แอนนาทำหน้าตกใจ มองสายป่านแล้วเหลือบมองหน้าผู้เป็นพ่อแบบงงๆ
“หนูป่านลื่นล้มที่สวนหลังบ้าน ข้อเท้าแพลง บังเอิญพ่อเดินผ่านมาเห็นพอดี ก็เลยช่วยพามาทำแผล”
จอห์นตอบแทนคนที่ถูกถาม อธิบายที่มาที่ไปว่าก่อนหน้านี้เป็นมายังไงจึงได้มาอยู่ในสภาพนี้
“เจ็บมั้ยป่าน”
แอนนาเป็นห่วงเพื่อนรัก
“ก็เอาเรื่อง... กำลังยืนสูดอากาศที่สวนดอกไม้อยู่เพลินๆ มีงูเขียวหล่นลงมาจากต้นไม้ ตกใจมากจนลื่นล้ม สภาพเลยเป็นแบบนี้”
สายป่านเล่าให้ฟัง
“งั้นหนูคงไม่ต้องแนะนำแล้วสินะ... ดูท่าทางคงรู้จักกันแล้ว... คุณพ่อคะ ป่านจะมาอยู่กับเราอาทิตย์นึงค่ะ”
แอนนาบอกย้ำกับบิดา
“ยินดีต้อนรับจ้ะ... อยู่นานแค่ไหนก็ได้ บ้านนี้ยินดีต้อนรับครับ”
จอห์นกล่าวยิ้มๆ จากนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือของแอนนาก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะสนทนา หล่อนกดรับพร้อมกับกรอกเสียงใสทักทายคนที่อยู่ปลายสาย เมื่อเห็นชื่อบนหน้าจอโทรศัพท์ว่าใครโทรมา
“สวัสดีค่ะแม่พิม... ว้าว ดีใจจัง คิดถึงแม่ค่ะ”
แอนนาทักทายมารดา
“แอนจ๋า... ตอนนี้แม่อยู่กรุงเทพฯ นะจ๊ะ... เซอร์ไพรส์”
“เซอร์ไพรส์มากค่ะแม่... จะกลับไทยทำไมไม่บอกหนูคะ”
น้ำเสียงตื่นเต้นที่รู้ว่าตอนนี้มารดาของตนอยู่ในกรุงเทพฯ ‘พิมพา’ เป็นอดีตภรรยาของจอห์น เพราะว่าทุกวันนี้พิมพากับจอห์นหย่ากันแล้ว ความสัมพันธ์ของทั้งสองลดลงเหลือแค่ความเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเท่านั้น หลังจากตัดสินใจแยกทางกันเดินเมื่อหลายปีก่อน
เลิกกับจอห์นได้ไม่นานพิมพาก็พบรักใหม่กับหนุ่มใหญ่ชาวอเมริกัน มีชื่อว่า ‘แอนโทนี่’
หลังแต่งงานใหม่พิมพาก็ย้ายภูมิลำเนาไปใช้ชีวิตอยู่กับสามีใหม่ที่อเมริกา ถึงตอนนี้ก็ห้าปีกว่า
“แอนจ๊ะแม่จะอยู่กรุงเทพฯ อีกสามคืน แม่อยากเจอหนูจัง... มาหาแม่ได้มั้ยลูก... นะๆ”
พิมพาอ้อนลูกสาว เสียงรบเร้าของคนเป็นแม่ทำให้แอนนาหันมามองหน้าจอห์นผู้เป็นบิดาเหมือนจะขออนุญาต
“หนูไปหาแม่ที่กรุงเทพฯ นะคะคุณพ่อ... อยากค้างกับแม่สักสองสามคืน”
“ตามใจลูกจ้ะ”
จอห์นรีบพยักหน้ายิ้มๆ แอนนาหันมามองเพื่อนรักซึ่งดูสภาพก็รู้ว่าสายป่านคงยังไม่พร้อมที่จะเดินทาง
“แต่ป่านยังเจ็บอยู่เลย”
แอนนามองข้อเท้าของเพื่อนรักที่ตอนนี้จอห์นใส่ยาและเอาผ้าพันไว้
“งั้นก็ให้หนูป่านพักอยู่ที่นี่ไปพลางๆ คิดว่าอีกสองสามวันก็น่าจะหาย... ดีมั๊ย แล้วตอนแอนนากลับมาจากกรุงเทพฯ ข้อเท้าของหนูป่านก็คงหายดีแล้ว อีกสามวันจะได้พากันเที่ยวให้ทั่วเชียงราย”
จอห์นรีบแนะนำ
“งั้นแกรอฉันอยู่นี่นะป่าน”
แอนนาเห็นด้วยกับคำแนะนำของบิดา
“จะดีหรือแอน”
สายป่านรู้สึกเกรงใจ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกๆ กับการต้องถูกทิ้งให้อยู่ที่นี่โดยที่แอนนาไม่อยู่ด้วย
“ดีสิ... เดี๋ยวป้าเนียนจะช่วยดูแลแกในระหว่างที่ฉันไม่อยู่... โอเคนะ”
แอนนารีบสรุป
“ลุงรับรองความปลอดภัย”
จอห์นรีบบอก
“ก็ได้ค่ะ”
สุดท้ายสายป่านก็จำต้องพยักหน้า ไม่ใช่เพราะแรงคะยั้นคะยอของแอนนา แต่เป็นเพราะดวงตาของลุงจอห์นที่มองมาอย่างอ้อนวอนให้หล่อนอยู่ต่อ สายป่านรู้แล้วว่าตัวเองแพ้ทางหนุ่มใหญ่... ชอบผู้ชายสูงวัยก็ตอนนี้เอง
มีอยู่ช่วงหนึ่ง หลังจากสายป่านขึ้นไปนอนพักบนห้อง แอนนากับจอห์นนั่งคุยกันอยู่ในห้องรับแขก
“ฝากดูแลเพื่อนหนูด้วยนะคะคุณพ่อ”
แอนนามองหน้าบิดา
“ไม่สบายหนักแบบนี้รับรองว่าพ่อจะดูแลไม่ห่าง”
แอนนาทำหน้างง
“ไม่สบายหนักหมายความว่ายังไงคะ”
คราวนี้จอห์นตอบออกมาทั้งเสียงหัวเราะ
“นอกจากข้อเท้าแพลงแล้วยังเป็นปอดบวมอีกแน่ะ”
เขาหมายถึงนมใหญ่
“บ้า... คุณพ่ออ่ะลามก อย่าบอกนะว่าจะกินเด็ก”
แอนนารีบว่า
“เพื่อนหนูคนนี้มีแฟนหรือยังจ๊ะ”
ได้โอกาสก็รีบถามลูกสาว ท่าทางเอาจริง
“เพิ่งอกหักมาค่ะ”
แอนนาบอกตรงๆ
“ดีเลย... ระหว่างหนูไม่อยู่พ่อจะช่วยดามอกให้... อกใหญ่แบบนี้พ่อชอบ... คริคริ”
“คุณพ่อหื่น”
แอนนาว่า
“ก็เพื่อนหนูน่ารักนี่นา”
แววตาเจ้าชู้พราวออกมา
“งั้นก็ต้องพยายามนะคะ... ไม่แน่ยัยป่านอาจจะใจอ่อน ยอมรับรักคนแก่... คริคริ”
“ใครว่าแก่... เห็นอย่างนี้พ่อยังฟิตอยู่นะ... ยังเตะปี๊บดังโครม”
จอห์นรีบอวดสรรพคุณ สายป่านไม่เถียง แม้อายุจะแตะเลขสี่ แต่เจ้าของไร่กาแฟคนนี้หุ่นยังฟิตเฟิร์มเตะตาสาว
วันรุ่งขึ้นแอนนาก็เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาพบมารดาซึ่งไม่ได้เจอหน้ากันมานานเกือบปี ปล่อยให้เพื่อนรักอย่างสายป่านต้องอยู่ในความดูแลของบิดาและป้าเนียนในขณะที่หล่อนไม่อยู่
ตอนใกล้ค่ำ
ภายหลังเสร็จจากรับประทานอาหารค่ำกับจอห์นและนั่งคุยกันอยู่พักใหญ่ๆ
“เดี๋ยวลุงจะเปลี่ยนผ้าพันข้อเท้าให้นะครับ... หนูขึ้นไปรอบนห้องก็ได้... เดินไหวมั้ยลูก... เดี๋ยวลุงตามไปนะครับ”
จอห์นบอกกับเพื่อนรักของลูกสาว สุ้มเสียงของเขาช่างอบอุ่นดูเป็นผู้ใหญ่ใจดี จอห์นพูดจาสุภาพเหลือเกิน แทบจะ ‘ครับ’ ทุกคำที่พูดกับสายป่าน
“พอไหวค่ะลุง”
สายป่านตอบพลางหยัดร่างบอบบางขึ้นจากเก้าอี้ ค่อยๆ สืบเท้าก้าวเดินอย่างระมัดระวัง พยุงตัวเองมาเกาะราวบันได เพื่อที่จะไปให้ถึงห้องนอน จอห์เห็นท่าทางการเดินตุปัดตุเป๋น่าสงสารก็รีบร้องห้ามด้วยความเป็นห่วงกลัวจะล้ม
“เดี๋ยว... ถ้าขืนยันเท้าขึ้นไปแบบนี้มีหวังว่าข้อเท้าหนูไม่หายเจ็บแน่ๆ เดี๋ยวลุงอุ้มไปส่งดีกว่านะคนดี”
บอกแล้วก็เดินมาช้อนร่างของเอิบอิ่มของสายป่านขึ้นอุ้มเอาไว้ในอ้อมแขน หญิงสาวหัวใจเต้นแรง ในตอนที่ปลายเท้าน้อยๆ ของตัวเองละลิ่วขึ้นจากพื้น ร่างเอิบอิ่มโดนโอบอุ้มไว้ในอ้อมแขนของเขา จอห์นพามาส่งจนถึงเตียงนอนภายในห้อง
“เดี๋ยวลุงจะกลับมาเปลี่ยนผ้าพันแผลให้นะครับ... บางทีอาจจะต้องนวดข้อเท้า”
จอห์นกล่าวพลางกดรับโทรศัพท์มือถือของตัวเองที่ส่งเสียงดังลั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกง
“พ่อครับ... อาทิตย์หน้าผมจะแวะไปหานะครับ”
‘เจมส์’ ลูกชายอีกคนของจอห์นที่เกิดกับพิมพา กรอกเสียงใสเข้ามาจากต้นสายในประเทศอังกฤษ ตอนนี้เจมส์กำลังเรียนปริญญาโท
“โอเค... พ่อกำลังคิดถึงแกอยู่พอดี ตอนนี้ยัยแอนน้องสาวแกเรียนจบแล้วนะ ถ้าแกกลับมาอาทิตย์หน้าก็จะ