บทที่ 12
แฟนไม่ใช่พี่ชายที่มาคุม
ผ่านมาจนถึงวันจันทร์...
เมื่อวันเสาร์หลังจากที่ตื่นนอนพี่เอ็มก็พาฉันไปกินข้าว แล้วก็ไปส่งฉันที่ห้อง ส่วนเมื่อวานฉันอยู่ห้องทั้งวันและพี่เอ็มก็มีธุระ เห็นบอกว่าต้องไปนอนที่บ้านทุกวันอาทิตย์..
และวันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรกของฉันพี่เอ็มก็อาสาไปส่ง พอฉันปฏิเสธเขาก็อ้างว่ามีประชุมกับทางมหาลัย จึงทำให้ฉันปฏิเสธเขาไม่ได้เลย
“พี่เอ็มรอหนูนานไหมคะ” ฉันเปิดประตูรถแล้วไหว้พี่เขาที่นั่งอยู่ฝั่งคนขับ
“ไม่ถึงห้านาทีเลย” ผมยิ้มให้น้อง แล้วก่อนที่จะขับรถออกจากข้างถนนหน้าคอนโดผมก็เอากล่องสี่เหลี่ยมให้น้อง
“อะไรคะ” ฉันถามพร้อมรับมาถือไว้
“เปิดดูสิ” ผมพยักหน้าบอกน้องโดยที่ไม่ได้หันไปมองคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆ
“พี่ทำเองเหรอคะ” ฉันมองแซนด์วิชสองชิ้นแล้วหันไปมองเสี้ยวหน้าพี่ของเอ็ม
“แม่บ้านทำให้ ยังไม่กินข้าวใช่มั้ย” ผมหันมองหน้าเล็กน้อยยิ้มให้เธอแล้วยื่นมือไปยีผมเธอเล่น
“ยังค่ะ” ฉันจับมือพี่เอ็มออกแล้วขยับตัวนั่งตรงมองไปด้านหน้า และไม่กล้ากินแซนด์วิช
“กินสิ” ผมบอกน้อง
“กินบนรถเลยเหรอคะ” ฉันหันไปถามเพื่อความแน่ใจ เพราะรถหรูๆ นี่จะให้มีกลิ่นได้ยังไงกัน
“กินเลย กว่าจะไปถึงเราคงหิวแย่” ผมบอกเสียงเรียบ
“กินด้วยกันไหม เดี๋ยวหนูป้อน” ฉันกัดแซนด์วิชอย่างระมัดระวังกลัวจะทำเลอะรถของพี่เขา แล้วค่อยๆ บิดแซนด์วิชอีกส่วนยื่นให้พี่เขากิน
“พี่กินแล้ว เรากินเถอะ” ปากบอกว่ากินแล้วแต่เมื่อน้องป้อนผมก็อ้าปากกินแซนด์วิชที่น้องป้อนอยู่ดี
“อร่อยดีนะคะ เดี๋ยววันหน้าหนูจะทำข้าวปั้นญี่ปุ่นให้กินนะคะ” นึกถึงข้าวปั้นแล้ว เธอก็นึกถึงแม่ขึ้นมาเลยแม่ชอบทำข้าวปั้นให้เธอกินเสมอเวลาเธอกลับไปบ้าน
ก็อย่างที่เคยบอกก่อนหน้านั้นแล้วว่าพ่อฉันเป็นคนไทย ส่วนแม่เป็นคนญี่ปุ่น และแม่ชอบทำอาหารญี่ปุ่นให้พ่อกับฉันกินมาก ฉันเองก็ชอบด้วยโดยเฉพาะกิมจิผักกาดที่ฉันนั้นชอบมาก
“ทำเป็นเหรอเรา” ผมรู้ว่าน้องมีแม่เป็นชาวญี่ปุ่นและพ่อเป็นคนไทย แต่ผมไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ว่าน้องจะทำข้าวปั้นได้
“แฮ่ ต้องถามแม่ค่ะว่าทำยังไง เดี๋ยววันไหนหนูกลับบ้านหนูจะให้แม่ทำมาให้พี่กินนะคะ” ฉันยิ้มยิงฟันเมื่อพี่เอ็มเหมือนจะรู้เรื่องของฉันไปเสียทุกเรื่อง
“พาพี่ไปรู้จักพ่อแม่ของไวน์บ้างสิ”
“แค่ก! พี่ว่าอะไรนะคะ” ฉันสำลักจนหน้าแดงหน้าดำเมื่อพี่เอ็มขอในสิ่งที่ฉันยังไม่มั่นใจว่าถ้าพ่อแม่รู้ว่าฉันมีแฟนในวัยเรียนท่านทั้งสองจะยินดีไหม
“อยากไปบ้านพี่ไหม ไปรู้จักพ่อกับแม่ของพี่” ผมเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นหน้าตาตื่นเต้นหวาดหวั่นของไวโอลิน
“หนูไม่รู้ค่ะ” ฉันทำหน้าตื่นๆ ตอบไปอย่างนั้นเพราะไม่รู้จริงๆ
“พ่อแม่พี่ใจดีนะ” ผมจับมือเล็กมาหอมและขับรถด้วยมือข้างเดียว
“ค่ะ” ฉันพยักหน้ารับรู้แล้วนั่งเงียบฟังเสียงหัวใจของพี่เขาและของตัวเองเต้นแข่งกันผสมเสียงเพลง ยิ่งรู้จักยิ่งรักเธอ…
มหาลัย M..
พี่เอ็มขับรถมาจอดตรงที่จอดรถส่วนบุคคล ซึ่งที่จอดรถตรงนี้เป็นที่จอดสำหรับประธานใหญ่หรือผู้อำนวยการของมหาลัย ถึงฉันจะสงสัยมากแต่ก็ไม่กล้าถาม
“ขอบคุณนะคะ” ฉันยกมือไหว้พี่เอ็มแล้วลงจากรถ
“ครับ” ผมพยักหน้าให้น้อง
พอฉันปิดประตูรถ ก็มีเสียงปิดประตูจากอีกฝั่งพี่เอ็มนั่งดังขึ้นฉันจึงหันไปมอง
“พี่เอ็มจะไปไหนเหรอคะ” ฉันถาม ไหนบอกว่ามีประชุมเก้าโมงเช้าไม่ใช่เหรอทำไมไม่รีบไป ประโยคหลังฉันถามเขาในใจ
“เดี๋ยวเดินเข้าไปส่ง” ผมยิ้มให้น้องแล้วแย่งกระเป๋าของเธอมาถือให้
“ตะ แต่ว่า...” ฉันไม่ทันได้พูดอะไรพี่เอ็มก็พูดแทรกขึ้นว่า
“พี่จะมาเอารายชื่อปีหนึ่งกับไอ้ชาด้วย” ผมบอกพร้อมกับจับมือน้องมากุม พาเธอเดินตรงไปยังห้องตึกประชุมกลุ่มพวกพี่ว้าก ท่ามกลางสายตาของคนรอบข้างที่มองมา
“พี่เอ็ม หนูจะไปหาเพื่อนๆค่ะ” ฉันพยายามแกะมือใหญ่ออกจากข้อมือ ทั้งที่ขาก้าวยาวๆเดินตามรอยเท้าของคนตรงหน้า
“ไปหาพวกเพื่อนพี่ก่อนค่อยไปหาเพื่อน” ผมไม่สนและยังคงกระชับมือกำแขนเล็กไว้ แล้วหันมาบอกเธอทั้งที่ก้าวเดินไปยังจุดหมาย
“วุ้ยย ! อิจฉาโว้ย เดี๋ยวนี้กูเห็นเดือนวิศวะมาคณะเราบ่อยว่ะไอ้ราชา”
พอเดินเข้ามาใกล้ถึงโต๊ะพวกพี่ว้ากที่นั่งอยู่นั้น พี่พาสที่หันมาเห็นก่อนใครก็ทักขึ้น แต่ฉันว่าใช้คำว่าทักไม่ได้หรอกเขาแซวเสียมากกว่า
“หึ กูว่าจากนี้ไปมึงคงเห็นจนเบื่อ” พี่วิน พี่ว้ากคณะฉันที่รู้จักพี่เอ็มก็ไม่ต่างกัน แล้วไหนจะสายตาคนในโต๊ะอีก
“สวัสดีค่ะพี่ๆ” ฉันยิ้มให้พวกพี่ว้าก
“ติดน้องอะไรขนาดนั้นวะ” พี่ราชาพยักหน้ารับไหว้ฉัน แล้วถามพี่เอ็ม
“แล้วมึงล่ะ ติดอิงฟ้าอะไรขนาดนั้น” ผมสวนกลับ ไอ้ห่า ถามมาได้แล้วมึงล่ะก็ติดหญิงเหมือนกูไม่ใช่เหรอ
“แค่ก !” พี่อิงฟ้าที่กำลังดื่มน้ำอยู่ถึงกับสำลักออกมา
“ไอ้เอ็ม ไอ้ห่า มึงทำเมียกูสำลักเลย สัส” พี่ราชารีบกุลีกุจอหันไปลูบหลังพี่อิงฟ้าแล้วหันมายกเท้าใส่พี่เอ็ม
“ก่อนจะพูดอะไรให้ใคร หัดดูตัวมึงก่อนนะไอ้สัส” ผมชูนิ้วกลางให้ไอ้ชา เอาจริงๆพวกผมเป็นเพื่อนรักกันและพูดจาหมาไม่แดกอย่างนี้แหละครับ และพวกเราก็ไม่เคยโกรธกันด้วย
“ฮ่าๆ แม่งจี้ว่ะพวกมึง” ส่วนพี่พาสก็นั่งหัวเราะจนตัวงอที่เห็นเพื่อนรักทั้งสองทะเลาะกันเหมือนเด็ก
“กูมาเอารายชื่อเด็ก” ผมยกเท้าให้ไอ้พาสแล้วหันไปถามเสียงตึงๆกับไอ้ราชา
“อ๋อ อยู่กับฟ้าค่ะ นี่ค่ะ” พี่อิงฟ้าพูดขึ้นแล้วเปิดกระเป๋าหยิบเอกสารยื่นให้พี่เอ็ม
“งั้นกูไปล่ะ” ผมเอาเอกสารมาเหน็บไว้ที่เอวแล้วหันมาจับมือของไวโอลินพาเดินออกไป เพราะไม่อยากให้น้องยืนอายหน้าแดงอยู่ตรงนี้นานนัก
“เออ ให้มันได้อย่างนี้สินะ ตั้งแต่มีแฟนนี่ลืมเพื่อนและไม่คิดจะมานั่งด้วยเลยนะมึง” พี่พาสต้าบ่นตามหลังมาทำให้ฉันหันไปมองแล้วก้มหัวให้พวกพี่ๆ…
สิบนาทีต่อมา..
“พี่เอ็ม สวัสดีค่ะ” พอมาถึงโต๊ะที่เพื่อนฉันนั่งอยู่ทั้งสองคนก็หันมาสวัสดีพี่เอ็มทันที
“ครับ” ผมพยักหน้ารับแล้ววางกระเป๋าของไวโอลินลงบนโต๊ะ
“พี่เอ็มไปทำธุระเถอะค่ะ” ฉันบอกเมื่อเข้าไปนั่งข้างๆ เอวา
“เลิกเรียนตอนไหน” ผมถาม
“มีเรียนแค่ตอนเช้าค่ะ แต่...” ฉันไม่ทันได้บอกพี่เอ็มก็พูดขึ้นว่า
“งั้นตอนเที่ยงพี่มารับไปกินข้าว”
“แต่หนูจะกินกับเพื่อน” ฉันบอกบอกพี่เอ็ม
“เอ่อ แกไปกับพี่เอ็มเถอะ ตอนเที่ยงพวกฉันว่าจะไปกินส้มตำหน้ามอน่ะ” นาเดียร์บอกฉัน
“อ้าว” ฉันทำหน้าเซ็ง
“แกไปกับพวกฉันไม่ได้ แกไปกับพี่เอ็มเถอะ” เอวาพูดเสริม
“ไวน์แพ้ปลาร้านะคะพี่เอ็ม” นาเดียร์บอก เมื่อพี่เอ็มทำหน้าสงสัย
“อ๋อ ครับ” ผมยิ้มมุมปากพยักหน้าให้สาวทั้งสามคน
“งั้นพี่มารับหนูนะคะ หนูไม่ไปหาพี่ที่คณะของพี่หรอก” ฉันบอกพี่เอ็ม ที่ไม่ไปเพราะอายสายตาของพวกพี่ว้ากที่ชอบมองฉัน
“ครับ พี่ไปนะ ตั้งใจเรียนล่ะ” ผมยิ้มเมื่อยกมือลูบหัวของน้อง
และเมื่อพี่เอ็มออกไปไกลแล้ว เสียงฮือฮาจากเพื่อนทั้งสองก็ดังขึ้น
“ตั้งใจเรียนนะเอวา” นาเดียร์ยกมือขึ้นลูบหัวเอวาแล้วพูดเสียงหวาน
“ได้ค่ะพี่เดียร์” เอวาเองก็เล่นด้วย
“ไม่ต้องมาล้อเลย” ฉันอายเพื่อนทั้งสองมากจึงยกประเป๋าตัวเองมาปิดหน้าปิดตา นี่ถ้ามุดลงดินได้ฉันคงทำไปนานแล้ว
“คิกกกๆ อย่ามางอนพวกฉันนะยะ” นาเดียร์และเอวาหันไปแท็กมือกันแล้วหัวเราะออกมาชอบอกชอบใจ ที่ล้อฉันจนฉันอายไม่รู้จะอายยังไงแล้ว…
เวลา 11.43 น.
คาบแรกก็ไม่มีอะไรมากหรอกอาจารย์แค่เกริ่นๆ แล้วก็แจ้งกฎเกณฑ์การให้คะแนน พอเลิกคลาสแล้วฉันก็เก็บกระเป๋าแล้วเดินนำเพื่อนออกมาจากห้อง ฉันไม่รู้ว่าทำไมเสียงของผู้หญิงกลุ่มหนึ่งที่เดินผ่านฉันต้องทำเสียงฮือฮาด้วย
“นั่นพี่เอ็มนี่” นาเดียร์ชี้ให้ฉันดู
แล้วฉันก็เห็นต้นเหตุของเสียงฮือฮาที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ คงจะเป็นเพราะพี่เอ็มนี่เอง ซึ่งพี่เขากำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่แถมยังไม่สนใจสิ่งรอบข้างที่มองไปทางเขาเลยสักกนิด
“พี่เอ็มมานานหรือยังคะ” ฉันเดินไปหาแล้วถามพี่เขา
“ไม่ครับ” ผมเก็บมือถือทันทีแล้วลุกขึ้นยืน
“พวกฉันไปนะ เจอกันตอนบ่าย” เอวาบอก
“เค” ฉันพยักหน้ามองเพื่อนทั้งสองเดินออกไป
“เอากระเป๋ามา พี่ถือให้” ผมยื่นมือไปหยิบหนังสือของเธอมาถือไว้ แล้วขอกระเป๋าสะพายของเธอ
“หนูถือกระเป๋าเองค่ะ” ฉันเบี่ยงตัวหลบไม่อยากให้คนมองแปลกๆ ให้เขาถือแค่หนังสือนั่นแหละพอแล้ว จะให้พี่ว้ากวิศวะมาถือกระเป๋าสีชมพูของผู้หญิงมันก็จะแปลกๆ ไปหน่อยนะ…
โรงอาหารคณะวิศวกรรมศาสตร์..
พี่เอ็มพาฉันมาที่โรงอาหารคณะของเขา ท่ามกลางสายตาของคนหลายคนที่มองมาทางฉันและพี่เอ็ม
“ไปนั่งกับเพื่อนพี่นะ” ผมบอกน้องแล้วจับมือเธอพาเดินไปหาเพื่อนๆ ที่นั่งรออยู่ด้านในสุดของมุมโรงอาหาร
“ค่ะ” ฉันไม่กล้าขัดขืนปล่อยให้พี่เขาจูงไปยังเป้าหมาย ก็น่าจะเป็นกลุ่มผู้ชายที่ใส่เสื้อช็อปกันทั้งโต๊ะนั่นแหละ
“นั่นไง มันมาทางนู้นแล้ว” คนที่นั่งในโต๊ะหันหน้ามาทางฉันและพี่เอ็มก็พูดขึ้น พร้อมชี้ให้พวกเพื่อนของพี่เขาดู
“โอ้ยยย อิจฉาคนมีความรัก” พี่ไทม์แซวฉันและพี่เอ็ม
“สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้ทุกคน
“ครับๆ สวัสดีแฟนเพื่อน” พี่ไทม์รับไหว้อย่างกวนๆ
“ยังๆ มึงต้องพูดว่า ว่าที่แฟนเพื่อนโว้ย” พี่อีกคนพูดขึ้น
“ฮ่าๆ ยังไม่เป็นแฟนนี่หว่า กูลืม” พี่ไทม์ก็พูดต่อ
“ไอ้เอ็มกระจอกว่ะ” พี่วินหัวเราะเยาะพี่เอ็ม
“ชักช้า ระวังหมาคาบไปแดกนะเว้ยคุณชาย” พี่อีกคนก็หัวเราะยามบอกพี่เอ็ม
แล้วทั้งโต๊ะครึกครื้น ไม่เหลือคาบพี่ว้ากหน้าโหดเหมือนวันนั้นที่ฉันเห็นเลย
“สัส” ผมสบถด่าพวกมันแล้วยกเท้าเขี่ยให้ไอ้ไทม์ไอ้วินขยับเพื่อเคลียร์พื้นที่ให้ไวโอลินนั่ง
“ไวน์มานั่งใกล้ๆพี่นี่ก็ได้นะ” พี่อีกคนกวักมือเรียกฉัน
“ค่ะ” ฉันยิ้มแล้วนั่งลงข้างพี่ไทม์ และมีพี่เอ็มที่นั่งคร่อมม้านั่งประกบสีข้างของฉัน โดยหันหลังให้พี่วินแต่หันหน้ามาทางฉัน
“อย่าสนใจพวกเหี้ยนี่เลย” ผมบอกน้องเสียงดังจงใจให้เพื่อนๆ มันได้ยิน
“ค่ะ” ฉันยิ้มให้พี่เอ็ม เอาจริงๆนะ ในกลุ่มนี้มีฉันเป็นผู้หญิงคนเดียวจึงไม่แปลกใจที่จะมีสายตาของโต๊ะอื่นๆ มองมายังฉัน
“กินอะไร” ผมถามชิดหัวของน้องไม่สนใจหรอกว่าใครจะคิดยังไง เพราะผมมั่นใจหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นว่าเธอคือที่ผมจะสร้างครอบครัวด้วย
“ก๋วยเตี๋ยวค่ะ” ฉันย่นคอย่นหน้าหนีพี่เอ็มและแอบมองข้ามไปรอบๆ เห็นร้านหนึ่งที่ไม่ค่อยมีคน
“ไป” ผมชวนน้องแล้วลุกขึ้น ผมจูงมือน้องเดินไปยังร้านก๋วยเตี๋ยว...
“หมี่ขาวน้ำตกค่ะ” ฉันสั่งเมนูที่ต้องการกินไปแล้ว และไม่ลืมบอกป้าเขาว่าไม่เอาผัก
“เอาเกาเหลาครับ” ผมสั่งของผมพร้อมกับยิ้มให้คนตัวเล็ก
และรอไม่นานก๋วยเตี๋ยวทั้งสองถ้วยก็มาวางตรงหน้า ฉันจึงหยิบไปปรุงรสที่โต๊ะ และพี่เอ็มก็เดินตามฉันมาแล้วตักพริกใส่
“พี่” ฉันทำตาโตมองพี่เอ็มตักพริกใส่ชามก๋วยเตี๋ยว
“อะไร” ผมยักคิ้วให้น้อง เมื่อชิมรสที่ถูกปาก
“มะ ไม่เผ็ดเหรอ” ฉันทำหน้าสยองเวลาเห็นพี่เอ็มชิม
“หึ ! ของกินผู้ใหญ่เด็กไม่ต้องรู้หรอก” ผมยิ้มมุมปาก
“ใครเด็ก” ฉันสวนกลับ
“เราไงเด็ก” ผมตอบกวนๆ
“หนูไม่ใช่เด็กซะหน่อย” ฉันทำหน้างอใส่พี่เขา
“ใครบอกไม่ใช่ เราน่ะเด็กน้อยของพี่คนเดียว” ผมบอกน้องแล้วถือถาดชามก๋วยเตี๋ยวของเธอและผมไปยังโต๊ะ มืออีกข้างก็กุมมือน้องไม่ยอมปล่อย…