การเจรจาผ่านไปได้ด้วยดี มีการเซ็นสัญญาใหม่ ซึ่งรวมไปถึงการบริหารงานในระดับที่ใหญ่ขึ้นนั่นเอง โปรเจกต์หมื่นล้านที่บริณัยหมายมั่นไว้เป็นจริงตามที่เขาต้องการ ก่อนจะขอตัวกลับเขาจับมือทักทายกับบรรดาผู้บริหารอีกหลายคน ที่เขาจำเป็นต้องผูกมิตรไว้ เพื่ออนาคตในเส้นทางธุรกิจของเขา
“ข้อมูลวันนี้เยี่ยมมากเลย คงเป็นฝีมือของเลขาของคุณสินะ” ผู้บริหารท่านหนึ่งซึ่งเป็นผู้คร่ำหวอดในแวววงธุรกิจมานานส่งยิ้มแฝงอะไรบางอย่างให้อารียาอย่างตั้งใจ
“ใช่ครับท่าน เพราะเลขาผมคอยช่วยตลอด ขอบคุณชื่นชมเธอนะครับ” เขารีบพูดแทรกให้ชายสูงวัยหันมามองเขาแทน
“แต่เดี๋ยวผมต้องไปอีกที่หนึ่ง ยังไงต้องขออนุญาตขอตัวก่อนนะครับ” เขารีบรวบรัดตัดตอนด้วยท่าทีสุภาพ ก่อนจะรีบปลีกตัวออกมา เขาไม่ชอบสายตาของคู่ค้าที่ใช้มองเลขาของเขา
“สวัสดีค่ะ” อารียารีบหันไปเอ่ยลาทุกคนก่อนจะรีบวิ่งตามบริณัยไปติด ๆ
บริณัยหันไปหาเลขาสาวพลางเอามือแตะที่แผ่นหลังของเธอเพื่อให้เธอเดินนำหน้าเพราะต้องการใช้ร่างสูงใหญ่ของตนบดบังคนตัวเล็กจากสายตาหัวงูไว้ ตอนนี้เขารู้สึกหงุดหงิดและไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมากแต่ก็ต้องตีสีหน้าเรียบเฉยเพื่อรักษามารยาท มิเช่นนั้นการเจรจาที่เพิ่งดีลกันไปคงจะล้มลงไม่เป็นท่า
“เอ๊ะ!” อารียาตกใจเล็กน้อย
“เดินไปเร็วเข้า” ชายหนุ่มรีบดันเธอขึ้นรถไปทันที แล้วก็แทรกตัวเองเข้ามา พร้อมกับปิดประตูอย่างรวดเร็ว
“ออกรถได้เลย” บริณัยรีบสั่งให้คนรถขับรถออกไปโดยเร็ว
ในตอนนี้จึงกลายเป็นว่าเธอมานั่งกับเขาที่เบาะหลังเป็นที่เรียบร้อยโดยที่จับต้นชนปลายไม่ถูก
อารียาใช้มือทัดผมของเธอไว้กับใบหูด้วยใบหน้าที่แสดงไม่ถูก เธอเหลือบมองเจ้านายหนุ่มที่นั่งแทบชิดติดกัน ความใกล้ชิดเช่นนี้กับสัมผัสของมือใหญ่ที่แตะลงที่แผ่นหลังเธอก่อนหน้าทำให้ใจของเลขาตัวน้อยเต้นไม่เป็นจังหวะ แต่เธอทำอะไรไม่ได้นอกจากพยายามเก็บซ่อนสีหน้าของตนเองให้เป็นปกติที่สุด
“เอ่อ...คุณบลูคะ คุณไม่พอใจอะไรหรือเปล่าคะ” เธอถามอย่างสงสัยปนกังวลเพราะสังเกตเห็นว่าตอนนี้ใบหน้าหล่อเหลาบึ้งตึงและครุกรุ่นสุด ๆ เธอเกรงว่าจะทำอะไรให้เขาไม่พอใจ
“พวกนั้นมีแต่พวกหัวงูทั้งนั้น ทีหลังคุณอย่าไปอยู่ใกล้พวกตาเฒ่านั่นดีกว่านะ” เขาพูดด้วยคิ้วที่ขมวดเล็กน้อย
“ได้ค่ะ คราวหน้าฉันจะระวังนะคะ” เธอตอบรับ คิดว่าเขาคงห่วงในฐานะเจ้านายที่ทำงานด้วยกันมานาน เธอจึงไม่ได้ถามอะไรต่อ
ความเงียบก่อตัวขึ้นภายในรถอีกครั้ง เจ้านายกับลูกน้องต่างจมจมอยู่กับความคิดของตนเอง แล้วจู่ ๆ เสียงทุ้มก็เอ่ยขึ้นมา
“ประชุมเสร็จไปหาอะไรกินกันดีกว่านะ”
อารียาแปลกใจจึงเหลือบไปมองคนพูด เห็นว่าเขากำลังมองเธอกลับมาเช่นกัน
“จะดีเหรอคะ วันนี้คุณไม่ได้นัดริมามาไว้หรอคะ”
ชายหนุ่มยิ้มที่มุมมปากก่อนตอบ “ไม่หรอก ผมก็ต้องให้รางวัลผู้ช่วยผมด้วยสิ”
พูดจบก็หันกลับไปอ่านเอกสารในมือต่อ โดยไม่รู้ตัวว่าทำให้ใครบางคนใจเต้นไม่เป็นกับรอยยิ้มทรงเสน่ห์ของตนเองอยู่เพียงลำพัง
เวลาที่เธออยู่กับบริณัยสองต่อสองทีไร แววตาของเขามักจะมีอะไรบางอย่างที่เธออ่านไม่ออกหรือ…ไม่กล้าตีความอยู่ในนั้น บางสิ่งที่ทำให้ใจดวงน้อยของเธอทั้งสั่นไหวและวูบไหวในคราเดียวกัน ซึ่งทำให้เธอลำบากใจเหลือเกิน แต่ทว่า…แม้จะเป็นเช่นนั้นอารียาก็ยังปรารถนาจะได้อยู่กับเขาเพียงลำพังบ่อย ๆ เพียงแค่นี้ก็พอแล้ว เธอไม่กล้าหวังเป็นอย่างอื่นเพราะรู้ว่าเขาเป็นบุคคลต้องห้าม