บรรยากาศยามค่ำคืนที่เชียงใหม่เย็นกว่าที่กรุงเทพฯ แต่เฌอริมายังเลือกสวมชุดรัดรูปสีดำ พร้อมต่างหูระย้าเพชรแพรวพราวที่ทำให้กรอบหน้าของเธอดูมีเสน่ห์เพิ่มขึ้น แต่การแต่งกายสไตล์ปกติของเธอเช่นนี้อาจจะดูไม่เหมาะสมนักหากนัดเจอผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่แฟนในยามค่ำคืน เธอจึงแอบซ่อนสัดสวนเย้ายวนใจไว้ใต้ผ้าคลุมไหล่ผืนงามสีงาช้างที่เปลี่ยนให้เธอดูเป็นสาวสุภาพขึ้นมาในทันที
เฌอริมาก้าวเข้ามาในร้านอาหารที่เวธัสส่งจีพีเอสมาให้ ร้านนี้เป็นร้านสไตล์ยุโรปที่ตั้งอยู่ในซอยที่ต้องเป็นคนที่รู้จักเท่านั้นถึงจะแวะมา เธอมองดูสไตล์การตกแต่งที่สวยงามไม่เหมือนร้านไหนที่เธอเคยมาเลยสักแห่งที่จังหวัดแห่งนี้ จากนั้นพนักงานต้อนรับได้เข้ามาสอบถาม เธอให้ข้อมูลตามที่เวธัสบอก พนักงานคนนั้นจึงเชิญให้เธอเข้าไปในห้องส่วนตัวที่มีไว้บริการลูกค้าวีไอพีของร้านเท่านั้น
“คุณเวธัส ไม่นึกว่าคุณจะมารออยู่ก่อนแล้วเลยค่ะ” เฌอริมาเข้ามานั่งที่ฝั่งตรงข้ามกับชายหนุ่มที่แต่งตัวด้วยสูทเรียบ ๆ สีดำทั้งตัว แต่ก็ดูมีสไตล์ไม่เบา
เขายิ้มที่มุมปาก “ผมไม่ชอบให้ใครมารอก่อนน่ะครับ แล้วอีกอย่างผมเป็นคนนัดคุณออกมา ผมควรที่จะมารอคุณอยู่แล้ว”
ทั้งคู่ทักทายกันพอสมควรจึงสั่งอาหาร ในระหว่างที่รอเวธัสก็เริ่มพูดเรื่องธุรกิจที่กำลังอยากสานต่อกับบริณัยโดยไม่อ้อมค้อม
“ตอนนี้ผมกำลังทำธุรกิจนำเข้าส่งออกอยู่ และได้สิทธิ์ผูกขาดเครื่องสำอางแบรนด์ใหม่จากญี่ปุ่น ผมเห็นว่าคุณบริณัยกำลังขยายกิจการให้ครอบคลุมทุกภาคของประเทศ ผมเลยอยากจะคุยกับคุณเฌอริมาเพื่อขอให้ช่วยน่ะครับ”
“ข่าวคุณไวจังนะคะ” เฌอริมาแกล้งแซวชายหนุ่ม “ฉันเห็นเรื่องที่คุณส่งมาแล้วค่ะ ต้องยอมรับว่าข้อเสนอของคุณน่าสนใจจริง ๆ และคงจะเป็นประโยชน์กับบริษัทของบลูแน่ ๆ ช่วงนี้ทั้งฉันและเขากำลังยุ่ง ๆ กับงานของตัวเอง เลยไม่ได้เจอกัน แต่ยังไงวันอังคารนี้ฉันลองพูดกับเขาดูนะคะ”
“แค่นั้นก็พอครับคุณริมา เพราะแค่เขาได้เห็นข้อเสนอของทางเรา ผมเชื่อมั่นจริง ๆ ว่าคุณบริณัยจะเข้าร่วมด้วยแน่นอน”
เขายกแก้วไวน์แดงขึ้นจิบแล้วส่งยิ้มให้เธออย่างสุภาพ แต่เมื่อมันประดับลงบนใบหน้าหล่อ ๆ ของเขา ทำให้เขาดูมีเสน่ห์ดึงดูดขึ้นมาทันที
เฌอริมายกแก้วขึ้นชนกับเขาเบา ๆ ตามด้วยรอยยิ้มที่บ่งบอกถึงความพอใจ เพราะหากบริณัยรู้ว่าเธอสามารถช่วยส่งเสริมธุรกิจของเขาได้ บางทีเขาเองอาจจะตระหนักได้ว่าใครกันแน่ที่คู่ควรกับเขาอยากเป็นฝ่ายก้าวข้ามความสัมพันธ์กับเธอแบบจริง ๆ จัง ๆ เสียที