บทที่ 4

1244 คำ
เมื่อร่างของผู้กองสุดเซ็กซี่เดินพ้นห้องประชุม พร้อมกับประตูห้องถูกปิดลงอีกครั้ง ผู้กำกับฟาบิโอก็ออกปากเอ่ยถามทันทีว่าเพราะเหตุใด ท่านผู้บังคับการถึงวางใจและเลือกให้ผู้กองหญิงที่เหมาะจะเป็นนางแบบมากกว่าผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ได้ทำงานใหญ่อย่างเช่นในครั้งนี้ “ท่านผู้การครับ ผมสงสัยอยากรู้ตั้งแต่แรกแล้ว ว่าทำไมท่านถึงเลือกผู้กองรีจินาให้ทำหน้าที่เป็นสายลับ แทนที่จะเลือกคนของพวกผม ซึ่งแข็งแกร่ง เก่งกว่าและฉลาดกว่าผู้กองรีจินาหลายเท่านัก” ท่านผู้บังคับการเลสซันโดรยิ้มเย็นตรงมุมปาก ก่อนจะเอ่ยตอบออกมา แต่ทว่าหาทำให้ความคลางแคลงสงสัย ที่ยังเกาะกุมอยู่ในหัวใจของนายตำรวจทุกนายจางหายไปไม่ “เพราะผมรู้ว่าผู้กองรีจินามีแรงกระตุ้นอันแรงกล้า ที่จะทำงานนี้ให้สำเร็จไปได้ด้วยดี ผมจึงจำเพาะเจาะจงเลือกเธอให้ทำภารกิจที่สำคัญที่สุด” “แรงกระตุ้นอะไรหรือครับท่านผู้การ” ผู้กองเลอโอเนเป็นฝ่ายเอ่ยถามบ้าง และเมื่อได้ยินคำตอบที่หลุดออกมาจากปากของท่านผู้บังคับการแห่งหน่วยสืบสวนกลางของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายตำรวจทุกนายที่ยังคงนั่งอยู่ในห้องประชุม ก็ถึงกับพากันอ้าปากกว้างนิ่งขึงไปหลายนาทีด้วยความคาดไม่ถึง ท่านผู้บังคับการเลสซันโดร ลุกขึ้นยืนช้าๆ เตรียมเดินออกจากห้องประชุม แต่ก่อนจะเดินออกไป ก็ไม่ลืมตอบคำถามที่ผู้กองเลอโอเนถามออกมา ซึ่งท่านเชื่อว่าคำตอบของท่านคงทำให้นายตำรวจในห้องนี้ถึงกับพูดไม่ออกกันเลยทีเดียว “ที่ผมเลือก ร.ต.อ.หญิงรีจินา โชติกานต์ ก็เพราะว่าสายลับที่ถูกฆ่าตาย และถูกนำศพมาทิ้งหน้าบ้านโดยฝีมือของดอนคาร์ล คาร์ลอส มาโก้ร์นั้น เป็นพี่ชายต่างมารดาของเธอ” +++++++++ ผู้กองหญิงแห่งหน่วยสืบสวนกลางของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอิตาลี เดินทางกลับถึงคอนโดที่พักด้วยท่าทีระโหยโรยแรง พอเข้ามาในห้องพักได้แล้ว ผู้กองสาวก็ทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงใหญ่พลางยกมือเล็ก ทว่าแข็งแกร่งไม่แพ้มือของบุรุษเพศยกขึ้นปิดหน้าของตัวเองด้วยกริยาอ่อนล้าขณะหัวสมองเจ้ากรรมไพล่นึกถึงเรื่องงาน ที่ได้รับมอบหมายก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา รีจินารู้ดีว่าทำไมท่านผู้บังคับการเลสซันโดร ถึงเลือกให้เธอทำงานอันเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายงานนี้ และท่านผู้บังคับการก็เข้าใจพูดถูกจุดแทงเข้าตรงกลางใจดำ ซึ่งท่านรู้ว่าอย่างไรเสียเธอก็ไม่มีทางปฎิเสธงานนี้อย่างแน่นอน แม้รู้ทั้งรู้ว่างานที่กำลังจะไปทำเป็นการก้าวเท้าทั้งสองข้าง เข้าสู่ดินแดนของมัจจุราชร้าย ที่พร้อมจะคร่าชีวิตของเธอได้ทุกเมื่อ กระนั้นเธอก็ยังรับทำหน้าที่นี้ “ดอนคาร์ล คาร์ลอส มาโก้ร์” รีจินาเรียกชื่อของเจ้าพ่อชั่วด้วยน้ำเสียงลอดไรฟัน ดวงตากลมโตสีฟ้าอ่อนใสโชนแสงแห่งความอาฆาตแค้นให้เห็นอยู่ทั่วดวงตา จากนั้นร่างบางอรชรอ้อนแอ้นไม่ต่างจากนางแบบชื่อดัง ก็เดินตรงไปยังภาพถ่ายของครอบครัว ทว่าเป็นภาพถ่ายครอบครัว ที่ไม่มีรูปของเธอปรากฏอยู่ด้วย มือเล็กซึ่งกำด้ามปืนลั่นไกกำจัดพวกสวะสังคมมานักต่อนักแล้ว ได้เลื่อนภาพถ่ายครอบครัวซึ่งเข้ากรอบหลุยส์สวยงามออกเล็กน้อย เผยให้เห็นตู้เซฟขนาดเล็กที่ถูกซุกซ่อนอยู่ข้างหลังภาพถ่าย จากนั้นก็กดรหัสปลดล็อคเปิดตู้เซฟออก ซึ่งสิ่งของที่ถูกเก็บซุกซ่อนอยู่ข้างในเซฟหาใช่เครื่องเพชร ทองคำ หรือจำนวนเงินมูลค่ามหาศาลไม่ ทว่ามันกลับเป็นแค่เพียงภาพบันทึกความทรงจำของเธอ และคนในตระกูลลิเอโรเท่านั้น ซึ่งเธอพยายามปกปิดตัวตนที่แท้จริงไว้ไม่ให้ใครรู้ว่าเธอนั้นเป็นใคร มือเล็กที่เอื้อมไปหยิบภาพถ่ายแห่งความทรงจำอันสุดแสนประทับใจนั้นสั่นเทาอย่างเห็นได้ชัด เรียวปากอิ่มขบเม้มเข้าหากันแน่นจนเกือบเป็นเส้นตรง ขอบตาร้อนผ่าวดวงตาแดงช่ำ ลำคอแห้งผากเป็นผงจากการกล้ำกลืนหยาดน้ำตาอุ่นไม่ให้ไหลรินลงมาตามพวงแก้มเนียนลออ ขณะจ้องมองภาพถ่ายที่ถืออยู่ในมือ ‘ราเนีย พี่จะเป็นตำรวจให้ได้ พี่ปกป้องน้องและครอบครัวของเราเอง’ ‘อาชีพตำรวจเป็นความใฝ่ฝันของผม...ผมจะเป็นตำรวจที่ดี ให้คุณพ่อและคุณแม่ภาคภูมิใจ’ ‘พี่เรส์คนนี้จะดูแลราเนียเอง พี่จะไม่ยอมให้ราชินีของตระกูลลิเอโร ต้องถูกใครกลั่นแกล้งอีก’ หยาดน้ำตาอุ่นที่พยายามสะกดกลั้นไว้ตลอดระยะเวลาสิบห้าปี หลั่งรินเป็นทางยาวลงมาตามพวงแก้ม ขณะเจ้าตัวนึกถึงคำพูดของเรนาโคส ลิเอโร หรือ ร.ต.อ.เรนาโคส ลิเอโร ยศปัจจุบันในขณะถูกคนใจทรามฆ่าตาย แล้วนำศพมาทิ้งประจานตรงหน้าบ้านของเธอ “พี่เรส์...หากไม่ใช่เพราะไอ้ดอนคาร์ล ครอบครัวของเราคงไม่แตกระส่ำระส่ายแบบนี้” รีจินาพึมพำเสียงปนสะอื้น น้ำเสียงที่เอื้อนวาจาถึงเจ้าพ่อผู้ยิ่งใหญ่เต็มไปด้วยความรังเกียจระคนอาฆาตแค้น สาบานว่าเมื่อเข้าไปอยู่ในคฤหาสน์ของดอนผู้นี้ และหากมีโอกาส เธอจะไม่ลังเลตวัดคมมีดปักลงกลางหัวใจอันอำมหิตเลือดเย็นของดอนคาร์ล คาร์ลอส มาโก้ร์ รูปภาพแห่งความทรงจำอันน่าประทับใจของครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวหนึ่ง ซึ่งอาศัยอยู่บนที่ดินแค่เพียงไม่กี่ตารางวาภายในกรุงโรม ถูกเลื่อนเปิดดูทีละภาพ ซึ่งทุกภาพนั้นรีจินาจำได้ดีว่าถูกถ่ายภาพไว้ ณ สถานที่แห่งใด และในปีใด สำหรับภาพที่เธอประทับใจเป็นที่สุด ก็คือภาพวันสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจของเรนาโคส ลิเอโร แม้เรนาโคสจะเป็นพี่ชายต่างมารดาของเธอ ซึ่งมารดาของเขาได้เสียชีวิตไปนานแล้ว แต่เธอและมารดาของเธอก็รักเรนาโคสมาก ในวันที่พี่ชายเธอได้เป็นตำรวจเต็มตัว เป็นวันที่ครอบครัวของพวกเธอมีความสุขมากที่สุด บิดามารดาของเธอนั้นยิ้มกว้างหุบไม่ลง คอยลูบตามลำตัวของเรนาโคสที่อยู่ในชุดตำรวจเต็มยศ ซึ่งดูองอาจสง่างามผึ่งผายยิ่งนัก ส่วนนายตำรวจหนุ่มอย่างเรนาโคสนั้นก็ภูมิใจหนักหนา ที่ตนเองสามารถก้าวเดินมาถึงจุดที่ใฝ่ฝันไว้ ‘ราเนีย ต่อไปพี่จะปกป้องน้องเอง น้องถูกคนอื่นรังแกมามากพอแล้ว ต่อไปจะไม่มีใครกล้ามารังแกน้องสาวของร.ต.ต.เรนาโคสอีก’ รีจินาสะอื้นร้องไห้ เมื่อนึกคำพูดของพี่ชาย ครอบครัวเล็กๆ ของเธออาศัยอยู่ในถิ่นของ เหล่ามาเฟีย ทั้งที่เป็นจำพวกมีอำนาจแค่เพียงหยิบมือ แต่ก็เบ่งอำนาจซะล้นตัวเที่ยวระรานคนอื่นไปทั่ว และอีกจำพวกหนึ่งก็เป็นพวกมีอำนาจบารมีจริงๆ ซึ่งคนพวกนี้จะไม่ค่อยสนใจชาวบ้านตาดำๆ คนจนๆ ที่อาศัยอยู่ใกล้ๆ กับถิ่นของพวกมัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม