ครั้งนี้สายป่านไม่ปฏิเสธ ความเครียดที่กำลังเกาะกุมรุมเร้าอยู่ภายในใจ ความรู้สึกว่าอยากลืมผู้ชายคนนั้นที่ทำให้หล่อนปวดใจ ทำให้รีบตอบโดยแทบไมต้องคิดมาก
อันที่จริงแอนนาเคยชวนมาแล้วหลายครั้ง เรื่องที่อยากให้สายป่านไปเที่ยวบ้าน สายป่านรู้มานานแล้วว่าบิดาของแอนนาเป็นเจ้าของไร่กาแฟชื่อดัง ปลูกกาแฟนับพันไร่ท่ามกลางหุบเขาในจังหวัดเชียงราย
“โอเค... งั้นมะรืนนี้ไปเที่ยวบ้านฉัน... ถือเป็นการฉลองที่เราเรียนจบ”
แอนนาดีใจ
“ดีเหมือนกัน... ”
สายป่านพยักหน้า อันที่จริงหล่อนกับแอนนาก็คบกันมานาน เรียนด้วยกันมาสี่ปีแล้ว แต่ยังไม่เคยไปเยี่ยมบ้านของเพื่อนรักเลยสักครั้ง
สายป่านนึกในใจว่าตอนนี้นับเป็นโอกาสเหมาะสมที่สุด เพราะว่าหลังจากนี้หล่อนกับแอนนาก็จะต้องแยกย้ายกัน เพราะว่าการสอบในเทอมสุดท้ายก่อนสำเร็จการศึกษาเพิ่งเสร็จสิ้นลงเมื่อสามวันก่อน
อีกสองวันถัดมา
ที่ไร่กาแฟชื่อดังในจังหวัดเชียงราย สายป่านแสดงท่าทางตื่นเต้นดีใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด ภายหลังก้าวลงจากรถมินิออสตินสีแดงของเพื่อนซึ่งเป็นลูกสาวเจ้าของไร่กาแฟ
“โห... สวยมากอ่ะแอน”
บนเนินกว้างอันเป็นที่ตั้งของบ้านไม้หลังใหญ่ ปลูกสร้างอยู่บนเนินดินที่คลุมไว้ด้วยทุ่งหญ้าสีเขียวขจี สายป่านทอดสายตามองลงไปยังไร่กาแฟ ทอดยาวไปถึงชายเขา
“เดี๋ยวรอให้แดดล่มจะพาไปเที่ยวน้ำตก... ที่ชายเขาหลังไร่กาแฟมีน้ำตกด้วยนะแก... แล้วก็มีทุ่งดอกไม้ป่าด้วย รับรองว่าสวยมาก แต่ตอนนี้เราเข้าบ้านกันก่อนดีกว่า”
สายป่านเดินตามเจ้าของไร่กาแฟเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ ลุงดำซึ่งเป็นคนขับรถประจำบ้านรีบเดินออกมาช่วยหิ้วกระเป๋าเดินทางที่วางอยู่ท้ายรถ
“อุ๊ย... คุณแอนมาถึงแล้ว”
ป้าเนียนซึ่งเป็นแม่บ้านที่อยู่ดูแลรับใช้ครอบครัวของแอนนามานาน รีบเดินออกมาทักทายสองสาวที่เพิ่งเดินทางมาถึงสดๆ ร้อนๆ
“นี่สายป่านเพื่อนแอนค่ะป้า”
แอนนาแนะนำคนมาด้วย
“สวัสดีค่ะป้า”
สายป่านยกมือไหว้นอบน้อม
“อุ๊ย... สวยจังเลยหนู สวยมาก ออร่ายังกับดาราแน่ะ”
ป้าเนียนตะลึงมองความสะสวยของสายป่าน
“ป่านจะค้างกับเราอาทิตย์นึงค่ะ... ป้าเนียนช่วยจัดการดูแลเรื่องห้องพักให้ด้วยนะคะ”
แอนนารีบบอก
“ได้ค่ะคุณแอน... ว่าแต่ทานอะไรกันมาหรือยังคะ เดินทางมาเหนื่อยๆ ประเดี๋ยวป้าจะเตรียมเครื่องดื่มกับของว่างเอาไว้ในห้องรับแขกนะคะ”
“ขอบคุณค่ะป้า... เอ่อ... วันนี้คุณพ่อไปไหนคะ”
แอนนาถามถึง ‘จอห์น’ บิดาบังเกิดเกล้าของหล่อน
“วันนี้คุณจอห์นเข้าไปตรวจงานในไร่กาแฟค่ะ... เดี๋ยวเที่ยงๆ คงจะกลับเข้ามาทานข้าว”
ป้าเนียนตอบ ก่อนจะขอตัวไปทำงานของหล่อน
“บ้านสวยมาก... กว้างขวางมาก”
สายป่านทอดสายตาแลไปรอบๆ อาณาบริเวณบ้านที่ปลูกสร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง เป็นบ้านที่มีสไตล์การปลูกสร้างแบบผสมผสานระหว่างบ้านไทยกับบ้านฝรั่ง
รอบๆ ตัวบ้านซึ่งทาด้วยโทนสีน้ำตาลโอบล้อมเอาไว้ด้วยต้นไม้ใหญ่มากมาย แผ่กิ่งก้านร่มครึ้มช่วยทำให้บ้านดูร่มรื่นน่าอยู่อาศัย
เวลาต่อมา
ตอนใกล้เที่ยง ในขณะที่สายป่านกำลังเดินออกมาชมสวนหย่อมที่หลังบ้านเพียงลำพัง สวนสวยสะพรั่งไปด้วยดอกไม้หลากสีสัน แล้วจู่ๆ หล่อนก็ได้พบกับเรื่องน่าตกใจ เพราะว่าขณะที่กำลังยืนชมดอกไม้อยู่นั้น จู่ๆ ก็มีงูเขียวตัวหนึ่งตกลงมาจากกิ่งไม้
“กรี๊ดๆ ๆ... ”
หญิงสาวกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจสุดขีด ร่างบอบบางเซถลาออกมาจากทางเดินซึ่งเป็นก้อนอิฐสีน้ำตาลอัดแน่น ปูยาวเป็นทางเข้ามาในสวนหย่อม ตอนนั้นเหตุการณ์เกิดขึ้นรวดเร็วมาก คนกลัวงูรีบโดดออกมาด้วยความหวาดกลัวลนลาน ทำให้เสียหลักถลาล้ม ทว่าแทนที่จะล้มลงกับพื้น ร่างของหล่อนกลับเซทรุดลงสู่อ้อมกอดของใครคนหนึ่งที่สอดแขนแข็งแรงเข้ามารับจากทางด้านหลังได้ทันท่วงที ไม่งั้นสายป่านคงจะกลิ้งหลุนๆ เป็นลูกขนุนลงไปนอนอยู่ในกอหญ้าข้างทาง
“งูค่ะ… งู... ฮือๆ... งู”
หญิงสาวทำท่าขนลุกขนพอง หลับหูหลับตาบอกทั้งที่ยังไม่ได้มองด้วยซ้ำว่าใครกัน? ที่มารับหล่อนเอาไว้
“ไม่ต้องกลัวจ้ะ... โอ๋... แค่งูเขียว เจ้าตัวนี้เค้าเรียกว่า Golden tree snake หรืองูเขียวพระอาทิตย์ ไม่มีอันตรายหรอกจ้ะ มีพิษอ่อนมาก... ไม่ร้ายแรงมาก... ไม่ต้องกลัวนะ”
กล่าวอย่างคนที่คุ้นเคยกับการใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางป่าเขามานานหลายปี จริงอย่างที่เขาว่า... เพราะว่าเจ้างูเขียวตัวนี้จัดอยู่ในกลุ่มสัตว์เลื้อยคลานพิษอ่อน ผู้ถูกกัดจะมีอาการอักเสบและปวดบวมที่บริเวณบาดแผล
กังวานเสียงทุ้มนุ่มของคนที่โอบประคองหล่อนเอาไว้แน่น ทำให้สายป่านเงยหน้าขึ้นมองสบตาเขา.. แล้วก็เกิดอาการเคลิบเคลิ้มไปชั่วขณะ
“คุณ... ”
วูบแรก... แวบแรกที่ตาสบตา สายป่านรู้สึกราวกับว่ากามเทพได้แผลงศรรักเข้าใส่หล่อนอย่างแรง... ศรรักปักรัวๆ ฉึกๆ ๆ ๆ... เข้ามาที่หัวใจของหล่อนซ้ำแล้วซ้ำอีก
สายป่านยังนิ่งงัน... ตะลึงอยู่ในอ้อมแขนของฝรั่งวัยกลางคนอยู่นานเป็นครู่ รูปร่างของเขาช่างสูงใหญ่หล่อเหลากระชากใจหล่อน
ร่างสูงใหญ่มองตาหล่อนราวจะจ้องลึกลงในหัวใจ ซึ่งหญิงสาวก็จ้องตาเขาอย่างไม่ลดละเช่นกัน ช่างน่าแปลกที่ทั้งสองต่างก็รู้สึกได้ถึงความหวามไหวที่ผุดพร่างขึ้นในกระแสอารมณ์ลึกเร้น... เกิดอาการวูบวาบหวั่นไหวลึกๆ อยู่ในสายตาที่จ้องมองกันไม่กระพริบ
กระทั่งตอนที่ตั้งสติได้... หญิงสาวจึงขยับออกมา แต่ก็ยังเงยหน้าขึ้นสบตาเขา มองใบหน้าหล่อเหลาอย่างพินิจพิจารณา
ในแวบแรกที่สายป่านได้เห็นหน้าผู้ชายคนนี้ชัดๆ ใกล้ๆ.... ใกล้จนได้กลิ่นเหงื่อกลิ่นกายของชายชาตรีในตัวเขา ให้ตายเถอะโรบิ้น ให้ดับดิ้นเถอะโรเบิร์ต... ใบหน้าของเขาช่างหล่อขาดบาดใจเสียนี่กระไร ดวงตาสีสนิมเหล็กชวนฝันดูเข้มขึ้นเล็กน้อยขณะมองตาหล่อน และสายป่านก็มองเห็นความเร่าร้อนบางอย่างที่วูบไหวอยู่ในดวงตาคมกริบของหนุ่มใหญ่คนนี้
“คุณ... ”
สายป่านยังตะลึงมองใบหน้าคมคร้าม จมูกของผู้ชายคนนี้โด่งเป็นสันสวย เส้นขนคิ้วสีน้ำตาลเข้มเกือบดำระบายแนวเป็นแพดกหนาอยู่เหนือกรอบดวงตาสวย หน้าผากกว้าง รับกับสันคิ้วพอดิบพอดี เหนือริมฝีปากหยักมีหนวดเป็นแพหนา... อู้ว... ชวนให้รู้สึกวาบหวาม ที่สันกรามทั้งสองข้างและคางโอบล้อมเอาไว้ด้วยตอเคราเขียวครึ้ม แลดูสากระคายเหมือนเพิ่งผ่านการโกนมาได้ไม่กี่วัน ริมฝีปากหยักได้รูปสุดเซ็กซี่... รอยยิ้มน้อยๆ ของเขาช่างขยี้อารมณ์สุดๆ
“ไม่ต้องกลัวนะจ๊ะ... มันไปแล้ว... ”
ปลอบพลางช้อนร่างเอิบอิ่มของสายป่านขึ้นอุ้มเอาไว้ในอ้อมแขนกำยำ
‘โอ้ว... ’
หญิงสาวร้องครางอยู่ในใจ ยอมรับว่าหัวใจเต้นแรงเหลือเกิน มันเป็นเสี้ยววินาทีที่รู้สึกฟินสุดๆ ในชีวิต ก็ตอนที่ไหล่ข้างหนึ่งและทรวงอกของหล่อนกำลังเสียดสีกับแผงอกซึ่งแกร่งไปด้วยกล้ามเนื้อของเขา แขนเต็มไปด้วยเส้นขนสีน้ำตาลเข้ม ที่เห็นก็เพราะว่าเขาถกแขนเสื้อขึ้นไปพับเอาไว้เหนือข้อศอก เผยผิวสีทองแดงคร้ามแดดอาบพราวไปด้วยเหงื่อเป็นมัน กระดุมเสื้อยีนส์สามเม็ดแรกที่ไม่ได้กลัดเอาไว้ เผยให้เห็นแพขนสีน้ำตาลแผ่อยู่ตามแผงอกนูนแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อสมชายชาตรี
“เจ็บตรงไหนหรือเปล่า... เดินไหวมั้ย?”
เสียงทุ้มกังวานนุ่มนวล ทำให้ผู้หญิงสาวกำพร้าพ่ออย่างสายป่านรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาดล้ำ