ทางด้านคุณหมอหนุ่มปกรณ์ หลังจากเสร็จธุระจากงานแจกทุนเขาต้องเดินทางกลับโรงพยาบาลของครอบครัวที่ภูเก็ต โดยคนขับรถของครอบครัวไปส่งที่สนามบิน เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกไม่อยากกลับเอาเสียเลย ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงจะตีปีกพั่บ พั่บ พั่บ ไปแล้ว แต่ตอนนี้ความรู้สึกมันแตกต่าง เพราะแค่ได้พบเจอใครบางคนแต่โชคชะตาเล่นตลกให้มาเจอเด็กคราวลูกนี่ซิ คิดแล้วก็ถอนหายใจ
..........................
อีกด้าน
สายเรียกเข้า
ส่งคนของเราไปตามดูเด็กคนนั้นหน่อย อย่าให้รู้ตัวนะ.../ดูแลด้วยอยู่กันแม่-ลูกไม่ใช่เหรอผู้หญิงสองคนเอง../อืม..ค่าเหนื่อยฉันโอนเข้าบัญชีนายแล้วนะเอาไปแบ่ง ๆ ทีมสืบของพวกนายด้วยล่ะ ค่าเสียเวลา../อืม..ติ๊ด กรพัฒน์กดวางสาย
หลังจากวางสายจากปลายสายไปแล้วเขานั่งปล่อยความคิดไปไกลจนลืมสังเกตว่ามีใครอีกคนที่เดินเข้ามา
"ป๊า..นอกจากเกงานแล้วยังนั่งหายใจทิ้งอีกเหรอ ไม่น่าใช่ป๊าที่ม๊ารู้จักเลยนะ"
"......" อีกฝ่ายเงียบและส่งค้อนให้พองาม
"แน่ะ ยังมาส่งค้อนให้ม๊าอีก มีอะไรอยากเล่าให้ม๊าฟังมั๊ย?" ปาริดาหยั่งถามสามี
"ม๊าอย่ารู้เลย เอาไว้ให้ป๊าแน่ใจก่อน"
"......." ปาริดาเงียบ ได้แต่พยักหน้าให้สามี เพราะเธอเลือกที่จะไม่เซ้าซี้อะไรสามีมากนักเพราะเคารพซึ่งกันและกันและนี่ทำให้เธอและสามีอยู่ด้วยกันอย่างสันติไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งกันใหญ่โตเลยสักครั้ง
ทางด้านอัญญารินทร์
@บ้านกาลเวหล
อัญญารินทร์ที่กำลังนั่งชื่นชมกับทุนการศึกษาของตนที่พื้นข้างโซฟา
"ไหนมีอะไรจะเล่าให้แม่ฟังมั๊ยคะ ได้ทุนอะไรบ้างปีนี้" อรัญญาถามลูกสาวคนเดียวพร้อมกับลูบผมด้วยความเอ็นดู
"ได้เงินค่ะแม่ เอ๊ะ..." อัญญารินทร์สังเกตเห็นอะไรผิดปกติในซองเอกสารที่ใส่ทุนการศึกษาของเธอ
"อะไรเหรอลูก"
"ไม่มีอะไรค่ะแม่ คงเป็นเอกสารเกี่ยวกับทุนแหละค่ะ หนูขอไปเล่นกับบุญเก็บก่อนนะคะ พรุ่งนี้วันหยุดหนูไม่ต้องไปเรียน"
"ได้ค่ะ แต่ห้ามนอนดึกเกินห้าทุ่มนะคะ"
"ตกลงค่ะ รับรองพรุ่งนี้หนูตื่นมาก่อนเจ็ดโมงเช้าแน่นอนค่ะแม่ ไปนะคะ..ตึ่ก ตึ่ก ตึ่ก....." เสียงวิ่งไปหลังบ้านซึ่งเป็นที่อยู่ของบ้านน้องบุญเก็บ
"จริง ๆ เลย ยัยคนนี้ จะเดินดี ๆ เป็นลูกคนก็ไม่ได้ วิ่งยังกะจรวด" อรัญญาบ่นลูกสาวกระปอดกระแปด
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง
เอ๊ะ ทำไม่เงียบจัง..อรัญญานึกเอะใจที่ลูกสาวตัวดีไม่เข้าบ้านสักที (เพราะบ้านของบุญเก็บจะอยู่ในส่วนของหลังบ้านที่ปรับปรุงเพิ่มเติมยื่นออกไปข้างนอกเมื่อจะเดินขึ้นไปชั้นสองที่เป็นห้องนอนต้องผ่านห้องโถงของบ้าน)
น้องเอ๋ย ..น้องเอ๋ย.. ลูก ขึ้นนอนได้แล้ว จะห้าทุ่มแล้วนะคะ ไปอาบน้ำเตรียมเข้านอนค่ะ ...
อีกด้าน เด็กหญิงวัย 14 ย่าง 15 ปี นอนกับพื้นโดยมีสุนัขขนปุยตัวอ้วนปั่กนอนอยู่ข้าง ๆ หลับตาพริ้มด้วยกันทั้งคู่ โถ่เอ๊ย...ลูก หนูจะมานอนแบบนี้ไม่ได้นะ แปะ แปะ แปะ น้องเอ๋ย ตื่นลูก ขึ้นไปนอนข้างบน ตื่นได้แล้วค่ะ...หือ..หนูเผลอหลับไปเหรอคะ../ก็ใช่นะซิ..ไปขึ้นไปอาบน้ำอาบท่านอนได้แล้ว...เราก็เหมือนกันไปนอนที่ของตัวเองเลย ไปนอนดีดี ปวดฉี่หรือเปล่า แม่จะพาไป../ หงิง หงิง..../ปะ เดี๋ยวแม่เปิดประตูบ้านให้ไปฉี่ เสร็จแล้วรีบเข้าบ้านนะ พี่เอ๋ยก็เหมือนกันขึ้นข้างบนได้แล้ว ค่ะ...
หลังจากนั่งรอลูกสาวสี่ขาสักพัก เจ้าสี่ขาก็เดินปุ๊กปิ๊กเข้ามาในบ้านหลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จ....ไหนเช็ดตัวก่อนนอน เช็ดเท้าก่อน...อ่ะ สะอาดล๊ะ ปะ ไปนอนได้ ราตรีสวัสดิ์ค่ะบุญเก็บ
เช้าวันใหม่
ก๊อก ก๊อก ก๊อก....(เสียงเคาะประตูห้อง) น้องเอ๋ย ตื่นได้แล้วลูก/ หงิง หงิง........(เสียงบ่นของสุนัขสาววัย 3 ถึง 4 ปี) ทำให้คนที่บอกว่าจะตื่นไม่เกินเจ็ดโมงเช้า ค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา...อื้อ...ค่า ได้ยินแล้ว ตื่นแล้ว ๆ จากนั้นคนที่พึ่งตื่นค่อยลงจากเตียงไปเปิดประตูห้องแล้วกลับมานอนบนเตียงเหมือนเดิม
...ไหนใครบอกแม่ว่าจะตื่นไม่เกิดเจ็ดโมงเช้า นี่จะแปดโมงเช้าแล้วค่ะ ตื่นได้แล้ว เดี๋ยวจะติดเป็นนิสัยนะ/ หงิง ..... ฟู่ ฟุด ฟิด...(เสี่ยงเจ้าตูบสี่ขาที่เข้าไปหอมแก้มเจ้านายน้อย พร้อมกับกระดิกหางแทบหลุด/....บุญเก็บ..อย่ากวน ..พี่ตื่นแล้วก็ได้ จากนั้นคนที่จะนอนต่อต้องลุกขึ้นมานั่งจุ้มปุ๊กบนเตียงพร้อมกับโน้มตัวเจ้าสี่ขาเข้าไปกอดพร้อมกับยีขนเล่นอย่างสนุกมือ.../ไปอาบน้ำได้แล้วค่ะยัยตัวดี ไม่งั้นแม่จะแม่จะตัดค่าขนมดีมั๊ย?../ไม่ดีค่ะ ...แฮ่ ๆ ไปแล้วค่ะ/..พี่ไปอาบก่อนนะ..จุ๊บ..
@คอนโดปกรณ์@ภูเก็ต
ชายหนุ่มนั่งปลดปล่อยตัวเองไปกับความคิดถึงเหตุการณ์วันหยุดที่ผ่านมา ....ทำไมคิดไม่ตกแฮ๊ะ แค่เด็กหน้าตาธรรมดา หรือว่าเราจะขออุปถัมภ์เด็กคนนี้ดี แต่เด็กมันก็น่าจะมีพ่อแม่นี่หว่า แล้วเราจะอุปถัมภ์ในฐานะอะไรล่ะ ยังไงดีว๊ะ..แล้วจะโดนเพื่อแกล้งอีกหรือเปล่านั่น กว่าจะจบ ม.3 ก็ เกือบปี แล้วจะโดนแกล้งอีกหรือเปล่า เฮ๊อ....ห่วงเว๊ย.... ปกรณ์ได้แต่คิดวกวนอยู่ในหัวจนไม่สมาธิที่จะทำงานทำการอะไรสักอย่าง
อีกด้าน
ปึ่ก ปึ่ก นัท ลูกน้องหนุ่มมือดีพ่วงตำแหน่งบอดี้การ์ด หันไม่มองเพื่อนที่กระทุ้งสีข้างของตน
"มึงมีอะไรก็พูดมาไอ้บอย กุรำคาญ กระทุ้งอยู่ได้สีข้างกูนี่" นัทสบถบ่น "มึงดูนายเราซิ ท่าทางเหมือนคิดไม่ตกเลยนะ เหมือนมีเรื่องกลุ้ม" นัทบอกตามความรู้สึก "เออ จะอะไรก็ช่างเถอะ คอยช่วยเหลือตามที่นายสั่งก็พอ ถ้านายต้องการเดี๋ยวนายก็สั่งเองแหละ" นัทตัดบท