สิงห์คำหัวเราะลั่น อีเมียคนนี้นอกจากเอามันส์แล้วยังปากคอฉอเลาะดีจริงๆ
เพี๊ยะ!
เขาตบสะโพกหล่อน จับโก้งโค้งขึ้น ยกแก่นกายใหญ่ๆ ตีที่ก้นขาวๆ ไม่กี่แปะมันก็คึกคักรัดตัวแข็ง ก่อนที่สิงห์คำจะยัดดุ้นแข็งเกร็งเข้าไปกระแทกใส่ความอวบฟิตของฟองแก้วเสียงดังสนั่น
ปั้ก! ปั้ก! ปั้ก!
“อูวส์ อูวส์ อูวส์ อีฟอง อีร่าน!”
“อา! อ้ายสิงห์ ยะแฮงๆ ยะข้าเจ้าแฮงๆ!!!”
ตั้บตั้บตั้บตั้บ!
เสียงกระแทกกระทั้นรุนแรงดังไปทั่วทั้งบ้านหลังเล็กที่ไม่ได้แบ่งห้องหับอะไรเลย มีเพียงมุ้งสองหลังที่กางอยู่คู่กันเท่านั้น
ที่มุ้งข้างกัน... เอื้องผึ้งสะดุ้งตื่นนานแล้วเพราะเสียงเอากันของพ่อและแม่เลี้ยงวัยเดียวกับหล่อน เมื่อครั้งแรกๆ ที่ได้เห็นได้ยิน เอื้องผึ้งจะเอาหมอนปิดหู หลับตาปี๋ด้วยความอายและไม่ชอบใจ
แต่หลายครั้งเข้า หลายครั้งเข้า...
หล่อนก็เริ่มรู้สึกวูบไหว สะท้าน ที่อวัยวะแสนสงวนมีน้ำเยิ้มออกมาแฉะฉ่ำ พอลองเอามือลูบก็เสียวซ่าน หล่อนจึงแอบช่วยตัวเองบ่อยครั้งเมื่อพ่อกับแม่เลี้ยงเอากัน
“อือ!”
เอื้องผึ้งรีบปิดปากตัวเองไว้เมื่อเผลอส่งเสียงครางออกมา นิ้วของหล่อนแฉะและถูกบีบรัดด้วยดอกไม้อวบอูมบานฉ่ำ ละอ่อนสาวหัวใจเต้นระส่ำ ค่อยๆ ขยับตัวหันไปหรี่ตามองมุ้งอีกหลังข้างกันอย่างกลัวๆ กล้าๆ โชคดียังได้ยินเสียงกระแทกและเสียงครางดังมา ไม่อย่างนั้นหล่อนคงคิดว่าถูกพ่อกับฟองแก้วจับได้แล้วว่าแอบฟัง
“อูวส์ อีฟอง อีเด็กใจแตก!”
ตั้บตั้บตั้บตั้บ!
สิงห์คำเอื้อมมือปิดปากฟองแก้ว สอดนิ้วเข้าไปในปากสาวที่อ้ารับแล้วอมดูดอมดูดจนน้ำลายเปรอะ พลางส่งเสียงซู๊ดซ๊าดด้วยความเผ็ดมันส์ในลีลาของชายแก่คราวพ่อ
“จ๊วบ จ๊วบ อาส์ เสียวจังอ้ายสิงห์จ๋า”
ภาพทั้งหมดนั้นปรากฏในสายตาหรี่ปรือด้วยอารมณ์เสียวของเอื้องผึ้ง หล่อนแอบขยับหันมามองการเอากันสดๆ อย่างชัดๆ ด้วยฮอร์โมนสาวที่พลุ่งพล่านต้องการระบายออก ปลายนิ้วขยี้ติ่งเสียวไปด้วย อีกมือก็เลื่อนลงขยำเต้านมละเอียดอ่อนมือไม้สั่นสะท้าน
ต้นขาขาวผ่องเปียกปอนด้วยน้ำเหนียวๆ ที่ทำให้เอื้องผึ้งยิ่งร่านกระสัน อดคิดไม่ได้ว่าอยากมีผัวเหมือนกัน ท่าจะมันส์ดีพิลึก!
“อ๊ะ...”
ละอ่อนสาวเมืองเหนือยกมือขึ้นปิดปากอีกครั้งเมื่อถึงที่สุดแห่งอารมณ์ใคร่ ร่างกายอ่อนเยาว์สั่นเบาๆ ปลายนิ้วถูกต้นขาหนีบไว้จนเจ็บชาไปหมด แต่ความเสียวสุดยอดก็ทำให้หล่อนลืมความเจ็บทั้งมวลไปจนสิ้น
เอื้องผึ้งหอบหายใจแรง หรี่ตามองพ่อเลี้ยงที่กระแทกกระทั้นแม่เลี้ยงวัยละอ่อนระรัวเร็ว ก่อนกระแทกเข้าไปแรงๆ อีกครั้งเป็นครั้งสุดท้าย
สิงห์คำครางลั่นราวกับสัตว์! เนื้อตัวเหยียดเกร็งสะท้าน ก่อนดึงตัวเองออกมาจากความอวบนุ่มจนเกิดเสียงดังบ๊วบ! แล้วดันสะโพกงอนงามของฟองแก้วอย่างแรงจนเมียสาววัยละอ่อนเสียหลักล้มลงบนเสื่อปูรองนอน
“โอ๊ย เบาๆ สิอ้ายสิงห์”
“ฮ่า ฮ่า ทีอย่างนี้หื้ออ้ายเบา”
สิงห์คำหัวเราะร่วน ก่อนทิ้งตัวลงนอนข้างๆ เมียสาวด้วยสีหน้าของคนเพิ่งเสร็จสม
“เมื่อกี้ละบ่บอกหื้ออ้ายเบาซักเตื้อ สลิดจริงนะเมียอ้าย!”
เอื้องผึ้งหลับตาลงไม่มองสองคนนั้นอีก เธอดึงมือเปียกๆ ออกมาจากกลางกายสาว พยายามทำทุกอย่างให้เบาเสียงที่สุด หล่อนแกล้งหลับท่ามกลางเสียงกระเง้ากระงอดของข้าวใหม่ปลามัน และท่ามกลางความรู้สึกผิดของตัวเองที่เผลอทำลงไปอีกแล้ว
และเผลอคิดอะไรน่าอายออกไปด้วยที่ว่าอยากมีผัว...
มันไม่ดีเลย... เอื้องผึ้งไม่ชอบที่ตัวเองทำ
แต่ไม่รู้ทำไมเมื่อมีอารมณ์หื่นสวาทขึ้นมา หล่อนก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ ต้องหาทางปลดปล่อยทุกครั้งไป
“อีเอื้อง อีเอื้อง! อีง่าว!”
เสียงเอะอะล้งเล้งที่ดังขึ้นทำให้เอื้องผึ้งต้องละมือจากการล้างจานหลังบ้าน หญิงสาววัยสิบเจ็ดปลายๆ รูปร่างสะโอดสะองลุกขึ้นเดินไปทางหน้าบ้านที่ได้ยินเสียงแม่เลี้ยงของหล่อนร้องเรียกหยาบคายด้วยความไม่เต็มใจเท่าไหร่
เมื่อเห็นว่าลูกเลี้ยงรุ่นเดียวกันเดินมาหาแล้ว ฟองแก้วก็โยนผ้าปูที่นอนเปื้อนน้ำกามและผ้าห่มลงตรงหน้าเอื้องผึ้ง รวมถึงเสื้อผ้าของหล่อนกับสิงห์คำด้วย
“เอาไปซักให้กูแหม”
เอื้องผึ้งมองผ้าเปรอะเปื้อนแล้วเงยหน้ามองฟองแก้ว ความที่อายุเท่ากัน ทำให้เอื้องผึ้งไม่ได้เกรงกลัวแม่เลี้ยงคนนี้เท่าไรนัก
“ทำไมฟองบ่ยะเอง เอื้องล้างจานอยู่”
“เอ๊ะ อีนี่!” ฟองแก้วยกมือขึ้นเท้าสะเอว “ก็กูบ่ว่าง กูมีงานต้องยะ”
“บ่เห็นจะมีงานอะหยัง”
ถึงปากจะบ่น แต่เอื้องผึ้งก็ก้มลงเก็บกองผ้ามากอดไว้อยู่ดี หล่อนรู้อยู่แก่ใจว่าเถียงสู้ฟองแก้วไม่ได้ ต่อให้เถียงชนะ สิงห์คำก็เข้าข้างเมีย ตั้งแต่มีฟองแก้วเข้ามา จากที่เคยแค่ดุด่าตะคอกให้เจ็บหัวใจ สิงห์คำก็เริ่มลงไม้ลงมือตีหล่อนให้เจ็บกายด้วยเพราะหลงเมียใหม่
“อีเอื้อง! อีปากได้ไส้ยาว! (เถียงคำไม่ตกฟาก)”
ฟองแก้วถลกผ้าซิ่นยกเท้าขึ้นทำท่าจะถีบ
“เดี๋ยวเต๊อะ กูจะฟ้องอ้ายสิงห์!”
เอื้องผึ้งไม่รอฟังคำผรุสวาทของแม่เลี้ยงวัยใสอีก หล่อนกอดผ้าห่มไปโยนลงตะกร้าผ้าที่รอนำไปซักที่ลำธารหลังบ้าน ก่อนไปนั่งล้านจานต่อเพราะอีกแค่นิดเดียวจะเสร็จแล้ว ในขณะที่ฟองแก้วเดินบ่นขรมไปทางบ้านป้าสาย ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าคงไปเล่นไพ่ตามเคย
หญิงสาวล้างจานไป ยกแขนขึ้นเช็ดน้ำตาไป
เมื่อไรหล่อนจะหลุดพ้นจากนรกขุมที่เรียกว่า ‘บ้าน’ หลังนี้เสียทีหนอ...
ซ่า!
สายน้ำสาดกระเซ็นเมื่อผ้าห่มถูกสะบัดไล่น้ำ เอื้องผึ้งบิดผ้าอีกครั้งจนหมาดจึงโยนลงตะกร้าหวายที่หล่อนบรรจงถักขึ้นมาใช้เอง ใบหน้าอ่อนเยาว์เปียกซ่กไปด้วยเหงื่อและน้ำจากธารน้ำตกที่ใช้ซักผ้า หล่อนยกแขนขึ้นเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก ก่อนหยิบผ้าผืนใหม่มาขยี้
แซ่ก!
เสียงใบไม้กรอบในป่าที่ดังขึ้นด้านหลังไม่ได้ทำให้ละอ่อนสาวหันไปมองเพราะเสียงน้ำตกเบื้องหน้านั้นดังกว่ามาก เอื้องผึ้งจึงไม่ทันเห็นว่ามีชายหนุ่มร่างสูงกำยำเดินออกมาจากราวป่า ใบหน้าคมคายแดงจัด ร่างกายร้อนรุ่มด้วยไฟเสน่หา