'วันนี้เป็นนักศึกษาไปก่อน อีกไม่นานเดี๋ยวเลื่อนขั้นให้'
'วันนี้เป็นนักศึกษาไปก่อน อีกไม่นานเดี๋ยวเลื่อนขั้นให้'
'วันนี้เป็นนักศึกษาไปก่อน อีกไม่นานเดี๋ยวเลื่อนขั้นให้'
โว้ยยยยยย!! บ้าบอ ไอ้บ้าออกไปจากหัวฉันนะ พาเพลินนั่งอยู่กลางเตียงนอนในเวลาเกือบเที่ยงคืนกว่าเธอนอนไม่หลับกับคำพูดและการกระทำของไทก้าในวันนี้ บางทีก็ดูบ้าบอ บางทีก็ดูอบอุ่น นี่เขาเป็นโรคจิตชนิดไหนเนี่ย สงสัยต้องเข้ากูเกิลแล้ว ศึกษาวิธีรับมือกับโรคจิตชนิดนี้ให้ได้
พาเพลินนั่งเหม่อใช้สองมือจับแก้มนุ่มของตัวเองเอาไว้ทั้งสองข้าง พลางนึกถึงการกระทำของเขาวันนี้ตั้งแต่จับมือเธอเดินออกมาจากห้องทำงานของเขาโดยไม่แคร์สายตาประชาชีเลยสักนิด บ้าบอ จะมาไม้ไหนกันนะ
- หลังจากออกจากห้องทำงาน –
มือหนายอมปล่อยมือเรียวแล้วเป็นฝ่ายเปิดประตูที่นั่งข้างคนขับให้เธอโดยที่บังคับไม่ให้เธอถอดสูทของเขาที่คลุมร่างเธออยู่
"อย่าถอดนะ เพราะถ้าถอดเธอไม่ปลอดภัยแน่"
"เพลินมากับคุณ ทำไมถึงจะไม่ปลอดภัยละคะ"
"ไม่ปลอดภัยจากฉันเนี่ยแหละ นมเธอมันโผล่ออกมา ถ้าเธอถอดฉันถือว่าเธอให้ท่าฉัน"
"ปากเหรอคะนั่นน่ะ" พาเพลินรีบขยับสาบเสื้อเข้าหากันเธออ้าปากกว้างเมื่อหันไปเจอสีหน้าทะเล้นของไทก้า และในขณะเดียวกันไทก้าเองก็ดึงผ้าเช็ดหน้าของตัวเองออกมาจากกระเป๋าเสื้อเอามาวางปิดไว้ที่หน้าขาของเธอ การกระทำนี้ของเขาอาจทำให้พาเพลินรู้สึกดีขึ้นมาบ้างเพราะเขาคงกลัวว่าหวอของเธอจะออกมาวิ่งแล่นอยู่ตามท้องถนนละสิ
แต่ความจริงแล้ว เขาอาจจะใช้ผ้าเช็ดหน้าผืนเดียวกันนั้นกลับมาใช้เช็ดหน้าเช็ดตาของเขาก็ได้ ใครจะรู้
"ขอบคุณค่ะ"
"จ้ะ"
"เออ ผอ.คะ ทำไมผอ. ต้องคอยตามเพลิน ส่งของให้เพลินด้วยละคะ เป็นเอฟซีเพลินเหรอ"
เปล่าอะอยากเป็นผัว ไม่ได้อยากเป็นเอฟซี อยากเป็นผัวคนเดียว ไม่อยากให้ใครมามอง มาจ้องเธอด้วยซ้ำ แต่ทำอะไรไม่ได้ไง ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน หรือจะทำให้เป็นไปเลยดีไหมนะ ไทก้าหันมองหน้าพาเพลินแล้วยิ้มแววตาของเขามันมีแววความชั่วร้ายซ่อนอยู่ในนั้นแต่ ...
"นะ ... นักข่าว!"
พาเพลินโพล่งขึ้นเมื่อเห็นนักข่าวซุ่มอยู่ที่พุ่มไม้ตรงทางออกของมหา'ลัย เธอรีบปรับเบาะนอนเพื่อหลบตัวเอง ในขณะเดียวกันไทก้าก็รีบหยิบแว่นกันแดดของเขามาสวมใส่ให้เธอ
ทำไมต้องหลบขนาดนั้นละ ก็รถหรูที่ใช้อยู่ประจำมันดันเสียไงเลยเอารถพ่อบ้านมาใช้ก่อน และรถพ่อบ้านก็คือรถกระบะเก่าๆ ที่กระจกไม่ใช่สีทึบเหมือนรถของเขาไง ให้ตายเถอะ ถ่ายรูปไปได้รึเปล่าก็ไม่รู้
เมื่อพ้นมาจากตรงนั้นไทก้าจากที่จะพาเธอไปเดินช้อปปิ้งก็เปลี่ยนแผนเป็นส่งเธอตรงเข้าคอนโดของเธอไปในทันที ปลอดภัยไว้ก่อนละกันยัยหนู เขาเองก็ไม่อยากให้เธอเสียหายเพราะเขาด้วย
"ขอบคุณที่มาส่งนะคะ"
"เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่มารับนะ"
"พี่?"
"อือ พี่ ทำไม"
"เพลินว่าลุงน่าจะเหมาะกับผอ.มากกว่านะคะ"
พูดจบก็ยิ้มจนตาหยีแล้วรีบปิดประตูรถกระบะคันเก่าเธอเดินเข้ามาในคอนโดทันทีโดยไม่ได้หันมองว่าตอนนี้ไทก้าทำหน้าอย่างไร
"ลุงเหรอ ก็เข้าท่านะเดี๋ยวนี้ใครๆ ก็ชอบลุงทั้งนั้น"
เขานึกไปถึงดาราเกาหลีไม่ว่าจะเป็น กงยู อีดงอุค หรือแม้แต่ดาราไทย ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ก้อง สหรัถ โป๊ป ธนวรรธน์ เวียร์ ศุกลวัฒน์ เขาก็ไม่ได้ต่างอะไรจากลุงๆ ที่นึกถึงเลยสักนิด มุมปากหนาแอบยกยิ้มเมื่อเข้าใจไปว่าเธอน่าจะมีใจให้เขาบ้างแล้วละไม่มากก็น้อย
กลับมาถึงบ้านไทก้าส่งข้อความไปหาพาเพลิน จากที่เมื่อก่อนเธอจะไม่ค่อยตอบ ตอนนี้เธอกลับอ่านข้อความเขาอย่างไวราวกับกำลังรอข้อความจากเขาอยู่ แต่เมื่อเห็นข้อความที่เธอตอบกลับมา มันก็ทำให้เขาหุบยิ้มลงทันที
[ไทก้า : ถึงบ้านแล้วครับ]
[พาเพลิน : บอกทำไมคะ เพลินไม่ได้อยากรู้สักหน่อย]
ยัยเด็กนี่ชอบทำให้เขาหัวร้อนเสมอเลย จะพูดกับเขาดีๆ บ้างได้ไหมเขาเสียไปกับเธอตั้งเท่าไหร่ไม่รู้บ้างเลยรึไง ถึงแม้จะเป็นการเต็มใจเสียของเขาก็เถอะ เดี๋ยวพ่อจะจับคิดดอกให้หมดเลยคอยดู!
[ไทก้า : ก็แค่บอก]
[พาเพลิน : อ่อค่ะ เพลินนอนแล้วนะ ห้ามกวน! เดี๋ยวใต้ตาดำไม่สวย]
จ้ะ จะทำอะไรก็ให้ทำทั้งนั้นแหละ เขายิ้มก่อนจะส่งสติ๊กเกอร์กลับไปแล้ววางโทรศัพท์ลง ไทก้าที่ยืนพิงประตูกระจกที่ระเบียงอยู่เขายกยิ้มขวยเขินก่อนจะกำมือทุบกระจกระรัวอย่างคนเสียอาการ ใช่สิ ตามตื๊อเธอมาตั้งนานและนี่ก็เป็นครั้งแรกด้วยที่เธอยอมคุยกับเขาดีๆ
ผอ. หนุ่มพุ่งตัวขึ้นไปบนที่นอนเขานอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงใบหน้าก็ระบายยิ้มออกมาอย่างไม่อดทนเลยสักนิด ให้ตายเถอะทำไมพาเพลินถึงได้น่ารักขนาดนี้วะ เขานึกไปถึงรอยยิ้มทะเล้นที่ยิ้มจนตาหยีของเธอ นึกไปถึงขาอ่อนที่ใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดให้เธอ นึกถึงหน้าอกกลมโตที่โผล่ออกมาทักทายเขานิดหน่อย เขาคิดว่าหน้าอกคู่นั้นน่าจะกำลังพยายามออกมาทักทายเขานะ แบบว่า ไงเจ้าของคนใหม่ ฉันรอเจอนายอยู่นะ อะไรแบบนี้
- หลายวันต่อมา –
ภายในรถยนต์คันหรูที่ซ่อมเสร็จแล้ว ไทก้าขับรถด้วยความอารมณ์ดี เขามักจะมองมาทางที่นั่งข้างคนขับเสมอเพราะตอนนี้มันไม่ว่างเปล่าอีกแล้ว ตอนนี้มันมีพาเพลินนั่งอยู่เสมอ มือหนาจับมือเรียวของเธอเอาไว้ก่อนที่จะหันไปขับรถของตัวเองมุ่งสู่ทะเลอันดามันที่ไหนสักแห่ง
ร่างบางถูกยกอุ้มขึ้นแนบอกแกร่งของเขาในชุดบิกินี่สีแดงเพลิงก่อนที่จะถูกวางลงอย่างอ่อนโยนที่สุดบนเตียงนอนนุ่มภายในโรงแรมหรูที่มีมูลค่าคืนละประมาณ 45,000 เห็นจะได้ และใช่เขาทุ่มขนาดนี้เขาต้องได้ใช้เวลาทั้งหมดสามคืนกับเธอบนเตียงนี้เท่านั้น
ไทก้าประดับรอยยิ้มที่มุมปากก่อนจะค่อยๆ บรรจงกดจูบเธอเบาๆ อย่างที่ใจปรารถนามานาน กลิ่นของเธอมันยังหอมหวาน รสชาติของเธอมันอร่อยจนเขาหยุดที่จะกินเธอไม่ได้ เธอเหมือนลูกอม ขนมหวาน และกัญชา ที่ทำให้เขาเสพติดเธออย่างหาทางออกไม่เจอ
"ทำไมถึงตัดสินใจมากับฉันละ"
"เพลินอยากพักบ้างคะ ทำงานแต่ไม่เป็นตัวของตัวเองเลย"
"แล้ว ทำไมถึงยอมฉันละ"
เขากดจูบเธออีกครั้งค่อยๆ สอดเรียวลิ้นเข้าแทรกแผงฟันสวยเข้าไปพร้อมกับควานหาเรียวลิ้นเล็กของเธออย่างหยอกเย้านานพอควรกว่าเขาจะตัดใจผละริมฝีปากออกจากเธออย่างจำใจ
"ไหนว่าจะไม่ยอมฉันไง"
"ถามมากอยู่ได้ ถ้าผอ.ไม่เอาเพลินเปลี่ยนใจนะคะ"
"เดี๋ยวๆ เอาจ๊ะเอา"
มือหนาลูบไล้ต้นขาขาวของเธอเบาๆ ผิวเธอเนียนละเอียดสมกับเป็นดาราดังเสียจริง บางทีเขาก็อยากจะรู้แล้วว่าจุดอ่อนไหวที่สุดของเธอตอนนี้เป็นยังไงบ้าง มันจะอยากเจอลูกชายของเขาบ้างหรือยัง
ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ
"เวรเอ๊ย! ฝันอีกแล้วให้ตายเถอะจะฝันอะไรบ่อยขนาดนี้วะ"