อีกด้านของนายแพทย์หนุ่ม
สายเรียกเข้าป๊า
กร: คร้าบ ป๊า มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ
ป๊า: สุดสัปดาห์นี้กลับบ้านด้วยนะ ม๊าแกสั่ง
กร: มีอะไรพิเศษหรือครับท่าน
ป๊า: แกต้องมามอบทุนการศึกษาให้เด็ก ๆ โว่ย
กร: ไอ้พัฒน์มันไม่ว่างรึไง
ป๊า: มันไปจะไปดูงานที่เชียงใหม่คงกลับมาไม่ทัน
กร: รับบัญชาครับ
ป๊า: อืมดีมาก ติ๊ด ป๊ากดวางสาย
ครอบครัวของเขามักจะมอบทุนการศึกษาให้โรงเรียนตั้งแต่ระดับกลางไปจนถึงโรงเรียนในถิ่นธุรกันดารเสมอ ๆ ตามแนวทางของบรรพบุรุษ
................
วันหยุดสุดสัปดาห์
@บ้านสหศิลป์ปรีชา
ชายหนุ่มเดินเข้าบ้านด้วยความรู้สึกที่เหมือนเดิมทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม อบอุ่นทุกครั้งที่ได้มา
..มาแล้วเหรอพ่อตัวดี ถ้าม๊าไม่ให้ป๊าแกโทรตามก็คงไม่มาให้ม๊าเห็นหน้าใช่มั๊ย?..เสียงบ่นมาแต่ไกลทั้งที่ยังไม่เห็นหน้ากัน
"ม๊า สวัสดีครับ ม๊าสบายดีนะครับ" ปกรณ์ เดินไปตามจุดกำเนิดแห่งเสียงพบคุณนายปาริดานั่งอยู่ที่โซฟาตัวยาวในห้องนั่งเล่นและกำลังใช้สายตาพิฆาตมาที่เขา
..พรึ่บ..ฟอด..ชายหนุ่มยกมือกระพุ่มไหว้และเข้าไปกอดมารดาอย่างออดอ้อน "คิดถึงจัง" "ไม่ต้องมาอ้อน นี่ถ้าไม่มีธุระคงไม่คิดจะมาละซิ" "โถ่ ม๊า ผมงานยุ่ง เอาเป็นว่าผมชดเชยให้ผมจะนอนห้องเดียวกับม๊าเลย ม๊าจะได้เห็นหน้าผมตลอดวันหยุดนี้"
"ไม่ได้ นั่นเมียป๊า แล้วก็ห้องนอนป๊า ห้องแกก็มี" เสียงผู้มาใหม่ประกาศกร้าว "ทำไม ตาแก่ ฉันจะนอนกับลูกชายฉั๊นไม่ได้รึไง?" คุณนายปาริดาแย้งขึ้นบ้าง "ก็...ม๊า...ไม่เอาซิ..แล้วจะให้ป๊าไปนอนไหนล่ะ" "หึหึ ผมไปนอนห้องผมก็ได้ สงสารคนแก่หรอกนะที่ยอมเนี่ย" ปกรณ์เอ่ยขำ ๆ พร้อมกับเดินตรงไปยังบันได้เพื่อขึ้นชั้นสองที่เป็นห้องนอนของตน
"วันพรุ่งตื่นแต่เช้านะ เราจะแจกทุนเด็ก ๆ กัน" เสียงสำทับมาตามหลัง
"คร๊าบ...ฮ่องเต้"
"ดูมันซิม๊า มันทะเล้นได้ใครนะ" "คนข้างบ้านมั๊ง"
.........................
@โรงเรียนสหศึกษาในชุมชน
(เสียงซุบซิบ) zz...แกวันนี้มีคนรวยเค้ามาแจกทุนให้โรงเรียนเราด้วยแหละ เห็นว่าให้ลูกชายมาแทน..หล่อด้วยนะแก...จริงเหรอแกฉันอยากเห็นแต่ดันไม่ได้รับทุนนี่ซิแก..ก็แกมันไม่ฉลาดไง..แกก็เหมือนกันแหละ...จุ๊จุ๊จุ๊..โน่น..ดูโน่น.. คนฉลาดได้ทุนทุกปีมาโน่นแล้ว....
แปะแปะแปะ (เสียงตบมือจากคุณครู) ...อ้าว นักเรียน อยู่ในความสงบกันก่อนนะครับ อย่างที่ทราบกันอยู่แล้วว่าจะมีผู้ใหญ่ใจดีมาแจกทุนนักเรียนเรียนดีเด่น และนักเรียนเรียนดีแต่ขาดทุนทรัพย์ และนักเรียนที่ตั้งใจเรียนแต่ขาดทุนทรัพย์ ขอให้นักเรียนมายืนตามกลุ่มที่คุณครูแต่ละท่านถือป้ายไว้นะครับ
ป้ายที่หนึ่ง นักเรียนเรียนดีเด่น ป้ายที่สองนักเรียนเรียนดีแต่ขาดทุนทรัพย์ และป้ายที่สามนักเรียนที่ตั้งใจเรียนแต่ขาดทุนทรัพย์ เดี๋ยวครูจะเรียกชื่อนะคะ
อีกด้านปกรณ์ที่อยู่ในห้องรับรอรู้สึกอึดอัดจึงออกมาสูดอากาศด้านนอก
..นี่แกเร็ว ๆ ซิ เดี๋ยวมีคนมาเห็น เร็วเข้า..เออ รู้แล้ว.ปะ..รีบไป..ตุ่บ..ตุ่บ..ตุ่บ (เสียงฝีเท้าที่วิ่งห่างออกไป) ปกรณ์ที่แอบซุ่มอยู่แถว ๆ นั้นเกิดความสงสัยจึงเดินตรวจตราดู
ปึ่ก ปึ่ก ปึ่ก...ใครอยู่ข้างนอกช่วยด้วย มีคนติดอยู่ข้างในนี้ เปิดประตูให้หนูด้วย..เปิดประตูให้หนูที หนูจะออกไปรับทุน..ช่วยด้วย..ฮือ...ช่วยด้วย เอ๋ยติดอยู่ข้างในนี้..ปึ่ก ปึ่ก ปึ่ก
..เฮ่ย..ยัยเด็กสองคนนั่นแกล้งเพื่อนเหรอว๊ะ แสดงว่าที่เราได้ยินก็คือเสียงคนที่ติดอยู่ข้างในละซิ คิดได้ดังนั้นปกรณ์รีบรุดเดินเข้าไปที่ประตูห้องห้องหนึ่ง
..ปังปังปัง มีคนอยู่ข้างในใช่มั๊ย..?
...ใช่ค่ะ ช่วยหนูด้วย หนูติดอยู่ในนี้
..เดี๋ยวนะ มันมีแม่กุญแจล็อคอยู่ข้างนอก เดี๋ยวนะ... ปกรณ์นึกขึ้นได้รีบโทรเรียกลูกน้องให้เอาอุปกรณ์ตัดถ่างมาทันที
15 นาทีผ่านไป
มาแล้วครับนาย นายหลบหน่อยครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง
ตื๊ด... ตุ่บ เสียงเครื่องตัดเหล็ก และเสียงแม่กัญแจเหล็กหล่นลงพื้น
แอ๊ด..เสียงเปิดประตู "ออกมาได้แล้วเด็กน้อย ทำไมไปอยู่ในนั้นได้ล่ะ" ปกรณ์เพ่งมองเด็กสาวหน้าตาน่ารัก นัยน์ตาหวานสดใสคล้ายกับคนละเมอ "คือหนูมาเอาของค่ะ เสร็จแล้วก็ออกจากห้องนี้ไม่ได้ค่ะ หนูต้องไปรับทุนค่ะ หนูอยากได้ทุนนั้น หนูต้องรีบไปแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะที่ช่วยหนู" เด็กสาวยกมือกระพุ่มไหว้ผู้ที่ให้ความช่วยเหลือตรงหน้า และผู้มาใหม่ที่ช่วยตัดแม่กุญแจออกให้ แล้วรีบวิ่งไปยังจุดตั้งแถวทันทีอย่างไม่เหลียวหลัง
อีกด้าน
"เอ่อ นายครับ คือ..เด็กนั่น นายรู้จักหรือครับ" หนึ่งในลูกน้องทีมช่วยเหลือถามขึ้นอย่างสงสัย
"ไม่รู้จัก แต่...ช่างเถอะ ขอบใจพวกนายมากนะ..อ่ะ..ค่าเสียเวลาเอาไปแบ่งกันนะ" ปกรณ์ยื่นธนบัตรหนึ่งปึกให้ลูกน้อง
"ขอบคุณครับนาย งั้นพวกผมลาเลยนะครับ" "อือ" ปกรณ์ตอบลูกน้องอย่างขอไปที สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่แผ่นหลังของเด็กสาวอย่างไม่ละสายตา