“นายเข้าไปข้างในได้แล้ว ก่อนที่ยัยโฉมจะสงสัย”
ศราวิลสั่ง อีกฝ่ายทำตามอย่างว่าง่าย เสียงฝนด้านนอกซาลงบ้างแล้ว พอๆ กับแสงตะวันที่มิอาจแลเห็นในยามนี้
“ปล่อย” อาทิตาสั่งคนที่กุมมือตนไว้ ไม่สำนึกในสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่
“คิดจะทำอะไร เป็นบ้าเหรอ อยากให้น้องฉันอกแตกตายหรือไง”
อาทิตายักไหล่ “ถ้าได้ก็ดี” เธอประชด เขากำลังทำให้เธอเจ็บ ข้อมือเธอเจ็บจนชาแล้วตอนนี้
“อาทิตา!” ดวงตาของศราวิลแดงก่ำ มองคนที่ลอยหน้าลอยตาประชดเขาแล้วเคืองใจยิ่งนัก หล่อนสะบัดข้อมือออกจากการเกาะกุม มองมาที่เขาด้วยดวงตาอันเด็ดเดี่ยว
“ผู้หญิงคนนั้นแย่งของของฉันไป น้องสาวคุณมาแย่ง...คนดีๆ ไปจากฉัน!” อาทิตาพร่ำบอกอย่างแค้นใจ ริมฝีปากอิ่มสั่นระริกด้วยความโกรธ
“เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว เข้าไปข้างใน มีห้องสองห้องอยู่ข้างล่าง เปิดประตูสีฟ้าแล้วเข้าไปในนั้นซะ!”
“ทำไมฉันต้องเข้า ห้องฉันอยู่ในกระท่อมโน่น” เธอชี้ออกไปนอกประตูที่สามารถแลเห็นกระท่อมได้
“ไม่ต้องมาเถียง จะให้แม่ฉันรู้ไม่ได้ว่าเธอนอนในกระท่อม อย่าพูดมาก เข้าไปซะ ฉันจะไปเอาเสื้อผ้ามาให้ เข้าไปเดี๋ยวนี้!”
แล้วอาทิตาก็ถูกผลักเข้าไปข้างใน ศราวิลวิ่งฝ่าสายฝนออกไปนอกห้องครัว เธอไม่พอใจในสิ่งที่เขาทำ แต่พอนึกถึงเตียงนุ่มๆ ในบ้านอุ่นๆ ก็ทำให้เธอเปลี่ยนใจ ไม่มีใครอยู่ที่ห้องนั่งเล่นตอนที่เธอเดินเข้ามา เธอเดินหาห้องที่มีประตูสีฟ้า มีประตูอีกบานสีส้มจางๆ อยู่ตรงข้ามกัน เธอยืนมองมันชั่วครู่ แล้วอยู่ๆ ประตูก็เปิดออกมา ปริญนั่นเอง
“อ้อ...ซันอยู่ห้องนี้เหรอ นี่ห้องประจำพี่เอง” ปริญบอกยิ้มๆ ชี้ไปยังห้องที่มีประตูสีส้ม เวลามาที่นี่ เขาจะพักห้องนี้เสมอ
อาทิตาไม่รู้จะตอบว่าอะไร ได้แต่ยิ้มเฝื่อนๆ ให้เขา
“พี่ขึ้นข้างบนก่อนนะ โฉมเดินทางไกลคงเหนื่อย พี่จะไปช่วยจัดเสื้อผ้า” ปริญบอกแล้วก้าวจากไป
อาทิตาเลิกคิ้วสูง มีรอยยิ้มฝืนๆ ตาสองข้างไม่กะพริบและมีหยดน้ำใสเคลือบคลอ
“โฉมคงเหนื่อย พี่จะไปช่วยจัดเสื้อผ้า เฮอะ! คำพูดนั่นเคยพูดกับซันนะพี่เป้ ลืมแล้วเหรอ พูดแบบนั้น...ต่อหน้าซันได้ยังไง” แม้เก็บกลืนก้อนสะอื้นปานใด มันก็ไหลมาจุกในคอ ไหล่บางลู่ลงอย่างสิ้นหวัง หยดน้ำตาร้อนๆ ไหลออกมา เอาอีกแล้วสินะ อาทิตาโหมดอ่อนแอมาอีกแล้ว ฝนตกทีไรอารมณ์อ่อนไหวทุกที
หญิงสาวผลักประตูสีฟ้าเข้าไปภายใน ห้องสี่เหลี่ยมสีฟ้าสะอาดสดใส มีเตียงใหญ่หนานุ่มน่านอน
“ฉันจะทิ้งร่างลงบนนั้นแล้วนอนร้องไห้ให้หนำใจ ขอห้านาที ขอแค่ห้านาทีเถอะ” แล้วอาทิตาก็เปิดตู้เสื้อผ้าหลังไม่ใหญ่ไม่โตออก ในนั้นมีเพียงไม้แขวนเสื้อเปล่าๆ กับผ้าเช็ดตัว เธอคว้าทั้งสองอย่างแล้วก้าวเข้าห้อง หลังตากฝนมาเธอถูกสอนว่าให้อาบน้ำสระผมจะได้ไม่เป็นหวัด ฉะนั้นแม้ง่วงนอนแค่ไหน เพลียร่างเพียงใดก็ยังต้องอาบน้ำอยู่ดี
ไม่กี่นาทีให้หลังศราวิลก็ก้าวเข้ามา เสียงน้ำซู่ๆ ดังอยู่ในห้องน้ำ เขาเดาว่าอาทิตาอยู่ในนั้น กระเป๋าเดินทางของหล่อนถูกวางไว้ข้างเตียง เขาเปิดตู้เสื้อผ้าออกดู ในนั้นสะอาดและเรียบร้อยดี
แอ๊ด...
ประตูห้องน้ำเปิดออกช้าๆ อาทิตาก้าวออกมา หล่อนนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวโดยเหน็บปมหลวมๆ ไว้ที่เนินอกข้างซ้าย มีผ้าผืนใหญ่อีกผืนคลุมมิดศีรษะ
ศราวิลถอยห่างจากตู้ มองดูแม่สาวกรุงฯ นุ่งน้อยห่มน้อยแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ ผ้าที่หล่อนคลุมศีรษะไว้ผืนใหญ่พอดู มันปิดตาของหล่อนด้วย หล่อนคงย่ามใจคิดว่าอยู่ในนี้เพียงลำพังกระมัง
“ฮัดเช้ย!”
ฟึ่บ!
ศราวิลอ้าปากค้างในนาทีนั้น ในตอนที่หล่อนจามสุดแรง ผ้าเช็ดตัวที่พันร่างไว้หมิ่นเหม่ก็หล่นไปกองอยู่แทบเท้า เรือนร่างขาวโพลนเต็มตึงไปทุกส่วนกระจ่างในสองตาเขา หล่อนไม่ได้ผอมกะหร่อง แต่รูปร่างดีอย่างที่เขาคาดไว้ หล่อนมีในส่วนที่ควรมี และขาดในส่วนที่ควรขาด พุ่มทรวงอวบใหญ่กับหน้าท้องแบนราบนั่นถูกใจเขานัก และยิ่งไปกว่านั้น บริเวณที่ต่ำลงมากว่าสะดือ ความโหนกนูนอย่างที่เขาไม่เคยพบพาน ความสะอาดเกลี้ยงเกลามิมีสิ่งใดรกรุงรังก็ทำให้เขาลืมไปแล้วว่าการหายใจมันคืออะไร
“บ้าจริง คนยิ่งรีบๆ” คนสวยบ่นแต่ไม่ยอมก้มลงไปหยิบผ้า เธอเช็ดตัวเสร็จแล้วนี่
หญิงสาวก้มหน้าเดินด้วยว่าผ้าที่เช็ดผมผืนใหญ่เกินไป เดินไปก็เช็ดไป มองเห็นเพียงปลายเท้าตัวเองที่มุ่งตรงไปข้างหน้า ทว่าพอใกล้จะถึงตู้เสื้อผ้า กลับมีปลายเท้าของใครบางคนโผล่มาให้เห็น
อาทิตาใจหายวาบ มือที่ขยุ้มอยู่บนศีรษะดึงผ้าเช็ดผมออกให้ไว แล้วร่างสูงของศราวิลก็ปรากฏอยู่ต่อหน้า เธอชาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เขามาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่!
“กรี๊...อุ๊บ!”
ปากน้อยที่เตรียมส่งเสียงร้องถูกปิดไว้ด้วยมือใหญ่ของศราวิล ไม่เพียงเท่านั้น ร่างชุ่มน้ำฝนที่โผเข้ามายังพาร่างอาทิตาเสียหลักล้มลงไปบนเตียง
ดวงตาแม่สาวกรุงฯ เบิกโต ตกตะลึงยิ่งกว่าครั้งไหนในชีวิต
“ชู่ว์...อย่ากรี๊ด ขอร้อง มันจบไม่สวยแน่ถ้าสองคนที่อยู่ข้างบนวิ่งลงมาดูเพราะเสียงกรี๊ดของเธอ”
อาทิตาส่ายหน้า แบบนี้ไม่ได้ ไม่ดีแล้ว เนื้อตัวเธอถูกทับไว้ด้วยร่างเขา เขายังสวมเสื้อผ้าแต่เธอนี่สิอยู่ในชุดวันเกิด
“อ่อยอั๊นอ๊ะ!” เธอส่งเสียงอู้อี้ ศราวิลไม่ยอม
“สัญญาสิว่าถ้าปล่อยแล้วจะไม่ร้อง”
คนที่อยู่เบื้องล่างสองจิตสองใจ ทว่าสุดท้ายแล้วก็ยกมือยอมแพ้ เขาค่อยๆ ปล่อยมือออกจากปากเธอ
หมับ!
จู่ๆ สองมือบางก็ปิดตาเขาไว้
“นี่!? ปิดตาฉันทำไม!” ศราวิลเป็นงง
“สำนึกหน่อยว่าฉันโป๊อยู่” เธอบอกเสียงลอดไรฟัน “ทีนี้ก็ลุกออกไปช้าๆ อย่าแตะต้องฉันนะ ไม่งั้นจะกรี๊ดให้บ้านแตกเลย”