ประตูห้องพักหรูหรา ของผู้บริหารที่อยู่เกือบชั้นบนสุดของโรงแรมในตระกูลเทพคุณากรถูกเปิด รินรดาก็ไม่สามารถรู้ว่าภายในห้องพักแห่งนี้ มันถูกตกแต่งอย่างสวยงามเช่นไรบ้าง เพราะตั้งแต่เธอถูกเขาดึงมือออกจากรถ และพาเข้าไปยังลิฟต์ที่ถูกสร้างเอาไว้ใช้ส่วนตัวสำหรับเขา ผู้ที่เป็นเจ้าของโรงแรมแห่งนี้โดยเฉพาะ
การรับรู้ของหญิงสาวทั้งหมดทั้งมวลก็เหมือนจะสูญสิ้นไปชั่วขณะ ยิ่งสัมผัสเร่าร้อนจากเขาระดมพรมมาทั้งปากและมือ ราวกับคนที่หมดความอดทนอดกลั้นต่อจิตใจตัวเอง จึงได้ตอบแสดงออกมาอย่างหนักหน่วง ทั้งปากและมือ…
มือไม้ข้างหนึ่งของชายหนุ่มที่ป้วนเปี้ยนอยู่แถวบั้นท้ายของหญิงสาว ได้กดบั้นท้ายกลมกลึงแนบกับแก่นกายชายแกร่งที่ดุนดันขึ้นมากับซิปกางเกง จน รินรดาห่อไหล่เสียวสะท้านในความร้อนรุ่ม ที่ส่งผ่านเนื้อผ้าเข้ามาแตะกับใจกลางความเป็นหญิง ส่วนมืออีกข้างเขานั้นได้ช้อนเชยคางสวยได้รูปขึ้นให้ริมฝีปากบนใบหน้างามรับจุมพิตอันดูดดื่มจากริมฝีปากที่ช่ำชอง
รินรดาหัวหมุนแทบจะทรุดตัวลงไปแนบกับอกแกร่งของชายหนุ่ม ด้วยสองขาที่เหมือนไร้เรี่ยวแรง พอดีกับเสียงลิฟต์ดังขึ้น ปลุกสติของจอมไตรขึ้นมาเสียก่อน เขามองไปยังประตูลิฟต์ที่เปิดออก ก่อนจะเหลียวมามองหญิงสาวที่ดูอ่อนเปลี้ยไร้เรี่ยวแรงจะยืน ความใจร้อนในอารมณ์ที่ต้องการหญิงสาวตรงหน้า ทำให้เขารีบช้อนร่างที่ระทดระทวยของเธอเอาไว้ในอ้อมแขนแกร่ง ออกแรงเพียงนิดร่างของเธอก็ลอยหวือขึ้นจากพื้นในทันที
หญิงสาวดวงตาปรือด้วยแรงอารมณ์ที่ถูกชายหนุ่มเล้าโลม มองใบหน้าคมคายที่เขม็ง เพราะเขาก็พยายามจัดการกับอารมณ์ปรารถนาอันมากล้น ความพยายามนั้นถูกส่งผ่านไปยังใบหน้าที่กำลังกัดฟันจนกรามเป็นสันนูน ดูแล้วก็น่ามองไปอีกแบบในสายตาของรินรดา
หญิงสาวไม่สนใจทางที่สองขายาว ๆ ก้าวพรวดผ่านไปนั่นหรอก เพราะเธอปรือตามองใบหน้าคมคายที่เขม็งเกร็ง ... ไม่ทันไร หลังของเธอก็สัมผัสเข้ากับผิวที่นอนหนานุ่มบนเตียงสีขาวอันกว้างขวางไปเสียแล้ว
เธอครางเบา ๆ เมื่อมือหนาเริ่มทำงานอีกครั้ง ยามตวัดลงบนทรวงอกเต่งตูมแล้วบีบตามแรงปรารถนาที่ร้อนเร่า เขาก้มลงจูบซ้ำบนริมฝีปาก มิหนำซ้ำยังละมือที่ฟ้อนเฟ้นบนทรวงอกเพื่อบีบคางเล็กได้รูปเบา ๆ บังคับให้เธออ้าปากต้อนรับลิ้นร้อนร้ายของเขาที่เข้าไปควานหาลิ้นเล็กอันสั่นระริกนั่น
เกือบจะขาดอากาศหายใจ… จู่ ๆ ชายหนุ่มก็ลุกพรวดพราดขึ้นจากเตียง รินรดาจึงชันกายที่ยังไม่หายมึนเมาจากการปรนเปรอรสสวาทของเขา ปรือตาดูชายหนุ่มที่เริ่มแกะกระดุมเสื้อลงทีละเม็ด ๆ อกแกร่งและมัดกล้ามตรงหน้าท้องที่ไม่เคยเผยให้เธอเห็นมาเลยสักครั้ง ทำเอาหญิงสาวจ้องมองราวต้องมนต์สะกด ครั้นจัดการกับเสื้อเชิ้ตสีขาวเสร็จ มือหนาจึงเริ่มจัดการกับเข็ดขัดแล้วรูดซิปกางเกง เผยให้เธอเห็นชั้นในสีขาว โดยมีสิ่งนั้น...ที่ขยายใหญ่ภายในเนื้อผ้าสีขาว…
รินรดาก้มหน้าลงวูบด้วยความสะท้านอายไม่กล้ามองตรง ๆ เวลานั้นเตียงได้อ่อนยวบลงอีกครั้ง หญิงสาวสัมผัสถึงไอร้อนที่พวยพุ่งออกมาจากกายแกร่งอันไร้เสื้อผ้าปกปิดทั้งหมด เธอเผลอกลืนน้ำลายเบา ๆ เริ่มสั่น...กลัว หวิว หวามไหวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเธอและเขาในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้
จอมไตรยื่นหน้าเข้าไปใกล้คนที่ก้มหน้าคล้ายอายนั้น... ยื่นมือลูบไล้ผมยาวสยายที่เริ่มยุ่ง กระซิบด้วยน้ำเสียงอันสั่นพร่า "เธอจะถอดชุดนี้ออกเอง หรือจะให้ฉันถอดให้"
รินรดาเลื่อนสายขึ้นสานสบกับสายตาเขาทันที... ร้อนไปทั้งใบหน้า เขาคุกเขาอยู่ข้าง ๆ ในสภาพเปล่าเปลือยแล้ว... ยิ่งจุดกึ่งกลางเขาอยู่ชิดกับแขนที่เธอใช้ชันกับที่นอนนุ่ม รินรดาเผลอลดสายตาลงไปมองตรงนั้น…
ทว่าไม่ทันเห็น... เขาก็ปลดสายชุดราตรีที่เธอสวมลง จนรินรดาสะดุ้ง ไม่ทันจะตั้งตัวริมฝีปากและจมูกโด่งก็ซุกไซ้ไปตรงซอกคอหอมกรุ่น สูดดม...และขบเม้มเบา ๆ จนหญิงสาวห่อตัวสะท้าน
จอมไตรเลื่อนใบหน้าออกห่าง สบตาหญิงสาวเพื่อบอกว่า "ช้า...สาเหตุที่ฉันไม่ชอบมีอะไรกับสาวไม่ประสาก็แบบนี้แหละ" ว่าแล้วใช้มืออีกข้างกระตุกสายชุดราตรีอีกข้างนั้นลงทั้งหมด พลางดันตัวหญิงสาวนอนลงไปที่นอนเบา ๆ
รินรดาตวัดมือปิดท่อนบนที่เปล่าเปลือยตรงหน้า ยามสายตาคมลากผ่านเนินอกที่ชูชันเพราะถูกเขาปลุกเร้าก่อนหน้ามาแล้ว ... ก่อนจะลากลงไปยังจุดที่อ่อนไหวที่สุดของร่างบอบบาง
หญิงสาวหนีบขาเรียวเข้าไว้ด้วยกันทันที แม้ท่อนล่างจะยังไม่ถูกเขาปลดเปลื้องออกไป ทว่า...สายตาทั้งคู่ของเขาก็ร้อนแรงราวกับแสงไฟที่กำลังแผดเผาจุดนั้นของเธอให้ร้อน...ร้อนขึ้นไปเรื่อย ๆ ความอายความกลัวสั่งให้เธอสับสน เจ้าของเรือนร่างบอบบางน่าปรารถนาจึงเบือนหน้าหนี เอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่มั่นคง "ฉัน…"
"ไม่..." เขาโน้มตัวลงมาทันที จงใจบดเบียดส่วนนั้นของเขาลงบนส่วนที่อ่อนไหวที่สุดของเธอ ด้วยกลัวว่าหญิงสาวจะเปลี่ยนใจ
จอมไตรรู้เธอกำลังสับสน แต่เขาหยุดไม่ได้ จึงเริ่มเล้าโลมเธอใหม่ไปตั้งแต่ยอดทรวงด้วยปากและลิ้นอันร้อนชื้น ขบ เม้ม ใช้ปลายนิ้วละเลงจนร่างกายเธอบิดเร่า แล้วเผลอแอ่นทรวงเข้าไปอีก เป็นไปตามธรรมชาติของการเรียกร้อง จากนั้นชายหนุ่มจึงใช้มืออีกข้างจัดการกับชุดที่เธอสวมใส่ที่ยังค้างคาอยู่ในส่วนล่าง พยายามดึงอยู่สองสามครั้ง มันจึงถูกเหวี่ยงออกจากปลายเท้าทั้งสอง
ยามนี้ร่างกายหญิงสาวเหลือแต่เพียงแพนตี้สีเนื้อตัวน้อย จอมไตรจึงใช้มือข้างที่เพิ่งจัดการกับชุดราตรีเคล้นคลึงกับเนินเนื้อที่ชื้นแฉะ กรีดนิ้วลงไปบนรอยแยก แม้จะมีเนื้อผ้าบางขวางอยู่แต่ก็สัมผัสถึงความชื้นแฉะที่ซึมผ่านเนื้อผ้ามา ยิ่งความชื้นมีมากเพียงใด เขาก็ยิ่งพอใจ เพราะนั่นจะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า หญิงสาวมีความพรักพร้อมที่จะต้อนรับตัวตนที่ขยายใหญ่ของเขาแล้ว
ปากและมือหนาของเขายังทำงานประสานสอดคล้องกันเป็นอย่างดี จนหญิงสาวหัวหมุนครางเบา ๆ ตลอดจนกระทั่ง
จอมไตรจัดการดึงแพนตี้ตัวนั้นให้หลุดจากปลายเท้าทั้งสองของเธอไปอีกความเย็นที่ปะทะเข้ากับส่วนนั้น...ทำเอารินรดาผวาเฮือก ยิ่งความร้อนจัดจากฝ่ามือที่ลูบแผ่ว ๆ บนเนินเนื้อสาว ได้สร้างความรู้สึกแปลกใหม่ให้เกิดขึ้น มันรัญจวนและทรมานในท้องน้อยและส่วนเนินเนื้อสาวที่เต้นตุ๊บตั๊บ ...จนเธออยากได้อะไรสักอย่าง ที่จะช่วยให้ความทรมานนี้ถูกแผดเผามอดไหม้หมดไปจากเรือนกายนี้เสียที
ร่างกายที่บิดเร่าของเธอ...ราวกับจะแตกดับเพราะการปรนเปรอที่ช่ำชองของเขาอยู่แล้ว ได้โปรด...รินรดาร้องขออยู่ในสำนึก ยามที่เขาจงใจเบียดนิ้วชี้ให้ลากผ่านตรงเนื้อนวลส่วนล่าง ไล้แผ่วเบาขึ้นลงพลางกดนิ้วโป้งลงบน ...ใจกลาง…
"อ๊ะ!"
"ฉันจะต้องทำให้เธอพร้อมมากกว่านี้" บอกพร้อมกับจับเรียวขาให้แยกออกห่าง พอที่เอวสอบเปล่าเปลือยของชายหนุ่มสามารถแทรกลงไปได้ แล้วจึงเริ่มทำให้หญิงสาว 'พร้อม' โดยใช้ปลายนิ้วโป้งแตะลงบนกลางเนื้อนวลอีกครั้ง มีผลให้หญิงสาวสะดุ้ง เริ่มบิดกายไปมาอย่างทรมานปนเสียวซ่าน ยิ่งนิ้วโป้งนั้นเคล้นคลึงหมุนวนอยู่อย่างนั้น เสียงร้องอันน่าอับอายของหญิงสาวยิ่งดังขึ้น ดังขึ้น…
"อ๊ะ ๆ ๆ ๆ... คะ คุณจอม"
จอมไตรละสายตาจากนิ้วโป้งที่เค้นวนอยู่ พลางมองใบหน้าหวานที่ส่ายเร่าเพราะทรมานอย่างพึงพอใจ เขารู้ว่าเธอทรมานเท่าไหร่ เพราะชายหนุ่มก็กำลังเผชิญอยู่เท่ากัน
ชายหนุ่มละสายตาจากใบหน้าอันแดงก่ำชุ่มด้วยเหงื่อ ลงมาที่มือหนาข้างนั้น ความเปียกชื้นมีมากขึ้น แต่มันยังไม่พอ เขาจึงเปลี่ยนนิ้วโป้งนั้นมาเป็นการสอดนิ้วกลาง เข้าไปที่รอยแยกอันฉ่ำเยิ้ม ยามเขาดันเข้าไปทีละนิด ๆ ชายหนุ่มยิ่งเผลอกัดริมฝีปากอย่างสกัดอารมณ์ปวดร้าวบนตัวตนขึงแข็ง เพราะภายในเนื้อนวลนั่นช่างคับแน่น บีบรัดนิ้วของเขาเป็นจังหวะตุ๊บตั๊บ ชวนให้จินตนาการว่า หากสิ่งที่สอดใส่ในเนื้อนวลเธอขณะนี้เป็นแก่นกายที่ขึงขังของเขาเสียเอง…
จะให้ความรู้สึกวิเศษวิโสระหว่างเขาและเธอ ปานใด …
จอมไตรครุ่นคิดขึ้นมาชั่วขณะ ความคับแน่นที่อุ่นจัดมันกำลังบีบรัดนิ้วของเขา ถ้าสอดใส่ตัวตนของเขาเองลงไป เธอ...คงอึดอัดและอาจจะ...เจ็บไม่น้อย
นี่คงเป็นครั้งแรกของเธอล่ะสินะ…
นิ้วที่ชักเข้าชักออกตามระดับความเร็วเพิ่มความหฤหรรษ์ จนเรือนกายงามอันเปลือยเปล่าร้อนเร่า เธอเผลอใช้มือขยุ้มลงไปกับที่นอนแล้ว ความปวดร้าวร้อนรุ่มที่ตรงนั้นมีมากขึ้น…
แล้วเขาก็ถอนนิ้วออก หญิงสาวเหมือนคั่งค้างเกร็งขาทั้งสอง เรียกร้องการเติมเต็มใหม่ ไม่นานเธอก็อุทาน เมื่อเขาได้ชำแรกนิ้วกลับเข้าไปอีก แต่คราวนี้เปลี่ยนจากหนึ่งมาเป็นสอง
"อ๊า!"
ชายหนุ่มสอดใส่สองนิ้วนั้นเป็นจังหวะเข้าออกช้า ๆ พอให้เนื้อนวลนั้นปรับให้รับกับขนาดของสองนิ้วได้ แล้วจึงเพิ่มจังหวะเป็นแรงขึ้น และเร็วขึ้น จนเรือนกายเธอบิดเกร็งทำท่าจะปลดปล่อยความสุขสม ทว่า ...
จู่ ๆ จอมไตรก็ถอนนิ้วทั้งสองออก หญิงสาวรู้สึกถึงความคั่งค้างในร่างกายอย่างรุนแรง เธอขยุ้มผ้าห่มแน่นพร้อมทั้งกัดริมฝีปากเพื่อสกัดกั้นความปวดร้าวในเนื้อนวลสาวที่ไม่ได้รับปลดปล่อย ลมหายใจเธอกระชั้น หัวสมองว่างเปล่า จะรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่เขาก้าวลงจากเตียงอย่างรวดเร็ว เปิดลิ้นชักควานหาอะไรสักอย่าง ครั้นพบ เธอจึงได้ยินเสียงเหมือนเสียงฉีกอะไรสักอย่างที่ดังแคว๊ก!
หญิงสาวยันกายขึ้นมามองทางปลายเท้า เขากำลังก้มหน้าจัดการกับสิ่งนั้นของเขา ความสว่างนวลตาจากโคมไฟงดงามในห้องพักหรูหรา ได้สะท้อนเรือนกายอันเปล่าเปลือยของชายหนุ่มออกมาได้อย่างงดงามไร้ที่ติ โดยเฉพาะช่วงเอวสอบ ลงไปที่จนถึงโคนขาทั้งสองที่เห็นกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ อย่างคนที่ชอบออกกำลังกาย
เห็นอย่างนี้... ใจเธอยิ่งเต้นแรง และส่วนเร้นลับในเรือนกายยิ่งเต้นตุ๊บ ๆ ๆ ๆ อย่างเรียกร้องให้เขารีบกลับเข้ามามากขึ้น หญิงสาวล้มตัวลงนอนราวกับคนอ่อนแรงอีกครั้ง ลมหายกระชั้นเพราะความร้าวลึกยังไม่ได้รับปลดการปลดปล่อย แล้วความระทึกปนด้วยความเรียกร้องต้องการก็ได้กลับมาอีกครั้ง เมื่อเตียงนอนนุ่มได้ยวบลงไปตามน้ำหนักของคนที่ก้าวขึ้นมา เขาทอดตัวลงนอนเคียงข้าง พลางสานสบกับดวงตาเธอ...ก่อนจะใช้หลังมือข้างหนึ่งเกลี่ยตามหน้าผากลงมาที่แก้มแดงจัด ด้วยความร้อนจากแรงปรารถนาที่ถูกเขาก่อกวน
หลังมือที่เกลี่ยแผ่ว ๆ เป็นความอ่อนโยนครั้งแรกที่เธอได้รับจากเขา หัวใจของรินรดารู้สึกอบอุ่นขึ้น จากนั้นมือหนาที่เกลี่ยเบา ๆ บนแก้มก็ได้เลื่อนลงมาเชยคางเธอขึ้นเล็กน้อยเพื่อรองรับจุมพิตอันดูดดื่มจากเขาอีกครั้ง ... รินรดาเคลิ้มไปกับใบหน้าคมคายที่โน้มลงมามอบจูบอันละมุน เผลอไผลไปกับสัมผัสอันละไม จึงไม่ทันรู้สึกตัวว่า มือหนาอีกข้างของเขาได้จับเรียวขาข้างหนึ่งเธอแล้วอ้าออก ก่อนจะแทรกลำตัวส่วนล่างของเขาเข้าไประหว่างขาทั้งสองข้าง
หญิงสาวรู้ตัวอีกที เมื่อมีอะไรสักอย่างที่กำลังจรดปลายมนเข้าตรงปากทางเข้าเนื้อนวลอยู่ ก่อนที่จะมือหนาจะจับถูมันขึ้นแล้วลง...ถูขึ้นแล้วลง ขนในกายหญิงสาวลุกเกรียว เขากำลังทรมานเธอให้สะดุ้งเกร็ง ยิ่งเวลาที่ปลายมนของตัวตนเขาจงใจกดลงปุ่มใจกลางความเป็นสาว... เรือนกายหวิวเผลอถดสะโพกหนีในบางครั้ง
จอมไตรจับตัวตนที่แข็งจัดนั้น ลงแนบกับปากทางเข้าเนื้อนวลเปียกฉ่ำ ก่อนจะเริ่มกด...ลงไป ทีละนิด ทีละนิด...ทีละนิด
รินรดาเกร็งหน้าตามและเปล่งเสียงครางออกมาทุกครั้ง ยิ่งเขาค่อย ๆ กดเข้าลึกเท่าไหร่ ความซาบซ่านก็เริ่มเลือนหายไป สิ่งที่เข้ามาแทนคือความเจ็บ คับแน่น จนเธอต้องขอให้เขานำมันออกไปก่อน
จอมไตรรู้ว่าคนใต้ร่างกำลังเจ็บ เขาจึงใช้มือข้างหนึ่งยึดข้อมือที่กำลังดันตัวเขาออกไว้ สบตาคนใต้ร่างอีกครั้ง เพื่อบอกว่า "เธอจะเจ็บแค่ครั้งเดียวเท่านั้น...เชื่อใจฉันนะ"
รินรดากัดริมฝีปากน้อย ๆ กับสายตาแห่งความจริงใจที่เขาส่งมาให้ เพื่อให้เธอไว้วางใจเขา เชื่อมั่นเขา หญิงสาวพยักหน้าน้อย ๆ ทั้งที่ตอนนี้เจ็บจนน้ำตาเล็ด
เขาจึงกระซิบลงข้างหูเธออีกคราว "...ถ้าเจ็บมากร้องออกมาก็ได้ เพราะฉันมีวิธีเก็บเสียงร้องเธอได้"
หญิงสาวพยักหน้าอีกครั้ง
เมื่อเธอยินยอมพร้อมใจที่จะให้เขานำตัวตนเข้าไปสำรวจ ให้ลึกในเนื้อนวลของเธอ จอมไตรจึงค่อย ๆ เลื่อนมือข้างที่ยึดข้อมือเธอลงไปข้างล่าง ตั้งใจแตะลงไปที่ปุ่มตรงใจกลางความเป็นสาว เค้นคลึงเบา ๆ เพื่อให้เธอลืมเลือนความเจ็บปวดในขณะนี้ไปก่อน และมันก็ได้ผล ร่างกายเธอเริ่มเรียกร้องอีกครั้ง
ชายหนุ่มจึงถอดถอนตัวตนออกก่อน แล้วตรึงคนใต้ร่างที่เริ่มเร่าร้อนด้วยแววตาทรงอำนาจ เมื่อเธอสบตากลับ ...จึงตัดสินใจดันตัวตนเข้าไปอีกครั้งอย่างแรง ยามที่ทะลุผ่านกับปราการบาง ๆ ภายในนั้น ได้ย้ำเตือนให้ทั้งเขาและเธอรู้ว่า พรหมจรรย์ของเธอได้ถูกทำลายสิ้นแล้ว
และวินาทีที่พรหมจรรย์สูญสิ้น ...รินรดาถึงกับเปล่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดตาม แต่ไม่ทันได้ร้องออกมาอย่างสุดเสียง ริมฝีปากร้อนที่รออยู่ก็ประกบริมฝีปากเธอกลบเสียงร้องได้อย่างทันท่วงที
จอมไตรเริ่มจูบบดเบียด... ใช้มือข้างหนึ่งขึ้นมาเคล้นคลึงกับทรวงสาว บีบ สลับกับใช้ปลายนิ้วขยี้เบา ๆ ตรงยอดอก ในขณะที่ส่วนล่างที่ประกบชิดซึ่งกันและกันแล้ว ยังคงค้างอยู่ในลักษณะเดิม เพื่อที่รอเวลาให้ตรงนั้นของเธอปรับตัวให้รับได้กับตัวตนที่ขยายใหญ่ของเขาก่อน
ครั้นเห็นปฏิกิริยาตอบสนองที่ถูกส่งมาจากคนใต้ร่าง ชายหนุ่มจึงถอนใบหน้าขึ้นมา วินาทีที่เห็นน้ำตาของหญิงสาวที่รินเป็นทางตรงหางตา เขาก็รู้สึกสงสารขึ้นมาเพียงเล็กน้อย แต่สำนึกเขาบอกว่านี่เป็นการร่วมรักในแบบที่เธอเองก็เต็มใจ เขาไม่ได้บังคับ ทั้งเขาและเธอต่าง ก็ได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการเหมือน ๆ กัน
จอมไตรจึงปัดความสงสารเธอทิ้ง จากนั้นหญิงสาวก็เริ่มแสดงอาการต้องการเขาออกมาอีก โดยการแอ่นสะโพกขึ้นเพื่อรอรับ เขาจึงเริ่มขยับสะโพกเข้าหา ช้า ๆ เรื่อย ๆ ร่างกายเธอก็ตอบสนองกลับโดยที สอดประสานเป็นจังหวะที่ลงตัว
ยิ่งเขากระแทกสะโพกสอบเข้าหา หญิงสาวก็สวนส่วนล่างกลับขึ้น เขายิ้มพึงพอใจ ก่อนจะเพิ่มจังหวะเป็นเร็วขึ้นและแรงขึ้น เสียงเธอเสียงเขาครางประสานกันเป็นความน่าฟังไปอีกแบบ
"อ๊ะ...คุณจอม!" เธออุทาน ซ่านเสียวไปหมด
จอมไตรยิ่งได้ใจขยับแรงลงไปอย่างเน้นให้เกิดความลึกที่สุด เร็วที่สุด "คะ คุณจอม...อ๊ะ ๆ ๆ ๆ ๆ!" แม้เสียงร้องขอจะน่าอาย ทว่า...เธอก็ไม่สามารถควบคุมอะไรในตัวเองได้อีกแล้ว นอกจากรีบให้เขาจัดการกับความเสียวซ่านปนสุขนี่สิ้นสุดเสียที
"อ๊าย!" รินรดาอุทานอย่างน่าอายอีก ยามชายหนุ่มยกขาเรียวข้างหนึ่งของหญิงสาวให้พาดลงกับบ่ากว้าง เพราะการทำเช่นนี้ยิ่งทำให้ตัวตนแกร่งของเขาได้สอดลงลึกขึ้นกว่าเดิม สามารถเติมเต็มความต้องการของเธอได้ดีขึ้น
จอมไตรแทบคลั่ง ภายในเธอทั้งคับแน่นและบีบรัด ...และตอบสนองเขากลับมาได้อย่างใจต้องการ ยิ่งเห็นใบหน้าเธอบิดเบี้ยวเพราะซ่านเสียว ตัวตนของเขาก็ยิ่งเสียวตาม
และแล้ว... วินาทีแห่งความหฤหรรษ์ของชายหนุ่มหญิงสาวก็มาถึงจุดสูงสุดที่พร้อมจะปลดปล่อยความรวดร้าว เสียว สะท้านออก เมื่อมือทั้งสองข้างของหญิงสาวตวัดหมับเข้ากับต้นแขนเขาแล้วบีบ พลางสบตาเขาอย่างร้องขอเขาแกมบอกว่า ...เธอใกล้ ใกล้จะถึงแล้ว
จอมไตรอ่านท่าทางเธอออก จงใจกระแทกสะโพกแรง ๆ เน้น ๆ จนเตียงใหญ่ไหวตามด้วยแรงสะเทือน อยู่สามสี่ครั้งก็สามารถส่งเธอไปถึงฝั่งฝันในวินาทีต่อมา
"อ๊ะ... อ๊า อ๊าย!" หญิงสาวเปล่งเสียงร้องยาว...เกร็งกระตุกระรัว การถึงจุดสูงสุด ช่างวิเศษเหลือเกิน
พอส่งคนที่อยู่ใต้ร่างถึงฝั่งฝัน จอมไตรก็ขยับสะโพกถี่ ๆ อีกไม่กี่ครั้ง เขาก็ถึงจุดสุขสมตามเธอไปอีกคนเช่นกัน ชายหนุ่มทรุดลงทับเรือนร่างบอบบางที่ยังหอบหายใจรุนแรงกับการถึงจุดสุดยอดในการร่วมรักครั้งนี้ ครางครึ้มอย่างพึงพอใจเมื่อเนื้อนวลที่โอบรอบตัวตนเขาได้ตอดรัดระรัว "อ๊า…" รินรดา เธอนี่ช่างคับแน่นเหลือเกิน
เขายังไม่ถอนตัวตนออก รอให้อาการเขม็งเกร็งอย่างรุนแรงของเรือนกายใต้ร่างได้ผ่อนคลายลงเสียก่อน
“คุณจอม" หญิงสาวเรียกชื่อชายหนุ่มเบา ๆ ภาพเรียวขาที่ยังแบะอ้า โดยมีลำตัวหนาของเขาที่ลมหายใจร้อนจัด และกำลังหอบหายใจแทรกอยู่ในเรียวขาทั้งสอง ทำให้เธอสับสนว่า นี่คือความฝันหรือความจริงกัน
เธอได้ร่วมรักกับชายหนุ่มที่เธอแอบรักมานานจริง ๆ หรือ …
เพื่อความแน่ใจว่านี่คือความจริง ไม่ใช่เพียงฝัน รินรดาจึงใช้มือบางลูบไล้แผ่ว ๆ บนแผ่นหลังอันแน่นหนั่นด้วยกล้ามเนื้อ และกิริยาเธอกำลังอยู่นั้น เป็นเหมือนกับการสะกิดตัวตนของเขาให้เริ่มตื่นฟื้นขึ้นมาอีก จากที่ได้ปลดปล่อยอย่างรุนแรงก่อนหน้า ตอนนี้มันเริ่มและขยายใหญ่และแผ่กระจายความร้อนไปที่เรือนร่างของคนทั้งสองที่กำลังผนึกเป็นหนึ่งเดียวกันอยู่
"อีกครั้งนะ...รับรองครั้งนี้ของเธอ มันจะไม่เจ็บอีก"
เสียงทุ้มพร่ากระซิบที่ข้างแก้มนวลแดงระเรื่อ...หญิงสาวไม่ตอบ ปล่อยให้ปฏิกิริยาของเรือนกายตอบเขาเอง เพราะยามเขาเริ่มขยับสะโพกช้า ๆ บั้นท้ายของเธอก็เริ่มขยับขึ้นลงตาม
จอมไตรจูบลงกับหัวไหล่นวลเนียนข้างที่ใบหน้าตนซบเคยเกยอยู่ ขบเม้มเบา ๆ เพื่อให้คลายจากความกำหนัดเสียว ที่กำลังรอปลดปล่อยในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
จากนั้นชายหนุ่มจึงค่อย ๆ หยัดตัวขึ้น แล้วเริ่มชักตัวตนเข้าออกกับเนื้อนวลเธอเป็นจังหวะช้าบ้าง เร็วบ้าง แล้วแต่มือทั้งสองข้างของเธอที่ตวัดแน่นกับต้นแขนล่ำตนจะชักนำ
เพื่อจะนำพาทั้งเธอและเขาไปยังจุดฝั่งฝันอีกครั้ง ในคืนที่...เต็มไปด้วยความต้องการเช่นนี้