#15

1550 คำ
“สวัสดีน้องชาย” ทิวายิ้มและขยี้เส้นผมนุ่มของเทวา ท่าทางเอ็นดูเทวาถูกฉายออกมาจนดูไม่ออกเลยว่านั่นคือการแสดงหรือมาจากความรู้สึกจริง นับดาวหยุดความคิดฟุ้งซ่านของตัวเองไว้ พี่น้องปรองดองกันมันก็ดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ เธอจะทำให้มันเสียเรื่องไม่ได้ “พรุ่งนี้เป็นวันหยุด เทวาอยากไปที่ไหนพี่ชายจะพาไป” เทวายิ้มกว้างออกมาทันที เขาเงยหน้ามองนับดาวเป็นการขอการยินยอมจากเธอก่อน นับดาวพยักหน้า “สวนสนุกครับ” ทิวาตอบตกลงกับเทวา ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เขาอดไม่ได้ที่จะลูบศีรษะเทวาอย่างเอ็นดูอีกครั้ง “พรุ่งนี้คุณไปด้วยนะ” คราวนี้ทิวาพูดกับนับดาว แต่เขาไม่รอคำตอบรับหรือปฎิเสธอะไรจากเธอ เขาหันหลังเดินจากไป ไหนว่าที่นี่ไม่ใช่ที่ทำงานไง ไหงถึงออกคำสั่ง...นับดาวคิดอยู่ในใจ  แต่เธอก็ยิ้มออกมา เมื่อสิ่งที่เธอหวาดหวั่นมาโดยตลอดไม่ได้เกิดขึ้น แบบนี้ก็ดี...ดีกว่าที่เธอคิดไว้ และมื้อเย็นวันนี้ครอบครัวก็พร้อมหน้า พี่ชาย น้องชายและ...คุณแม่ เช้าวันเสาร์ มื้อเช้าพร้อมหน้ากันอีกครั้ง บ้านสงบผู้อาศัยทุกคนก็อยู่ในโหมดสุขใจ เมื่อคืนนี้นับดาวต้องรายงานสถานการณ์ให้กับเพื่อนรักอย่างกิ่งแก้วฟังทุกอย่าง  “แปลก” คำแรกที่กิ่งแก้วเอ่ยหลังจากฟังนับดาวจนจบ และต่อมาเธอก็อดไม่ได้ที่จะต้องเตือนเพื่อนรัก “ฉันก็ไม่ได้รู้จักเขาหรอก แต่มันดูราบรื่นเกินไป ดาวแกลองคิดดู คนเจ้าคิดเจ้าแค้นแม้แต่พ่อของตัวเองเขายังไม่ยอมลงให้เลย...ยังไงแกก็อย่าประมาทระวังตัวไว้ด้วยเข้าใจมั้ย” นับดาวขานรับ เพราะเหตุผลที่เพื่อนรักบอกมาก็จริง  “กิ่ง ฉันไม่สบายใจเลยที่ปิดบังเรื่องนี้กับพิมพ์ไว้” “ฉันก็เหมือนกัน ฉันคิดว่าคงถึงเวลาที่ต้องบอกยายพิมพ์แล้ว เพราะอีกไม่นานแกก็ต้องเผชิญหน้ากับพี่สาวยายพิมพ์ในฐานะใหม่ ให้ยายพิมพ์รู้เรื่องจากพวกเราดีกว่า” อื้ม นับดาวขานรับในคออย่างเห็นด้วยอย่างยิ่ง หลายปีมานี้ที่เป็นเพื่อนกันมา พิมพ์รักจริงใจต่อเธอมาก เพื่อนกันมีอะไรก็แบ่งปันกัน เพราะพิมพ์เองก็ไม่มีอะไรที่ปิดบังพวกเธอสองคนเลย “เอารถคุณไปแล้วกัน” นับดาวมองทิวา เขาคว้ามือเทวาไปยืนรอเธอที่ประตูเบาะหลัง นับดาวจำต้องปลดล็อคให้เขาเปิดประตู เขาช่วยเทวารัดเข็มขัดให้อย่างเรียบร้อย และนับดาวคิดว่าเขาจะเป็นคนขับแต่เปล่าเลยเขากลับพาตัวเองไปนั่งข้างคนขับ นับดาวจึงรู้ว่าเขาให้เธอขับเอง “ผมไม่ค่อยชินเส้นทางนะ” แน่นอนว่าทิวาพูดไม่จริง แต่นับดาวมีหรือว่าจะรู้ แต่คำพูดของเขาก็พอเป็นไปได้ในความคิดของเธอ เพราะเขาอยู่ต่างประเทศมานาน วันนี้เป็นวันหยุด แน่นอนว่าสวนสนุกเต็มไปด้วยผู้ปกครองที่พาลูกหลานมาเที่ยว “เดี๋ยวผมกับเทวาไปซื้อตั๋วเข้าประตู คุณก็ไปหาที่จอดรถ” ทิวาจัดแจงแบ่งหน้าที่กัน นับดาวมองตามหลังทิวาและเทวาที่เดินไปด้วยกัน ทำไมไม่รู้เธอถึงรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเลย  “ยายดาวเธอจะบ้าหรือไง เขาไม่ใช่ฆาตกรโรคจิตเสียหน่อย” นับดาวบ่นตัวเองเพียงลำพังในรถ ผู้คนมากมายเป็นเรื่องปกติ นับดาวเคยพาเทวามาแล้วสองครั้ง จึงไม่รู้สึกอะไรกับผู้คนที่มากมายของที่นี่ แล้วทำไมเธอกลับเกิดความกังวลในความรู้สึกของทิวามาได้ หรือว่าเพราะเธอรู้สึกว่าทิวาเป็นคนถือตัว เขาอาจจะไม่แฮปปี้กับที่นี่ก็ได้  นับดาวได้ที่จอดรถในอีกสิบนาทีต่อมา เธอเร่งฝีเท้าไปยังช่องขายตั๋ว ผู้คนต่อแถวซื้อกันมากมาย เธอไม่เห็นทิวาและเทวาเลย เธอคอยชะเง้อคอยาวหาอยู่สักพัก จิตใจก็เริ่มร้อนรน อ๊ะ! แต่แล้วเธอก็สะดุ้ง เมื่อไหล่บางถูกสัมผัสจากด้านหลัง เป็นเขาเมื่อเธอหันกลับมา เขาจูงเทวาไว้มือหนึ่ง อีกมือยังจับไหล่เธอไว้ อุ๊บ! ผลั๊ก แต่แล้วจู่ๆ พวกเขาก็โผเข้าหากัน ทิวารับร่างบางที่เซถลามาข้างหน้าไว้อย่างมั่นคง นับดาวแนบใบหน้ากับแผ่นอกเขา ได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ในแบบของผู้ชายที่ชวนให้เคลิบเคลิ้ม “ขอโทษค่ะ” หญิงสาวรุ่นๆ เอ่ยออกมา พร้อมกับรั้งแขนที่น่าจะเป็นน้องชายของเธอ ที่ซุกซนจนวิ่งมาชนนับดาวจนเกือบล้ม “ไม่เป็นไรครับ” ทิวาตอบกลับโดยที่ยังโอบนับดาวไว้ แต่สายตาเขากลับมองไปที่หญิงสาวรุ่นๆ ตรงหน้า ก่อนที่พวกเธอจะขอตัวจากไป นับดาวผละออกจากแผ่นอกแน่นหนักของทิวา ใบหน้าเธอแดงก่ำ สีแก้มแบบนี้ของนับดาวทิวาเห็นมาสองสามครั้งแล้ว “พวกเราเข้าไปกันเถอะ” ทิวาเอ่ยพร้อมกับยื่นตั๋วเข้าประตูให้เธอไปถือไว้ นับดาวพยักหน้าและรับมา และเธอตั้งใจจะเป็นคนจูงมือเทวา แต่... หมับ! มือข้างที่โอบไหล่เธอกลับคว้ามือเธอไว้ เขาเป็นธรรมชาติมาก แต่เธอกลับใจเต้นแรงกว่าเดิม ทุกก้าวที่ขยับของนับดาวเธอรู้ตัวว่ามันไม่มั่นคงเอาเสียเลย “คุณแม่” เทวาตะโกนเรียกนับดาวเมื่อม้าหมุนเวียนมาตรงที่พวกเธอยืนรอเขา นับดาวโบกมือตอบกลับเทวาพร้อมรอยยิ้ม “เล่าเรื่องของเทวาให้ผมฟังบ้างสิ” ทิวาที่ยืนอยู่ข้างๆเธอ จู่ๆก็เอ่ยขึ้นหลังจากที่เขายืนเป็นเพื่อนเธอเงียบๆอยู่ตั้งหลายรอบของม้าหมุนที่เทวาได้นั่งไปแล้ว “อ่อ ค่ะ เทวาเป็นเด็กที่ค่อนข้างพูดน้อย กว่าเขาจะพูดคำแรกก็ช้ากว่าเด็กทั่วไป แต่...เขาก็ปกตินะคะ เขาชอบไปโรงเรียน ดาวยังจำวันแรกที่พาเขาไปได้เลย ตอนแรกคิดว่าเขาจะร้องไห้ไม่ยอมไปเสียอีก...” ทิวายิ้มเล็กน้อย ‘ดาว’ เขาเคยได้ยินเธอแทนตัวกับเขาแบบนี้มั้ยนะ  “ไม่มีคุณพ่อ คุณคงลำบากแย่” นับดาวหันไปมองทิวา เธอไม่รู้ว่าเรื่องบางเรื่องเธอต้องบอกเขามั้ย เขาอาจจำเป็นต้องรู้แต่คงไม่ใช่ตอนนี้ “ก็ไม่ถึงขั้นว่าลำบากหรอกค่ะ” พรึ่บ ขอบรั้วจู่ๆก็ร้อนขึ้นมา ทั้งๆที่มือของเธอก็ไม่ได้ถูกเขากุมไว้เหมือนตอนที่เดินด้วยกันในช่วงแรกๆ  ตอนนั้นเขาบอกว่าคนเยอะเดี๋ยวจะผลัดหลงกันไป นั่นคือเหตุผลที่เขาต้องจูงมือเธอ แต่ตอนนี้เขาแค่จับขอบรั้วมือใกล้กับมือเธอมากก็เท่านั้น ทิวายิ้มสายตามองไปที่ม้าหมุนที่เทวานั่งอยู่ เขาสนุกสนานรอยยิ้มบนใบหน้าทิวาจึงบอกยากว่าเกิดจากอะไรกันแน่ ระหว่างมือที่สัมผัสใกล้นับดาวหรือรอยยิ้มของเทวา เครื่องเล่นที่เหมาะกับเด็กวัยสามขวบค่อยๆปรากฎครอบครัวเล็กๆที่ผู้คนทั่วไปมองแล้วต้องเข้าใจว่าคือ พ่อยังหนุ่ม แม่ยังสาว และลูกเล็กที่หน้าตาไปทางพ่อมากกว่า หรือบ้างก็คิดว่าชายหนุ่มพาน้องชายมาเที่ยวกับแฟนสาว พวกเขามานั่งพักดื่มน้ำ ทิวานั่งเบียดชิดกับนับดาวและให้เทวานั่งบนตักเขาและเธอ เขาดึงโทรศัพท์ของนับดาวมาจากมือเธอเพื่อที่จะเซลฟี่ การกระทำที่ไม่ปี่ไม่ขลุ่ยของเขาทำให้นับดาวรู้สึกว่าหัวใจของเธออาจจะพิการได้แน่ๆ ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วเป็นความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจของทิวา ที่เขาไม่ได้เอาโทรศัพท์ของตัวเองไปด้วยในการไปเที่ยวสวนสนุกในวันนี้ นับดาวไม่รู้เรื่องนี้จนกระทั่งพวกเธอกลับมาถึงบ้านในช่วงหัวค่ำ เทวาเหนื่อยล้าจนหลับไปแทบทันทีที่เข้ามานั่งในรถ นับดาวยังคงเป็นสารถีต่อสำหรับขากลับ แต่รถก็หยุดทันทีเพียงแค่เคลื่อนผ่านประตูรั้วมา “เหมือนคุณจะมีแขกค่ะ” ทิวามองไปยังรถที่จอดอยู่ เป็นของพร้อมรัก “ให้พวกฉันออกไปก่อนก็ได้นะคะ” นับดาวเองก็ยังไม่พร้อมที่จะเผชิญความยุ่งยาก  ทิวาแหงนไปมองคนตัวเล็กที่หลับ เทวาต้องพักผ่อน “คุณขับไปจอดรอซอยข้างๆแป็บหนึ่ง เดี๋ยวผมโทรไปบอก” ทิวาออกจากรถ นับดาวถอยหลังออกจากบ้านทำตามที่เขาบอกไปจอดอยู่ซอยข้างๆที่เดิม ที่เธอเคยจอดก่อนหน้านี้ วันที่ทิวากลับมาจากเซี่ยงไฮ้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม