บริณัยสูดลมหายใจเข้าปอดจนเต็ม พยายามนับหนึ่งถึงร้อย ก่อนจะผลักประตูเข้าไปในห้องรับรองแล้วฝืนยิ้มออกมาให้ได้มากที่สุด
“สวัสดีครับ” เขากล่าวทักทายอีกฝ่ายด้วยความสุภาพ
“สวัสดีครับ ไม่น่าเชื่อเลยว่าคุณบริณัยจะหนุ่มขนาดนี้” ชายหนุ่มฝีปากคมกล่าวชมอีกฝ่ายอย่างไม่ปิดบังเช่นกัน
“ขอบคุณมากครับ ผมก็นึกว่าจะได้เจอคุณพ่อของคุณเหมือนกัน”
บริณัยยิ้มให้แม้ในใจจะอยากขย้ำเขาแทบแย่ เขาพอรู้เกี่ยวกับทายาทแอดเวนเจอร์เอ็กซ์มาบ้างที่เข้ามามีส่วนในการบริหารบริษัทมากขึ้น แต่ยังไม่ได้ยินข่าวการเปลี่ยนแปลงประธานบริษัทแต่อย่างใด
“พอดีผมกำลังจะมารับช่วงต่อจากคุณพ่อน่ะครับ เลยไม่ได้แจ้งก่อนล่วงหน้า” ทินธรยังคงสนทนาอย่างเป็นมิตรกับบริณัย โดยไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายไม่ชอบขี้หน้าเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอ
“ให้ฉันช่วยงานที่นี่มั้ยคะ?” อารียาเดินมาถามบริณัย ซึ่งแน่นอนว่าเขาอยากให้เธออยู่ด้วย แต่ชายหนุ่มตรงหน้าดูจะไม่ปลอดภัยเท่าไรนัก
“ไม่ต้องครับ คุณไปทำงานที่ค้างต่อได้เลย ทางนี้ผมจัดการเอง”
“อ้อ...ค่ะ งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ” อารียาแปลกใจที่วันนี้บริณัยไม่ให้เธออยู่ด้วยเหมือนทุกครั้ง แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรให้เสียเวลา เธอค้อมหัวให้เจ้านายหนุ่มกับแขกของเขาแล้วเดินออกจากห้องไปเงียบ ๆ
“ว่าแต่…คุณบริณัยมีแฟนรึยังครับ” จู่ ๆ ทินธรก็เปิดด้วยคำถามที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมา เพราะเขาสังเกตสายตาที่เจ้านายกับเลขาฯ สาวใช้มองกัน ทั้งท่าทางที่แสดงออกต่อกันอีก มันทำให้เขานึกสงสัย
“เอ่อ...ผมว่าเราคุยกันเรื่องงานดีกว่าครับ” บริณัยปฎิเสธอีกฝ่ายแบบไม่ให้เสียน้ำใจมากนัก มันเป็นเรื่องส่วนตัวที่เขาไม่จำเป็นต้องตอบ แต่ทินธรเป็นคนที่ช่างสังเกต เพียงเห็นท่าทางของอีกฝ่ายก็รับรู้ได้ทันทีว่าชายหนุ่มตรงหน้าต้องมีแฟนอยู่แล้วอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าจะเป็นอย่างที่เขาคาดเดาหรือไม่นั่นก็อีกเรื่อง
เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง บริณัยก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่สดใสขึ้นเล็กน้อย แม้จะไม่ชอบหน้าทินธรเพราะผู้ชายอย่างเขาเห็นแวบเดียวก็มองออกว่าคิดไม่ซื่อกับเลขาฯ ของตน แต่หลังจากได้คุยกันแล้วกลับพบว่าทัศนคติในการทำธุรกิจเป็นแบบที่เขากำลังมองหาพอดี เขาเลยต้องแยกเรื่องงานและเรื่องหัวใจเอาไว้ให้ห่างจากกันให้ได้
“เป็นยังไงบ้างคะคุณบลู” อารียาลุกขึ้นยืนแล้วถามชายหนุ่ม แต่สังเกตจากหน้าตาแช่มชื่นของเขา คาดว่าคงได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ
“ดีครับ ทางนั้นมีข้อเสนอที่ดีมาก คาดว่าภายในสองสัปดาห์นี้คงได้เซ็นสัญญาร่วมกัน”
“ดีจังเลยค่ะ ที่คุณจะได้ร่วมธุรกิจกับทางนั้นตามที่ตั้งใจ” เธอแสดงความยินดีกับชายหนุ่ม แล้วตั้งท่าจะไปชงกาแฟให้เขาเหมือนเช่นทุกวัน แต่แล้วเสียงทุ้มกลับดังขึ้น ทำให้เท้าเธอหยุดลงแล้วหันหน้ากลับมา
“อายคุณว่าคุณทินธรเป็นคนยังไงบ้างครับ” บริณัยพยายามสังเกตท่าทางของอีกฝ่ายเงียบ ๆ
“อืม...ก็ดีนะคะ ดูเป็นคนอัธยาศัยดีนะคะ” เธอเลือกตอบในด้านดีของชายหนุ่ม แล้วขอตัวออกไป
อารียาใส่กาแฟดริปเข้าไปในเครื่องซึ่งไม่นานก็ส่งกลิ่นหอมของกาแฟสดออกมา เธอค่อย ๆ เติมน้ำตาลและนมเข้าไปตามสูตรที่จำขึ้นใจว่าบริณัยชอบแบบไหน จากนั้นก็นำเข้าไปเสิร์ฟให้กับเขาในห้องทำงาน บริณัยที่ยืนมองออกไปนอกหน้าต่างอยู่หันกลับมา และจับจ้องเลขาฯ สาวอย่างไม่วางตา