14.ตาม

1078 คำ
"อา...รัน..ยา" (อรัญญา) คงเป็นชื่อของลูกสะใภ้พ่อ แม่ของหลานพ่อใช่มั๊ยลุก "....." เปรมกิจเงียบแต่พยักหน้าแทนเป็นการให้ความร่วมมือแทนคำตอบแบบสุด ๆ "พ่อเข้าใจแล้วลุก ทำใจให้สบายนะ กิจต้องให้ความร่วมมือกับหมอนะลูก เพื่อครอบครัวของกิจไง พ่อจะช่วยกิจเอง เราทุกคนในครอบครัวอยู่ข้างกิจนะลูก พ่อขอโทษที่ทำให้เรื่องมันยาก ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อ ลูกของพ่อก็คงไม่เป็นแบบนี้" ชายสูงวัยพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ส่วนคนฟังมีน้ำใส ๆ ไหลออกทางหางตาเช่นกัน อีกด้านของคนที่มาใหม่ ที่ยืนฟังอยู่สักพักจึงตัดสินใจเดินเข้าไปหาคนทั้งคู่ "พ่อครับ พี่กิจครับ เราคือครอบครัวเดียวกันนะครับ ผมจะช่วยพาครอบครัวของพี่กิจกลับมาเอง พ่อก็อย่าโทษตัวเองเลยนะครับ ไม่มีใครไม่เคยทำผิด เราต้องให้อภัยตัวเองก่อน ตราบใดที่เรายังมีชีวิตอยู่เราอย่าเพิ่งหมดหวังนะครับ แล้วหลานกับพี่สะใภ้ก็อยู่ใกล้แค่เอื้อมแค่นี้เอง" เปรมมนัสกล่าวขึ้นหลังจากเดินเข้าไปหาคนทั้งสอง "นัส/ นะ..นะ..น้าด" เปรมชัยเรียกชื่อลูกชายคนเล็กอย่างนึกประหลาดใจที่ลูกชายคนเล็กกลับบ้านอย่างไม่บอกไม่กล่าวมาก่อน/ตามด้วยเปรมกิจที่พยายามเรียกชื่อน้องชาย "พ่อครับ แต่ผมยังไม่เคยเห็นหน้าหลานเลยครับ เป็นหลานสาวใช่มั๊ยครับ" "ใช่ลูก หลานอายุ 14 ย่าง 15 ปี หน้าตาน่ารักเชียว หน้าตาเหมือนจับพี่ชายเราตอนเด็ก ๆ มาใส่วิกผมยาวอย่างนั้นแหละ หึหึ .." เปรมชัยพูดพลางแหงนหน้า มุมปากยกยิ้มเล็กน้อย คล้ายกำลังนึกถึงใบหน้าหลานสาว แววตาดูมีความสุข ซึ่งเปรมมนัสไม่ได้เห็นมันนานแล้ว ส่วนอีกคนได้แต่นอนยิ้มและพยายามเกร็งตัวเพื่อจะลุกขึ้นมาสู้เพื่อครอบครัวอีกครั้ง _____________________ อีกด้าน คลินิกรักษาสัตว์เป็นมิตร สายโทรออก ปลายสาย: ครับอาจารย์ ปกป้อง: อาจารย์มีเรื่องปรึกษาหน่อย ปลายสาย: ครับ ว่ามาเลยครับ ปกป้อง: อาจารย์อยากรบกวนเรื่องเคสหมาขาหักหน่อย ชื่อบุญเก็บเป็นหมาของเด็กผู้หญองชื่อน้องเอ๋ยเคยพามารักษาที่นี่เมื่อสามปีก่อน ปลายสาย: อ้อ จำได้ครบ น้องบุญเก็บ หมาของน้องเอ๋ย น้องเป็นอาสาช่วยหมาแมวไร้ยากด้วยนิ่ครับ ปกป้อง: อือ บุญเก็บถูกรถชน อาจารย์แนะนำส่งโรงพยาบาลใหญ่แต่เจ้าของอยากรักษาที่นี่ คือน้องต้องผ่าตัดอาจต้องใช้เลือด ปลายสาย: เลือด อ้อได้เลยครับ เดี๋ยวผมประสานกับทาง ม.ให้คิดว่าน่าจะได้ ปกป้อง: ขอบใจมาก เป็นบุญของหมา เจ้าของก็น่าสงสารเทียวไปเทียวมา บอกมีเงินค่ารักษา เป็นเงินทุนการศึกษาของตัวเอง ปลายสาย: อาจารย์สามารถส่งเคสให้มูลนิธิได้นี่ครับ ปกป้อง: คือมันแปลก ๆ ตรงที่มีผู้ชายสองคน มาขอจ่ายค่ารักษาบุญเก็บห้าหมื่นก่อนเบื้องต้นบอกว่าสงสารเจ้าของที่เป็นเด็ก 14-15 ปี แต่อาจารย์ไม่ได้รับเงินจากเขาหรอก ไม่รู้ว่าสองคนนั้นมีเจตนาไม่ดีกับเจ้าของหรือเปล่า อาจารย์ก็เลยคิดว่าจะส่งเคสให้มูลนิธิดูแลดีกว่า ปลายสาย: แล้วแต่อาจารย์เลยครับ เงินปันผลรายปีของผมที่เก็บไว้คงพอรักษาอยู่หรอกครับถ้าคณะกรรมการมูลนิธิไม่รับเคส หึหึ ปกป้อง: ขอบใจมาก อาจารย์ภูมิใจในตัวเธอจริง งั้นแค่นี้นะ อย่าลืมเรื่องเลือดนะ เพราะบุญเก็บควรจะได้รับการผ่าตัดเสียที เดี๋ยวอาจารย์จะได้แจ้งไปทางน้องเอ๋ยอีกที ปลายสาย: ครับ ครับ ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ปกป้อง: ขอบคุณมาก งั้นแค่นี่ก่อนแล้วกัน /กดวางสาย หลังจากวางสายจากลูกศิษย์ที่รักเหมือนลูกชาย ปกป้องผ่อนลมหายใจยาวเหมือนยกภูเขาออกจากอก นึกดีใจอยู่ลึก ๆ ว่าเด็กน้อยที่เขาเลี้ยงดูอุ้มชูมาตั้งแต่แบเบาะไม่ทำให้เขาผิดหวังเลยจริง ๆ (รี๊ดสามารถไปหาอ่านดูได้ว่าคุณหมอสัตวแพทย์ปกป้องคือใครได้ในเรื่องยุทธการเด็กปีกนางฟ้าของไรท์ได้นะคะ) แล้วเดินไปที่กรงพักของเจ้าบุญเก็บ ..รออีกนิดนะเจ้าหมาอ้วน เดี๋ยวจะได้ผ่าตัดแล้ว จะได้เดินได้เหมือนเดิม กับไปอยู่กับเจ้าของไงดีมั๊ย พร้อมกับลูบหัวสุนัขโชคร้ายเบา ๆ อย่างเมตตา...หงิง ๆ อื๋อ ๆ สุนัขตัวอ้วนครางเบา ๆ อย่างอ้อน ๆ แต่ก็ยังมีความระแวงบ้างเล็กน้อย ....................................... สามเดือนผ่านไป อัญญารินเรียนจบการศึกษาระดับชั้น ม.3 เป็นที่เรียบร้อย และได้สมัครสอบเข้าเรียนต่อในระดับชั้น ม.ปลายที่โรงเรียนมัธยมศึกษา M โดยใช้โควต้านักเรียนผลการเรียนดี ส่วนเจ้าบุญเก็บหลังจากได้รับการผ่าตัดจากสัตวแพทย์ผู้ใจดีระดับอาจารย์อย่างปกป้อง ก็หายวันหายคืน เดินได้เกือบจะเป็นปกติ และได้รับการทำหมันเรียบร้อยด้วยเลย หลังจากนั้น บุญเก็บก็เป็นลูกค้าประจำของคลินิกรักษาสัตว์เป็นมิตรมาตลอด อีกทั้งคลินิกยังได้รับเงินบริจาคจากผู้ใหญ่ใจดีเป็นจำนวนเงินมากโข โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยสุนัขไร้ยากและสุนัขมีเจ้าของที่เจ้าของขาดทุนทรัพย์ในการรักษา ส่วนอรัญญาก็ยังคงทำงานที่บริษัท และยังคงขยันเหมือนเดิม หารายได้พิเศษในวันหยุดไปรับจ้างเป็นลูกมือร้านจัดดอกไม้ โดยมีพี่ที่รู้จักแนะนำให้เพราะสงสารแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องส่งเสียลูกเรื่องเรียน และทุกคนที่ช่วยเหลือรู้จักและรักและเมตตาน้องเอ๋ยเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว @บริษัท ที.เค.คอนสตรัคชั่น จำกัด "อัน ไปกินข้าวกันเถอะ เที่ยงเศษ ๆ แล้ว" กรองแก้วเอ่ยชวนเพื่อนรุ่นน้องด้วยความห่วงใย "อีกนิดเดียวค่ะพี่กรอง เดี๋ยวหนูตามไป" อรัญญากล่าวพร้อมกับเร่งดีดนิ้วอย่างรัวเร็วที่คีบอร์ด บันทึกแล้วรีบปิดหน้าจอแล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามพี่ที่สนิทไปโดยไม่ทันสังเกตว่ามีใครคอยจับตาอยู่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม