...ช่างเป็นคนดีผิดกับพี่ชายเฮงซวยของนายอะไรเยี่ยงนี้ ริวงะ เคน! T^T
“ขอบใจนายมากสำหรับข้อมูล” ฉันตบบ่าเคนหนักๆ เป็นเชิงยอมรับเข้าพวก -_-v และคนตรงหน้าก็ยังคงยิ้มขำๆ ก่อนถาม
“เธอจะไปไหนต่อ”
“กลับบ้านสิ”
“โอเค ฉันก็จะไปหาไอติมกินเหมือนกัน งั้นแยกกันตรงนี้นะ”
“ได้สิ บาย!”
“บาย... อิจิเซ็น มิฮารุซัง”
ฉันเดินลัลล้าออกจากร้านเกมโดยมีเคนเดินตามมาและแยกกันที่หน้าร้าน อาจเพราะอารมณ์ดีสุดๆ ที่เอาชนะลูกชายตระกูลริวงะได้ครั้งแรก แถมได้รู้จุดอ่อนไทโย แล้วแถม! ริวงะ เคน ยังเรียกชื่อฉันโดยลงท้ายว่า ‘ซัง’ แบบให้เกียรติ โดยที่ฉันไม่ต้องออกคำสั่งใดๆ นั่นทำให้ฉันอารมณ์ดีที่สุดในชีวิตจนไม่สนใจอะไรรอบกายนอกจากสวนดอกไม้ในหัวใจ~
มีความสุขโคตรๆ เหมือนเดินอยู่บนเมฆปุกปุยเลย *0*
ภายในร้านเกม เด็กผู้ชายสองคนเดินมามองคะแนนของตู้เกมยิงซอมบี้ที่ค้างอยู่หน้าจอ ก่อนยิ้มแล้วส่ายหัวเล็กๆ พลางหันมองร่างโปร่งสูงที่เดินหายไปในร้านไอศกรีมฝั่งตรงข้ามอย่างนับถือแกมรู้ทัน
‘เล่นเกมกับสาวทีไรก็อ่อยให้ตลอดเลยนะ เคนซัง ^ ^’
ฉันเอาโทรศัพท์ที่มิรินเก็บซากไปซ่อมให้มาไว้กับตัวตลอดเวลา รอให้ไทโยโทรมาอีกครั้งเพื่อจัดการหมอนั่นด้วยจุดอ่อนที่รู้มาจากเคน -..- แต่ไทโยก็เงียบหายไปราวแมลงสาบบินหนียาฉีดยุง จนวันนี้ปิดเทอมแล้วก็ยังไม่โผล่หน้ามาให้ฉันแก้แค้นเลย!
หงุดหงิดเป็นบ้า!!!
จะว่าไปเมื่อคืนริวงะคนน้องขับมอเตอร์ไซค์มาจอดเสียอยู่ข้างรั้วบ้านตรงกับระเบียงห้องนอนฉันเป๊ะ! ดีนะที่เราเป็นพวกพ้องกันฉันเลยอภัยให้กับเสียงดัง (จากรถมอเตอร์ไซค์ที่เสียมั้ง?) ที่รบกวนเวลานอนอันมีค่าของฉันเพราะเดินออกไปไต่ถามตั้งห้านาที -_-v
เออ... จะว่าไปตอนนั้นมิรินออกไปทำอะไรที่ระเบียงนะ?
สงสัยได้ยินเสียงโป้งป้างจากรถนั่นเหมือนกันมั้ง หืม? พอคิดถึงก็แต่งตัวสวยเช้งเดินย่องลงมาเลยเชียว ทำท่าอย่างกับจะหนีตามผู้ชาย
“จะไปไหนแต่เช้าน่ะมิริน”
ฉันถามเสียงพาลๆ ก่อนหาวหวอดแล้วเดินตรงไปทิ้งตัวลงนอนที่โซฟา ที่จริงหกโมงเช้าคือเวลาสวรรค์แห่งการนอนของฉันนะ แต่เพราะมิรินตื่นขึ้นมาทำอะไรไม่รู้กุกกักๆ ตั้งแต่ยังไม่สว่างจนฉันหลับไม่ลงอีกเลย พอรวมกับที่เคนมาส่งเสียงดังเมื่อคืนด้วยแล้ว ถือว่าฉันโดนรบกวนสองต่อเลยนะ!!!
“ไป... ไปดูแข่งเทควันโด” มิรินหันมาตอบเสียงตะกุกตะกัก
“ไปด้วยๆ >_“ตกลงจะไม่ไปเหรอมิฮะ?”
เสียงน้องชายนินจาทำให้ฉันพลาดกรีดอายไลเนอร์เลยไปถึงขมับ! พอหันมองชิเอกิที่ยืนกอดอกพิงประตูมองมาจากทางด้านหลัง น้องชายหน้านิ่งของฉันก็ชะงัก ก่อนขยับหันหลังให้ ไหล่สั่นกึกๆ
ชั่วมาก แอบหัวเราะเยาะพี่สาวในไส้ได้ไงยะ!!!!!
“ไปล้างหน้า”
ยังจะเดินมาออกคำสั่งอีก - -^
ฉันลุกเดินฮึดฮัดเข้าห้องน้ำไปล้างเอาเศษซากความงามที่บรรจงแต่งๆ ลบๆ มาสามชั่วโมงออกไปจากใบหน้าอย่างยากลำบากกว่าจะหมดจด ก่อนเดินกลับมานั่งลงที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เหล่มองชิเอกิที่ถือวิสาสะนั่งบนโต๊ะ หยิบเครื่องสำอางขึ้นส่องดูทีละชิ้น
“จะแต่งให้รึไง?”
“เปล่า”
“อ้าว! แล้ว --“
“จะชี้ทางสว่างให้ไงว่ามิฮะควรแต่งในแบบที่เป็นมิฮะ ไม่ใช่แต่งตามแฟชั่นหรือเทรนด์ของผู้หญิงคนอื่นที่เขาเป็นผู้หญิงจริงๆ กัน”
รู้สึกเหมือนถูกหลอกด่ายังไงไม่รู้ -_-
“ตบแป้ง กรีดอาย ปัดมาสคาร่า แล้วก็... ขอลิปสีนี้ แค่นี้พอ”
ฉันหยิบแป้งตลับของมิรินที่ชิเอกิเลือกวางตรงหน้ามาตบๆๆ ลงบนแก้มตัวเองพร้อมกับแอบคิดในใจว่าน้องชายฉันทำไมถึงรู้ศัพท์แสงที่พวกผู้หญิงใช้กันเวลาแต่งหน้าหว่า อย่าบอกนะว่า!!!!!
“ได้ยินเพื่อนผู้หญิงในห้องคุยกันบ่อยจนท่องได้ ชัดเจนมั้ย?“
ชัดเจนเปลี่ยน! เหอๆ นอกจากเป็นนินจาแล้วยังมีหูทิพย์ด้วยนะนี่ ชักห่างไกลความเป็นมนุษย์เข้าไปทุกทีแล้วน้องฉันแต่ละคน
อาจเพราะเพิ่งเริ่มหัดฉันจึงทำได้ทุกอย่างยกเว้นกรีดอายไลเนอร์ที่ยากโคตร! กรีดๆ ลบๆ จนชิเอกิทนดูไม่ได้ เอากระดาษวิธีแต่งหน้าที่ฉันปริ๊นท์ออกมาไปอ่าน แล้วหันมาสั่งให้ฉันหลับตาก่อนลงมือกรีดให้อย่างไวเหมือนชำนาญ เชื่อแล้วว่าน้องชายฉันเป็นอัจฉริยะทุกด้าน!
“เอ้า ลืมตาได้”
พอลืมตามองคนในกระจก ก็เหมือนได้เห็นตัวเองที่ไม่ใช่ตัวเองอย่างน่าประหลาด ก่อนชิเอกิจะเข้ามาฉันพยายามแต่งหน้าอ่อนๆ แบบที่มิรินและเอริชอบทำเวลามีนัดสำคัญ แต่พอทำตามชิเอะแนะนำ ที่มองตอบมาในกระจกกลับเป็นสาวตาแมวที่ติดจะดูร้ายนิดๆ เซ็กซี่หน่อยๆ แบบที่ไม่คิดว่าตัวเองจะดูเป็นแบบนี้ได้
แปลกดี...
“ว่าแต่เริ่มแข่งไปนานแล้วนะ จะไปทันเหรอ?” หลังจากก้มลงมองนาฬิกาข้อมือ ก็ทำหน้าใสซื่อมองฉัน แต่ฉันรู้นะว่าในใจนายกำลังแอบหัวเราะเยาะ น้องบ้า!
“แล้วทำไมเพิ่งมาบอกเอาป่านนี้เล่า! TOT”