“เอ่อ...ฉันตั้งใจจะเคลียร์งานสัปดาห์นี้ให้เสร็จค่ะไม่อยากให้มันคั่งค้าง”
บริณัยมองเอกสารที่กองอยู่บนโต๊ะหญิงสาวแล้วหันมามองใบหน้าอ่อนล้าของเธอ แล้วเผยยิ้มจาง ๆ “ดีเลย”
“อะไรนะคะ” อารียาแปลกใจเพราะถ้าเป็นปกติเขาคงต่อว่าที่เธออยู่ทำงานจนดึกดื่นแบบนี้
“พรุ่งนี้ผมมีนัดพิเศษให้ไปคุยเรื่องงานที่เกาะเสม็ดน่ะครับ” เขาบอกเธอด้วยน้ำเสียงที่สดใสขึ้น
“อ๋อค่ะ คุณบลู”
“เลยอยากให้อายไปด้วย แค่สามวันสองคืนเท่านั้นเอง”
“ค่ะคุณบลู”
อารียารู้สึกว่ารอยยิ้มของชายหนุ่มดูแปลกไป มันเหมือนกับในคืนนั้นที่เขาพบปะกับบรรดาเพื่อน ๆ ของเขา และยิ้มแบบนี้เองที่ทำให้เธออดหวั่นไหวไม่ได้ จนต้องหลบสายตาคมที่มองมา แต่ในใจดันแอบคิดว่าถ้าได้ใช้เวลากับชายในฝันของเธอเพียงลำพัง จะเป็นยังไงบ้างนะ?
“งั้นฉันขอตัวทำงานต่อนะคะ”
“ได้เลยครับ ผมจะรอที่นี่แหละ” พูดจบบริณัยก็เดินไปนั่งลงไปที่โซฟาหนังสีดำที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับโต๊ะทำงานของเจ้าหล่อน
“คุณบลูกลับไปพักที่บ้านเถอะค่ะ”
“ไม่เป็นไร ผมอยากอยู่ที่นี่” ชายหนุ่มยืนกราน
อารียาไม่สามารถบังคับเขาได้แม้จะอยากให้เขากลับไปพักผ่อนมากกว่า แต่…ความรู้สึกที่เขานั่งคอยเธอทำงานมันช่างดีต่อใจเหลือเกิน
เธอลอบมองเขาเล็กน้อยและสบเข้ากับสายตาคมที่มองเธออยู่ ใบหน้าของเธอจึงเห่อร้อนโดยพลัน เธอจึงรีบก้มหน้าก้มตาทำงานให้เสร็จ
ขนาดเร่งสุดความสามารถแล้ว เวลายังล่วงเลยไปเกือบสองชั่วโมง อารียายืดตัวขึ้นเพื่อไล่ความเหนื่อยล้าที่เกาะกุมร่างกายของเธอเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นไหล่ เอว หรือหลังก็โดนพิษจากออฟฟิศซิมโดรมเล่นงานทุกตำแหน่ง
ยามที่เธอกำลังเร่งเคลียร์งานไปได้สักพักก็เห็นว่าชายหนุ่มผล็อยหลับไปแล้ว เขาคงจะเหนื่อยจากการโหมงานหนักตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ดังนั้นยามนี้เธอจึงไม่อยากรบกวน ปล่อยให้เขาได้พักผ่อนอีกสักนิด
เธอเลือกที่จะเดินไปหยุดตรงหน้าต่างแล้วหันหน้ามองวิวด้านนอกผ่านกระจกใส ตึกสำนักงานฝั่งตรงข้ามปิดไฟกันหมดแล้ว เหลือเพียงบางชั้นเท่านั้นที่ยังมีแสงไฟสะท้อนออกมา แต่เมื่อทอดสายตาลงไปเบื้องล่าง แสงไฟจากรถยนต์บนท้องถนนกลับไม่น้อยเลย ผู้คนที่กำลังกลับบ้านต่างยังคงติดแหง็กกับการจราจรที่ยังคงแน่นขนัด
ความเมื่อยล้าทำให้เธอยกมือขึ้นบีบนวดตัวเองโดยเฉพาะบ่าที่ปวดมากเป็นพิเศษ ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกถึงมือใหญ่ที่วางอยู่ตรงบ่าทั้งสองข้าง