2.ชีวิตใหม่

902 คำ
หญิงวัยผู้ใหญ่ยืนมองเจ้าตูบผู้น่าสงสารนิ่งอยู่นาน จึงเงยหน้าขึ้นมามองเด็กหญิงยิ้ม ๆ "ตกลงค่ะน้องเอ๋ย ต่อไปนี้น้องเอ๋ยเป็นพี่สาวคนโตนะคะ หนูต้องดูแลน้องนะคะเพราะคุณแม่ต้องทำงาน" "เย้...ขอบคุณคุณแม่มากค่ะ หนูจะดูแลน้องเองค่ะ" เด็กหญิงกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจพร้อมกับยกมือกระพุ่มไหว้มารดาอย่างน่ารัก ทำเอาพี่ ๆ ผู้ช่วยถึงกับยิ้มอ่อนด้วยความเอ็นดู สองแม่ลูกตกลงรับน้องไปเลี้ยงที่บ้าน และยินดีจะนำน้องมาทำวัคซีนตามนัดและยินดีที่จะจ่ายค่าดูแลเรื่องวัคซีนและการรักษาเองถ้ามีครั้งต่อไปเพราะเกรงใจและพอมีกำลังจ่ายอยู่บ้างหลังจากนั้นจึงพาน้องหมากลับบ้านพร้อมกัน ทางด้านสัตวแพทย์หนุ่มสังเกตเห็นว่าเจ้าหมาน้อยผู้โชคร้ายตัวนี้รู้สึกดีใจกระตือรือร้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเจอน้องเอ๋ย เขาได้แต่ภาวนาให้เจ้าของใหม่รักและเลี้ยงดูเจ้าสุนัขโชคร้ายตัวนี้ตลอดไป _________________ สามปีผ่านไป @บ้านกาลเวหล ..บุญเก็บ วันนี้น้องต้องอยู่บ้านนะคะ ไปไม่ได้ เพราะคุณแม่กับพี่เอ๋ยต้องไปออกหน่วยกับพี่ ๆ อาสาหมาแมวจรจัด หนูต้องอยู่บ้าน เข้าใจนะคะ.. นั่นคือเสียงเด็กน้อยเมื่อสามปีที่แล้วที่ตอนนี้ได้โตเป็นสาวน้อยสวยน่ารักสมวัยเอ่ยกับสุนัข ตัวอ้วนสุดที่รัก "ไปกันรึยังคะน้องเอ๋ย เดี๋ยวพี่ ๆ เค้าจะรอน๊า" อรัญญากระตุ้นเตือนลูกสาว "ค่า ไปเดี๋ยวนี้แหละค่า ขอเก็บเจ้าบุญเก็บก่อน น้องทิ้งตัวไม่ยอมเดินเข้าบ้านค่ะแม่" อัญญารินทร์โอดครวญ "มะ แม่ช่วย/ บุญเก็บหนูไปไม่ได้นะคะ เข้าบ้านเดี๋ยวนี้ เสร็จแล้วเดี๋ยวแม่แวะเพ็ทช็อบซื้อขนมมาฝากตกลงมั๊ยคะ" อรัญญาเสนอข้อตกลงกับเจ้าหมาอ้วน ..หงิง..หงิง.. เจ้าหมาอ้วนคราง หงิง ๆ แล้วเดินเข้าบ้านอย่าหงอย ๆ ทำเอาหญิงต่างวัยหันหน้ามาหัวเราะพร้อม ๆ กัน @ป่าละเมาะใกล้โรงเรียนสหศึกษาแห่งหนึ่ง เด็กหญิงตัวเล็กที่กำลังย่างเข้าสู่วัยสาวอย่างอัญญารินทร์กำลังจูงมือคุณแม่ของเธอเพื่อมาสมทบกับทีมอาสาช่วยเหลือสัตว์ไร้ยากด้วยความมุ่งมั่น "สวัสดีค่ะพี่โต พี่โก๋ นี่คุณแม่ของน้องเอ๋ยค่ะ" เด็กสาวเอ่ยแนะนำมารดาของตนกับทีมอาสาช่วยเหลือสัตว์ไร้ยาก "อ้อ น้องเอ๋ย/สวัสดีครับคุณแม่น้องเอ๋ยส่วนของเราเชิญทางนี้เลยครับ เราจะไม่ประจันหน้ากับน้อง ๆ ก่อนนะครับจะมีทีมลุยก่อนแล้วเราเก็บตามครับ นู่นทีมยิงยาสลบถ้าในกรณีน้องดื้อมากเรามียาและสัตวแพทย์อาสาเตรียมพร้อมครับ" ทีมอาสาฯ ทักทายอัญญารินทร์ และทำความเคารพผู้ใหญ่จากนั้นได้อธิบายการปฏิบัติภารกิจอย่างคร่าว ๆ ด้านอัญญารินทร์ที่บังเอิญมองเห็นบุคคลที่ไม่เคยลืมได้เลยชั่วชีวิตนี้ "เอ่อ พี่โต พี่โก๋คะ เอ๋ยขอตัวไปทักคนรู้จักสักครู่นะคะ/ ไปค่ะแม่" เด็กหญิงสาวหันไปบอกพี่ ๆ ทีมอาสาด้วยมารยาทและหันไปชวนมารดาให้ไปด้วยกัน อีกด้านสัตวแพทย์หนุ่มต้นข้าว เขาเห็นเด็กผู้หญิงที่กำลังย่างเข้าสู่วัยรุ่นคนหนึ่งที่คุ้นหน้าแต่คิดเท่าไรก็คิดไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน ดูเธอตั้งอกตั้งใจในงานอาสาช่วยเหลือสัตว์ไร้ยากอย่างมาก ดูมุ่งมั่นจนเกินเด็ก และข้างกายเธอของเป็นผู้หญิงวัยกลางคนที่ยังดูดีอีกด้วย และเธอทั้งสองกำลังเดินมาทางนี้ "สวัสดีค่ะพี่หมอ พี่หมอคงจำหนูไม่ได้ใช่มั๊ยคะ เมื่อสามปีที่แล้วหนูเคยเอาลูกหมาที่ถูกกัดจนเป็นแผลเยินไปให้พี่หมอรักษาที่คลินิกไงคะ" เด็กสาวอัญญารินทร์อธิบายเสียงเจื้อยแจ้ว "อ๋อ.....โตขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย" สัตวแพทย์หนุ่มพูดไปพร้อมกับค้อมตัวไปมองเด็กหญิงใกล้ ๆ และยิ้มจนตาเป็นสระอิ "ค่ะหนูเองค่ะ หนูชื่อเอ๋ยนะคะ ส่วนนี่คุณแม่ของหนูค่ะ" อัญญารินทร์แนะนำตัวเองและมารดาอย่างยิ้มแย้ม "สวัสดีครับคุณแม่น้องเอ๋ย" "สวัสดีค่ะ" แม่น้องเอ๋ยสวัสดีตอบ "แล้วเจ้าตัวเล็กยังอยู่หรือเปล่าครับ?" "เจ้าตัวเล็กไม่มีแล้วค่ะคุณหมอ..มีแต่เจ้าตัวอ้วนตุ่บค่ะ" เด็กหญิงเล่าอย่างอารมณ์ดี "เหรอครับ ดีใจด้วยนะครับ" สัตวแพทย์หนุ่มพูดอย่างจริงใจ "น้องเอ๋ยเค้าปลื้มคุณหมอนะคะ เห็นว่าจะเอาอย่างคุณหมอค่ะ เค้าบอกว่าถ้าคุณหมอไม่ช่วยเจ้าบุญเก็บในวันนั้น น้องก็คงจะไม่มีความสุขสดใสอย่างทุกวันนี้ เค้าอยากเรียนสัตวแพทย์ค่ะ" คุณแม่เด็กน้อยเล่าเสียยืดยาว "เหรอครับเป็นกำลังใจให้สำเร็จนะครับ แล้วฝากดูแลน้องบุญเก็บเค้าให้ดี ๆ นะครับ อย่าทอดทิ้งเค้า ขอให้สุขภาพแข็งแรงทั้งคนทั้งหมาเลย" สัตวแพทย์หนุ่มพูดจบก็ยิ้มจนตาหยีอีกครั้ง และเป็นยิ้มที่ออกมาจากข้างใน หลังจากคุยทักทายกันพอหอมปากหอมคอทั้งสองคนได้ถ่ายรูปร่วมกันและต่างคนต่างอำลาไปทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายของตน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม