EP 6 แค้นจับจิต

1316 คำ
“เธอยังแกะจดหมายบ้านั่นไม่เสร็จอีกรึไง” คือคำทักทายแรกจากฉันถึงน้องสาวฝาแฝดที่นั่งก้มหน้าก้มตาแกะจดหมายคิตตี้อย่างเอาเป็นเอาตายในห้องนั่งเล่น -_-* มิน่าล่ะ ฉันหายไปทั้งคืนทำไมไม่มีใครโทรตามซักเอะ ปกติมิรินนอนคนเดียวได้ที่ไหน ไม่มีฉันนอนข้างๆ เห็นมีแต่จะขาดใจตาย “...” ถามก็ไม่ตอบ ถูกน้องคิตตี้สูบวิญญาณไปแล้วรึไงเนี่ยยย “ไปไหนมาน่ะมิฮะ” ฉันแอบสะดุ้งในใจนิดๆ เมื่อชิเอกิถามมาเสียงเรียบ แต่พอหันไปเห็นน้องชายกำลังง่วนกับการสร้างเลโก้ยักษ์เป็นพระราชวังสมัยเอโดะที่ขนาดดูก็รู้ว่าต้องทำมาตั้งแต่เมื่อวานแหงๆ ก็ค่อยโล่งใจหน่อย แบบนี้คงคิดว่าฉันออกไปข้างนอกเมื่อเช้าแล้วเพิ่งกลับเข้ามาสินะ เฮ่อ...รอดไป ก็สายตาจับผิดของชิเอะน่ะน่ากลัวใช่ย่อยที่ไหนละ ดีนะที่ฉันฉลาด -_-+ แวะเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนมาห้องนี้ ไม่อย่างนั้นได้โดนพ่อน้องชายตัวดีซักจนขาวไปถึงตับแหง “จะไปไหนก็เรื่องของฉัน” ฉันแถ ก่อนเดินไปหยิบกระดาษกับปากกาเมจิ และกาวร้อนแบบติดแน่นทนนานออกมาจากห้องเก็บสมบัติของพวกเราตรงไปยังห้องซ้อมมวยไทย พอมาถึงก็จัดการเขียนคำว่า ‘ริวงะ ไทโย’ กับวาดรูปการ์ตูนผู้ชายหน้าเ**ยกลงในกระดาษ แล้วใช้กาวร้อนแปะไว้หนักๆ กับกระสอบทรายส่วนตัวทันที คิดถึงเรื่องเมื่อเช้าแล้วมันแค้นจับจิต! คอยดูนะวันนี้ฉันจะฆ่านาย... กระสอบทรายไทโย! “คุณหนูมิฮารุ ได้เวลาอาหารเย็นแล้วค่ะ” ผั๊วะ ผั๊วะ ผั๊วะ พลั่ก! “ค... คุณหนู =0=” “หนวกหูน่า!” “แต่... คุณหนู วันนี้ดิฉันยังไม่เห็นคุณหนูทานข้าวเลยนะคะ T^T” ฉันทำเสียงจิ๊จ๊ะในปากอย่างขัดใจกับคลื่นเสียงรบกวน แต่ก็ยังไม่หยุดชกผู้ชายหน้าเ**ยกในกระดาษที่แปะอยู่กับกระสอบทราย เพิ่งรู้นะว่าพอเปลี่ยนจากกระสอบทรายที่ใช้ซ้อมปกติมาเป็นกระสอบทรายไทโยแทนแล้วมันจะชกๆๆ เตะๆๆ ได้อารมณ์แบบนี้ สะใจโคตร! “คุณหนูคะ” แรงสะกิดที่หัวไหล่กับคำเรียกที่น่าหงุดหงิดทำให้ฉันตวัดขาเตะไปทางด้านหลังอัตโนมัติโดยไม่ทันคิด! และเพียงชั่ววินาทีที่สติสัมปชัญญะหวนกลับมาโดยสมบูรณ์ ฉันก็ยั้งเท้าตัวเองไม่ทันแล้ว!! นั่นหมายถึงฉันกำลังเตะ... แม่นม! พลั่ก! หัวใจฉันแทบหยุดเต้นกับเสียงนั้น แต่เมื่อเห็นชัดเจนแก่สายตาว่าคนที่มายืนอยู่ข้างหลังยกมือขึ้นกันข้อเท้าฉันไม่ให้กระแทกก้านคอตัวเองได้พอดี แถมคนคนนั้นยังไม่ใช่แม่นมอีก ก็ค่อยโล่งใจ แต่พอเห็นว่าเป็นใครก็หงุดหงิด อีตาท่านไทโยมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงเนี่ย! “เอ่อ ดิฉันไปรอที่ห้องอาหารนะคะ” เสียงบอกของแม่นมทำให้ฉันหายตะลึงและชักขาตัวเองกลับมาวางที่พื้นทันที ก่อนค่อยเดินไปบังกระสอบทรายอย่างเนียนๆ ไม่ให้เขาเห็นว่าฉันกำลังทำอะไร ปัดโธ่! ทำไมหัวใจมันต้องเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ ด้วยนะ! “เป็นคนดีจังนะ ฉันเพิ่งรู้ว่าเธอซ้อมแม่บ้านเป็นงานอดิเรกด้วย” ไทโยบอกด้วยน้ำเสียงและใบหน้ากวนโทสะ แบบที่ปากยิ้มแต่ดูยังไงก็ไม่จริงใจอะ -_- หมอนี่ทำเป็นอยู่หน้าเดียวรึไง? “มันเรื่องของฉัน นายจะทำไม?” ฉันเชิดหน้าตอบ “ป๊าว... ไม่ได้ทำไม แค่อยากสั่งสอนให้ผู้หญิงของผมรู้ว่าอะไรควรไม่ควร ^-^” “น... นาย!” “หืม?” “ใครเป็นผู้หญิงของนายกันยะ!” ไม่ทันสิ้นเสียงนั้นฉันก็จู่โจมด้วยศิลปะชั้นยอดของการต่อสู้ที่ถูกถ่ายทอดมานับแต่โบราณ มันเป็นเทคนิคชั้นสูงที่ฉันขอป๊ะป๋าบินไปเรียนถึงประเทศไทยเลยนะ! แถมงัดออกมาใช้ทีไรก็ไม่มีใครเคยอ่านทางฉันได้เลยสักครั้ง... แต่ต้องยกเว้นไอ้บ้าไทโยนี่ทุกทีเลยรึไง T^T! ร่างสูงโปร่งที่ถูกจู่โจมขยับหลบมือหลบเท้าฉันแบบแทบไม่ขยับเลยด้วยซ้ำ! ชกไปเหมือนจะโดนแต่ก็วืดไปกับอากาศทุกหมัด จริงสิ! ที่เป็นแบบนี้ต้องเป็นเพราะฉันซ้อมหนักมาตั้งแต่เช้าโดยไม่ได้กินข้าว ร่างกายเลยไม่ทรงพลังเท่ายามปกติ ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ! ฉันหยุดโจมตี ยืนหอบมองหมอนั่นอย่างหมดความอดทน ก่อนถอดนวมขว้างใส่หน้าหล่อๆ นั่นเป็นความพยายามครั้งสุดท้าย (แต่มันก็รับไว้ได้อยู่ดี -_-) พอถอดนวมอีกข้าง ยกขึ้นจะขว้างไปอย่างแค้นใจ ภาพตรงหน้าก็กลับดับวูบเป็นสีดำ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย... “เธอ!” ตึง! ตอนที่รู้สึกวูบๆ ก็เหมือนกับมีมือมาแตะที่ไหล่ แต่พอฉันจะสะบัดก็ดันลื่นเหงื่อตัวเองที่หยดลงพื้นจนผลักให้คนตรงหน้าล้มลงไปด้วยกัน แต่ภาพตรงหน้าฉันก็ยังมืดดำ ในหูมีเสียงวิ้งๆ อยู่ตลอดจนน่ารำคาญ กระทั่งที่ฉันปิดเปลือกตาลงแน่นๆ และค่อยลืมตามองไปตรงหน้า ก็เห็นหน้าไทโยในระยะประชิด แถมหมอนั่นยังยิ้มในหน้าแปลกๆ... แว้ก! ฉันล้มลงมานอนทับอีตานี่เหรอ! แล้วทั้งที่เมื่อกี้ฉันชกไม่โดนเลยซักหมัด แต่ทำไมปากไทโยแตกล่ะ! แถมฉันยังรู้สึกเจ็บแปล๊บๆ ที่มุมปากด้วย อย่าบอกนะว่าที่รู้สึกว่าปากไปกระแทกอะไรนุ่มๆ เมื่อกี้น่ะ... “จู่โจมรุนแรงจัง อยากจูบฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?” ชัดเจน! เฟิร์สคิสของฉ้านนน!!! (ไม่รวมเมื่อคืนเพราะจำไม่ได้ T0T) อย่าอยู่เลยแก! “เฮ้ย!” คนตรงหน้าร้องลั่นเมื่อฉันใช้สองมือจับหัวมันแล้วโขกศีรษะลงไปเต็มแรง! ...แต่ก็ถูกมือใหญ่เท่าบ้านยกขึ้นดันหน้าผากฉันไว้จนได้ ปัดโธ่โว้ย! “ทำอะไรกันอยู่น่ะ” เสียงห้าวที่เอ่ยถามนิ่งๆ นั่นทำเอาฉันชะงัก แอบตัวแข็งไปชั่วขณะก่อนค่อยหันไปมองร่างโปร่งสูงที่ยืนกอดอกพิงประตูมองพวกเราด้วยแววตาเรียบเฉย ชิเอกิ! ในระหว่างที่ฉันกำลังเอ๋อรับประทาน ชิเอกิก็ถอนหายใจเบาๆ ก่อนเดินมาจับแขนฉันกระตุกให้ลุกแล้วดันให้ไปยืนหลบอยู่ด้านหลัง และยืนรอจนไทโยลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับตัวเอง ปกติซีนแบบนี้ฉันเกลียดมากๆ เพราะมันดูอ่อนแอชะมัดที่ต้องให้น้องชายตัวเองปกป้อง! แต่เพราะอีตาท่านไทโยคือคนที่ฉันไม่อาจต่อกรด้วยได้ง่ายๆ... เพราะฉะนั้นจงสิ้นชีพด้วยน้ำมือน้องชายที่โคตรรักพี่สาวอย่างฉันซะเถอะ!! แปะๆ! ฉันชะงัก อ้าปากเอ๋อนิดๆ หลังจากแอบยกหมัดขึ้นเป็นกำลังใจให้ชิเอกิเงียบๆ แล้วน้องฉันจะไปปัดฝุ่นที่ไหล่เสื้อไทโยทำไม หรือนี่เป็นการหาเรื่องต่อยตีแบบใหม่? “ฉันยังเด็กกับเรื่องอย่างว่า ถ้าพวกนายทนไม่ไหวก็ต้องไม่ใช่ที่นี่ เข้าใจ๊?” ขณะที่ฉันยังพยายามนับนิ้วมือ (เพื่อ? =_=) แปลคำพูดของน้องชายตัวเอง ไทโยก็ยิ้มมุมปากนิดๆ ก่อนตบไหล่ชิเอกิและหัวเราะลั่นอย่างชอบอกชอบใจ แล้วศัตรูของฉันกับท่านน้องชายก็เดินกอดคอกันออกจากโรงฝึกไปอย่างสนิทสนมราวพี่น้องที่พลัดพราก แม้แต่น้องก็ไม่รัก ทำไมชีวิตมิฮารุตกอับเยี่ยงนี้!!!!!!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม