ก่อนหน้านี้บริณัยสั่งให้คนขับรถกลับไปได้เลย ดังนั้นตอนนี้เขาจึงทำหน้าที่เป็นคนขับเสียเอง เขาเปิดเพลงคลอเบา ๆ เพื่อไม่ให้บรรยากาศในรถเงียบจนเกินไป เขาเหลือบมองหญิงสาวที่นั่งคู่กันมาที่เงียบผิดปกติก็เห็นว่าเธอหลับเสียแล้ว เพียงไม่นานก็มาถึงคอนโดของเธอ
“อายถึงแล้วครับ”
เมื่อรถจอดดีแล้วเขาจึงปลุกเรียกเธอ แต่เธอยังไม่ยอมตื่น บริณัยจึงถือโอกาสนี้มองใบหน้าสวยหวานได้อย่างเปิดเผยโดยที่ไม่ต้องลอบมองอย่างทุกครั้ง แต่ยิ่งมองเธอได้ชัดถนัดตาความรู้สึกบางอย่างภายในใจก็เริ่มปะทุออกมา แรงดึงดูดบางอย่างผลักดันให้เขาโน้มตัวเข้าใกล้เธออีกสักนิด แต่ก่อนที่ริมฝีปากจะแตะสัมผัสถึงริมฝีปากอิ่มเขากลับหยุดชะงัก
“อายถึงคอนโดคุณแล้วครับ” บริณัยขยับห่างออกมาเล็กน้อยแล้วสะกิดเรียก
อารียารู้สึกตัวตื่นขึ้นทำให้สองสายตาประสานกันในทันใด
“คุณบลู…” เสียงหวานเอ่ยเรียกชื่อเขาแผ่วเบา กอปรกับนัยน์ตาหวานหยาดเยิ้มที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ถูกเปิดเปลือยทำให้บริณัยแทบคลั่ง
ทั้งคู่สบสายตากันเนิ่นนานท่ามกลางความเงียบที่โอบล้อม เงียบมากจนทำให้ได้ยินเสียงหัวใจที่กำลังเต้นแรงราวกับร่ำร้องหาอะไรบางอย่าง
“คุณบลูหล่อจังค่ะ” คำพูดที่หลุดออกจากปากหญิงสาวทำให้ดวงตาของบนิณัยวาบขึ้นแวบหนึ่งก่อนที่จะหาเสียงของตัวเองเจอ
“หล่อแล้วคุณชอบมั้ย”
“อายชอบ…อายชอบคุณบลู…”
“อาย…” บริณัยตอนนี้บื้อใบ้ไปชั่วขณะ
เขาจ้องหน้าหญิงสาวนิ่ง หน้าของเธอแดงเรื่อ ตาเป็นประกายฉ่ำเยิ้ม จึงเริ่มพอคาดเดาอะไรได้ เขาลองขยับใบหน้าเข้าใกล้เธออีกนิด เธอไม่ถอยหนีแต่กลับส่งยิ้มหวานมาให้
“อายนี่คุณเมาเหรอเนี่ย” เพราะเวลาปกติเธอไม่มีทางเป็นสาวใจกล้าแสนยั่วยวนอย่างนี้แน่
“อืม...ไม่ค่ะ อายไม่ได้เมาสักหน่อย” เธอพูดยานคางเล็กน้อย แม้สรรพนามแทนตัวก็ยังเปลี่ยนไปด้วย นี่เหรอที่เรียกว่าไม่เมา บริณัยยิ้มออกมา
“พอเห็นแบบนี้ คุณยิ่งดูน่ารักเข้าไปใหญ่เลยนะ” เขาแอบเอามือแตะไปที่แก้มแดงระเรื่อของหญิงสาว ที่บัดนี้มองเขาด้วยดวงตาหวานเยิ้มจนเขาเกินห้ามใจ
“จ้องผมมาก ผมจะจูบคุณเอานะ” เขายิ้มเย้าเธอ
“ได้สิคะ จูบอายที...” อารียาขยับใบหน้าเนียนของเธอเข้าหาอีกฝ่าย และประทับจูบเบา ๆ ที่ริมฝีปากของคนตรงหน้าทีหนึ่ง เธอผละออกจากเขาแล้วจ้องหน้าชายในฝันของเธออีกที
บริณัยที่ถูกจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัวนิ่งอึ้งในทันที สัมผัสแผ่วเบาเมื่อสักครู่ แม้จะรวดเร็วมากแต่กลับสั่นสะเทือนไปถึงหัวใจ
“คุณรู้ใช่มั้ยว่าผมรู้สึกยังไง?” เขาถามแผ่วเบา
“รู้ค่ะ...รู้ว่ามันไม่สมควรแต่อายก็ยังห้ามใจตัวเองไม่ได้” ตาที่เป็นประกายเมื่อครู่หม่นเศร้าลงทันที
บริณัยเหมือนกับได้สติ จึงหักห้ามใจออกมา
คำว่าไม่สมควรที่เธอเอ่ย เขารู้ดีอยู่แก่ใจ
“ผมไปส่งคุณที่ห้องนะ”