“หึหึ ไหวไหมพูด”
ผมจอดรถข้างตึกเรียบร้อยแล้ววันนี้ก็แต่งกายชุดนักศึกษาเรียบร้อยนะครับผม เพราะวันนี้มีปฐมนิเทศก่อนออกฝึกงานแล้วพอหันมองหน้าเมียตัวเองเท่านั้นแหละ
“หึหึ ไหว พรุ่งนี้ก็วันเสาร์ละ เดี๋ยวต้องสั่งงานเด็กห้อง ปวช. 2/1 ด้วยนะเนี่ย”
“อ้าว ไม่สอนเหรอ”
ฉันดูชีทอีกรอบก่อนจะเดินลงจากรถแล้วหันหน้ามาถามคนตัวสูงที่ล็อกรถแล้วยืนอยู่ข้างๆ
“ที่ปรึกษาก็ต้องขึ้นไปด้วยสิคะนักศึกษา แล้วยังต้องไปถ่ายรูปกิจกรรมวันนี้ด้วยค่ะ”
“หึหึ เออ ลืม”
ผมเดินตามยัยตัวแสบมาที่ห้องแล้วก็เห็นเมียเขียนสั่งงานไว้ให้น้องพอเขียนไปสักพักก็หันมาบอกผมที่ยืนกอดอกอยู่ข้างหลัง
“เอาชีทในกระเป๋าผ้ามาวางไว้โต๊ะข้างหน้าให้หน่อย บอกเพื่อนในกลุ่มด้วยนะอย่าสาย”
ฉันบอกคนตัวสูงที่ยืนอยู่ข้างหลังเสร็จก็กลับมาเขียนงานบนกระดานเหมือนเดิมแล้วก็ได้ยินเสียงของคนตัวสูงพร้อมกับโน้มหน้ามาหอมแก้มฉันเบาๆ
ฟอดดด!!
“รับทราบครับคุณเมีย”
ผมหอมแก้มยัยตัวแสบแรงๆไปหนึ่งที หลังจากนั้นไม่นานก็
ปั่ก!
“เดี๋ยวจะโดน”
ฉันกำหมัดพร้อมกับต่อยไปที่หน้าท้องของคนตัวสูงแรงๆก่อนจะใช้ปลายปากกาชี้ไปที่คนตัวสูงพร้อมขู่เขาเบาๆ
“โอ๊ะ หึหึ น่ากลัวมากเลยเนาะ”
ผมใช้มือจับที่หัวของยัยตัวแสบพร้อมกับโยกไปโยกมาเบาๆ แล้วก็เดินไปหยิบชีทในกระเป๋าผ้ามาวางไว้พร้อมกับพิมพ์ไปตามเพื่อนในแชทห้อง พอเสร็จเรียบร้อยก็ถามเมียขึ้นมาอีกรอบ
“เธอยังไม่เคยเจอห้องนี้เลยไม่ใช่เหรอ”
ฉันเขียนเสร็จก็ปิดฝาปากกาเมจิแล้วหันมาหาคนตัวสูงพร้อมกับพยักหน้าเบาๆ
“อืม ใช่”
“แล้วน้องจะทำเป็นเหรอ”
“ให้ทำขั้นตอนตามในชีทไงแล้วพอได้ชิ้นงานออกมาก็ให้อัพส่ง ในชีทอธิบายไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ที่สำคัญถ้าทำไม่ได้ก็มีคิวอาร์โค้ดหลังชีทพอสแกนไปจะมีวีดีโอขั้นตอนให้ทำตาม ถ้าทำไม่ได้ฉันต้องให้เด็กมาติวเข้มแล้วแหละ”
ผมหยิบชีทที่ยัยตัวแสบทำมาตั้งแต่เมื่อวานว่าอยู่ว่านั่งทำอะไรตอนที่ผมแก้งานลูกค้า ผมพยักหน้าก่อนจะหันหน้ามามองเมียตัวเองแล้วถามออกไป
“อืม ทำไมตอนฉันเรียนไม่มีอะไรแบบนี้มั่งวะ”
“หึหึ ไปข้างนอกได้แล้ว เดี๋ยวเอากุญแจไปให้หัวหน้าห้อง ๆ นี้ไว้ เอากล้องก่อน”
“แล้วไม่เอากระเป๋าไปเหรอ”
ผมเดินตามยัยตัวแสบมาที่โต๊ะทำงานแล้วก็ชี้ไปที่กระเป๋าของเมียที่วางอยู่
“เอาไปสิคะเธอ ใครจะบ้าวางไว้ เดี๋ยวฝากกับพวกแปม”
ฉันบอกคนตัวสูงพร้อมกับเช็คกล้องถ่ายรูปไปด้วยก่อนจะหัวเราะเบา ๆ หลังได้ยินเขาตอบกลับมา
“ผัวเธอก็อยู่ปะ ผัวอยู่ยังฝากกับคนอื่นเดี๋ยวจะโดน แล้วไม่ต้องสนิทกับมันมากด้วยพวกไอ้แปมอะ”
“หึหึ ทำไมอะน้องน่ารักดีออก”
ผมมองยัยตัวแสบที่หันกลับมาแล้วถามออกมาแบบงง ๆ ผมหัวเราะออกมาเบา ๆ พร้อมกับใช้แขนรั้งคอยัยตัวแสบให้เข้ามาหาก่อนจะบอกกับเมียออกไปด้วยเสียงจริงจัง
“หึหึ ผัวเธอน่ารักกว่าปะ ใครน่ารักกว่าผัวหรือลูกศิษย์ รีบพูดเลยไม่งั้นก็ไม่ปล่อยยืนกอดกันอยู่แบบนี้แหละ”
“ปล่อยเลยเดี๋ยวคนอื่นมาเห็น จะไปสแกนนิ้วเข้างานด้วย”
“ตอบก่อน ไม่งั้นก็ไม่ปล่อย”
“จ้าๆ ผัวก็ต้องน่ารักกว่าอยู่แล้วจ่ะ ปล่อยเลย”
“หึหึ”
ฉันใช้แขนดันแถวๆหน้าท้องคนตัวสูงให้ปล่อยก่อนจะพากันเดินออกมาจากห้องเรียนแล้วก็ตรงมาสแกนลายนิ้วมือสักพักก็ได้ยินเสียงเขาเรียกรุ่นน้องคนหนึ่งขึ้นมา
“ไอ้ฝ้าย!”
“คะพี่โย สวัสดีค่ะอาจารย์มิ้มวันนี้หนูจะได้เรียนกับอาจารย์แล้ว”
ผมมองไอ้ฝ้ายที่วิ่งมาแล้วก็ใช้แขนกอดเอวยัยตัวแสบเอาไว้แน่น ๆ แล้วทำไมใครต้องชอบกอดเมียผมวะ ต้องบอกกับเมียใหม่ละ
“หึหึ ถ้าอาจารย์ลงมาทันนะจ๊ะ เพราะอาจารย์ต้องขึ้นหอประชุมกับพวกพี่เขาแล้วก็ถ่ายรูปกิจกรรม เดี๋ยวเราเอากุญแจไปเปิดห้องแล้วพาเพื่อนทำงานชีทบนโต๊ะแจกเพื่อนให้อาจารย์หน่อยนะ แล้วอาจารย์เขียนรายละเอียดไว้บนกระดานแล้ว เพราะอาจารย์จะต้องขึ้นไปกับพี่ ปวส. 2 ถ้าอาจารย์ลงมาไม่ทันเราฝากกุญแจไว้ที่อาจารย์เมย์นะจ๊ะ”
“ได้จ้า เอาเบอร์หนูไว้ไหมเผื่อโทรหาหนู”
“เอา ๆ เกือบลืมเลยนะเนี่ย”
ฉันยิ้มให้เด็กตัวน้อยพอแลกเบอร์โทรศัพท์กันเสร็จเด็กตัวเล็กก็สิ่งไปหาเพื่อนพร้อมกับได้ยินเสียงคนตัวสูงถามขึ้นมา
“ให้น้องมันกอดทำไม”
“เอ้า ไม่เห็นแปลกเลยนะ”
“แปลก”
ผมกอดอกพร้อมกับทำหน้าจริงจังจนยัยตัวแสบถามขึ้นมา
“แปลกยังไง”
ฉันขมวดคิ้วก่อนจะถามคนตัวสูงออกไปแล้วพอได้ยินคำตอบเท่านั้นแหละ
“เวลาผัวเธอกอดเธอเอามือดันแขนผัวเธอออกปะ ไม่เห็นลูบหัวเหมือนเด็กนักเรียนของเธอเลย”
“หึหึ งั้นนายก็เปลี่ยนมาเป็นลูกศิษย์ฉันไหมล่ะ”
“ทำไมต้องเป็นลูกศิษย์ เดี๋ยวกลับบ้านก่อนเถอะฉันจะกอดจนเธอหายใจไม่ออกเลย”
“หึหึ ไอ้บ้า”
พอกิจกรรมเข้าแถวเสร็จเรียบร้อยนักเรียนที่ออกฝึกงานเทอมนี้ก็เข้าแถวแล้วขึ้นไปที่หอประชุมแล้วยิ้มได้หน่อยเพราะห้องฉันไม่ดื้อแล้วมากันคบจ้า
“ฝากกระเป๋าหน่อยไปถ่ายรูปก่อน เด็ก ๆ ห้ามเล่นโทรศัพท์กันนะคะ ไม่นานเดี๋ยวก็เสร็จแล้วโอเค้”
“เค”
“ค่ะอาจารย์/ครับอาจารย์”
ผมพยักหน้าแล้วก็หยิบกระเป๋ายัยตัวแสบมาไว้บนตักสักพักผู้อำนวยการก็เปิดพิธีแล้วก็พูดกับพวกผมโดยที่ตอนนี้เมียผมก็ถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ บอกนักเรียนไม่ให้คุยนะแต่ตัวเองคือใครทักอะไรก็ยิ้มแล้วคุยหมดส่วนมากก็เป็นอาจารย์ด้วยกันที่ทักนั่นแหละ
“ไอ้โยอาจารย์เราดูสนิทกับอาจารย์ทุกคนจังวะ”
“หึหึ เออ เดี๋ยวกูจะแนะนำให้ไปลงสมัครเลือกตั้งละ อาการนี้ถ้าไม่ได้กูจะจับขังให้เข็ด อยู่มาสามวันรู้จักทุกคนยิ่งกว่ากูที่เรียนมา 5 ปีอีก”
“พรืดด”
ฉันถ่ายรูปไปสักพักก็ยืนฟังสิ่งที่อาจารย์แต่ละคนออกมาพูดด้วยพอยืนไปสักพักก็ได้ยินเสียงนักศึกษากลุ่มหนึ่งเรียกขึ้นมา
“อาจารย์มิ้มคะ”
“คะ”
“หนูขอไปเข้าห้องน้ำได้ไหมคะ”
“เดี๋ยวอาจารย์ลองไปถามอาจารย์คนอื่นให้นะคะ”
ฉันยิ้มก่อนจะเดินไปกระซิบถามอาจารย์แม่พออาจารย์แม่บอกว่าได้ก็มาบอกเด็กหลังจากนั้นกิจกรรมก็จบลงเลยเดินมาหาหาที่ปรึกษาของตัวเอง
“เดี๋ยวพวกเราไปเจอกันที่ห้องนะคะ อาจารย์แม่จะคุยกับพวกเราด้วยแป๊บเดียวไม่นาน ฝากบอกเพื่อนทุกคนด้วยนะ”
พวกไอ้แปมบอกเพื่อนเสร็จเรียบร้อยก็พากันไปที่ห้องของยัยตัวแสบที่ตอนนี้เป็นห้องประจำพวกผมนั่นแหละ พอลงมาก็เกือบเที่ยงน้องเอากุญแจมาส่งให้แล้วตอนนี้พวกผมก็อยู่ในห้องโดยที่อาจารย์แม่เริ่มพูดกับทุกคน
“นี่ไอ้แสบทั้งหลายเราเริ่มฝึกงานวันจันทร์กันแล้วนะหยุดนี้อย่ามัวแต่ไปเที่ยวกันอยู่ล่ะ แล้วถ้ามีอะไรหรือสถานประกอบการมีปัญหาอะไรตรงไหนบอกอาจารย์มิ้มมาได้เลยแล้วอย่าลืมทำสไลด์นำเสนอรวมทั้งรูปเล่มฝึกงานด้วยนะจ๊ะเด็กๆ”
“ค่ะอาจารย์แม่”
“แล้วอย่าไปสาย ดูแลและรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองให้ดีเดี๋ยวเจอกันตอนอาจารย์ไปตรวจเยี่ยมนะ วันนี้อาจารย์ก็มีแค่นี้แหละเป็นห่วงเลยมาหาก่อนเดี๋ยวจะไปคุยกับน้อง ปวช.3 ด้วย งั้นอาจารย์ไปก่อนนะ เดี๋ยวเราก็คุยกับที่ปรึกษาเราต่อ”
“สวัสดีค่ะอาจารย์แม่”
ฉันยกมือไหว้อาจารย์แม่พร้อมเด็ก ๆ แล้วก็หันมามองที่ปรึกษาตัวเองก่อนจะเริ่มพูดกับทุกคน
“อาจารย์ก็เป็นกำลังใจให้ทุกคนเลยนะคะในการฝึกประสบการณ์ แล้วถ้ามีปัญหาหาอะไรไม่ต้องเกรงใจนะไลน์มาบอกในกลุ่มได้เลยหรือถ้าใครมีเรื่องที่สำคัญก็โทรมาได้เลยค่ะอาจารย์พร้อมให้คำปรึกษาอยู่ตลอด ที่ปรึกษาของพวกเราจะอยู่ข้างๆเราเสมอนะไม่ต้องกังวล ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่บอกอาจารย์ได้เลย”
“งื้อออ อาจารย์มิ้มอะ หนูจะร้องไห้”
“หึหึ หยุดเลยเราอะ งั้นวันนี้เดี๋ยวทุกคนไปกินข้าวแล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้านไปพักผ่อนนะคะ แล้วเจอกันอาทิตย์ที่กลับมานะจ๊ะ ถ้ามีอะไรทักบอกอาจารย์ได้ตลอดเลยนะ ที่สำคัญทุกการทำงานให้ทุกคนถ่ายรูปการทำงานไว้ด้วยนะคะถ้าไปกับเพื่อนก็สลับกันถ่าย”
“จ้าาา”
“หึหึ งั้นแยกย้ายกันได้เลยนะคะ”
“สวัสดีค่ะอาจารย์มิ้ม/สวัสดีครับอาจารย์มิ้ม”
“พวกกูไปก่อนนะไอ้โย แล้วเจอกันวันจันทร์ครับเจ้านาย”
“หึหึ เออ เจอกัน”
ผมมองเพื่อนที่ทยอยออกจากห้องไปหมดแล้วเลยให้มือลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ ยัยตัวแสบที่เหมือนจะทำงานเลยถามออกไปแบบงงๆ
“แล้วไม่ไปกินข้าวเหรอ”
“ไป แต่เดี๋ยวไปตอนบ่ายตอนนี้คนเยอะแน่ๆ เดี๋ยวเอารูปลงคอมฯแล้วปรับสีนิดหน่อยจะไปเอาลงเพจของวิทยาลัย นายไปกินข้าวแล้วกลับไปนอนที่บ้านไป”
ฉันบอกคนตัวสูง เพราะเขาทำงานดึกมาสองคืนติดกันอีก ฉันดูรูปที่หน้าจอคอมฯแล้วก็เริ่มเลือกภาพอันไหนไม่ใช้ก็ลบออก
“ก็รอกลับพร้อมกันอยู่ดี แล้วตอนบ่ายไม่มีสอนไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ ไปกินข้าวเสร็จก็จะเริ่มมาทำบรรจุภัณฑ์”
“มางั้นเดี๋ยวทำให้จะได้ไปกินข้าว”
ผมบอกยัยตัวแสบก่อนจะลุกขึ้นแล้วเลื่อนเก้าอี้มาอยู่ข้างๆและดึงเก้าอี้ตัวเองมานั่งอยู่ตรงโต๊ะคอมฯแทน พอเลือกรูปเสร็จก็กดเข้าโปรแกรมไลท์รูมแล้วก็เปิดภาพทุกภาพขึ้นมาก่อนจะเริ่มปรับสี
“นายถนัดโปรแกรมนี้ด้วยเหรอ”
ฉันนั่งดูเขาทำไปเรื่อยๆพร้อมกับยกมือขึ้นมาเท้าคางแล้วเขาทำเร็วมากด้วยนะสักพักก็ได้ยินเขาตอบกลับมา
“ก็เคยเป็นช่างภาพรับถ่ายรูปอะไรพวกนี้แหละตอน ปวช.1 ไปงานนอกบ่อยจนอาจารย์แม่หัวจะระเบิดอะ หึหึ”
ผมหันมามองยัยตัวแสบที่นั่งอยู่ข้าง ๆ พร้อมกับใช้มือลูบหัวเมียเบา ๆ และกลับมาปรับสีของภาพต่อ
“หึหึ แล้วทำไมเลิกทำล่ะ ได้เงินเยอะนะ เพื่อนฉันก็รับงานแบบนี้แหละ”
“มันดีแหละ แต่ปัญหามันเยอะเวลาไปถ่ายงานลูกค้าผู้หญิงผัวของลูกค้าชอบมีปัญหา มันเหนื่อยเดินทางด้วยเลยไม่ได้รับถ่ายภาพบุคคลแล้ว ตอนนี้ที่ร้านรับถ่ายพวกภาพสินค้าต่างๆ ลูกค้าส่วนมากมาถ่ายพร้อมกับทำสื่อโฆษณาทางออนไลน์แล้วก็ป้ายไวนิลด้วย ไม่ต้องเหนื่อยเดินทางแล้วก็ไม่ต้องมีเรื่องกับผัวของลูกค้าด้วยไง อีกอย่างคนก็หันมาเล่นกล้องกันเยอะ ฉันว่าฉันตัดสินใจถูกละ”
“อือ ก็จริง เพราะไม่ต้องเดินทางไปข้างนอก”
ฉันพยักหน้าเห็นด้วย เพราะคนสมัยนี้เล่นกล้องกันเยอะขึ้นแล้วถ่ายรูปสวยเยอะแยะไม่จำเป็นต้องจ้างตากล้องแล้วต้องเป็นงานที่สำคัญจริงๆอะ พวกงานแต่ง งานบวช งานรับปริญญาอะไรแบบนั้นถึงจะจ้างตากล้อง สักพักก็ได้ยินเสียงของคนตัวสูงพูดขึ้นมาอีกรอบ
“แล้วถ้าฉันทำอยู่แล้วเจอเธอฉันก็เลิกทำอยู่ดี”
ผมปรับสีรูปภาพเสร็จเรียบร้อยก็บันทึกภาพและได้ยินเสียงยัยตัวแสบพูดขึ้นมา
“หื้ม ฉันไม่ได้ห้ามสักหน่อยถ้านายจะทำ”
“หึหึ ไม่ เดี๋ยวเป็นปัญหาครอบครัว รายได้ที่ทำอยู่มีตั้งหลายช่องทาง ก็ต้องเลือกทางที่ทำให้เมียสบายใจดิครับผม เวลามีผู้หญิงทักมาจะมีเมียใครสบายใจแล้วถ้าลูกค้ายิ่งโสดยิ่งไปใหญ่ ดีนะไหวตัวทันก่อนมีเมีย”
“หึหึ จ้า พ่อคนวางแผนอนาคต”
“ใช่แล้วครับผม อัพลงเลยปะ”
“อือ อัพเลยเข้าเฟสฉันอะพี่กอล์ฟจัดการให้ฉันเป็นคนดูแลเพจเรียบร้อยแล้ว”
“งั้นเข้าเลย”
ผมบอกยัยตัวแสบพอกดเข้าเฟสของเมียก็ไปกดที่เพจของวิทยาลัยหลังจากนั้นก็อัพรูปภาพพอเสร็จเรียบร้อยกำลังจะออกจากระบบแล้วก็มีข้อความเด้งขึ้นมาพอดี
[มิ้ม เราคิดเธอนะ เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม เรารู้แล้วว่าไม่มีใครรักเราเท่ามิ้มอะ]
“คือ”
ฉันมองคนตัวสูงที่กดส่องโปรไฟล์ของคนที่ทักมาแล้วตอนนี้หน้าคนข้าง ๆ ก็ไม่ไหวแล้วอะ แต่อารมณ์ฉันก็ไม่ต่างจากเขาหรอก
“แฟนเก่า เลิกไปสองปีแล้วบล็อกมันไปแล้วด้วยเฟสใหม่มันมั้ง มา เดี๋ยวตอบมันเอง”
ผมมองยัยตัวแสบที่นั่งอยู่ข้าง ๆ แล้วถ้าอยู่ใกล้กันนะไอ้สัสนี่ที่ทักมาไม่รอดแน่ทักมาหาเมียคนอื่นไปทั่ว ผมที่กำลังอารมณ์ขึ้นอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงของเมียเรียกขึ้นมา
“ดู จะได้ไม่เป็นปัญหาแล้วไม่มีหลังไมค์เพราะจะบล็อกเลยไม่เก็บไว้”
[ไม่ แม้แต่ความเป็นเพื่อนก็คิดว่าไม่มี ตอนนี้ฉันมีผัวแล้วไม่ได้ประชดมีผัวจริง ๆ แล้วตอนนี้ผัวก็นั่งอยู่ด้วย ขออนุญาตบล็อกนะ เพราะผัวปัจจุบันไม่สบายใจเป็นอย่างมาก จะทักมาก็แหกตาดูสถานะด้วย]
ฉันชี้ไปที่จอแล้วก็เห็นว่าแฟนเก่าฉันมันอ่านแล้วก็บล็อกมันไปเลยไม่ได้เป็นบุคคลที่สำคัญอะไรที่ต้องเก็บไว้
“หึหึ อารมณ์ดีขึ้นมาเลยครับคุณเมีย แล้วเลิกกันไม่ดี”
“หึ มันคบซ้อนมาสองปีเลิกดีได้ไหมละนายว่า ตอนแรกจะพิมพ์ว่า ไปตายซะ สามคำสั้น ๆ แต่ถ้ามันตายขึ้นมาจริง ๆ จะตามมาหลอกหลอนฉันอีก ปะ กินข้าว”
ผมหัวเราะออกมาก่อนจะมองหน้าเมียตัวเอง ที่เหมือนจะดูหวาน ๆ แต่ก็ดูสู้คน แล้วก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรผมลุกขึ้นพร้อมกับหัวเราะแล้วบอกยัยตัวแสบกลับไป
“หึ ฉันยังไม่ได้หึงเลยปะ แบบอารมณ์เสียเพราะมีผู้ชายทักมาหาเมียตัวเองแล้วก็โกรธเมียไม่คุยด้วยอะไรแบบนั้นอะ เธอไม่เว้นจังหวะให้ผัวเธอหึงบ้างเลยเหรอ วันหลังให้ต่อมหึงของผัวได้ทำหน้าที่มันด้วยนะครับ หึหึ”
ฉันหยิบกระเป๋าของตัวเองพร้อมกับเงยหน้ามองคนตัวสูงก่อนจะหัวเราะแล้วตอบเขากลับไป
“หึหึ ไอ้บ้า ไปกินข้าวเร็ว ๆ ไม่งั้นฉันนี่แหละจะโมโหนาย”
“เชิญครับคุณเมีย ไปกินข้างนอกเถอะในศูนย์อาหารตอนนี้คนแน่นกว่าจะได้กินแล้วก็ร้อนด้วย”
“เค”