แล้วยัยนี่จะคิดมากไหมวะ ถ้าเมียคิดมากนะจะด่าให้เข็ด แต่พอได้ยินเสียงเมียตอบกลับไปก็เลยหัวเราะในลำคอเบาๆ “อาจารย์มิ้มสวัสดีค่ะ” “ค่ะ มากินข้าวกันเหรอ รีบจองโต๊ะนะคนเยอะมาก อาจารย์มาก่อนเรายังไม่ถึงคิวเลย ตอนแรกอาจารย์จะชวนนั่งด้วยแต่ของอาจารย์เยอะมากเลยไม่สะดวก” “อ๋อ ค่ะ แล้วพี่โยกับอาจารย์เป็นแฟนกันเหรอคะ” “ใช่ค่ะ คบกันนานมาสักพักก่อนอาจารย์จะมาทำงานที่นี่ โยแนะนำให้ลองสอบดูแล้วบังเอิญว่าได้” “อ๋อเหรอคะ หนูคิดว่าเพิ่งคบกัน” ฉันตอบแบบยิ้มๆ ใจจริงก็ไม่อยากจะโกโหหรอกนะ แต่ก็ยังไงดีละ เพราะคนตัวสูงที่นั่งอยู่ข้างๆก็พูดกับอาจารย์แม่แบบนี้เหมือนกันเรื่องมันจะได้ไปในทางเดียวกัน พอฉันพูดจบก็ได้ยินเสียงของคนตัวสูงถามเด็กตรงหน้าที่มาทักออกไปด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าไม่ได้ชอบอะ “ใช่แตนที่เรียนบัญชีแฟนไอ้ปอช่างก่อใช่ไหมเธออะ” ผมขมวดคิ้วมองอยู่สักพักก็เหมือนจะนึกขึ้นมาได้เลยหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าแล้วก็เปิดรูปแฟนอิคนที่เดินมาทักยัยตัวแสบแล้วหันไปหาพร้อมกับถามออกไปด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดหน่อย ๆ “อ๋อ ใช่ค่ะ พี่โยรู้จักหนูด้วยเหรอคะ” “หึ รู้จักผัวเธอนั่นแหละ ฝากไปบอกมันด้วยให้เอาเงินค่าแต่งลายรถเอามาให้ภายในวันอาทิตย์นี้สองหมื่น ไม่งั้นทองที่มาจำไว้สองบาทเป็นของฉันตามที่ตกลง ทักไปก็เงียบมันจะเอาไงให้รีบติดต่อกลับมา แล้วให้มันเป็นคนติดต่อมานะเธอไม่ต้องเดี๋ยวเมียฉันไม่สบายใจ” “อ๋อ ค่ะ งั้นหนูขอตัวก่อนนะคะอาจารย์มิ้ม” ฉันพยักหน้าพร้อมกับยิ้มให้แล้วเด็กตรงหน้าจากนั้นก็พากันไป คือเดินออกไปนอกร้านเลยอะ ฉันเลยหัวเราะออกมาพร้อมกับหันหน้ามาถามคนตัวสูงที่นั่งอยู่ข้างๆ “หึหึ ทวงเงินจนเขาไม่มีอารมณ์กินข้าวแล้วน่ะ” “หึ หมั่นไส้ เสือกอยากจะรู้เรื่องคนอื่นดีนักแต่เรื่องของผัวตัวเองไม่รู้ นี่ใจดีแล้วมากแล้วนะ ดีไม่พูดเสียงดังจนคนในร้านได้ยินแล้วทำไมวะ เป็นอาจารย์จะมีผัวไม่ได้ต้องโสดสนิทเหรอ ฉันเห็นอาจารย์แม่มีลูกสามคนละไม่เห็นมีใครอยากจะรู้” ผมมองหน้าเมียตัวเองแล้วก็ถามออกมาแบบที่ใจตัวเองคิด คือ อาจารย์ก็สอนอยู่ในรั้วของโรงเรียนปะ แล้วพอกลับบ้านก็ต้องมีครอบครัวใช้ชีวิตตามปกติ มีแฟนมีผัวแล้วเหมือนเป็นเรื่องที่ผิดอะ “หึหึ อาจจะเป็นแค่เราสองคนมั้งก็นายเป็นนักศึกษาแล้วฉันเป็นอาจารย์สอนไง เขาเลยอาจจะมองว่าไม่สมควรซึ่งคนทั่วไปก็อาจจะคิดแบบนี้” “หึ ให้มันไปเสือกเรื่องของผัวตัวเองเถอะ จะอาจารย์จะนักศึกษามันก็คนเหมือนกันแล้วถ้าผัวมันไม่เอาเงินมาใช้เดี๋ยววันจันทร์เธอใส่ทองของผัวมันไปแล้วเจอหน้ามันบอกมันไปเลยนะว่า สรุปผัวเราไม่ได้เอาเงินมาให้ผัวอาจารย์เนาะ วันนี้คออาจารย์เลยเหมือนจะหนักๆ” ฉันหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่พร้อมกับใช้มือตีที่ไหล่ของคนตัวสูงเบา ๆ แล้วบอกเขาออกไปด้วยน้ำเสียงที่ปกติ “หึหึ ร้ายมาก แล้วใครเขาจะคิดอะไรก็ปล่อยเขาไปเถอะ มันก็แบบนี้แหละเราอยู่ในจุดที่ทุกคนพูดถึงหรือแสดงความคิดเห็นได้ ใครจะมาชอบเราทุกคนคุยกันต่อหน้าเราพูดดีด้วยหันหลังเขานินทาก็เยอะแยะ ช่างมันเถอะปล่อยไปเขายังไม่ได้พูดอะไรที่ดูไม่ดี แล้วเราก็คบกันจริงๆ เราก็ต้องยอมรับนั่นแหละ” “ก็เธอใจดีเกินไปไงแบบพวกมันอะต้องเจอฉัน แล้วนั่งจนจะเป็นลมแล้วเรายังไม่ได้กินอีก” “หึหึ โมโหหิวใช่ไหมเราอะ” “หึหึ ใช่ ยิ่งโมโหยิ่งหิว ดีนะเป็นผู้หญิง ถ้าเป็นผู้ชายกระทืบมันไปละ” “นู่น ๆ ของเรามาแล้ว” ยัยตัวแสบเขย่าแขนผมเบาๆพร้อมกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดีใจมากอะ แล้วยัยนี่ก็ดูไม่ได้โกรธอิพวกนั้นด้วยนะ อืม เมียผมใจดีเกินไป ได้ผมเป็นผัวก็ถูกแล้วแหละ “อือหื้อ เยอะมากอะ” “หึหึ ก็เราสั่งพิเศษไง” ฉันมองถ้วยก๋วยเตี๋ยวของตัวเองแล้วรู้เลยว่ากินไม่หมดแน่ๆ เลยตักพวกลูกชิ้นแล้วก็เนื้อสัตว์ต่างๆให้เขาพร้อมกับได้ยินเขาที่สวนมาอย่างเร็ว “หยุดเลย กินเข้าไปเลยมันไม่ได้เยอะขนาดนั้นสักหน่อย ตัวก็แค่นี้เดี๋ยวลมพัดก็ปลิวไปหรอก” “หึหึ บ้า เดี๋ยวกินไม่หมดยังมีของกินเล่นที่สั่งมาอีก” ผมมองตามมือของเมียที่ชี้ไปที่จานของกินเล่นที่สั่งมาเลยหันมาบอกยัยตัวแสบที่นั่งอยู่ข้างๆ “ก็ช่างมัน อยากกินแค่ไหนก็กินแค่นั้น ไม่หมดก็คือไม่หมด กินเลยถ้าคิดเยอะจะไม่พามาอีกละ” “จ้า รับทราบแล้วจ้า” “หึหึ ดีมากครับผม” “เผด็จการ” ฉันบอกคนตัวสูงพร้อมกับแลบลิ้นใส่เขาทีหนึ่งก่อนจะได้ยินเขาหัวเราะแล้วถามกลับมา “หึหึ ให้เมียกินเยอะๆนี่เรียกว่าเผด็จการแล้ว” “ใช่แถมขู่ไปอีก ถ้าคิดเยอะจะไม่พามาอีกละ” ผมมองยัยตัวแสบที่เลียนแบบเสียงแล้วก็พูดประโยคที่ผมพูดออกไปเมื่อกี้ผมเลยหัวเราะออกมาเบาๆแล้วตอบเมียกลับไป “หึหึ ก็ได้แค่ขู่ปะ ถ้าเมียจะมาจะขัดได้เหรอ” “จำไว้ด้วยเลยพูดแล้วอะ” “จำทำไม เพราะทำให้อยู่แล้ว” “อือหื้อ ไม่ต้องกินมันละก๋วยเตี๋ยวอะ” ฉันบอกเขาพร้อมกับวางช้อนกับตะเกียบลงในชามแล้วหันมามองคนตัวสูงที่ถามออกมาแบบงงๆ “ทำไมอะ” ผมมองเมียที่ตอนนี้วางช้อนกับตะเกียบแล้วก็กอดอกมองมาทางผม หรือพูดอะไรผิดวะพอได้ยินเมียตอบกลับมาเท่านั้นแหละ “เอ้า ถูกสาคลั่งรักขนาดนี้อิ่มเลยจ้า หึหึ ร้อนเหรอหูแดงๆนะ” ฉันหัวเราะออกมาพร้อมกับใช้นิ้วชี้ไปที่หูของเขาที่ตอนนี้มันเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆจนเห็นชัดอะ “หึหึ เดี๋ยวจะโดน กินเลยเราอะ เส้นอืดหมดแล้วมั้ง” “เออใช่” ผมเริ่มนั่งกินกันไปสักพักยัยตัวแสบก็ใช้ส้อมจิ้มลูกชิ้นกุ้งระเบิดมาให้ “ลองชิม อร่อยมากไม่ค่อยมีแป้งด้วยอะ ชิมๆ อร่อยมั้ย” ฉันถามคนตัวสูงที่กินลูกชิ้นกุ้งระเบิดเข้าไป คือ ทุกคนมันอร่อยมากตามร้านทั่วไปมันจะเหมือนมีแป้งอยู่เยอะแต่ร้านนี้คือเนื้อเต็มๆ ดีแบบตะโกนอะ อืม ต้องมาบ่อยๆ คนตัวสูงพยักหน้าพร้อมกับยิ้มให้แล้วตอบกลับมา “อืม อร่อย” “เนาะ มันดีมากอะ ติดดาวร้านนี้ไว้แล้วหนึ่ง” ผมยิ้มพร้อมกับหัวเราะในลำคอพร้อมกับใช้มือจับที่หัวของเมียแล้วโยกไปโยกมาเบาๆ และบอกยัยตัวแสบที่ดูชอบลูกชิ้นมากกว่าก๋วยเตี๋ยวอีกมั้งตอนนี้ “หึหึ ชอบก็กินเยอะๆด้วยเลย ไม่พอก็สั่งเพิ่มเขาทอดแป๊บเดียวรอไม่นานเหมือนก๋วยเตี๋ยวหรอก” “หึหึ เบรกมั่งเถอะ ให้กินอย่างเดียวเลยเนาะ” “เอ้า ก็เมียชอบ เดี๋ยวจะพามากินจนเบื่อไปเลย” “ฮืออ ขอบคุณความใจดีที่มีให้กันด้วยจ้า” “หึหึ ก็มีเมียคนเดียวก็ต้องใจดีสิ จ้องจนตาจะหลุดออกมาตั้งแต่วันแรกละ แล้วเมียไม่รู้นะเมินผัวเก่งมาก” “ฮ่าๆ เธอ ลูกชิ้นกุ้งเกือบติดคอเลยอะ” “หึหึ” ฉันบอกคนตัวสูงก่อนจะพากันหัวเราะออกมาเบาๆ พอกินกันเสร็จเรียบร้อยแต่ถามว่าหมดไหมก๋วยเตี๋ยวอะไม่หมดแต่ของกินเล่นหมดจ้า พร้อมกับสั่งลูกชิ้นกุ้งระเบิดกลับมาบ้านอีกด้วยจ้า มันดีอะแม่หยุดไม่ได้จริงๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม