บทที่ 3/2 ยินดีต้อนรับสู่นรก

1093 คำ
เสียงเขาอ่อนลงยามเอ่ยวาจา ป้าพุดเป็นคนจัดการเรื่องบ้านให้เขา ทั้งทำความสะอาด และทำอาหารด้วย “บ่อเป็นหยังดอกค่า มาๆ เข่าบ้านสาก่อน แล้วนั่น...ผู้ใด๋ล่ะ?” ป้าพุดทำหน้างงเมื่อเห็นสตรีที่ยืนอยู่ข้างหลังศราวิล ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ “น้องสาวครับ น้อง...นอกไส้” ป้าพุดทำหน้าประหลาด แต่ก็รีบรับไหว้เมื่ออีกฝ่ายยกมือไหว้นาง “สวัสดีค่ะ หนูชื่ออาทิตา เรียกว่าซันก็ได้” อาทิตาเอ่ยอย่างนอบน้อม อย่างแรกที่เธอทำได้คือเข้าหาผู้ใหญ่ หาที่พึ่งเอาไว้ก่อน ป้าพุดยิ้มๆ มองนายของตนสลับกับมองผู้มาใหม่ “ผมจะรีบเข้าไร่ ฝากป้าพุดเอากระเป๋าไปเก็บด้วยนะครับ เอาเฉพาะของผมก็พอ” บอกแล้วชี้ไปยังกระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเอง ป้าพุดชักงง ศราวิลมองมายังอาทิตา เลิกคิ้วนิดๆ ราวกับจะบอกให้หญิงสาวเอ่ยบางอย่าง “เอ่อ...ซัน...ซันจะนอนที่นั่นค่ะ อยากสัมผัสบรรยากาศบ้านนอกคอกนาดูบ้าง” อาทิตาฝืนยิ้ม มองไปยังประตูสังกะสีแล้วเพลียใจ ป้าพุดยิ่งมุ่นคิ้วหนัก ตอนที่เจ้านายโทรมาเมื่อวานว่าให้จัดกระท่อมไว้รอท่า ก็นึกว่าจะมีคนงานมาใหม่ ที่ไหนได้... “บอกเธอเรื่องความสะดวกต่างๆ อ้อ...เธอจะใช้ห้องน้ำข้างนอก กินข้าวในครัว และนอนในกระท่อม ป้าพุดไม่ต้องแปลกใจนะครับ เธอบอกแล้วว่าอยากสัมผัสบรรยากาศบ้านนอกคอกนา” ศราวิลเอ่ยจบก็ก้าวยาวๆ ไปยังโรงนาหลังแรก ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นอาทิตาก็ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซค์ เขาเร่งเครื่องเสียจนควันโขมง ก่อนจะหายเข้าไปในดงอ้อย ทิ้งไว้เพียงเขม่าควันจากท่อไอเสีย “มาค่ามา มานั่งเซาเมื่อยก่อนคุณซัน” อาทิตายิ้มแหยๆ พยายามแปลภาษาไทยเป็นไทยด้วยสมองอันน้อยนิดที่มี เธอถูกพาไปที่ห้องครัวหลังบ้าน เป็นครัวไทยกว้างขวางเหมือนครัวปกติทั่วไป ผิดก็แต่ที่นี่มีกระติบข้าวเหนียววางไว้บนโต๊ะใหญ่ แทนหม้อหุงข้าวอย่างที่เธอคุ้นชิน “ตอนเซ่าคุณฉัตรบ่อกินเข่า” เสียงป้าพุดเอ่ยขึ้น อาทิตากุมขมับ ก้มมองเข่าตัวเอง เข่า นี่กินได้ด้วยเหรอ โอ๊ย...จะบ้าตาย ฟังไม่รู้เรื่องโว้ย! ป้าพุดหันมอง เห็นอาทิตาก้มมองเข่าตัวเองก็นึกขำ “เข่ากะคือ ข้าว นั่นล่ะคุณซัน เข่าใจบ่อค่า” อาทิตากะพริบตาปริบๆ เข่าแรกคือ ข้าว เข่าที่สองล่ะ เข่าใจ...อ้อ...มันต้องหมายถึง เข้าใจ แน่ๆ “อา...ค่ะๆๆ เข้าใจค่ะ” “ตอนเซ่ากับตอนเที่ยงป้าสิเฮ็ดแนวกินให้ ตอนค่ำคุณซันเฮ็ดกินเองเด้อค่า” ริมฝีปากของอาทิตาเม้มแน่น พยักหน้าหงึกๆ ทั้งที่เข้าใจเพียงผิวเผิน ฟังอะไรไม่รู้เรื่องเธอก็ตอบแบบกลางๆ “ค่ะป้าพุด ซัน...โอเค...” ป้าพุดยิ้มอารี พาอาทิตาสำรวจในครัว ตามด้วยห้องน้ำที่ตั้งห่างจากตัวบ้าน มันเป็นห้องน้ำแบบไร้ความสวยงาม ไม่มีฝักบัว ไม่มีชักโครก มีส้วมซึมกับอ่างปูนซีเมนต์ที่เปิดน้ำใส่ไว้จนเต็ม สะอาดในระดับหนึ่ง แต่อาทิตาไม่ปลื้มนัก ด้วยว่ามันมิได้อยู่ติดกับกระท่อม ถ้าปวดฉี่กลางดึกก็คงต้องวิ่งลงมา ป้าพุดยังพาเธอเอากระเป๋าไปเก็บ ในกระท่อมหลังน้อยไม่ได้มีเครื่องเรือนมากมาย นอกจากเสื่อผืนหมอนใบ ผ้าห่มกับมุ้งกันยุง “จัดของไปก่อนเด้อค่า ป้าเอากะเป๋าของคุณฉัตรไปเก็บเทิงเฮียนก่อน เดี๋ยวสิลงมาใหม่” ป้าพุดบอกแล้วชี้ขึ้นไปบนบ้าน อาทิตาพยักหน้าหงึกๆ หญิงสาวเข่าอ่อนยวบเมื่อลับร่างของป้าพุด หันมองรอบกายแล้วอยากจะร้องไห้ หัวใจในอกเริ่มหวาดระแวง ที่นี่จะนอนได้จริงหรือ มีสัตว์ร้ายหรือไม่ ปลอดภัยหรือเปล่า ประตูนั่นจะกันโจรขโมยได้จริงหรือ “ฉันคิดผิดหรือเปล่านะที่ดิ้นรนมาที่นี่ ถอดใจได้ไหม กลับตอนนี้ทันหรือเปล่านะอาทิตา” หญิงสาวถามตัวเองไปอย่างนั้น เพราะในขณะที่ปากถาม มือก็เปิดกระเป๋าแล้วดึงเสื้อผ้าออกมา ในกระท่อมไม่มีตู้เสื้อผ้า เธอจึงเอาเสื้อผ้าออกมาแค่ไม่กี่ตัว อาทิตาลงไปอาบน้ำ น้ำในอ่างเย็นเชียว แม้ไม่ใช่หน้าหนาวก็ตาม เธอไม่ได้เตรียมสบู่แชมพูมาด้วย และไม่กล้าใช้ของที่มีอยู่ เลยได้แค่อาบน้ำอย่างเดียว อาบพอให้สดชื่นเท่านั้น เสียงเครื่องยนต์เหมือนเสียงรถแล่นเข้ามาจอด เธอไม่รู้ว่าใครมา ได้แต่รีบอาบน้ำอาบท่าแล้วกลับออกมาในสภาพผ้าเช็ดตัวห่อร่างเพียงผืนเดียว “ฮ่วย! นั่นแม่นคนอยู่บ่อลูกพี่” เสียงทิดอ่ำ หัวหน้าคนงานร่างมอมแมม เอ่ยถามเจ้านาย ด้วยว่ามองเห็นร่างอรชรในชุดผ้าขนหนูผืนเดียวเดินออกจากห้องน้ำแล้วก้าวขึ้นกระท่อมไป ศราวิลไม่ตอบ แต่มองตามสายตาของทิดอ่ำ “ป้าด...ซะมางามคักแท้ ผู้สาวกุงเทพติคับ” “เออ...ไปๆ มืดค่ำแล้ว ไม่กลับบ้านหรือไง” ศราวิลมองคนที่เพิ่งขับรถมาส่ง ด้วยว่ารถเครื่องสองล้อของเขานั้น เกเรจนดับสนิทอยู่กลางดงอ้อย ทิดอ่ำขับรถอีแต๋นผ่านมาเลยแวะมาส่งก่อนกลับบ้าน “อั่น...ขอเบิ่งจั๊กคาวได้บ่อคับ คุณคนสวยเพิ่นเป็นไผ มาเฮ็ดอิหยังอยู่กางดงอ้อยล่ะคับลูกพี่” ทิดอ่ำว่าแล้วมองไปยังกระท่อมหลังน้อย ต้องเพ่งสายตาดูอีกทีเพราะคิดว่าแลเห็นผิวเนื้อนางผ่านช่องว่างของแผ่นไม้ที่ตีเป็นผนัง คุณคนสวยกำลัง...แก้ผ้า!? หมับ! ตาของทิดอ่ำถูกปิดไว้ด้วยมือของเจ้านาย ศราวิลใบหน้าเรียบเฉย ริมฝีปากไม่เฉียดใกล้การคลี่ยิ้ม หากเขาแลเห็นสิ่งที่อยู่ในกระท่อม ทิดอ่ำก็คงเห็นเหมือนกัน มันน่าจับคนในนั้นมาเขย่าให้หัวหลุด หล่อนไม่ได้ดูหรืออย่างไร ถึงไม่รู้ว่าผนังของกระท่อมมีช่องว่างที่สามารถมองเห็นข้างในได้ “ฮ่วย...ลูกพี่คับ คือเฮ็ดแนวนี้ ผมสิเบิ่งคุณคนสวย” “อยากตายเหรอ คนนี้ห้ามมองโว้ย!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม