สามชั่วโมงต่อมา... ที่บ้าน
ทันทีที่ก้าวห้องโถงที่เป็นห้องเก็บสมบัติของเราสามคนพี่น้อง ก็เห็น ‘ชิเอกิ’ นั่งเล่นรูบิคอยู่บนโซฟา น้องชายคนสุดท้องของเรานี่เวลาอยู่นิ่งๆ ไม่ทำหน้ากวนฮารุตะ[1]ก็ดูจะโตเป็นหนุ่มน้อยแล้วแฮะ เวลาผ่านไปแป๊บๆ ชิเอกิก็สิบหกแล้วเหรอเนี่ย เมื่อไม่กี่ปีก่อนยังวิ่งตามฉันต้อยๆ ยิ้มอวดฟันหลออยู่เลยไม่ใช่รึไง
“ไปเจออะไรมาน่ะ มิฮะ”
แล้วก็ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ด้วยสิ ที่ไอ้เด็กบ้านี่เลิกเรียกฉันว่า ‘พี่’ น่ะ -_-*
เพราะชิเอกิถามโดยที่ไม่ละสายตาจากของเล่นในมือด้วยซ้ำ ฉันเลยกระโดดดึ๋งขึ้นไปนอนคว่ำบนโซฟา ดึงหมอนมารองใต้คาง แล้วแผ่ออร่าสีดำออกไปเรื่อยๆ...เรื่อยๆ... (~-_-)~
แงๆ เลิกเล่นก่อนได้ม้ายยย
“อะๆ มีอะไรว่ามา”
สำเร็จ!
“ฟังนะชิเอะ!”
“บอกว่าอย่าเรียกแบบนั้น มันเหมือนชื่อผู้หญิง -_-^“
ฉันเป็นพี่แกนะ เวลาแบบนี้ทำไมชอบดุฉันจังฟะ!
“เออ! แกจะชื่ออะไรก็ช่าง! แกจะเป็นมนุษย์ต่างดาวมาจากทางช้างเผือกฉันก็ไม่สน! ฉันรู้อย่างเดียวคือวันนี้แกต้องฟังฉัน!!”
ฉันลุกพรวดขึ้นนั่งชี้หน้ามัน พร้อมกับส่งสายตาอำมหิตแบบที่ทำให้ใครต่อใครต้องยอมสยบแทบเท้ามานักต่อนัก แต่ไม่ใช่กับน้องฉันจริงๆ สินะ T^T! เพราะหมอนั่นมองตรงมา หน้านิ่ง แล้วยิงคำถามสั้นๆ ที่ทำเอาฉันอยากมุดดินหนีไปปรโลก
“ไปแข่งอะไรแพ้มาอีกแล้วใช่มั้ย“
ถ้ารู้แล้วจะมาจี้ใจดำฉันทำม้าย!
ฉันทรุดฮวบลงนอนหมดท่าอยู่กับโซฟาอีกครั้ง ฮึก! ชั่วชีวิตของ อิจิเซ็น มิฮารุ นอกจากเคยแพ้เป่ายิ้งฉุบตอน ป.4 กับ ป.6 มาสองครั้ง ก็ไม่เคยพ่ายแพ้การแข่งขันใดๆ อีกเลย (รวมถึงไม่เคยแข่งเป่ายิ้งฉุบอีกเลย) แล้วทำไมฉันต้องแพ้เกมตักปลาทองต่อหน้าเด็กโรงเรียนเดียวกันนับสิบด้วยเล่า! ฮือ...อับอาย~ คอยดูนะ ถึงวันนี้ฉันจะแพ้ด้วยสกอร์ 25:24 แต่ซักวันฉันต้องท้า ‘ท่านไทโย’ อะไรนั่น มาแข่งกันอีกครั้งให้ได้!
พอฉันเริ่มสงบลง ชิเอกิก็เล่นรูบิคต่ออย่างใจเย็น ก่อนโยนพลาสติกทรงสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ที่ถูกหมุนจนสีเหมือนกันทั้งสี่ด้านนั่นไปใส่กล่องเก็บของ แล้วลุกขึ้นยืนบิดเอวเล็กน้อย
“ไปนอนก่อนนะ”
“อือ T_T”
“ว่าแต่มิรินไปนอนก่อนแล้วเหรอ”
“เอ๊ะ?”
“...”
“...”
“เอามิรินไปลืมทิ้งไว้ที่ไหนอีกแล้วใช่มั้ย”
ฉันลุกพรวด! ก่อนรีเพลย์ความทรงจำในสมองกลับไปที่งานเทศกาล ฉันเห็นมิรินครั้งสุดท้ายก่อนจะแหวกฝูงชนเข้าไปแพ้ท่านไทโยอะไรนั่น และตอนฉันกลับ งานก็เลิกแล้ว เพราะฉะนั้นตอนนี้น้องสาวจนวุ่นวาย จอมรั่ว และจอมหลงทางของฉัน!
ก็ถูกทิ้งอยู่ที่นั่นคนเดียวน่ะสิ O[]O
วันจันทร์, โรงเรียนสตรีเซบุ
บรรยากาศในโรงเรียนก็น่าเบื่อเหมือนทุกวัน แต่ที่นั่งของฉันก็เงียบสงบดีอย่างเคย มันเป็นที่นั่งติดหน้าต่างหลังห้อง เวลาแดดร่มลมสงบยามบ่ายจะแอบสัปหงกได้เป็นระยะ ฉันนั่งเท้าคาง หมุนปากกาในมือเล่น สลับกับดูนาฬิกาข้อมือ แล้วขีดฆ่าลงในสมุดเลกเชอร์
หมดไปอีกหนึ่งนาที...
ทำไมเวลาถึงเดินช้าแบบนี้ล่ะ!
“ง่วงชะมัด” ฉันบ่นเบาๆ แล้วฟุบหน้าลงกับหนังสือเรียน พอเหล่มองสาวสวยที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็เห็นเธอกำลังตั้งอกตั้งใจเรียนมากกว่ายามปกติ สาเหตุหนึ่งเพราะกำลังงอนฉันด้วย
“นี่ มิริน”
“...”
ไม่มีสัญญาณตอบรับจากฝาแฝดไข่เดียวกัน...
ฉันยักไหล่ ก่อนสะบัดหน้าหนี คิดเหรอว่าคนอย่างมิฮารุจะง้อใครเกินสิบนาที...ก็มีแต่เธอคนเดียวนี่แหละยัยบ๊อง = =+ ถึงเมื่อคืนฉันจะลืมแม่นี่ไว้ที่งานเทศกาล แต่ฉันก็อุตส่าห์ดั้นด้นไปถึงสถานีตำรวจเพื่อรับเธอกลับบ้านเชียวนะยะ เหอะ...
จะง้อยังไงดีเนี่ย
แบบนี้ดีกว่า!
‘ดีกันนะ ^_^d’
ฉันเขียนลงในเศษกระดาษที่ฉีกออกจากสมุดเลกเชอร์ แล้วบรรจงพับอย่างเลอเลิศให้เป็นคิตตี้จัง มิรินน่ะ ชอบอะไรแบ๊วๆ น่ารักๆ อยู่แล้ว เมื่อสามปีที่แล้วฉันเคยลืมเธอไว้ที่ฮาราจุกุ พอไปตามหากลับมาได้ แค่ยื่นแหวนสลักชื่อที่ใส่คู่กันกับฉันคนละวงไปโอ๋ก็หายงอนแล้ว ลืมไปได้ไงนะ
พอค่อยๆ เลื่อนกระดาษพับไปตรงสมุดเลกเชอร์ มิรินก็ชะงักมือที่กำลังจดยิกๆ ทำตาวาว คว้าน้องคิตตี้ไปอย่างไว และพยายามแกะอย่างประณีตหลังจากนั้น
ติดกับละ!
ฉันนั่งเท้าคาง กระดิกปากกามองน้องสาวที่พยายามแกะจดหมายอ่านโดยไม่ให้ขาดอย่างอารมณ์ดี ยากหน่อยนะน้องรัก การแกะจดหมายของแชมป์พับกระดาษสมัยประถมอย่างพี่สาวเนี่ย © โอ๊ย! ตายแล้วฉัน เป็นโรคจิตชนิดหนึ่งรึเปล่านะ ชอบแกล้งน้องตัวเอง (นานๆ ทีจะสำนึกได้) อีกยี่สิบสามนาทีก็เลิกเรียนแล้ว และอีกยี่สิบวันก็ปิดเทอมแล้ว โอย...สวรรค์
ปิดเทอมนี้จะไปเที่ยวไหนดีน้าาาา
ทันทีที่เสียงสัญญาณหมดเวลาเรียนดัง ฉันก็เก็บข้าวของใส่กระเป๋าอย่างสบายอุรา แต่พอจะเดินลุกออกจากโต๊ะ ก็กลับพบว่ามีสาวสวยที่หน้าตาเหมือนฉันอย่างกับเป็นฝาแฝดกันนั่งขวางอยู่
“มิรินทำอะไรอยู่น่ะ”
‘เอริ’ เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเราสองพี่น้องยืนเท้าสะเอวถาม “พับกระดาษ? เป็นคิตตี้? เพื่ออะไร?”
ยัยนี่ก็ยังสงสัยไม่เลิก -_-*
สรุปแล้วน้องสาวฉันใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาในการก้มหน้าก้มตาแกะจดหมาย โดยยังไม่มีทีท่าว่าจะแกะน้องคิตตี้ที่ฉันบรรจงพับได้แม้แต่นิดเดียว! และใครซวยล่ะ? ก็ฉันไง!! ต้องเก็บประดาหนังสือตำราของคุณเธอใส่กระเป๋า แล้วผลักให้ยัยนั่นลุกเดินออกจากห้องมาด้วยกันสามคนกับเอริ
จนจะถึงประตูหน้าโรงเรียนแล้ว มิรินก็ยังไม่สามารถทำร้ายคิตตี้จังได้เลยแม้แต่น้อย...
“เมื่อไหร่เธอจะทำสำเร็จซะที“
“ยุ่งน่า เพราะมิฮะจังนั่นแหละ”
โอเค ฉันผิดเองที่พับของยากๆ ให้เธอ T^T!
“มิฮารุจัง ทำไมที่หน้าประตูโรงเรียนคึกคักจังอะ” เอริถาม พลางชะเง้อชะแง้ไปยังกลุ่มเด็กสาวในชุดยูนิฟอร์มเดียวกันกับพวกเราที่กำลังยืนรุมกรี๊ดกร๊าดตัว(?)อะไรสักอย่างมั้ง อยู่หน้ารั้วโรงเรียน
“ได้ข่าวว่าฉันเดินมาพร้อมเธอไม่ใช่เรอะ”
“ก็แหม~ ถ้ามิฮะผู้ยิ่งใหญ่อยากรู้อะไร คนแถวนี้ตอบได้หมดแหละ”
“นี่ เธอน่ะ!” ฉันหันไปเรียกเด็กปีหนึ่งที่ยืนสังเคราะห์แสงอยู่แถวนั้นทันที เพราะเพื่อนอยากรู้หรอกเลยต้องหาทางบอก ไม่ได้บ้ายอจริงจริ๊งงง “รู้มั้ยว่าตรงนั้นมุงอะไรกัน”
ก็อย่างที่บอก ว่าโรงเรียนนี้...ฉันคุม =_=v เพราะฉะนั้นนักเรียนกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์จึงรู้จักหน้าตาฉัน แต่คนที่สามารถพูดจาโต้ตอบกับฉันอย่างฉะฉานโดยไม่แสดงท่าทางตกใจกลัว นอกจากมิรินแล้ว อาจมีเอริคนเดียวก็ได้
“ถะ...ท่าน...มุง...ปลา...”
และแน่นอนว่ายัยสังเคราะห์แสงนี่คงเป็นหนึ่งในเด็กเซบุสิบเปอร์เซ็นต์ที่ชอบติดอ่างเวลาคุยกับฉัน นอกจากนี้ยังมีอีกสี่สิบเปอร์เซ็นต์ไม่กล้าสบตาด้วยซ้ำ แล้วก็สี่สิบเก้าเปอร์เซ็นต์ที่ชอบมองฉันอย่างหลงใหลคลั่งไคล้ และ... หนึ่งเปอร์เซ็นต์ที่คุยกับฉันปกติได้คือเหล่ากรรมการนักเรียนและเอริกับมิริน
“พอ! เดี๋ยวฉันไปดูให้เอง”
พอฉันสั่ง ยัยสังเคราะห์แสงก็หุบปากสนิท ฉันฝากมิรินที่ยังตั้งอกตั้งใจแกะจดหมายคิตตี้จังอย่างประณีตไว้กับเอริ แล้วเดินดิ่งเข้าไปหาต้นตอของความอยากรู้อยากเห็นของยัยนั่น แต่ฉันไม่อยากแทรกตัวเข้าไปท่ามกลางเสียงกรี๊ดบาดหูและดงน้ำลายนี่นา
แค่หันไปส่งสายตาบอก เอริก็เลิกคิ้ว ก่อนยิ้มมุมปากนิดๆ แล้วป้องปากตะโกนด้วยเสียงสิบแปดหลอดที่เธอแสนจะภาคภูมิใจทันที
“มิฮารุซังเสด็จ!!~ ไม่อยากเจ็บก็ถอยไปนะค้าาา”
โดยไม่ต้องให้ตะโกนซ้ำ กลุ่มสาวๆ ก็แหวกทางพรึ่บ! เหมือนซักซ้อมกันมาจากที่บ้าน ทางที่เปิดออกเผยให้เห็นร่างสูงโปร่งในชุดนักเรียนคุ้นตายืนก้มหน้าพิงรั้วโรงเรียนอยู่ไกลๆ สูทสีดำเข้มกับกางเกงลายสก๊อต...อ้อ! ของโรงเรียนมัธยมปลายคาเสะ ที่ชิเอกิน้องชายฉันเรียนนี่นา ที่ข้างเท้าหมอนั่นมีถุงปลาทองถุงเบ้อเริ่มอยู่ด้วย พิลึกคนชะมัด
[1] Haruta: ยี่ห้อรองเท้านักเรียนชื่อดังของญี่ปุ่น