“เรารู้ รู้แล้วปราณัฐ เราเป็นบุรุษ เมื่อได้ตรึกตรองดีๆ จึงมั่นใจว่าคืนนั้นคงไม่ได้เผลอมีอะไรกับใครแน่นอน เรารู้ว่าเจ้าโป้ปด มันทำให้เราโกรธและหุนหันกลับบ้านของเรา ทว่าพอห่างเจ้า ไม่ได้เห็นหน้าเจ้า เรากลับทุรนทุรายและเริ่มทบทวนสิ่งที่เกิด มันทำให้เรารู้ว่าสิ่งที่เจ้าทำลงไปทั้งหมดทั้งมวลนั้นเพื่ออะไร เพื่อสิ่งใด และเราก็ได้รู้ เหมือนกับที่เรารู้ใจตัวเอง เจ้าทำทุกสิ่งเพราะเจ้ารักเรา เรารู้ซึ้งแล้วปราณัฐ เราคงขาดเจ้าไม่ได้ เพราะเราเองก็รักเจ้าเช่นกัน ได้โปรด...มาเป็นชายาแห่งเราเถิด รับปากเราได้หรือไม่คนดี”
สิ้นเสียงของอลัญ ปราณัฐก็โผเข้ากอดเขา กอดแน่นๆ อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน อลัญไม่โกรธเธอแถมยังให้อภัยเธอด้วยซ้ำ สุดยอดว่าที่สามีแห่งปีเลยไหมล่ะ แล้วจะไม่ให้เธอตกลงได้อย่างไร ยอมมอบกายถวายหัวให้เลยค่ะว่าที่สามี
“ฉันตกลงค่ะอลัญ ฉันจะแต่งงานกับคุณ จะเป็นชายาของคุณตลอดไป ขอบคุณที่ไม่โกรธฉันนะคะ ฉันรักคุณค่ะอลัญ รักคุณ...”
ปราณัฐถูกผลักออกเมื่อการสารภาพรักจบสิ้น ริมฝีปากงามถูกเติมเต็มด้วยริมฝีปากของชีค ราวกับคำมั่นสัญญาที่ทั้งสองมีให้ต่อกัน
ระยะเวลามิได้การันตีสิ่งที่หัวใจต้องการ แม้รักกันเนิ่นนานก็ยังมีวันเลิกรา เช่นเดียวกัน แม้พบกันไม่ถึงเจ็ดวัน ก็อาจรักกันแน่นเหนียว ประหนึ่งว่าเกิดมาเพื่อกัน เกิดมาเพื่อค้นหาคนที่หัวใจเฝ้ารอ...
สองอาทิตย์ให้หลัง
ณ ห้องหอของบ่าวสาว
ปราณัฐยืนตัวสั่นอยู่กลางห้องที่กว้างที่สุดภายในวังเล็กๆ ของชีคอลัญ ทว่าวังเล็กๆ ที่เขาเอ่ยเรียกนั้น มันใหญ่กว่าบ้านของเธอที่เมืองไทยราวร้อยเท่าเชียวล่ะ พวกเธอแต่งงานกันวันนี้ มีพิธีตามศาสนาในช่วงเช้า และมีงานเลี้ยงอย่างชาวตะวันตกในตอนค่ำ
น้องสาวของเธอกับดิมิทรีและติการุณก็มา พวกเขาพักอยู่ในส่วนของห้องรับรองอีกด้านของวัง หัวใจเธอเต้นแรงมากขึ้นเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาหยุดอยู่หน้าห้อง แล้ววินาทีต่อมา อลัญก็ปรากฏกาย เขาดูงามสง่าในชุดสูทแบบสากล มีรอยยิ้มยั่วเย้าส่งมาให้ ดวงตาหวานเยิ้มนั่นคงเป็นผลมาจากแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป เคราสากระคายที่เธอเห็นบ่อยๆ บัดนี้ถูกโกนออกจนเกลี้ยงเกลา เผยใบหน้าหล่อเหลาขาวผ่องให้เธอได้ยลเต็มสองตา
“เจ้าดูกังวล” เขาเอ่ย เดินมาหาแล้วโอบเอวเจ้าสาวเอาไว้
“เอ่อ...คือ...ฉัน...ฉันคิดว่า คือ...คืนนี้มันดึกแล้ว เราควรจะอาบน้ำแล้วนอนพักน่าจะดีกว่า” บอกสามีแล้วยิ้มอย่างเกรงๆ ส่งให้ การสัมผัสทางกายด้วยการโอบกอดทำให้ทรวงอกเธอขยายขึ้นมาจนคับชุดที่สวม เริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง ยิ่งถูกมองด้วยสายตาหื่นกระหายของสามี ก็ยิ่งขนลุกซู่
“ไม่มีทาง วันนี้วันวิวาห์นะ ชายาของเราจะนอนเฉยๆ ได้อย่างไร” ไม่ว่าเปล่า แต่เริ่มรูดซิปชุดเจ้าสาวสีขาวสะอาดของปราณัฐลง
หญิงสาวหัวใจเต้นแรง หายใจหอบถี่ ทั้งกลัวทั้งประหม่า ทั้งอยากลิ้มลองว่าความสัมพันธ์ฉันชายหญิงมันวิเศษเช่นไร
“เจ้าตัวสั่น”
“ฉันกลัวค่ะ มือคุณร้อนมากเลย” เธอบ่นให้ เขาดึงชุดเธอลง เธอต้องใช้สองมือประคองพุ่มทรวงเอาไว้เพราะมันไร้บรา ส่วนเบื้องล่างนั้นยังมีกางเกงตัวจิ๋วปกปิดอยู่ อลัญลูบไล้เธอตั้งแต่บั้นท้ายขึ้นมาถึงลาดไหล่และลำคอ เขาลูบขึ้นมาถึงข้างแก้ม ลูบแตะริมฝีปากล่างของเธอช้าๆ
“ปากเจ้างามนัก เราจะบดคลึงปากเจ้า จะให้เจ้าได้ลิ้มรสเรา ทั้งตัว”
“โอ...ชีค...” ปราณัฐใจเต้นระส่ำ ดูสิ ใบหน้าเขาแดงขึ้น ดวงตาก็ฉ่ำเยิ้มเชิญชวน
“เจ้าพร้อมหรือไม่”
“คะ”
“เราจะกลืนกินเจ้า...ปราณัฐ จะกอด จะหอม จะจูบเจ้า จะลูบไล้ และจะ...ดำดิ่งในตัวเจ้า ให้ผิวกายเจ้าเร่าร้อน ให้เจ้าต้องส่งเสียงครางกระเส่า”
“ชีคคะ...อา....” เธอครางอย่างเขาว่า เมื่อเขาจูบลงมาที่ข้างลำคอ ทั้งสูดดม ทั้งขบดึงผิวเนื้ออ่อนๆ ตรงนั้น
“เจ้าควรเก็บเสียงไว้คนดี คืนนี้รับรองได้ร้องจนคอแห้งแน่นอน”
ก็อยากจะเถียงว่าไม่มีทาง แต่เขาเลื่อนปากมาจุมพิตเธอพร้อมๆ กับการถอดชุดของตัวเอง บรรยากาศมันร้อนมาก ร้อนระอุราวกับทะเลทรายยามเที่ยงวัน
และเมื่อทุกอย่างต่อติดเหมือนเชื้อไฟกับน้ำมัน แรงกระสันรัญจวนก็ผลักดันให้ทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไปตามครรลองของมัน เสื้อผ้าอาภรณ์หลุดออกจากกายบ่าวสาว ผิวเตียงได้รองรับร่างอุ่นร้อนของคนทั้งคู่ เสียงหอบหายใจดังแรงขึ้นเมื่อฝ่ายหญิงถูกปลุกเร้าด้วยริมฝีปากชาย
“โอ...อลัญคะ อลัญๆๆ” หญิงสาวครางเสียงหลงเมื่อรู้ถึงความชุ่มชื้นของลิ้นชาย เขาบรรจงจูบดูดชิมอยู่ที่เนินเนื้อใต้สะดือ สองมือเขาเลื่อนขึ้นมาครอบครองพุ่มทรวงอันอวบอัดในขณะที่สองมือเธอทำได้แค่ขยุมขยำผ้าปูเตียงเพราะต้องต่อสู้กับความซ่านสยิว มวลหมู่โลหิตสูบฉีดเร็วแรง ผิวเนื้อเธอร้อนผ่าวพอๆ กับผิวเนื้อเขา เสียงหอบหายใจสอดประสานเร่งเร้ารุนแรง และวินาทีต่อมา การหลอมหลวมอย่างรุนแรงก็ทำให้เธอต้องผวาขึ้นไปกอดคอสามี
“อ๊า!”
“ชู่...ปราณัฐ...เจ้าเจ็บหรือ เราขอโทษที่รัก เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”
“เจ็บ!” ปราณัฐบอกได้เท่านั้นเพราะกายส่วนล่างเจ็บปวดราวกำลังแตกปริ
“เดี๋ยวมันจะดีขึ้นคนดี เจ้าปล่อยเราก่อน”
ปราณัฐปล่อยคอสามีแต่โดยดี หน้านิ่วคิ้วขมวดเพราะเจ็บตึงไม่หาย กายส่วนนั้นอันแข็งขึงแห่งชาย ยังฝังแน่นอยู่ใจกลางกายสาวแน่นหนึบ เขาเริ่มขยับสะโพกโยกขึ้นลงช้าๆ เธอต้องอ้าปากส่งเสียงครางระบายความเจ็บปวด เขาโน้มใบหน้าลงมาปิดริมฝีปากเธอด้วยริมฝีปากเขา และเมื่อการจุมพิตสะกิดทรวงเกิดขึ้นอีกครั้ง ความเจ็บที่เบื้องล่างก็ค่อยๆ ทุเลา มีความสุขซ่านเสียวเข้ามาแทนที่
ความสดสาวของปราณัฐทำให้อลัญเก็บกดความต้องการเอาไว้ไม่ไหว ความสามารถมีเท่าไหร่เขาจึงใส่ไปเต็มอัตรา ความอิ่มเปรมผลิพุ่งในหัวใจเขาราวกับพลุไฟในงานเฉลิมฉลอง มันทั้งสุขและหอมหวานเหลือเกินในพรหมจรรย์แสนบริสุทธิ์ เขาพาหล่อนดำดิ่งสู่หุบเหวที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและน่าค้นหา จับจูงชายาผู้งดงามให้ล่องลอยสู่ความสุขที่หญิงสาวมิเคยพบเจอ
และเมื่อความสุขผลิพุ่งถึงขีดสุด แรงกระสันรัญจวนอันมากมีก็พาทั้งคู่โจนทะยานสู่ปลายรุ้งอันงดงาม เสียงหอบหายใจดังประสานกันเร็วแรง แม้เหน็ดเหนื่อยทว่ากลับยิ้มให้กันแล้วตระกองกอดกันไว้ ราวกับกลัวว่ามวลอากาศอันไร้ตัวตนจะมาพรากสองร่างให้แยกจากกัน
“เรารักเจ้า ชายาแห่งเรา”
“ฉันก็รักคุณค่ะ ฉันรักคุณ...อลัญ”
สิ้นคำบอกรักนั้นปราณัฐก็ได้รับจุมพิตหวามหวาน ก่อนที่บทเพลงสวาทจะถูกบรรเลงขึ้นอีกครั้ง และคงไม่หยุดลงง่ายๆ หากแสงทิวามิแต้มแต่งท้องฟ้าคราม...
จบบริบูรณ์