ตอนที่ 3 น้ำท่วมปาก 3

1266 คำ
‘โอ๋ๆ คุณพ่อขอโทษ พริกหวานร้องไห้เหรอคะ คุณพ่อไม่ได้ลืมนะคะ คุณพ่อออกมาทำธุระแป๊บเดียว เสร็จธุระแล้วก็กลับมาหาพริกหวาน คุณพ่อกลับบ้านแล้วนะลูก แต่หาพริกหวานกับคุณแม่ไม่เจอ’ “พริกหวาน เล่นม้าโยก ที่บิ๊กซี แม่แม่ซื้อตุ๊กตา ให้พริกหวาน” ‘ได้ตุ๊กตาใหม่ด้วยเหรอ ขอคุณพ่อคุยกับคุณแม่ได้ไหมคะ’ เด็กตาแป๋วคืนโทรศัพท์ให้คุณแม่ตามที่คุณพ่อขอ “คุณนัยจะคุยกับธารเหรอคะ” กรอกเสียงลงไป ขณะเดียวกันก็กลัวโดนดุเรื่องที่พาลูกสาวออกมาข้างนอกกลางดึก เขาชอบเช็คตำแหน่งพริกหวานผ่านแอปเปิลวอชในข้อมือลูก สังเกตเห็นว่าลูกออกจากเขตบ้านโทรมาหาธารธาราทุกที ถามว่าพาลูกไปไหน ไปทำอะไร จะกลับตอนไหน “ธารพาลูกมาซื้อของเล่น กำลังจะกลับแล้วค่ะ” ‘อย่าเพิ่งกลับ ผมกำลังถอยรถเข้าช่องจอด สักพักจะไปหา’ “ลานจอดในบิ๊กซีเหรอคะ” มาจริงเหรอ? นึกว่าเขารับประทานอาหารค่ำร่วมกับมารดา แล้วจะเลยกลับไปนอนคอนโดฯ ‘ครับ บิ๊กซีใกล้บ้านเราเนี่ยแหละ ธารกับลูกรอผมอยู่ตรงไหน’ “ชั้นสอง ใกล้กับบันไดทางขึ้นฝั่งบาร์บีคิวพลาซ่าค่ะ” ใจสาวเต้นแรงผิดปกติ ไม่เคยแต่งหน้าในที่สาธารณะก็อดไม่ได้ที่จะเติมแป้งเติมปากอีกนิด เผื่อถอดแมสค์ใบหน้าจะได้ไม่ซีดหมอง “แม่แม่ สวย ปากแดง พริกหวานทาด้วยได้ไหมคะ” ถูกแซวโดยพริกหวาน แต้มลิปน้อยๆ บนปากเล็กเพื่อติดสินบน ลูกจะได้ไม่พูดให้คุณพ่อได้ยิน คอยชะเง้อคอรอจนกระทั่งเขาโบกมือให้ รอคอยบันไดเลื่อนพาเขาขึ้นมา จึงเก็บซ่อนรอยยิ้มไม่ให้เขาเห็น “พริกหวาน คิดถึงจังเลย ลูกพ่อ ฮึบ!” ภารนัยอุ้มลูกลงจากรถเข็นมากอดแน่นๆ เอาใจเด็กสองขวบครึ่งให้หายงอนคุณพ่อ พริกหวานหัวเราะเสียงสดใส กลับมามีชีวิตชีวา ไม่เหลือเค้าโครงเด็กขี้งอน “เมื่อกี้ใครกัน งอแง บอกคุณพ่อไม่รัก” หนูน้อยฉีกยิ้ม ก่อนรับกล่องตุ๊กตาจากคุณแม่มาอวด “แม่แม่ ซื้อให้พริกหวาน” พริกหวานยื่นไปให้มีใบเสร็จติดไปด้วย คุณพ่อช้อนสายตามองคุณแม่แวบเดียวก็อมยิ้ม “ตุ๊กตาตัวเดียวตั้งเกือบพัน คุณแม่กล้าซื้อให้หนูด้วยเหรอลูก” แซวแม่ของลูกก่อนเลยอันดับแรก ไม่บ่อย ที่จะซื้อของแพงให้ลูก ซื้อเพราะอยากเอาใจลูก หรือซื้อเพราะอยากจะประชดเขากันนะ “ธารต้องขายเสื้อผ้าหลายชุดนะคะ กว่าจะได้กำไรมาซื้อตุ๊กตาให้ลูก เพราะคุณนัยรับปากลูกไว้ ถ้าไม่พามา ลูกก็งอแงไม่หยุด” “ขอโทษครับ” ละสายตาจากแก้มลูกสาว กลับมามองใบหน้าอ่อนเยาว์ที่แสนคิดถึง “เสร็จธุระผมรีบกลับมาหาธารกับลูกทันทีเลยนะ ธารกินข้าวหรือยัง ผมกินไปนิดเดียวเอง เริ่มจะหิวขึ้นมาอีกแล้ว” “ธารยังไม่ได้กินค่ะ แต่พริกหวานกินแล้ว หนึ่งถ้วย ใช่ไหมคะ” ธารธารากึ่งยิ้มกึ่งงอน ถึงจะน้อยใจที่เขาไม่รักษาคำพูด แต่เมื่อเขากลับมาทันเวลา ก็หายงอนง่ายดาย พร้อมจะทำตัวน่ารักกับเขา “แม่แม่ ทำข้าวไก่ฉีก มีกุ้ง กับบรอกโคลี อร้อย อร่อย” “กินผักด้วยเหรอ ลูกใครหว่า เก่งจัง” ถูกชมเข้าหน่อย เด็กบ้ายอยิ้มไม่หยุด “ได้ยินพริกหวานพูด คุณพ่อชักจะหิวแล้วสิ” เขาแกล้งลูบท้องป้อยๆ เรียกร้องความสนใจจากเด็กสองคน คนหนึ่งลูก คนหนึ่งเมีย “คุณพ่อกินปิ้งย่างสองวันติดไม่ไหว เราไปกินเอ็มเคแล้วกันเนอะ คุณพ่อเดินผ่านมาไม่มีคนรอคิวเลยลูก แป๊บเดียวก็ได้กิน” “เอ็มเค” เด็กน้อยทำท่านึก “ที่มี... เป็ดใช่ไหมคะ อะไรนะ ที่พริกหวานกินวันนั้น” พลางเอียงดวงหน้าเล็กมองคนนั้นทีคนนี้ที “เป็ดย่างค่ะ” ธารธาราทำตัวเป็นพรายกระซิบ ห้างฯ ค้าปลีกแห่งนี้ใกล้บ้าน ร้านอาหารมีไม่มาก พริกหวานเวียนกินจนครบทุกร้าน “ใช่ค่ะ เป็ดย่าง พริกหวานชอบ พริกหวานอยากกิน แบบวันนั้นอีกค่ะ แม่แม่” หนูพริกหวานตอบเสียงเล็กเสียงน้อย คุณพ่อคุณแม่หลงลูกสาวจนถอนตัวไม่ขึ้น โดยเฉพาะคุณพ่อ รายนั้นใจจะละลาย “ได้เลยค่ะ ไปกันเลย ร้านจะปิดก่อน ธารกินเป็นเพื่อนผมนะ” “ค่ะ ธารก็... รู้สึกหิวอยู่พอดี ขอบคุณนะคะที่กลับมา” ยินดีมากๆ ครับ ไม่กลับมาได้อย่างไรในเมื่อหัวใจเขาอยู่ตรงนี้ ส่งตาหวานให้แม่ของลูก มันเขี้ยวแก้มแดงที่ระเรื่อขึ้นมาถึงโหนกแก้ม ธารธาราน่ารักจนเขาอยากนัวเนีย แต่ทำอย่างนั้นไม่ได้ ทำได้แค่หอมแก้มลูกทดแทน อดใจไว้ อีกไม่กี่วันก็ถึงวันเสาร์แล้วนัย “ถึงจะดึก แต่ธารว่าใส่หมวกแก๊ปไว้สักหน่อยก็อุ่นใจดีนะคะ” พนักงานนำทางครอบครัวขนาดเล็กมาที่โต๊ะริมผนังกระจก ซึ่งไม่ไกลจากถนนสายหลักซึ่งมีรถยนต์มากมายขับผ่าน หมวกแก๊ปในมือกลายเป็นหมัน ภารนัยไม่สนใจ เขาถอดแมสค์เก็บไว้เป็นระเบียบเรียบร้อย อุ้มลูกสาวมานั่งตัก หอมแก้มลูก หอมแล้วหอมอีก ไม่แคร์สายตาใคร ธารธาราพูดไม่ออกไปชั่วขณะ กลัว แต่ก็ดีใจ ที่เขากล้าเปิดเผย อาจจะไม่ได้ถึงขั้นป่าวประกาศ แต่ก็คือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ออกจากห้างฯ กลับมาถึงบ้านตัวเล็กแบตหมด พร้อมนอนตลอดเวลา ภารนัยอุ้มลูกไปอาบน้ำก่อนส่งต่อให้ธารธาราแต่งตัวให้ลูก เขาไปอาบน้ำ จากนั้นสลับกับหล่อนอีกครั้งอุ้มลูกมากล่อมนอน อ่านนิทานจบไปหนึ่งเรื่อง พริกหวานตาปรอย แต่ไม่ยอมหลับตานอน “นิทานจบแล้ว คนเก่งของคุณพ่อนอนหลับฝันดีนะครับ” “พ่อพ่อ รักพริกหวานไหมคะ” ตาปรือๆ คู่นั้นเลื่อนมามองพ่อ “รักสิคะ” ภารนัยแนบริมฝีปากจูบลงบนแก้มลูกสาว “คุณพ่อรักพริกหวานมากที่สุดในโลกเลยลูก คุณพ่อขยันทำงานหาเงินมาซื้อขนมให้พริกหวาน ลูกสาวสุดที่รักของคุณพ่อ คุณแม่ก็รักพริกหวานมาก พริกหวานสัญญากับคุณพ่อได้ไหมคะ ว่าจะเป็นเด็กดี ไม่ดื้อกับคุณแม่” “สัญญาค่ะ” พ่อลูกเกี่ยวก้อย “พริกหวานรัก พ่อพ่อ กับแม่แม่” “คุณพ่อกับคุณแม่ก็รักพริกหวาน รักมากที่สุดเท่าจักรวาล” กอดลูกแนบอก กล่อมจนหนูพริกหวานหลับสนิท พริกหวานไม่ได้เลี้ยงยาก พูดง่าย สอนง่าย ถ้าต้องช่วยธารธาราเลี้ยงลูกทุกวันหลังเลิกงาน เขาว่าเขาไหว มีลูกเล็กๆ เพิ่มอีกคนได้เลย แต่อาจจะต้องรอปล่อยหลังคุณแม่ฝึกงานเสร็จ ไปท้องโย้ตอนฝึกงาน อาจจะไม่ค่อยเหมาะสม คุณพ่อลูกหนึ่งนอนตะแคงข้างดูลูกหลับ สลับกับแอบมองแม่ของลูกแต่งตัว หล่อนทายาที่แผลเพิ่งเสร็จมานั่งหวีผม หวีแล้วหวีอีกจนเส้นผมจะร่วงหมดหัวแล้วมั้ง รู้หรอก ว่าจงใจถ่วงเวลา “พรุ่งนี้ธารไปมหา’ลัยกี่โมง” สอบปลายภาคผ่านไป เหลือแค่ฝึกงานก็เรียนจบ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม